ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย

จากกรณีที่ นายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี ร้องทุกข์อ้างว่า มีชายแต่งชุดลายพรางคล้ายทหาร ขับรถยนต์เข้าไปควบคุมตัวลูกชาย 2 คนไปซ้อมร่างกาย ได้แก่ นายยุทธนา ซ้ายซา หรือ "ด่อน" อายุ 33 ปี และนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือ "แดง" อายุ 29 ปี จากเถียงนาท้ายหมู่บ้าน โดยไม่ทราบว่าถูกนำตัวไปที่ไหน

โดยต่อมาทราบภายหลังว่า นายยุทธนา เสียชีวิต สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ปอดเขียวช้ำ และไม่พบยาเสพติดในกะเพรา ส่วนนายณัฐพงษ์ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก 2 ซี่ และที่ปอดมีเลือดคั่ง มีรอยช้ำทั่วร่างกาย โดยเหตุเกิดเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 17 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม


 

ล่าสุดวันที่ 20 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บ้านของนายยุทธนา ซ้ายซา ผู้เสียชีวิต ภายในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติและชาวบ้านมาร่วมพิธีและช่วยงานศพ อีกทั้งยังมีทหารจำนวน 6-7 นาย มาร่วมพิธีและช่วยเหลือการจัดงาน


ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


ทีมข่าวได้พบกับ นายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ซึ่งวันนี้มีทหารจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) นำเงินมาช่วยงานศพเบื้องต้นแค่ 10,000 บาท รวมถึงมีทหาร 6-7 นายมาช่วยเหลืองานศพ ส่วนลูกชายนั้นตนเพิ่งรับศพมาจาก รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น ซึ่งผลการตายเบื้องต้นพบว่าลูกชายมีอาการบาดเจ็บที่สมองและปอดช้ำ แต่ผลชันสูตรโดยละเอียดนั้นจะต้องรอถึง 45 วัน ซึ่งศพของลูกชายจะเผาในวันที่ 23 เม.ย.63 โดยตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะก่อนที่ลูกชายตนจะถูกอุ้มหายก็ยังมีอาการปกติดี แข็งแรง ไม่มีท่าทีว่าจะเจ็บป่วย ซึ่งตนก็เชื่อว่าการตายของลูกของตน ถูกเตะต่อยที่เถียงนา และถูกพาตัวไปทำร้ายต่อที่วัดจนตายตามที่ลูกชายคนเล็กเล่าให้ฟัง

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


นายนิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนอยากเรียกร้องผู้บังคับบัญชาของชุดจับกุมที่จับลูกตนไปซ้อมนั้น ให้เห็นใจตนด้วย เพราะครอบครัวตนก็ยากจน ส่วนในกรณีที่ครอบครัวเรียกเงิน 5 ล้านบาทนั้น ตนก็อยากบอกว่า แม้ทางทหารจะชดใช้เงินร้อยล้านพันล้าน ก็เปรียบกับชีวิตลูกตนไม่ได้ เพราะตนก็ไม่สามารถซื้อชีวิตลูกกลับมาได้

อย่างไรก็ตาม การสูญเสียลูกทั้งคนเหมือนตนสูญเสียแขนขา ไปข้างหนึ่ง เหมือนเสียเสาหลัก เพราะก็มีลูกชายทั้ง 2 คน ที่กรีดยางหาเงินเข้าบ้าน ถ้าผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพตนก็ยินดีและดีใจ เพราะลูกชายจะได้ตายตาหลับ และดวงวิญญาณของลูกจะได้ไปสู่สุขติและให้อภัยคนก่อเหตุ ซึ่งตนก็ขอให้ศพของลูกตนเป็นศพสุดท้ายที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เช่นนี้

