ครม.เคาะแล้ว! เพิ่มเงินชดเชยผู้ประกันตนเซ่นโควิด 62%

หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง ครม.เคาะแล้ว! เพิ่มเงินชดเชยผู้ประกันตนเซ่นโควิด 62%

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.10 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (1 เม.ย.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจสัมภาษณ์ "รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรื่องเงินเยียวยา 5 พัน ใครควรได้และใครไม่ควรได้ หลังจากตอนนี้มีการลงทะเบียนไปแล้ว 20 ล้านคน

รศ.ดร.จักษ์ : "คำว่าเยียวยาจะเกิดขึ้นเมื่อได้รับผลกระทบ ถ้าไม่ได้รับผลกระทบจะไปเยียวยาทำไม เยียวยาตรงนี้คือเยียวยาเรื่องเศรษฐกิจผลกระทบกับแรงงานที่เกิดจากโควิด ทีนี้แรงงาน จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม กับแรงงานที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ถ้าเป็นแรงงานที่อยู่ในประกันสังคม กระทรวงแรงงานดูแลไป แต่ถ้าแรงงานอยู่นอกระบบประกันสังคม กระทรวงการคลังเขารับไปดูแลตรงนั้น ถ้าไม่อยู่ มาตรา 39 คือคนเคยอยู่มาตรา 33 มาก่อน เขาไม่มีนายจ้าง แต่พร้อมจ่ายเบี้ยประกันเองโดยความสมัครใจ มาตรา 40 คือคนทั่วไปอายุ 15-60 ปี เขาบอกว่าเขาไม่มีนายจ้าง กฎหมายไม่ได้บังคับ ทั้ง 39 40 ก็ถูกกักมาอยู่แรงงานนอกระบบ รวมทั้งอาชีพอิสระทั่วไป ขายขนมครก ทำเล็บ แต่ทั้งหมดต้องได้รับผลกระทบ ถ้ายังมีรายได้อยู่ไม่ได้รับผลกระทบ อันนี้ไม่ได้ หรือถ้ายังขับแท็กซี่ ลูกค้าไม่ได้หายไปไหน รับเป็นปกติ แบบนี้มายื่นกระทรวงการคลังก็ไม่ได้เพราะตกตั้งแต่ข้อแรก คือต้องได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19"

ลงทะเบียนตั้ง 20 ล้านคน วิธีคัดจะคัดยังไง?

รศ.ดร.จักษ์ : "ผมทราบจากกระทรวงการคลัง เขาบอกว่าจะมีเครื่อง AI คัด คุณสมบัติครบ ถูกต้องทุกอย่าง ได้รับผลกระทบชัดเจน เห็นเป็นประจักษ์ อันนี้ต้องให้ อีกกลุ่มคุณสมบัติไม่ได้ เช่นเป็นข้าราชการ ทหาร ก็ตัดออกไป สามกลุ่มตรงกลางๆ จะเหนื่อยหน่อย เช่นบอกว่าเป็นกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ลูกค้าหาย ช่างเสริมสวยจะทำยังไง เขาบอกว่าก้อนนี้ต้องใช้เวลานานหน่อยเพื่อหาข้อมูลมายืนยัน"

เรื่องกระทรวงแรงงาน มาตรา 33 ใครบ้างได้รับการเยียวยา?

รศ.ดร.จักษ์ : "ก็ต้องได้รับผลกระทบ เอาเรื่องใหญ่ๆ ก่อน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐ ให้หยุดการทำงาน นายจ้างไม่ได้อยากหยุดแต่รัฐสั่งให้หยุด จะให้นายจ้างจ่ายเงินให้ลูกจ้างมันก็ไม่ถูก แต่ลูกจ้างต้องกินต้องอยู่ เขาจะทำอย่างไร ตรงนี้สำนักงานประกันสังคมเขาจะมาดูแล"

กระทรวงการคลังเขามีตัวเลข 5 พัน ตรงนี้ล่ะ?

