เปิดใจ ลีน่าจัง ไลฟ์ฉะห้างให้ซื้อถุง 1 บาท ปัดขวางลดพลาสติก แต่อัดอั้นเอาเปรียบผู้บริโภค (คลิป)

จากกรณีแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้” ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า “คุณแม่ลีน่า กับ ดราม่า งดใช้ถุง เหรียญหลายด้าน มองหลายมุม” โดยในคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ลีน่าจัง ทนายความ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ไลฟ์สดอยู่ในห้างดังแห่งหนึ่ง โดยเจ้าตัวได้ยืนต่อว่าพนักงานคิดเงินอย่างสาดเสียเทเสีย หลังลีน่าจังซื้อของในห้างเป็นถ้วยชามเป็นเงิน 200 กว่าบาท แต่พนักงานบอกว่าไม่มีถุงใส่ให้ ถ้าจะให้ถุงต้องซื้อถุง 1 ใบ ในราคา 1 บาท เพื่อเป็นการบริจาคให้กับโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นนโยบายรัฐบาลนั้น

วันที่ 25 ม.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปเจอ นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลา 19.00 น. ตนไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ หลังซื้อเสร็จได้มีการชำระเงินกับพนักงาน แต่ถูกปฏิเสธไม่มีการแจกถุง ซึ่งให้ถือกลับเองจึงสอบถามด้วยความสงสัยว่า ซื้อของหลายชิ้น ประกอบกับเป็นผู้หญิง ซึ่งไม่สามารถที่จะถือไปได้เองทั้งหมด แต่พนักงานได้ยื่นข้อเสนอว่า หากอยากได้ถุงเพิ่ม ให้ซื้อใบละ 1 บาท เพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ด้วยความอัดอั้นใจจึงสอบถามผู้ประกอบการ ว่า กรณีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม มันคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งที่ตนคือลูกค้าเสียเงินซื้อของ และการบังคับให้ต้องซื้อถุงใส่ของเพิ่ม ซึ่งมองว่าไม่สมควรที่จะเป็นภาระของลูกค้า แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการ และมีเงื่อนไขเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มีอายุ เช่นตัวเองที่มีอายุกว่า 61 ปี

ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการจัดแคมเปญดังกล่าวขึ้น แต่ตนไม่ได้ต้องการที่จะขัดแย้ง หรือไม่ให้เกิดโครงการดังกล่าว แต่เพียงอยากให้มีการลดหย่อน ซึ่งหากจะต้องการใช้ลดถุงพลาสติก ควรผลิตหรือเปลี่ยนมาใช้ถุงกระดาษแทน แต่ไม่ควรบังคับให้เสียเงินซื้อ

เปิดใจ ลีน่าจัง ไลฟ์ฉะห้างให้ซื้อถุง 1 บาท ปัดขวางลดพลาสติก แต่อัดอั้นเอาเปรียบผู้บริโภค (คลิป)

อย่างไรก็ตาม อยากจะสะท้อนถึงรัฐบาลและแนวคิดของการออกแคมเปญ ว่า หลายครั้งนักท่องเที่ยวต้องการซื้อของจำนวนมาก แต่ไม่สามารถที่จะนำของเหล่านั้นกลับไปได้ จนทำให้เสียโอกาส เพราะนักท่องเที่ยวซื้อของน้อยลง ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายที่รัฐบาลกำลังกระตุ้นการท่องเที่ยวและการซื้อภายในประเทศ ที่สำคัญเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ส่วนค่าถุงพลาสติก ราคา 1 บาท ตนไม่อยากจะซื้อ เพราะเป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น ซึ่งยังไม่บังคับใช้เป็นกฏหมาย