ครอบครัวแม่ปุ๊ก ยัน!ไม่เคยคิดว่าท้อง‘น้องอิ่มบุญ’ความแตกในวันคลอด

พ่อ : "มี 2 คน ปุ๊กกับปอ"

พ่อ : "ผมไม่ทราบมาก่อน ผมมาทราบพร้อมทุก ๆ คน ตอนแม่ปุ๊กโดนจับเท่านั้นเอง ทราบเมื่อไม่กี่วัน"

พ่อ : "ไม่เคยเห็นครับ"

พ่อ : "ด้วยความที่เขาไม่ได้อยู่บ้านกับเราตอนเขาตั้งครรภ์น้องยิ้ม ตอนผมไปรับเขามา เขาเช่าบ้านอยู่ ผมไปรับเขามาจากบ้านเช่าพร้อมน้องยิ้ม"

ปอ : "ตอนนั้นไม่รู้ว่าใช่ลูกพี่ปุ๊กหรือเปล่า เขาบอกพ่อว่าเขามีน้อง ทางพ่อ แม่ ผม ก็เลยไปรับที่บ้านเช่า ไปถึงเห็นน้องยิ้มดูดนมจากเต้าแม่ปุ๊กอยู่"

ปอ : "ผมก็ไม่ทราบครับ"

พ่อ : "แฟนเขาก็ตามกลับมาด้วย หลังจากนั้นประมาณ 3-4 เดือนก็เลิกรากันไป"

พ่อ : "ไม่ทราบครับ"

พ่อ : "ก็ทราบเรื่องครับ เขาเหมือนไปรักษาภูมิแพ้ เขาบอกเป็นภูมิแพ้เท่านั้น เลยไปรักษาที่รพ."

พ่อ : "รักเหมือนหลานในไส้ครับ รักจนทุกวันนี้"

ปอ : "รักมาก ก่อนออกจากบ้าน ก่อนไปทำงานก็จะหอมเขา กลับบ้านก่อนนอนก็หอมเขา ไปนั่งเล่น ไปพูดคุย เล่านิทาน ถ่ายรูปเล่นกัน เล่นกันปกติน้าหลาน"

พ่อ : "แฟนเขาต้องบอกนิดนึง ระหวางอิ่มบุญกับน้องยิ้ม คนละพ่อกันครับ"

พ่อ : "เขามีแฟนใหม่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมไม่ได้เห็นว่าเขาตั้งครรภ์ แต่สรีระเขาอวบอ้วน ไม่เห็นว่าเหมือนคนท้องเลย เขาก็ไม่ได้บอกว่าเขาตั้งครรภ์"

ปอ : "ไม่ได้บอกครับ"

พ่อ : "มารู้ตอนเขาบอกว่าเขาปวดท้อง เหมือนไส้จะบิด ก็เลยเรียกรถพยาบาลมารับไปรพ. ผมก็ไปส่งเขาที่รพ. คุณหมอแจ้งว่าลูกสาวคลอดลูกเป็นผู้ชาย"

พ่อ : "ก็ตกใจครับ เราก็ไม่ทราบว่าเขาท้อง"

พ่อ : "ได้ถามครับ เขาบอกว่าอาจเป็นเมื่อปลายปีก่อนคลอด"

พ่อ : "ตอนอิ่มบุญป่วย ผมไม่ได้อยู่ด้วย ผมอยู่กรุงเทพฯ ลูกสาวไปพักผ่อนที่บ้านยายที่จ.อุบลฯ ตอนปีใหม่ ถ้าเขาป่วยก็แค่โรคภูมิแพ้ธรรมดา ตามที่เขาเล่าให้ฟัง"

พ่อ : "ทีแรกผมก็ไม่ได้สงสัยอะไร จริงๆ อย่างที่บอก เช้าผมไปทำงาน เย็นผมกลับบ้าน ก็ไม่ทราบเรื่องตรงนี้เท่าไหร่ เขาแค่พูดให้ฟังเท่านั้นเอง ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมหลาน"

ปอ : "ทำงานเช้าเย็น ไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหลานเหมือนกันครับ"

พ่อ : "ตอนนั้นผมก็ยังไม่เชื่อครับว่าแม่จะทำแบบนั้นได้"

พ่อ : "ใช่ครับ จริงๆ ตรงนี้เรื่องราวต่างๆ ผมไม่ทราบเลย แต่หมอไม่ให้เราเข้าเยี่ยมตรงนั้น"

ทนายหนุ่ย : "บ้านผมกับบ้านแม่ปุ๊กห่าง 10 กว่าเมตร นั่งบ้านผมก็จะเห็นหน้าบ้านแม่ปุ๊ก วันนี้ที่มา มาในฐานะเพื่อนบ้าน คือคดีนี้ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นทนายให้ แต่ด้วยความที่เราเห็นเด็กสองคนนี้มาตั้งแต่เด็ก เราก็เชื่อและพูดในสิ่งที่เราเห็นทุกวันๆ ว่าครอบครัวนี้ดูแลเด็กสองคนนี้ เหมือนครอบครัวปกติทั่วไป ค่อนข้างรักน้องทั้งสองด้วย ไม่ว่าจะหนูยิ้ม-หนูอิ่ม ส่วนเรื่องคนกระทำความผิด ถ้าผิดก็ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรมแล้วกัน ผมก็ไม่ยืนยันว่าแม่ปุ๊กถูกหรือผิด กระทำหรือไม่กระทำ ผมก็ไม่ได้อยู่กับแม่ปุ๊กตลอด 24 ชม."

