ดร.เสรีเผยฝ่ายค้านเงิบถล่มพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ปชช.เอาด้วยกับลุงตู่

"เรื่องนี้พี่รู้สึกว่าน่าจะมีผู้หญิงคนนึงน่าจะเป็นคนธรรมะธัมโมพูดอยู่ได้ กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ฟังให้ดีนะ รัฐบาลกู้ 1 ล้านล้านเท่านั้น อีก 9 แสนล้านไม่ใช่เงินกู้ เป็นเงินสภาพคล่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเอาออกมาใช้เพื่อช่วยเหล่าบรรดาธุรกิจSME และตราสารหนี้ ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยทนไม่ได้พูดซ้ำๆ ซากๆ เลยออกมาชี้แจง เขาออกมาพูดเพื่อให้เห็นว่ากู้เยอะ คนไทยจะร่วมเป็นหนี้ไปอีกนาน พยายามให้ตัวเลขมันเยอะเข้าไว้ แต่รัฐบาลบอกแล้ว เขากู้แค่ 1 ล้านล้าน 6 แสนเยียวยาเกษตรได้ อาชีพอิสระได้ ประกันสังคมได้ คนฝ่ายเปราะบาง พิการได้ อันนั้น 6 แสนล้าน อีก 4 แสนล้านเขาให้ไปในเรื่องมาทำสาธารณสุขต่างๆ นานา ตรงนี้เขาจำเป็นต้องกู้เพราะไม่พอ ขณะเดียวกันเขากลัวสภาพคล่อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้จะทำยังไง ธนาคารแห่งประเทศไทยเลยดึงเอาสภาพคล่องมาใช้ อันนี้ไม่ใช่เงินกู้ จะไม่มีการเอาเงินภาษีประชาชนมาใช้แม้แต่สลึงเดียว ท่านถึงต้องอธิบายเผื่อจะหุบปากคนที่เป็นคนมีศีลมีธรรมตามที่เขาเสนอภาพ หุบปากได้แล้ว เขากู้ 1 ล้านล้าน อีก 9 แสนล้านเป็นเรื่องการบริหารการเงิน"

"คนเราเรื่องอะไรสวยไม่สวยคือเรื่องรสนิยม ผู้ใหญ่เคยสอนนะ รสนิยมหนึ่ง ศาสนาหนึ่ง การเมืองหนึ่งอย่าเอามาสนทนาในกลุ่มเพื่อน เดี๋ยวทะเลาะกัน การที่เรามองไปแล้วสวยไม่สวยเป็นเรื่องรสนิยม ถ้าเรามองไม่สวยมันก็คือทัศนะของเรา ไม่ต้องไปพูดให้ใครฟัง แต่ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากคำที่เรารู้ว่าไม่สวยแล้ว ดันไปใช้คำที่เป็นการหมิ่นคือคำว่ากะลา อย่าลืมนะพวกนี้ชอบเรียกประเทศไทยว่ากะลาแลนด์"

"เขามองว่าคนไทยถูกครอบงำ คร่ำครึ ไม่มองโลกกว้างว่าโลกไปถึงไหนแล้ว แต่ถ้าติดตามข่าวสารบ้านเมือง เมืองไทยเราน่าลงทุนที่สุด มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง รอบโควิดเราจัดการได้เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่เขายกย่อง ว่าจัดการได้ดี อย่างนี้จะเรียกว่าอยู่ในกะลาได้ยังไง พี่ว่าคนที่ว่าเราอยู่ในกะลาแลนด์ ตัวเองเป็นกะลาหรือเปล่า คนเหล่านี้เขาต้องการให้จบที่ประเทศไทยย่ำแย่ เรามีระบบเผด็จการ ทั้งที่นายกฯ เราได้มาจากการเลือกตั้งแล้วนะจ๊ะ"

"ตรงนี้มีมาตั้งแต่เลือกตั้งแล้ว เขาคิดว่าพลังประชารัฐหนุนลุงตู่ก็หนุนการสืบทอดอำนาจ มาถึงตรงนี้พอมีเรื่องโควิด สิ่งหนึ่งที่นายกฯ มองเห็น ทำอย่างไรให้การจัดการโควิดได้มีความเป็นเอกภาพ ไม่กระจัดกระจาย ท่านเลยออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินขึ้นมา พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้อำนาจมาอยู่ในมือนายกฯ จะได้สั่งการอะไรได้เพื่อความเป็นเอกภาพ เขาก็เลยเรียกรัฐประหารโควิด มีหลายคนมีวาทกรรม อย่ามาหลอกกันเลย อย่ามาอ้างความน่ากลัวโควิด มันก็แค่ไข้หวัดธรรมดา การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินกลัวม็อบใช่มั้ย ปิดปากฝ่ายค้านใช่มั้ย ก็เห็นด่ารัฐบาลอยู่ทุกวัน อย่างนี้เรียกว่าปิดปากเหรอ ได้ยินมั้ยเขาพูดกันถึงหมอที่มาช่วยนายกฯ ว่ากระไร ฟังแล้วคนคิดแบบนี้พ่อแม่เขาสอนมายังไงถึงได้คิดแบบนี้"

"เขาว่ากันไปถึงขนาดนั้น ออกใบรับรองแพทย์ให้นายกฯ ทำรัฐประหารยึดอำนาจ เหล่าบรรดาหมอที่มาเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นหมอเกษียณอายุ เป็นครูบาอาจารย์ เขามาแนะนำนายกฯ เพื่อแก้ปัญหายังไง นายกฯ นั่งอยู่หัวโต๊ะแต่ท่านก็ฟัง แล้วในที่สุดแล้วท่านก็ประกาศมาตรการต่างๆ ออกมาตามที่หมอแนะนำ แล้วเป็นยังไงล่ะ"

"พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่งประกาศเดือนมี.ค. แล้วถามจริงๆ เวลาจะกล่าวหาใครว่าคอรัปชั่น มันต้องมีเบาะแสเรื่องราว ไอ้ตรวจสอบไม่ได้อีกเรื่องนึงนะ แต่การได้เห็นแววๆ อย่างเรื่องควอรันธีน พอมีเบาะแสมาก็คุยกันสิ เรื่องแคร์เซ็ตที่ลำพูนก็มากันสิ เรื่องการซื้อโน่นนี่ต้องมีเบาะแส แต่พอไปตรวจสอบแล้วเจอตอ ตรวจสอบแล้วตอบไม่ได้ แต่มันต้องมีเบาะแสก่อน ตอนนี้เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเบาะแสการทุจริตในแง่ภาครัฐบาลมันยังไม่มี มีแต่พวกอยู่ต่างจังหวัด ตรงนี้มองว่าเป็นแค่เพียงวาทะ มีอีกหลายวาทกรรมที่ทำให้ทัวร์ลง เละคาบ้าน"

"เขาพยายามมองว่าเราเป็นเผด็จการ ที่อื่นเขาไม่มีระบอบเดิมแล้ว มีเสรีภาพ มองว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินคือการยึดอำนาจประชาชน ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิ์ ต้องฟังวาทะผู้นำจีน ซึ่งสอดคล้องกับผู้นำเรา ผู้นำจีนบอกว่าเวลานี้ขอชีวิตคนไว้ก่อน เราไม่ขอเน้นจีดีพี แปลว่าผลผลิตมวลรวมของชาติเอาไว้ก่อน เอาชีวิตไว้ก่อน ก็ตรงกับนายกฯ เรา สุขภาพเหนือเสรีภาพ แต่ฝ่ายค้านก็เน้นเสรีภาพอย่างแรง ต้องให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ได้ต่างๆ นานาสารพัน ตรงนี้เลยทำให้ทัวร์ลงค่ะ เละคาบ้านเลย หลายคนก็พูดว่าหมอแนะนำให้มีโซเชียลดีสแทนซิ่ง แต่จริงๆ นักการเมืองก็ควรมีดิสแทนซิ่งด้วย อย่าเอาการเมืองมาเล่นตอนนี้ได้มั้ย"

"เขาไม่เห็นด้วยเพราะมองว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดปากเขา ถึงขั้นไปกล่าวหาหมอ ทีนี้ถ้าถามว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ดีตรงไหน จากผลที่ออกมา ทีแรกเรามีจำนวนคนติดวันละ 100 กว่า จนนายกฯ ตัดสินใจเอาหมอมาปรึกษา หมอให้คำแนะนำจนมีการประกาศใช้เดือนมี.ค. ตั้งแต่นั้นมา มีแต่ลงๆ เป็นเลขตัวเดียวเป็นศูนย์ ถึงแม้บางวันมีเลขสองตัว แต่พอไปดูมาจากต่างประเทศ บางคนก็บอกว่าถ้าดีขนาดนี้ทำไมไม่หยุดล่ะ หมอเขาใช้คำพูดดีนะ เวลาเราเห็นตัวเลขลดลงแบบนี้เบาใจได้แต่อย่าวางใจ"

"ไม่จริง นายกฯ นั่่งหัวโต๊ะ หมอให้แนะนำตามความรู้ แต่หมอมีอำนาจสั่งการมั้ย ไม่มี ถ้าหมอแนะนำแล้วนายกฯ ไม่เอาซะอย่างนึง คำแนะนำของหมอก็เป็นกระสุนด้าน แสดงว่านายกฯ มีภาวะเป็นผู้นำว่าจะต้องฟังใคร จะต้องใช้อำนาจในการบริหารจัดการยังไง ออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินตรงนั้น ให้อำนาจผู้ว่าตรงนี้ ประกาศปิดอันนั้น ประกาศคลายอันนี้ ถ้าคิดว่าหมอทำได้ทุกอย่าง ประชาชนทำเองโดยไม่มีประกาศ ไม่มีกฎระเบียบ ไม่มีผู้นำ มันเป็นไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนที่เขาพูดอย่างนั้นเขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้เพื่อแซะด่า นี่เป็นคำถามนะ ไม่ได้ว่าใคร"

"ก็ไม่ถึงกับไม่มีผลงาน แต่กระสุนมันด้าน"

"คงจะยาก ถ้าเขายังถล่มรัฐบาลไม่สำเร็จ ลุงตู่ยังไม่ไป มีคนบอกว่านายกฯ และรัฐบาลไม่เป็นและไม่จริงใจ โอ้โห ไม่เป็นคืออะไร ทำมาได้ดีขนาดนี้จะเรียกว่าไม่เป็นได้ยังไง แล้วไม่จริงใจตรงไหน นายกฯ เขาพูดเองเลยว่าจะเกลียดผมก็เกลียดได้  แต่ผมไม่เกลียดพวกคุณหรอก เพราะพวกคุณเป็นคนไทย แต่ก่อนเราเคยได้ยินอะไร เลือกเราก็จะให้ ไม่เลือกเราก็ไม่ให้ หอประชุมที่ภูเก็ตไม่มีอารมณ์สร้างเพราะยังไม่เลือกเรา ใครจริงใจกว่ากัน คนนึงบอกว่าคุณเป็นคนไทย อยู่พื้นที่ไหนจังหวัดไหนจะดูแลทั้งหมด ขณะที่อีกคนบอกว่าถ้าเลือกเราถึงจะดูแล คำพูดที่ว่านายกฯ ไม่เป็นและไม่จริงใจ รู้สึกว่าเป็นวาทกรรมที่สร้างขึ้นมาแบบสิ้นคิด"

"เพราะตอนนี้เราประสบความสำเร็จจนกระทั่งผู้นำหลายๆ ประเทศ ทูตหลายๆ ประเทศ และองค์การอนามัยโลกเขามองมาที่เรา และเชื่อเถอะว่าวิธีการแก้ไขของเราจะเป็นรูปแบบที่หลายๆ ประเทศจะต้องเอาตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์วิถีชีวิตใหม่นิวนอร์มอล"

"แน่นอน ยิ่งคะแนนลุงตู่มากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น เขาก็ต้องคิดวิธีการต่างๆ นานา จะทำยังไงให้ลุงตู่ไร้ค่า เสียชื่อเสียง ไม่เอาไหน ไม่เป็น ไม่จริงใจ ถ้าเป็นเพียงวาทกรรมก็จะเป็นเพียงที่ชาวโซเชียลเรียกระวังทัวร์ลงบ้าน แล้วจะเละคาบ้าน สองวันที่ผ่านมาเละคาบ้าน