พันธ์ยศ แจงยิบปมเอี่ยวอมหน้ากาก - อ.อ๊อด เตือน!อย่าฉีดแอลกอฮอล์ใส่แมสก์
รายการโหนกระแส วันที่ 10 มี.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณพันธ์ยศ" มาพร้อม "รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์" หรือ "อ.อ๊อด" ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ และ "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร"
พันธ์ยศ : "ใช่ครับ เป็นที่บ้านเลย"
เขาไปหาพีท กับเล็ก ไอศูรย์ เขาประกาศใครมีหน้ากากให้ติดต่อมาขาย เป็นไปได้มั้ยส่งต่อให้คุณ?
แต่การส่งไปขายต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : "ต้องบอกว่าก่อนหน้านั้น"
จะบอกว่าปัจจุบันนี้ไม่?
พันธ์ยศ : "ใช่ครับ เมื่อมีการระบาดในไทย ผมก็เตรียมตัวกับครอบครัวและทีมงาน ตอนไม่ระบาดในไทย ทุกคนมองตลาดต่างประเทศ แต่เราวางแผนว่าถ้ามีการระบาดในไทยเราต้องดูแลในไทยเราเป็นอันดับแรก เป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรก"
บริษัทชื่ออะไร?
พันธ์ยศ : "เดิมทีก่อตั้งบริษัทไทยเฮลท์จำกัด ตอนนี้ปิดดำเนินการไปเป็นปีแล้ว"
มีเพจไทยแมสก์มั้ย?
พันธ์ยศ : "ไม่มีครับ เมื่อก่อนเคยมีเพจ แต่ไม่ได้ชื่อไทยแมสก์ ผมไม่เคยโฆษณาขายสินค้าใดๆ เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าที่ตอนแรกเราออกแบบแพ็กเกจจิ้งด้วยซ้ำ ตอนนี้เราไม่ได้ดำเนินการ หลังจากที่มีกฎหมายออกมา ซึ่งเราก็ต้องปฏิบัติตามเคร่งครัดอยู่แล้ว"
ส่งมากสุดกี่ชิ้น?
พันธ์ยศ : "ตอนนั้นก็คือหลักล้านชิ้น ส่งให้ตัวแทน เขาบอกเป็นตัวแทนเพื่อนำสินค้าตัวนี้ไปบริจาค แต่เราไม่รู้หรอกนำไปบริจาคจริงหรือไม่จริง หรือส่งออกต่างประเทศจริงหรือไม่ เพราะผมไม่ได้ติดตามต่อ เมื่อมีการรับสินค้า ดำเนินการชำระเงินเรียบร้อยก็ไม่ได้ติดตามต่อ"
เรื่องที่มาถึงตัวคุณ ทางการเขาต้องตรวจสอบ คุณยินดี?
พันธ์ยศ : "ยินดีให้ความร่วมมือในทุกข้อกล่าวหา"
ไม่ได้สนิทกับบอย?
พันธ์ยศ : "เขาก็พยายามเข้ามารู้จักในช่วงหลัง ไม่ถึง 1 เดือน ช่วงที่ผ่านมาเจอกันบ่อยหน่อย"
รู้สึกยังไง?