รศ.ดร.จักษ์ : "วันนี้มาเปิดรายการนี้รายการแรก เพราะเพิ่งผ่านครม. เมื่อวาน ตอนแรกให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เพิ่มเป็น 62 เปอร์เซ็นต์ เขามีเพดานไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ตอนเราหักเงินเข้าประกันสังคม เงินเดือน 3 แสนก็หัก 5 เปอร์เซ็นต์ของ 1.5 หมื่น เมื่อกลับมาดูแล ก็ต้องดูแลบนพื้นฐานของ 1.5 หมื่น ฉะนั้นมีบางคนที่เป็นแรงงานที่เขาเงินเดือนน้อย ตอน 50 เปอร์เซ็นต์ พอหารแล้วเขาได้ไม่ถึง 5 พัน นี่เป็นที่มาที่ไป เราจึงต้องปรับ ตอนนี้ถ้าเป็นของกระทรวงแรงงาน ต้องได้อย่างต่ำ 5 พันบาทแน่ๆ ต่ำสุด"

คนเป็นหมอนวดได้มั้ย?

รศ.ดร. จักษ์ : "ต้องดูว่าเขาเป็นมาตรา 33 หรือเปล่า"

จะได้รับเงินเมื่อไหร่ ตรวจยากมั้ย?

รศ.ดร.จักษ์ : "ไม่ยากเลยครับ สมมติบริษัทเอได้รับคำสั่งให้หยุด เขาก็ไปกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ประกันสังคม นายจ้างไปกรอกส่วนของตัวเองก่อน แล้วลูกจ้างไปกรอกว่าฉันคือนายก. อยู่บริษัทเอ เพื่อเป็นข้อมูลยืนยันว่ามันตรงกัน เมื่อข้อมูลตรงกันปั๊บ ทางประกันสังคมจะรีบดำเนินการให้ ภายใน 7 วันทำการ เงินจะเข้าบัญชีลูกจ้าง"

ได้ก่อนกระทรวงการคลังเพราะตรวจง่ายกว่า?

รศ.ดร.จักษ์ : "จริงๆ เราเปิดให้ลงทะเบียนแล้วด้วยซ้ำไป มีคนคีย์กันไปแล้วนะครับ"

สมมติ 33 ก็ไม่ได้อยู่ ไม่ได้ซื้อ 40 จะได้มั้ย?

รศ.ดร. จักษ์ : "ก็ไปอยู่กระทรวงการคลัง เป็นอาชีพอิสระ แต่เขาจะได้สิทธิ์หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ต้องรอการตรวจสอบจากกระทรวงการคลัง"

ผู้ประกอบการล่ะ พวกร้านอาหารจะเยียวยายังไง?

ศ.ดร.จักษ์ : "เรามีกรณีเยียวยาเรื่องแรกคือเรื่องส่งเงินประกันสังคม ปกตินายจ้างต้องส่ง 5 เปอร์เซ็นต์ ลูกจ้างส่ง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่เราปรับมี.ค. เม.ย. พ.ค. ให้นายจ้างส่ง 4 เปอร์เซ็นต์ ลูกจ้างส่งแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"

ถ้าเขาไม่มีรายได้เลยจะชดเชยยังไง?

รศ.ดร.จักษ์ : "ตรงนี้เขาก็จะหยุดกิจการชั่วคราว ซึ่งต้องดูแลแรงงานโดยจ่ายเงินเดือนให้เขา 75 เปอร์เซ็นต์ ที่มาที่ไปกฎหมายข้อนี้ กรณีเขาหยุดจากเหตุที่ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เช่นอาจมีออเดอร์น้อย มีสินค้าวัตถุดิบมาน้อย เขาอาจคิดว่าไม่คุ้ม เขาต้องดูแลลูกจ้าง 75 เปอร์เซ็นต์ทำไม เพราะลูกจ้างถ้าเลิกจ้างเลย แรงงานอาจไปอยู่บริษัทอื่น พอมีออเดอร์ขึ้นมาเขาจะหาแรงงานไม่ได้ จึงเป็นการพบกันครึ่งทาง ใช้มาตรา 75 เป็นไปตามเงื่อนไขและกฎกระทรวงเป็นคนกำหนด ทำให้กระทรวงแรงงานมาปรับเอาเรื่องระบาดของโรคเป็นเหตุสุดวิสัย ทำให้เขาสามารถได้เงินชดเชย 62 เปอร์เซ็นต์ แต่จังหวัดอื่นๆ ไม่ได้ประกาศสั่งหยุด ยังใช้คำว่าเหตุสุดวิสัยไม่ได้"

บางคนนายจ้างให้อยู่บ้าน ให้หยุดทำงาน เมื่อลดเวลาทำงาน ก็ลดเงินเดือน คนลดเงินได้มั้ย?

