เสรี ชี้! จุดอ่อน-จุดแข็ง บิ๊กป้อม จะนั่งเก้าอี้หัวหน้า พปชร.ได้ไหม?

"จะหยุดได้ยังไงล่ะ เขาเองหนึ่งอยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค สองอยากได้ตำแหน่งรัฐมนตรีตามที่ต้องการ นอกจากตัวเขาเองบางคนที่เป็นอยู่แล้วก็อยากจะโยกกระทรวง ส่วนคนบางคนที่ยังไม่ได้เป็น ก็บอกว่าน่าจะถึงคิวเป็นแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ฉะนั้นความต้องการอันนี้ยังมีอยู่ อีกอย่างเขาไม่พอใจหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนนี้เพราะไม่ทำตามสิ่งที่เราเรียกว่าโอนอร์มอล ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน ไม่ได้ว่าใคร เอาเป็นว่าสิ่งที่รู้มา บางพรรคบางหัวหน้าพรรค บาง ส.ส.คือ ส.ส.บางคนในบางพรรค นอกจากได้เงินเดือนจากรัฐแล้ว ยังได้เงินเดือนจากหัวหน้าพรรคด้วย เขาจะดูแลกันหลายรูปแบบ หนึ่งให้ตำแหน่ง จะไปหากินกันเองก็ว่ากันไป สองมีเงินเดือนให้ประจำเป็นเงินเดือนเพิ่มเติมจากเงินที่ได้จากรัฐ สามอาจมีการให้เงินทองในการยกมือกฎหมายบางฉบับ ฉะนั้นบางทีบางคนก็คุ้นเคยสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ เขาจะรู้สึกไม่พอใจ พี่นั่งวิเคราะห์นะถ้าตราบใดเรายังมีเรื่องอย่างนี้อยู่ เราหนีคอรัปชั่นไม่พ้นเลย"

"ก็เอามาจากการคอรัปชั่นนั่นแหละ ถ้าหากต้องจ่ายส.ส.เท่านั้นเท่านี้ คนจ่ายเขาจะลงทุนเหรอ เขาต้องใช้วิธีการหาเงินตรงนี้ แต่เชื่อว่าหัวหน้าพรรคบางคนเขาก็ไม่มีที่จะจ่าย แล้วการไม่มีจ่าย ก็จะมี ส.ส.บางคนที่รับไม่ได้ว่าทำไมไม่มีการดูแล พี่พูดถึงภาพทั่วไปของภาพการเมืองบ้านเรา ใครไม่ใช่อยู่อีกบางก็ไม่ต้องมาเดือดร้อน ส่วนคนอยู่อีกบางก็สงบเงียบซะ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนกินปูนร้อนท้อง"

"อ้าว เพราะชีวิตของเขาในการเป็น ส.ส.ตามปกติแล้วเขาต้องเป็นนิติบัญญัติมาร่างกฎหมาย เขาควรมาตรวจสอบการทำงานรัฐบาล แต่ถ้าทอมติดตาม ส.ส.บ้านเรา ขอเน้นว่าบางคน บางพื้นที่ ต้องไปงานแต่ง ต้องใส่ซอง ต้องไปงานศพ ต้องไปเป็นประธานญาติพี่น้องในพื้นที่ต้องใส่ซอง ไปงานบวชต้องใส่ซอง หรือบางทีมีคนมาขอความอนุเคราะห์โน่นนี่นั่น ฉะนั้นเขาใช้เงินมากกว่าเงินเดือนที่ได้ ตรงนี้เราจะโทษ ส.ส.ข้างเดียวไม่ไดด้ เพราะเขาก็อยากเป็น ส.ส.แต่เราต้องโทษประชาชนด้วย ประชาชนบางคน ส.ส.ไม่ไปงานศพ งานแต่งลูกก็โกรธนะ มาขอความช่วยเหลือแล้วไม่ให้ก็โกรธนะ มันเลยกลายเป็นขนมผสมน้ำยา คนอยากเป็น ส.ส.ก็ต้องรู้ว่าทำยังไงถึงได้เป็น ขณะเดียวกันประชาชนจะเลือกใครก็ต้องมีตรงนี้ ประเทศไทยการเมืองวัฒนธรรมเป็นระบบอุปถัมภ์ คนได้เป็น ส.ส.บางครั้งต้องทำหน้าที่อุปถัมภ์ จำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าที่มี มันเลยกลายเป็นเรื่องขนมผมน้ำยา"