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


สำหรับเหตุการณ์นั้นเกิดจากทหารคุมตัวลูกชาย 2 คนใส่กุญแจมือไพล่หลังไปซ้อมที่ถนนข้างที่ทำการของทหาร ตั้งอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่ง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม ในเวลากลางคืนและไม่มีคน อีกทั้งพยายามบีบบังคับให้ตนรับสารภาพว่าค้ายาบ้า จับกรอกแอลกอฮอล์ กระทืบอก แต่ลูกชายก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ขายยา จึงถูกรุมทำร้ายและซ้อมนานถึง 2 ชั่วโมง แต่เมื่อหยุดทำร้ายได้ถามซ้ำอีกว่า ค้ายาบ้าหรือไม่ เมื่อปฏิเสธก็ซ้อมเป็นอย่างนี้ซ้ำ ๆ ซึ่งแทบจะไม่มีโอกาสพูดหรือร้องขอชีวิต เพราะถูกอีกฝ่ายกระหน่ำเตะอย่างหนัก แม้จะพยายามร้องขอชีวิตแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุด กระทั่งผู้เป็นพี่ชายนอนสลบแน่นิ่งไป ทหารจึงหยุดทำร้าย เพราะต้องหามตัวส่งโรงพยาบาล

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


นางอุ้ย (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่บ้านอยู่ห่างจากกระท่อม 50 เมตร เปิดเผยว่า ในคืนเกิดเหตุนั้น มีเพียงเสียงหมาเห่า และตนไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ เลย กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาปลุกว่ามีรถแปลก ๆ มาอยู่หน้าบ้าน ขณะเดียวกันได้ยินเสียงปิดประตูรถเสียงดัง เมื่อตนมายืนดูก็เห็นแค่ไฟท้ายรถขับออกจากหน้าบ้านพ้นทางโค้งไปแล้ว โดยตนก็มองไม่เห็นว่ามีใครนั่งท้ายรถกะบะไปบ้าง

นางอุ้ย กล่าวต่อว่า หลังจากนายนัตพงศ์ ผู้เป็นน้องชาย รอดชีวิตกลับมาก็บอกว่า นายยุทธนาสลบตั้งแต่ถูกรุมร้ายที่กระท่อมแล้ว ตนจึงคาดว่าคงจะสลบและไม่มีโอกาสขอความช่วยเหลือ

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


ทีมข่าวลงพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบกับ นายบอย (นามสมมติ) ผู้ที่เคยถูกทหารจับไปซ้อม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.63 ตนเคยถูกทหารนอกเครื่องแบบ 5 นาย มาบุกจับที่กลางนา ซึ่งตนยอมรับว่าขณะนั้นตนมียาบ้าในครอบครองจึงวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่ตามจับตนได้ จึงเค้นหาของกลาง ตนก็มอบยาบ้าที่มีตนให้ และยอมรับว่าเสพยา แต่ก็ถูกรุมทำร้าย หลังนั้นก็จับตนใส่กุญแจมือ มีทหารแต่งตัวครึ่งท่อนมาสอบปากคำตน รวมถึงถามตนว่ายาบ้าที่เหลืออยู่ไหน ซึ่งตนก็ตอบไปตามตรงว่าให้ไปหมดแล้ว และไม่มียาบ้าที่ซ่อนอยู่

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ตนนอน กระทั่งเวลา 23.00 น. ใส่กุญแจมือไพล่หลัง และมีทหารหัวเกรียนประมาณ 7 คน แต่งกายชุดลำลอง กางเกงขาสั้น และกางเกงขายาว ซึ่งใส่ไม่เหมือนกัน และใส่หน้ากากผ้าปิดบังใบหน้า ทหารได้ม้วนผ้าเป็นวงกลม ยัดเข้าไปในปากตนและต่อยท้อง พร้อมกับถามว่าของกลางอยู่ไหน เมื่อตนปฏิเสธก็ยิ่งเอาผ้ายัดเข้าไป และต่อยท้องตนซ้ำ ๆ ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 8 ครั้ง เมื่อตนเริ่มอิดโรยก็เทน้ำราดให้ตนได้สติ ซึ่งตนก็ถูกรุมทำร้ายให้นอนหงาย และให้ทหาร 10 คนยืนขนาบ 2 ข้าง และคนที่เป็นหัวหน้าก็บอกว่า ให้เวลา 3 นาที หลังจากสิ้นเสียงสั่ง ทหาร 10 คนก็รุมกระทืบตนจนครบ 3 นาที

