ชาวบ้านแฉ เจอพิรุธ ผญบ.ยิงพระตาย เชื่อ!มีคนจะฮุบที่ทำโรงโม่หิน (คลิป)
จากกรณี นายมานพ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อเหตุยิงพระชลธาร ถาวโร อายุ 49 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา เข้าที่ศีรษะและลำตัวอย่างละ 1 นัด และนายชูรัตน์ อายุ 48 ปี เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ข้างศพมีมีดตกอยู่ 1 เล่ม โดยทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเสียชีวิต 2 ราย บนถนนสายเลียบเขาเพ-ลา ทางเข้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา หมู่ที่ 9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
โดยนายมานพ อ้างว่า ทั้งคู่จะเข้ามาทำร้าย หลังฝ่าฝืนเคอร์ฟิวออกมาหาน้ำผึ้งป่า ด้วยความตกใจจึงได้ใช้ปืนลูกซอง ซึ่งเป็นอาวุธของทางราชการ ยิงเข้าใส่ทั้ง 2 คนไป 3 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายมานพ ไว้เพื่อสอบสวนอีกครั้ง
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางรัชรินทร์ คงคล้าย พี่สาวนายชูรัตน์ เปิดเผยว่า ผู้ใหญ่บ้านน่าจะมีปัญหากับพระมาก่อน และที่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าต้องยิงน้องชายตน เพราะว่าน้องชายจะชักมีดแทงก่อนนั้น ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะชักมีดออกมาต่อสู้ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะน้องชายแค่พกมีดไว้ใช้งานภายในสวนเท่านั้น และนิสัยน้องชายไม่ชอบทำร้ายคนอื่น
ทั้งนี้น้องชายของตนและพระชลธาร ยังเข้าไปหาน้ำผึ้ง ยอมรับว่าเป็นความจริง ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่นอน
ทั้งนี้ช่วงที่ผู้ใหญ่บ้านเข้ามา พวกตนกำลังตอกไม้ใกล้ถึงจุดที่สามารถเก็บน้ำผึ้งได้ ซึ่งหากไม่เกิดเหตุขึ้นก่อนมั่นใจว่าสามารถเก็บน้ำผึ้งได้ทันก่อนเวลาเคอร์ฟิวแน่นอน
ทั้งนี้นายวิรัตน์ เชื่อว่าพระชลธาร ไม่ได้ชักปืนขึ้นมาต่อสู้ตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง เพราะสภาพศพของพระ มือขวาซึ่งเป็นข้างที่ถนัดนอนจับโทรศัพท์อยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระจะชักปืนออกมาจากมือซ้าย โดยมั่นใจว่าปืนที่ตกในที่เกิดเหตุไม่ใช่ของพระ เพราะพระชลธารก็ห่มเพียงสบง ไม่มีจีวร ซึ่งหากพกปืนก็น่าจะเห็นตั้งแต่แรก
นอกจากนี้หากพระชลธารตั้งใจยิงจริง ก็น่าจะยิงตั้งแต่คุยกับผู้ใหญ่บ้านไม่รอให้ชุดเคลื่อนที่เร็วของปลัดอำเภอเข้ามาที่เกิดเหตุ ซึ่งพระถูกยิงบริเวณท้ายทอย กับชายโครงด้านซ้าย เป็นการยิงจากด้านหลังทั้ง 2 จุด เชื่อว่าพระชลธาร น่าจะถูกยิงนัดแรกแล้ววิ่งหนี จนถูกยิงอีกนัดจนล้มลงไป และมั่นใจว่าผู้ใหญ่บ้าน ตั้งใจฆ่าพระชลธาร โดยอ้างเหตุเคอร์ฟิว