ทนายรณณรงค์ : "รู้สึกแย่ ทุกวันนี้หาซื้อหน้ากากไม่ได้ด้วย เรารู้อยู่แล้วว่ามีคนเอาไปทำกำไรที่ตปท. ถ้าเป็นไปได้ ธุรกิจตัวอื่นมีเยอะแยะไปหมด ไม่ต้องขายหน้ากาก ไม่งั้นต่อไปคนมีรายได้น้อยหาซื้อไม่ได้หรอก หมดปัญญาซื้อ โรคระบาดเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่าอาหารอีกนะ เป็นวัฏจักรในการวนลูป ผมเห็นเพื่อนผมบางคนก็ทำธุรกิจขายหน้ากาก บอกว่ากำไรหลักหมื่นหลักแสน ขายบนความหวาดวิตกของประชาชน พอไปดูหน่วยงานที่ดูแลกำกับ มีความเกี่ยวข้อง ก็บกพร่อง เป็นเดือนแล้วไม่เคยแก้ปัญหาอะไรเลย ปล่อยให้คนเอาหน้ากากไปขายจีน ได้กำไรเยอะๆ ทำให้ประเทศขาดแคลน เป็นดราม่าอยู่กระทรวงโน้นกระทรวงนี้ จริงๆ ถ้าแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น พวกผมก็ไม่ต้องเดือดร้อน หมอก็ไม่ต้องเดือดร้อน โควิดแม้จะระบาดแต่เรามีอุปกรณ์ป้องกัน ทุกวันนี้มันหาอุปกรณ์ป้องกันไม่ได้"
บอยไนท์มาร์เก็ตบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์?
ทนายรณณรงค์ : "ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น ผมอยากเชื่อว่าสินค้าทุกตัวที่เอามาขาย ประกาศจะขาย คุณไปหามาจากไหน คนเอาสินค้ามาให้คุณไปได้มาจากไหน ในเมื่อกระทรวงพาณิชย์เขามีมาตรการป้องกันแล้ว มันหลุดรอดจากโรงงานได้ยังไง มีคนติดต่อขอซื้อขายจากคุณไปกี่คน ขายราคาเท่าไหร่ คุณขายเกินราคาหรือไม่ ตรงนี้ต้องมีคำตอบมา"
เขาโดนพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ไปก่อน?
ทนายรณณรงค์ : "ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึง แต่ผมเชื่อว่าถ้ามีการสืบสวนต่อ มีการขยายผล ใครแอบเอาไปขายคนอื่นหรือเปล่า"
จะบอกว่าภาครัฐไม่ได้ควบคุมตั้งแต่แรก?
ทนายรณณรงค์ : "ใช่ครับ ถ้าควบคุมผมก็ไม่เดือดร้อน หมอก็ไม่เดือดร้อน เขามีอุปกรณ์ป้องกันโควิดเต็มที่ ใครไปรักษาก็มีแจกด้วยซ้ำ พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมเสียใจมาก"
รู้สึกยังไงที่คนไทยหาหน้ากากอนามัยไม่ได้ เราอาจเป็นส่วนหนึ่งในการส่งไปต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : "จริงๆ เราก็มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว ผมก็รู้สึกเสียใจส่วนหนึ่ง อย่างที่บอกการนำส่งออกไปต่างประเทศ ตอนแรกเราคิดว่าทจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศด้วยซ้ำ เป็นโอกาสของประเทศไทยด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีโรคระบาดและกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ทำธุรกิจ หรือทำให้หน้ากากอนามัยมีมากพอกับประชาชน ก็รู้สึกเสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมา"
เสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมาควบคุมเหรอ ทำให้คุณไม่ได้ขายเหรอ?
พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ หมายถึงสินค้าอยู่ที่อุปสงอุปทาน ดีมานต์ซัปพลายมากกว่า คือกฎหมายแค่เป็นการควบคุม ซึ่ง ณ ขณะนั้นราคามันไปไกลมากแล้ว แล้วสินค้ามันหายากมาก"
ตอนนี้มีเท่าไหร่?
พันธ์ยศ : "มีไม่ถึงหมื่นชิ้น"
จะรับผิดชอบด้วยการเอาไปแจก?
พันธ์ยศ : "แน่นอน ผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว แค่ผมไม่ได้โพสต์บอก ผมเอาไปบริจาคอยู่แล้ว และมีบางหน่วยงานมารับที่บริษัท เพียงแต่ผมไม่จำเป็นต้องโพสต์บอกใคร"
อ.อ๊อด : "ต้นทุนคุณบอกว่าสองบาท แต่ที่ตามคลิปแหม่มโพธิ์ดำ คนนั้นเขาประกาศขาย 14 บาท ผมคิดว่าคุณไม่น่าได้ 2 บาทเพราะราคาที่เขาประกาศในคลิป 14.70 บาท ส่วนต่าง 12 บาทกว่าอยู่ที่เขาคนนั้นหรือเปล่า ที่สำคัญเฟซบุ๊กคนนั้นโชว์เครื่องจักร ผมไม่ทราบว่าถ่ายที่บ้านคุณที่กำลังผลิตแมสก์หรือเปล่า"
พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ครับ บ้านผมไม่มีเครื่องจักร"
เรื่องเงินที่บอกว่าขาย 14.70 บาท?
พันธ์ยศ : "ผมเป็นแค่ตัวกลาง การซื้อมาขายไป ก็ดูตลาด ถ้าบวกเพิ่มได้อย่างมาก 10-20 สตางค์แค่นี้ มากสุดไม่เกิน 50 สตางค์เพราะเราไม่ใช่โรงงานโดยตรง ถ้าเป็นโรงงานโดยตรงแล้วนำไปขายราคานี้ก็จะได้กำไรมาก นี่คือประเด็นที่น่าจะมีความเข้าใจผิดกัน ไม่ได้กำไรมากขนาดนั้น"
อ.อ๊อดเอาอะไรมา?
อ.อ๊อด : "หน้ากากไม่รู้เอามาจากโรงงานไหน"
พันธ์ยศ : "อันนี้ถือว่าคุณภาพดี อีกอันมาจากเวียดนาม ส่วนใหญ่จะหนา และเห็นสี่ชั้นซะเยอะ ส่วนใหญ่จะเคลมว่ากันน้ำทั้งหมด"
เคยขายมั้ย?
พันธ์ยศ : "เคยมีครับ"
อ.อ๊อด : "หน้ากากอนาย มอก.ไทยต้องกันสารคัดหลั่ง ฉะนั้นต้องป้องกันน้ำได้ แต่ถ้าคนเอาแอลกอฮอล์ไปทำความสะอาด (ฉีดให้ดู) เทน้ำลงไปก็ทะลุเลย อยากจะฝากบอกประชาชนว่าตัวหน้ากากเขามีสารเคลือบ อย่าเอาแอลกอฮอล์ไปฉีด ไปล้าง ไวรัสจะมาจากสารคัดหลั่ง ไม่ใช่เดินไปดีๆ เราจะเป็นไข้หวัด มันต้องมีคนมาจามใส่ก่อน หรือจับอะไรมาป้ายจมูกตัวเอง ตัวกันที่หมอต้องการคือกันน้ำ เราเห็นหลายเพจบางเฉียบแล้วขาย 13 บาท หน่วยงานต้องไล่จับ แล้วคนบอกว่าแอลกอฮอลล์ 70 เปอร์เซ็นต์ฆ่าเชื้อ ฉีดมาปุ๊บหน้ากากคุณไปเลย โดนน้ำลายก็ซึมเข้าจมูก หรือคุณหมอโดนเลือดแล้วซึมเข้าไป มาตรฐานหน้ากากจะมี 3 อย่าง มีประเภททั่วไป กันความละเอียดสูง ตัวที่หมอใช้คือกันน้ำซึมผ่าน แต่ 3 อย่างต้องมีคือลวดโค้งงอ ที่เป็นดราม่านักการเมืองชื่อดัง ไม่มีตัวนี้ คุณพันธ์ยศมีครบมั้ย"
พันธ์ยศ : "ส่วนใหญ่ของผมจะซื้อที่มีลวดและสามชั้น เป็นลักษณะกันน้ำได้ เราดูก็รู้"
อ.อ๊อด : "ป้ายมูลนิธิไปไหน?
พันธ์ยศ : "ยังอยู่ แต่ขยับไปชั้น 2 เนื่องจากว่าคนเข้ามาแล้วป้ายล้มลงมา ก็ติดไว้ชั้น 2 แทน"
อ.อ๊อด : "ห้ามถ่ายภาพจริงมั้ย"
พันธ์ยศ : "ห้ามถ่ายภาพ เนื่องจากช่วงหลังมีคนนำภาพไปโพสต์และไปหลอกลวงคนอื่นก็มี มีมิจฉาชีพเข้ามา คือถ่ายได้ แต่แจ้งหน่อย ขออนุญาตหน่อย"
อ.อ๊อด : "ข้างบนมีเครื่องจักรมั้ย"
พันธ์ยศ : "ไม่มี ตร.เข้าไปแล้วเมื่อวาน นำหมายค้นตลิ่งชันเข้าไปตรวจพื้นที่ ก็อย่างที่บอกว่าเป็นบ้านพักอาศัย เพียงแต่ว่าช่วงดำเนินการเรื่องหน้ากากเป็นการชั่วคราว"
พี่รณณรงค์ยังไงต่อ?
ทนายรณณรงค์ : "ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากได้ อธิบดีกรมการค้าภายในต้องพิจารณาตัวเองนะ ผมเดือดร้อนเป็นเดือนแล้ว ยังไม่ทำอะไรเลย"
เขาบอกทำมาหลายวันแล้ว?
ทนายรณณงค์ : "มันเกิดมาเป็นเดือนแล้ว ถ้านับเป็นสัปดาห์ 40 จะ 50 แล้ว ดูสิ พ่อค้ายังเอาไปขายที่จีนได้อยู่เลย ทำไมไม่ป้องกันตั้งแต่ก.พ. ควรพิจารณาตัวเอง สงสารหมอมากไปรักษาเขาแต่ไม่มีหน้ากากใช้ ต้องมารับบริจาค เพราะคุณไม่ทำการ ถ้าคุณป้องกันได้เราจะต้องมานั่งตรงนี้มั้ย ไม่มีใครอยากว่า พิจารณาตัวเองก็ดี"
วันนี้ยืนยันว่าคุณไม่ได้ส่งออกอีกแล้ว?
พันธ์ยศ : "ไม่มีส่งออกไปนานแล้ว จริงๆ แล้วหน้ากากในประเทศไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ไปอยู่ที่ไหนสักที่"
คุณรู้มั้ยว่า 200 ล้านชิ้นอยู่ไหน?
พันธ์ยศ : "ผมไม่แน่ใจ แต่ไม่ได้อยู่ที่ผมแน่นอน เพราะผมไม่ได้กักตุนหน้ากาก โอเคผมเคยเป็นผู้ค้าหน้ากาก หรือเป็นนายหน้าโบรกเกอร์คอยประสานงาน แต่แม้แต่ผมเองก็หาไม่ได้ ผมยังคิดวิธีการว่าไปรวบรวมจากออนไลน์มาดีกว่า"
เขาว่าคุณเป็นตัวเอ้ให้ตัวเล็กตัวน้อยกระจายขาย?
พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ มีแต่ผมเอาจากตัวเล็กตัวน้อยมาบริหารจัดการให้"
จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดยังไงดี วันนี้หน้ากากเราขาดแคลน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณส่งไปขายต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : "ก็ต้องกราบขออภัย ถ้าเดือดร้อนเรื่องการส่งออกของผมในตอนแรก ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีว่าเราอยากให้สินค้าประเทศไทยไปสู่ต่างชาติ ขยายเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้อย่างที่บอกถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจในรัฐ คงใช้วิธีสนับสนุนให้คนไทยทำหน้ากากดีกว่า หรือขยายให้เกิดเป็นสินค้าเศรษฐกิจไปเลย มากกว่าออกมาตรการแค่เพียงการควบคุม"
ทนายรณณรงค์ : "กำไรดีมั้ย"
พันธ์ยศ : "ช่วงต้นกำไรธรรมดา เพราะของผมมันวันต่อวัน มันผ่านมือเฉยๆ"