รศ.ดร.จักษ์ : "กรณีนี้กฎหมายยอม นายจ้างสามารถคุยกับลูกจ้างถึงเงื่อนไขใหม่ เช่นทำวันเว้นวันมั้ย ลดเงินเดือนลงตามสัดส่วนมั้ย ถ้าลูกจ้างยอมเซ็นเห็นด้วยมีผลบังคับใช้ แต่เงินที่ลดลงต้องไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ แต่กรณีแบบนี้ลูกจ้างที่ถูกลดเงินลดเวลา จะมารับเงินทดแทนขาดรายได้ 62 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ว่างงาน จะไปใช้ของกระทรวงการคลังก็ไม่ได้เหมือนกัน"

ถ้าลดลงมาแต่สูงกว่า 1.5 หมื่นไม่ได้?

รศ.ดร.จักษ์ : "ไม่ได้ครับ"

อาชีพนึงตอนนี้รายได้เป็นศูนย์เลย คือธุรกิจท่องเที่ยว ถาม "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร" ถ้าธุรกิจท่องเที่ยวกระทบอย่างนี้ ในฐานะเป็นทนายจะเรียกร้องกระทรวงแรงงานให้ทำยังไง?

ทนาย : "ต้องบอกว่าวันนี้มีลูกจ้างหลายแสนคนที่กำลังไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินและเขาบอกว่านายจ้างจะไม่จ่ายเงินเขาด้วย เขาเห็นข่าวกระทรวงแจกเงิน 5 พันก็นึกว่าเขาจะมีโอกาสรอดในชีวิต ปรากฎมีประกันสังคมไปเอาก็ไม่ได้ แล้วพอไปติดต่อประกันสังคม ประกันสังคมบอกว่าของท่องเที่ยวเนี่ยผู้ว่าไม่ได้สั่งปิด เอาจากประกันสังคมไม่ได้ ทีนี้จะทำยังไง ผมก็ไปติดต่อประกันสังคมเลยนะ เขาบอกว่าให้ลูกจ้างไปฟ้องนายจ้างเอา นายจ้างต้องจ่ายเงิน 75 เปอร์เซ็นต์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพราะการหยุดงานครั้งนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แล้วพอไปถามนายจ้าง นายจ้างจะไม่รอดแล้วเนี่ย"

รศ.ดร.จักษ์ : "ตอนนี้กระทรวงแรงงานกำลังหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาคุยกันและคงมีมาตรการออกมาเร็วๆ นี้ ที่ผ่านมาไกด์บางคนเป็นมาตรา 33 บางคนเขาไม่มีเลย แต่เขาไม่มีปัญหาเพราะใช้สิทธ์กระทรวงการคลังตรงโน้น แต่ถ้ามาตรา 33 แน่นอนเมื่ออยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้ถูกสั่งปิดก็จะเป็นประเด็น ก็ต้องเข้าไปช่วยดูแลว่าจะทำยังไงต่อไป จริงๆ อำนาจในการปิดไม่ปิดในต่างจังหวัด จะมีคณะกรรมการควบคุมโรคอยู่ แต่ในนั้นไม่มีกระทรวงแรงงานอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่ากระทรวงแรงงานจะไม่รับผิดชอบ แต่กระทรวงแรงงานจะให้ข้อมูล ซึ่งแจ้งทางผู้ว่าฯ ได้ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยตรงนี้"

ถ้ามองเรื่องท่องเที่ยว มีคนทำงานประเภทอะไรที่กระทรวงแรงงานควรไปมอง นอกจากไกด์?

