แม่ป้องลูกชายคนดี ไม่เคยเห็น ไอ้เทพ ซ้อมเมีย - ญาติเหยื่อแฉ! บังคับเสพยา-มีเซ็กซ์หลังคลอด(คลิป)
คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พังโคน ได้นำตัว นายสุระเทพ ปานะวิเศษ อายุ 37 ปี หรือ ฉายาเทพเจ้า ไฮ มาสอบสวนที่ห้องสืบสวน ชั้น 3 สภ.พังโคน โดยมี พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.พังโคน ได้ร่วมสอบสวนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสกลนคร เบื้องต้นผลตรวจร่างกายพบปัสสาวะเป็นสีม่วง
พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.พังโคน เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การเป็นประโยชน์ รับสารภาพว่า ได้ลงมือซ้อมภรรยาจริง แต่ยังให้การภาคเสธ ในหลายเรื่อง ทำให้ยังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม และในเช้าวันนี้ (6 ก.พ.63) อาจจะนำตัวนายสุระเทพ ไปที่บ้านเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม เพราะในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุม พบอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายภรรยา อาทิ มีด้ามไม้กวาด เข็มขัด ที่ตรงกับร่องรอยที่พบในร่างกายของภรรยา ซึ่งภายหลังเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ใช้สิ่งของเหล่านี้ทำร้ายร่างกาย
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า นายสุระเทพ เป็นคนลักษณะไม่สุงสิงกับใคร และชอบเก็บตัว มีความเป็นอยู่อย่างคนมีฐานะ มีบ้านที่หรู แม้จะยังไม่ทำงานที่เป็นหลักแหล่ง และตอนถูกควบคุมตัว ยังขับรถส่วนตัวเป็นรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนประมูลของกรุงเทพมหานคร มาที่สถานีตำรวจอีกด้วย ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้พาครอบครัวย้ายไปอยู่บุรีรัมย์อยู่ปีกว่า ๆ แล้วย้ายกลับมาพาภรรยามาคลอดลูกที่ อ.พังโคน ก่อนจะเกิดเหตุความรุนแรงในครอบครัวขึ้น นอกจากนี้ นายสุระเทพยอมรับว่าแค่เสพยาเท่านั้น แต่ที่มีเงินทอง และสร้างบ้านต่าง ๆ เพราะมาจากธุรกิจทำเครื่องสำอางผิวขาว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
นางวันดี ปานะวิเศษ แม่ของนายสุระเทพ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกชายทำร้ายร่างกายภรรยาแม้แต่ครั้งเดียว วันที่ลูกสะใภ้อุ้มลูกน้อยเดินออกไปนอกบ้านตนไม่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันลูกชายเป็นคนนิสัยดี แต่ถ้าโกรธมักจะชอบโวยวายเสียงดังและชอบทำลายข้าวของภายในบ้านแต่ไม่เคยทำร้ายคนในครอบครัว
ถ้าหากลูกชายทำร้ายร่ายกายลูกสะใภ้จริง ๆ ตนย่อมรู้สึกสงสาร โดยหลังเกิดเหตุลูกชายเดินทางไปพูดคุยกับทางฝั่งครอบครัวลูกสะใภ้แต่เขาปิดบ้านไม่ต้อนรับพวกตน ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกชายไปทำร้ายร่างกายภรรยาตัวเองและอยากให้ลูกชายปรับปรุงตัว
ด้าน นางลำดวน (นามสมมติ) ชาวบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสภาพสวมชุดนอนสีฟ้าเทา มีรอยพกช้ำที่บริเวณตาด้านซ้ายเดินอุ้มลูกมาตามถนน ลักษณะเหมือนคนพูดจาไม่รู้เรื่อง พอมาถึงบ้านของตนก็เดินไปเดินมาและทำท่าทางเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยนำตัวผู้หญิงคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล ขณะสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหนผู้หญิงคนดังกล่าวได้แต่ทำท่าทีหวาดกลัวและพูดแต่ชื่อลูก
สำหรับประเด็นเรื่องเป็นหนี้หลายล้านนั้น เป็นหนี้ที่ฝ่ายชายก่อขึ้นเองทั้งสิ้นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพี่สาว ส่วนอาการล่าสุดของพี่สาวดีขึ้นตามลำดับพี่สาวเริ่มพูดคุยตอบโต้ได้บ้าง และบ่นว่าอยากดื่มน้ำ กินขนม และอยากบอกผู้ก่อเหตุว่า "หัดยอมรับความจริงบ้าง อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็อย่าพูด อย่าแถ"
ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวไปฝากขังแล้ว พร้อมกับยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 200,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่มีการคัดค้าน ทางครอบครัวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะหากออกจากคุกกลัวว่าฝ่ายชายจะย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัวของตนอีก