เปิดไทม์ไลน์ ผู้เสียชีวิตจากโควิด เปรียบเทียบ เริ่มติดเชื้อไม่กี่วันสิ้นใจ!

วันที่ 5 เม.ย.63 นายแพทย์​ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 102 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,169 ราย ใน 66 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย

รวมยอดผู้เสียชีวิต 23 ราย หายแล้วกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 62 ราย รวมยอดหายแล้วกลับบ้านได้ 674 ราย และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,472 ราย ทั้งนี้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ สัญชาติไทย 1,857 ราย สัญชาติอื่น ๆ และรอตรวจสอบ 311 ราย

โดยผู้ป่่วยรายใหม่ 102 ราย เเบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 48 ราย สถานบันเทิง 2 ราย ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา 2 ราย ผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาเเล้ว 44 ราย (ส่วนใหญ่อยู่ กทม,ภูเก็ต,สมุทรปราการ)

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 42 ราย คนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 13 ราย คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย ไปสถานที่เเออัดหรือชุมชน 5 ราย อาชีพเสี่ยง 19 ราย - บุคลากรทางการเเพทย์ 2 ราย (รวม 37 ราย)

ผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายที่ 21 เป็นชายไทยอายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติเดินทางกลับมาจากอังกฤษ ถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม เข้ารักษาตัววันที่ 25 เมษายน ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก และเสียชีวิตวันที่ 3 เมษายน

รายที่ 22 เป็นชายอายุ 82 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีประวัติไปร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้านที่หัวหิน จ.ประจว บคีรีขันธ์ และเดินทางมาที่บาร์ย่านสุขุมวิท วันที่ 29 มีนาคม มีไข้ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 31 มีนาคม มีไข้ ความดันสูง หายใจเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่าปวดบวม ระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน และเสียชีวิตในวันที่ 4 เมษายน

ส่วนรายที่ 23 เป็นชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพก่อสร้าง ดื่มสุราเป็นประจำ วันที่ 19 มีนาคม เดินทางจาก จ.พัทลุง ไป จ.สุรินทร์ และทำงานปกติ วันที่ 20 มีนาคม ทำงานตามปกติที่ จ.สุรินทร์ วันที่ 29 มีนาคม มีอาการไอ แต่ไม่มีไข้ เสมหะเขียว อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลด เหนื่อยหอบ วันที่ 2 เมษายน ไอมากขึ้น จนเข้าโรงพยาบาลรักษาตัว มีออกซิเจนในเลือดต่ำ และมีโรคปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตในวันที่ 4 เมษายน

จากการเปิดเผยของครอบครัว ระบุว่า นายอนิก มีความรู้สึกมีไข้คล้ายอาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา จึงไปพบแพทย์ถึง 2 ครั้ง แต่แพทย์ได้ให้เพียงยากลับไป ขณะที่เจ้าตัวได้กักตัวที่อพาร์ตเมนต์ในเมืองแมนฮัตตัน แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงไปหาแพทย์เป็นครั้งที่ 3 ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการโรคโควิด-19 อีกทั้งยังมีอาการป่วยซับซ้อนอย่างอื่นด้วย