“พีท เลือดบวก จะไม่ฟ้อง หากพยาบาลขอโทษ - รับเซ็กซ์สดกับคู่ขานับพัน หมอยันกินยาต้านไม่แพร่เชื้อ (คลิป)

กรณีเจ้าของเพจ "พีทคนเลือดบวก" ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประกาศว่าจะดำเนินคดีกับพยาบาลสาวคนหนึ่ง หลังจากได้แชร์ข้อความของเขาที่ได้ประกาศว่า "เปิดคอร์สสอน เ-็ดสดแบบปลอดภัย เก็บเงิน 500 บาท"

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 63 นายฐิฏิวัสส์ ศิรเศรษฐกร หรือ พีท คนเลือดบวก เปิดเผยใน รายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางอมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น. ว่า ตนตรวจพบเชื้อ HIV โดยบังเอิญ เมื่อครั้งที่ไปตรวจเลือดพร้อมกับแฟน ซึ่งตอนนี้ได้รับยาต้านไว้รัส พบว่ามีค่าเชื้อน้อยกว่า 40 และตนไม่สามารถส่งต่อเชื้อให้คนอื่นได้หากมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งเป็นความรู้ที่คนทั้งโลกเข้าใจตรงกัน

“พีท เลือดบวก จะไม่ฟ้อง หากพยาบาลขอโทษ - รับเซ็กซ์สดกับคู่ขานับพัน หมอยันกินยาต้านไม่แพร่เชื้อ (คลิป)

ทั้งนี้ ที่ตนเคยโพสต์เรื่องการให้ความรู้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย และปลอดภัยไม่ติดเชื้อ ซึ่งในสังคมมีกลุ่มคนที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเป็นปกติอยู่แล้ว ตนจึงต้องการช่วยเหลือคนกลุ่มดังกล่าว หวังให้ได้รับการตรวจ และทานยาต้านไวรัสอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องที่ตนจะฟ้องพยาบาลสาวที่โพสต์ถึงตนนั้น เพราะว่าเข้าใจตนผิด และมีการโพสต์ถึงตน ซึ่งเรื่องที่ตนอธิบายเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

นอกจากนี้ ตนเคยโพสต์ข้อความหาคนมีเซ็กซ์โดยไม่ใช้ถุงยาง พร้อมใช้ยาเสพติด เพราะตนอยากทดสอบสังคมว่าจะมีคนอยากร่วมเพศด้วยหรือไม่ ซึ่งก็มีคนติดต่อมาจริง และคนดังกล่าวไม่ติดเชื้อ แต่ตนไม่ได้นัดมาเจอ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนมีเพศสัมพันธ์กับกว่า 1,000 คน โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย อย่างไรก็ตาม ด้วยทฤษฎี U = U หากตรวจแล้วไม่เจอเชื้อ ก็เท่ากับไม่แพร่เชื้อ และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ให้ข้อมูลว่าจะไม่มีการได้รับเชื้อเพิ่มสำหรับผู้ที่ติดเชื้ออยู่แล้ว

ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ หากบุคคลที่ติดเชื้อ แล้วทานยาต้านไวรัส เมื่อตรวจไม่เจอเชื้อในเลือด 2 ครั้งขึ้นไป สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ แม้ไม่ใช้ถุงยางอนามัย และจะไม่ติดเชื้อโดยเด็ดขาด ซึ่งมีการเก็บข้อมูลจาก 2,000 คู่ที่มีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของผู้ติดเชื้อที่ต้องทานยาต่อเนื่อง ใช้ชีวิตตามปกติ มีครอบครัว มีลูกได้โดยไม่ติดเชื้อด้วย

อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อที่ดูแลตัวเองอย่างดี โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย มีความเสี่ยงน้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับคนทั่วไป ซึ่งมีผลวิจัยรองรับในต่างประเทศ โดยจากข้อมูลขณะนี้ ยืนยันได้ว่า 1,000 กว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์กับนายพีทจะไม่ติดเชื้อแน่นอน ตามทฤษฎี U = U ถือว่ามีประโยชน์กับสังคมในภาพรวม

นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ เปิดเผยว่า ในมุมงานวิจัยในสังคมไทย ซึ่งเคยมีหลายองค์กรที่พยายามสร้างการรับรู้ให้กับคนไทย แต่ก็ถูกยุบไป เพราะคนในสังคมบางส่วนไม่มีวิสัยทัศน์ และขาดความเข้าใจเรื่องเพศอย่างจริงจัง

ในกรณีที่นายพีทโพสต์ข้อความเปิดคอร์สให้ความรู้เรื่องการมีเซ็กซ์กับผู้ติดเชื้อโดยปลอดภัยนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่วิธีการโพสต์นั้นทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากโพสต์เล่นใหญ่ ใช้คำล่อ หวือหวาเกินไป ทำให้กระแสจุดติดในสังคม แต่ไม่มีวิธีการจัดการให้ข้อมูลที่ดี กลับขู่จะฟ้องกลับกับคนที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งนายพีทควรจะต้องโพสต์ให้ข้อมูลและรายละเอียด สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องอย่างจริงจัง สังคมก็จะได้เปลี่ยนความคิดใหม่ จากคำถามว่าใครติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ เปลี่ยนเป็นใครแพร่เชื้อหรือไม่แพร่เชื้อ

นายฐิฏิวัสส์ เปิดเผยหลังจบรายการว่า ตนหวังให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลง ยอมรับคนเลือดบวก เพราะส่งผลถึงเรื่องการรับคนเข้าทำงาน อยากให้มีการปฏิวัติทางความคิดในทุกวงการ ทั้งการศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ และอยากทำให้สังคมเกิดความเท่าเทียม การที่คนเลือดบวกกินยาต้าน เพราะเขาไม่ต้องการแพร่เชื้อให้ใคร สังคมควรให้กำลังใจ ไม่ใช่ดูถูก ยืนยันว่าจะให้ความรู้เรื่องเอชไอวีเหมือนเดิม

ส่วนกรณีที่มีสาวพยาบาลโพสต์ต่อว่าตน ล่าสุดยังไม่ได้มีการติดต่อกับคู่กรณี ประกอบกับทัศนคติที่ไม่ตรงกันทำให้ไม่อยากคุย แต่ถ้าน้องพยาบาลได้รับรู้แล้วอยากจะขอโทษ ก็แค่โพสต์ขอโทษตนเท่านั้นพอ ตนยินดีให้อภัย และยอมยุติเรื่องราวทั้งหมด ให้โอกาสน้องทำงานต่อไป โดยจะไม่เรียกร้องไปยังสภาพยาบาล หรือหน่วยงานต้นสังกัด

ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ยาต้านไวรัสเอดส์ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย จะมีสูตร 3 รวมกัน โดยให้ผู้ป่วยกิน 6 เดือน ผู้ที่กินยา 95 เปอร์เซ็นต์ จะมีเชื้ออยู่ในเลือดน้อยมาก ทำให้การส่งต่อเชื้อไปหาผู้อื่นนั้นไม่น่ากังวล และไม่เป็นพิษภัยกับผู้อื่นด้วย

อยากฝากคำแนะนำว่า เราไม่มีทางรู้ว่าใครติดเชื้อหรือไม่ ฉะนั้นการสวมถุงยางอนามัยเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด หากต้องมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรกินยาเพร็พป้องกันไว้ก่อน

ล่าสุด พยาบาลสาว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ขอโทษ... ขอโทษที่เข้าไปเป็น มะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง มะน่องมะแน่งมั๊บ ปะล่องป่องแป่ง ง้องแง้งง้องแง้ง ในชีวิตเธอ ขอโทษที่เข้าไปเป็น มะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง มะน่องมะแน่งมั๊บ ปะล่องป่องแป่ง ง้องแง้งง้องแง้ง ในชีวิตเธอ.. "