สังคมตีกลับ เขาบอกว่าพ่อกับครอบครัวรู้เห็นเป็นใจ?
พ่อ : "(นิ่ง) ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงครับวันนี้ ผมก็ได้ยินมาเหมือนกัน ก็คิดว่าอยากให้เป็นตามกระบวนการตามกฎหมาย ให้เขาสืบเสาะกันไปดีกว่า

พ่อ : "ไม่รู้จักครับ เขาไม่เคยพูดถึง"

พ่อ : "ยังไม่มีคุย"

พ่อ : "เคยครับ ให้หลักพัน"

ปอ : "มีแต่พี่สาวมายืมเงินผม เพราะผมทำงาน เขาไม่ได้ทำงาน บางทีเขาไม่มีเงินก็มายืมเงินผม"

พ่อ : "ตกใจครับ"

พ่อ : "บางครั้งหยิบยืมเพื่อนบ้านทีละร้อยสองร้อย"

พ่อ : "ถือว่าลำบาก พอมีเหตุการณ์นี้ทุกอย่างมันกระทบ พังทลายทั้งหมด"

ปอ : "สงสารพ่อแม่ครับ เห็นพ่อแม่เหนื่อย พ่อทำงานมาจะ 60 ปี เขาเหนื่อยกันทั้งสองคน แม่ก็ป่วยอาการไม่ดี เดินขึ้นลงบันไดทุกวันขาไม่มีแรง พอเกิดเหตุการณ์นี้เขานอนร้องไห้ทุกวัน เครียด นอนไม่หลับ คิดถึงหลาน

พ่อ : "ก็ดวงใจครับ ทั้งคู่ ถึงแม้เพิ่งมารู้ว่าไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่ก็ยังรักเขาอยู่"

พ่อ : "ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายแล้วกันครับ"

ปอ : "ถามว่าอยากได้หลานมาเลี้ยงดูมั้ย อยากได้ครบ หลานใครใครก็รัก แต่ถ้ากฎหมายเป็นยังไงก็ว่าตามกัน"

พ่อ : "ส่วนใหญเรียกพ่อครับ ผมไม่อยากให้เขามีปมด้อย เลยเป็นพ่อให้ทั้งสองคน"

ทนายหนุ่ย : "ต้องชี้แจงให้ได้ว่าเงินที่โอน โอนไปทำอะไร รู้เห็นกันหรือเปล่า อยู่ที่การชี้แจง ถ้าไม่พบเส้นทางก็ต้องให้ความยุติธรรมกับคนในครอบครัวเขาที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย"

ทนายหนุ่ย : "ต้องกลับมาอยูกับตาและยาย แต่ต้องพิสูจน์ว่าเขาไม่เกี่ยวข้อง ต่อไปเป็นขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่พม. จะเข้ามาดูแล ช่วยกลั่นกรองความเป็นอยู่ของเด็กอีกที"

ทนายหนุ่ย : "ในเรื่องฉ้อโกงประชาชน เป็นความผิดมูลฐานฐานฟอกเงินอยู่แล้ว ในเมื่อเกี่ยวโยงใยเกี่ยวกับทรัพย์สินอันใด ก็สามารถยึดได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความที่ผมเป็นพื่อนบ้าน บอกตามตรงว่าหลายปีที่ผ่านมาครอบครัวนี้ไม่ได้อู้ฟู่หรือร่ำร่วยผิดปกติ ส่วนเรื่องแม่ปุ๊กก็อยากให้แยกเป็นรายไป ก็อยากให้คนไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำครั้งนี้มีที่ยืนในสังคม อย่าเหมารวม ถ้าเหมารวมเหมือนเหมาเข่งไปมันก็บาป"

พ่อ : "ตอนนี้ก็ต้องเป็นไปตามผลการพิสูจน์ ถ้าผิดจริง ก็ยอมรับตรงนั้น ก็ให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย"

พ่อ : "จริงๆ แล้วก็ไม่...(นิ่ง) พูดไม่ออกครับ"

พ่อ : "ผมปล่อยวางแล้ว พยายามทำใจแล้ว"

ปอ : "ถามว่าเป็นคนในครอบครัว ยังไม่อยากจะเชื่อว่าพี่สาวเป็นคนทำ แต่ถ้ามันมีหลักฐานที่ชัดเจน เราก็ต้องยอมรับในสิ่งนั้นครับ เป็นไปตามกฎหมายเลยครับ"

พ่อ : "ยินดีครับ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องครับ"

ปอ : "ยังไม่อยากจะเชื่ออะไร อยากให้กฎหมายพิสูจน์ออกมา"

พ่อ : "ตอนนี้ผมขอให้เป็นการพิสูจน์ทางกฎหมายดีกว่า"

พ่อ : "ก็ตอบยาก เพราะผมไม่รู้อะไรเลย"

ปอ : "ผมก็ไม่ทราบ เขาเป็นคนจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

ปอ : "ไม่รู้จักครับ"

พ่อ : "ไม่เคยรู้ครับ"

พ่อ : "ครับ"

พ่อ : "ไม่เคยคิดครับ เขาไม่เคยบอกอะไรเลย"

ปอ : "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

คลิป

vvvvvvv

vvvvv

vvv

v