โดยจะกระทืบที่ลำตัวในร่มผ้า หลีกเลี่ยงการกระทืบที่หัว เพราะจะเป็นแผลที่เห็นชัด ซึ่งตนถูกทำร้ายจนถึงตี 2 โดยตนก็พยายามยกมือไหว้ ร้องไห้ แต่ก็ไม่หยุด เพราะคิดว่าตนไม่ให้ความร่วมมือ หลังจากตี 2 ก็พาตนไปอาบน้ำและไปนอนพัก พร้อมกับนำยาพาราให้กิน 2 เม็ด เพื่อเป็นการรักษา กระทั่งช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น ก็พาตนส่งให้ตำรวจ สภ.ธาตุพนม

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


นายบอย กล่าวต่อว่า ตนยอมอดทนเพราะคิดถึงหน้าลูกเมีย อยากกลับไปหาเขา หลังจากตนพ้นจากค่ายนั้น และทราบมีคนที่ถูกทำร้ายจนตาย ตนก็ถึงกับน้ำตาไหล เพราะตนรู้ถึงการกระทำทั้งหมด ตนเจอกับตัวมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ารู้สึกแค้นมาก มีความรู้สึกที่อยากจะเอาระเบิดไปโยนใส่ค่ายทหารเลย แต่ตนก็ได้แค่คิด แต่ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย


ทีมข่าวลงพื้นที่ ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้พบกับ น.ส.พิไลทอง โพธิ์รัมย์ อายุ 45 ปี กำนันตำบลฝั่งแดง และ นายพงศ์ศรัณย์ แก้วพิริมย์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เพื่อสอบถามถึงการตั้งศูนย์ปราบปรามยาเสพติดในวัดกัณตะศิลาวาส โดย น.ส.พิไลทอง กำนันตำบลฝั่งแดง เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนและชาวบ้านก็สามารถเข้าไปในวัดได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถเข้าไปในส่วนของทหารได้ ส่วนการที่ทหารไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณวัดนั้น ตนก็ไม่ทราบเหตุผล แต่คาดว่าอาจจะไม่พร้อมที่จะพูดคุย

น.ส.พิไลทอง กล่าวต่อว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าทหารกลุ่มนี้ มีการดื่มเหล้าและเปิดเพลงเสียงดังรบกวนคนอื่น ตนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเข้าไปสอบถามจากเจ้าอาวาสว่า ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ เจ้าอาวาสก็ยืนยันว่าไม่ได้รับความเดือดร้อน และรู้สึกสบายใจที่มีทหารเข้าไปตั้งฐานในวัด ส่วนชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีใครได้รับความเดือดร้อนเรื่องทหารส่งเสียงดังอย่างที่เป็นข่าว

น.ส.พิไลทอง ยังบอกอีกว่า ก่อนที่ทหารจะเข้ามาตั้งฐานในวัดนั้น ได้มีการประสานมาเป็นปี โดยมีเอกสารในการขออนุญาตนายอำเภอ กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ โดยสาเหตุที่ตั้งฐานตรงวัดกัณตะศิลาวาสนั้น เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการสกัดกั้นยาเสพติดที่จะถูกขนมาจากชายแดนฝั่งประเทศลาว รวมถึงถนนหน้าวัดนั้นยังเชื่อมต่อไปยังจ.มุกดาหาร จ.สกลนคร จ.นครพมและ จ.อุดรธานี ซึ่งสามารถสกัดได้หลายเส้นทางหากมีการขนส่งยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม ฐานปราบปรามยาเสพติดนั้นจะถูกตั้งที่วัดต่อไป และไม่ออกจากพื้นที่ เพราะยังจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในการสกัดยาเสพติด ส่วนกรณีที่เป็นคดีความนั้นก็ต้องจัดการกันไป นอกจากนี้ เจ้าอาวาสก็ยินดีที่ให้ทหารอยู่ในวัดตามเดิม แม้จะมีข่าวแต่เจ้าอาวาสก็ยืนยันว่าไม่กระทบต่อการปฏิบัติธรรม เนื่องจากพระและทหารอยู่คนละส่วน ไม่รบกวนกันและกัน

ทหาร 7 นาย ซ้อม 2 พี่น้อง โร่ขมาศพ- เหยื่อโผล่แฉ เคยถูกทืบช้ำปางตาย

vvvvvv
vvvv
vv
v


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี อัมรินทร์TV


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์