บุกพิสูจน์จุดหหนุ่มหายปริศนา เพื่อนเชื่อศพอยู่ในหลุม เพราะขี้เมาชอบลบหลู่

จากกรณี นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกำลังตำรวจ-ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านแก่งประลอม หมู่ที่ 1 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ หลังได้รับรายงานว่ามีกลุ่มบุคคลนำรถแบ็กโฮเข้าไปขุดหาสมบัติเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ล่าสุดหลังข่าวถูกนำเสนอออกไปมีชาวบ้านร้องเรียนกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ลูกชายที่เคยร่วมขุดหาสมบัติได้หายตัวไปอย่างลึกลับ นานกว่า 5 ปีแล้ว โดยเข้าแจ้งความกับตำรวจแต่คดีไม่มีความคืบหน้า ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

บุกพิสูจน์จุดหหนุ่มหายปริศนา เพื่อนเชื่อศพอยู่ในหลุม เพราะขี้เมาชอบลบหลู่

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังพื้นที่บ้านแก่งประลอม หมู่ที่ 1 ต.ไทรโยค ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ สถานที่ขุดหาสมบัติทหารญี่ปุ่นอีกครั้ง นายบุญส่ง มะนาวทอง อายุ 60 ปี คนรับจ้างขุดดิน ช่วยนำทางทีมข่าวเข้าไปสำรวจภายในบริเวณหลุมที่มีการขุดหาสมบัติ โดยก่อนจะเข้าไปสำรวจภายในหลุมด้ทำการจุดธูปเทียนขอขมากับรูปปั้นปูโสมเฝ้าทรัพย์ ที่เชื่อว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้

จากการสำรวจภายในพบว่าเป็นช่องทางแคบสามารถรอดผ่านเข้าไปได้ทีละ 1 คนเท่านั้น โดยตลอดทางที่มุดเข้าไปเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยสามารถเข้าไปสุดได้เพียง 10 เมตร เนื่องจากเป็นทางตัน และทางที่สามารถไปต่อได้ต้องทำการโรยตัวลงไปเท่านั้น ซึ่งเต็มไปด้วยความอันตราย เพราะอากาศหายใจค่อนข้างน้อย

นายบุญส่ง มะนาวทอง อายุ 60 ปี คนรับจ้างขุดดิน บอกว่า การจะนำร่างของนายชัยยัดไว้ภายในหลุมสมบัติไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจก็ไม่พบเจออะไร ส่วนตัวยังเชื่อว่าการที่นายชัยหายตัวไปน่าจะเกียวกับการไปหลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากกว่า

ทั้งนี้ อยากให้ชาวบ้านพิจารณาว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง อีกทั้งมีกระแสข่าวว่าภายในทางตันของหลุมมีผ้ายันต์ที่เอาไว้ใช้สะกดวิญญาณนายชัย ที่จริงแล้วเป็นเชือกที่ใช้โรยตัวไปยังจุดอื่นต่อเท่านั้น ซึ่งหากชาวบ้านรู้ไม่จริงก็อย่ามาพูดหรือให้ข้อมูลอะไรที่ผิด ๆ เพราะทำให้คนที่อยู่ในพื้นที่เดือดร้อน