ทนาย : "ตอนนี้ที่ปริมาณเยอะที่สุดคือลูกจ้างรีสอร์ตโรงแรม เพราะใครจะมาเที่ยวล่ะ นายจ้างก็ให้อยู่บ้านไม่จ่ายเงิน แล้วให้เซ็นเอกสาร ซึ่งสำคัญมาก คุณสมัครใจลาหยุดโดยไม่เอาเงินเดือน ลูกจ้างไม่กล้าเซ็นเราจะช่วยเขาได้ยังไงบ้างครับ"

ศ.ดร.จักษ์ : "กรณีไม่เซ็น สิทธิลูกจ้างก็มีอยู่ปกติ ผมว่าทางออกที่ดีที่สุดคือนั่งเจรจากัน เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิด เคยเกิดในตอนปี 40 ตอนฟองสบู่แตกอย่างรุนแรง ลูกจ้างกับนายจ้างก็หาทางออกร่วมกันและเดินผ่านไป อย่าลืมว่าธุรกิจไม่มีลูกจ้างก็อยู่ไม่รอด ทางที่ดีที่สุดควรพูดคุยกัน และขอความกรุณานายจ้าง ถ้ามีข้อจำกัดอะไรควรรายงานกระทรวงแรงงานเพื่อให้เราเป็นพี่เลี้ยงให้ จะเข้าไปแนะนำว่าควรใช้รูปแบบไหนก่อน ลดต้นทุนแบบนี้มั้ย หรือมีกองทุนให้กู้ยืมเท่าไหร่ยังไง นายจ้างเดินมาหากระทรวงแรงงานเถอะครับ ที่ผ่านมาเราเจอแต่ลูกจ้างเดินมาหาเรา จริงๆ นายจ้างควรจะมา"

ถ้าไม่อยากให้ถึงโรงถึงศาล คนเป็นลูกจ้างที่ยังไม่เกิดเหตุสุดวิสัยจะเรียกร้องอะไรได้บ้าง?

ทนาย : "ตอนนี้เราจะไม่ช้ำใจอะไรเลยถ้าภาครัฐไม่จ่ายเงิน 5 พันบาท และเป็นเงื่อนไขที่ง่ายกว่าประกันสังคม วันนี้เลยมีแฮชแท็กนึงใหญ่มากว่าจ่ายทำไม ในเมื่อคนไม่เคยจ่ายแต่ได้เงิน 5 พันบาทด้วยเงื่อนไขที่ง่ายกว่า"

รศ.ดร.จักษ์ : "ขออนุญาตเพิ่มเติม การที่เขาประกันตน มันไม่ได้พึ่งเงื่อนไขเพื่อการว่างงานอย่างเดียว จริงๆ การส่งประกันตนได้สิทธิ์ตั้ง 7 อย่าง เรื่องป่วยไข้ ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร ฉะนั้นอย่ามองแค่จุดว่างงานแล้วมาน้อยใจ ให้มองให้ไกล"

ทนาย : "ตอนนี้เราอยากให้ดูอีกหลายแสนชีวิต ที่กำลังว่างงานและตกงาน อยากให้ประกันสังคมเปิดช่องให้ทุกคนที่รับผลกระทบโควิด เข้าไปรับเงินว่างงานได้มั้ย เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ไปรับกับกระทรวงการคลัง เห็นใจเขา เขาจ่ายมาทุกปีเขาอยากได้แค่นี้ คนทำงานก็เห็นใจนายจ้าง เขาอยากให้หน่วยงานรัฐบาลมาซัปพอร์ตเขา เพราะเขาไม่มีเหมือนกัน ถ้ามีเขาจะเป็นลูกจ้างมั้ย"

รศ.ดร.จักษ์ : "เรารับฟังทั้งลูกจ้าง นายจ้าง และทุกท่านที่ให้ข้อคิด เราไม่ได้มองว่าเป็นการร้องขอ คอมเมนต์ แต่มองว่าจะเป็นสิ่งที่นำไปพัฒนา"