"เขากลัวว่าจะกลับไปที่โอลนอร์มอลไง คือวนกลับไปที่เดิม แต่จะเป็นจริงหรือเปล่าก็ยังไม่สรุป ต้องรอดูต่อไป แต่ที่รู้แน่ๆ เขาไม่พอใจหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคนนี้แน่นอน เพราะเขาใช้คำว่าเป็นคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ไม่เข้าใจการเป็น ส.ส.เข้าไม่ถึง ส.ส.หรือ ส.ส.เข้าไม่ถึงเขา ประชาชนก็ต้องตีความว่าแปลว่าอะไร ต้องติดตามความหมายว่าเข้าไม่ถึง ส.ส.ไม่ดูแล ส.ส.แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไงพลังประชารัฐยากจะประสานรอยร้าวแตกแน่นอน อย่างเช่นด้านของวิรัช รัตนเศรษฐ เขาบอกเขายืนอยู่คนละข้างกับ ร.ต.อ.ธรรมนัส อยู่แล้ว คำพูดอย่างนี้แปลว่าไปด้วยกันไม่ได้ สื่อมวลชนก็คงวิเคราะห์แล้วว่าทิศทางการทำงานของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร ตรงนี้เขาไปด้วยกันไม่ได้ จึงทำให้คิดว่าแตกแน่ๆ"

"ลุงป้อมเขาตอบว่าไม่พร้อม ข้อนี้อยากจะขอชมเชยลุงป้อมสักนิดนึง"

"ไม่ใช่ ลุงป้อมเก่งมากในการตอบ อย่างมีคนถามว่าสมมติมีคนเลือกท่าน ท่านตอบทันทีว่าไม่ตอบคำถามสมมติ อันนี้ใครตอบแบบนี้พี่ให้เต็มร้อย สองเมื่อคนถามว่าท่านพร้อมมั้ย ท่านบอกไม่พร้อม แสดงถึงการไม่อวดตัว เป็นคนถ่อมตน ท่านก็ได้คะแนนไป แต่อันที่สาม ท่านพูดเอาไว้ เขาเลือกใครก็เป็นไปตามที่เขาเลือก ซึ่งอันนี้คำตอบอันที่สาม หากแม้นคนในพรรคเลือกบิ๊กป้อมแล้วบิ๊กป้อมมาเป็น ท่านก็ไม่ได้โกหกอะไร ท่านบอกไม่พร้อม แล้วแต่เขาเลือก ถ้าท่านเป็นท่านก็ไม่ได้ตระบัดสัตย์อะไร ท่านไม่ได้บอกว่าท่านไม่เป็น ตอบแค่เพียงว่าท่านไม่พร้อม แต่แล้วแต่เขาเลือก ตรงสามข้อนี้ บอกได้เลยว่าบิ๊กป้อมตอบได้ฉลาดมาก"

"จุดแข็งลุงป้อม หนึ่งเป็นคนที่เคยบริหารองค์กรใหญ่ๆ แบบนี้ แสดงว่ามีความสามารถ สองลุงป้อมเป็นนักประสานสิบทิศ เวลามีความขัดแย้ง คนนั้นจะมาหรือไม่มา คนนี้จะทำหรือไม่ทำ คนนี้จะช่วยหรือไม่ช่วย ถ้าถึงมือลุงป้อมเมื่อไหร่ทุกอย่างจะลงตัว นั่นแปลว่าลุงป้อมคือมือประสานสิบทิศ"

"พี่ไม่รู้ทรัพย์สินลุงป้อมมีมากน้อยแค่ไหนในการจะดูแลได้หรือเปล่า เดี๋ยวเราไปกล่าวหาท่าน คำว่าประสานสิบทิศ จะประสานด้วยวิธีการใดเราไม่รู้ แต่ท่านประสานสำเร็จ ข้อที่สาม ท่านเป็นพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ซึ่งพลเอกประยุทธ์เกรงใจมากๆ ฉะนั้นถ้าท่านมาเป็นหัวหน้าพรรค ถ้าลุงป้อมเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พี่ก็ไม่แน่ใจว่าพลเอกประยุทธ์จะกล้าแย้งลุงป้อมหรือเปล่า แต่สนธิญาณเคยพูดว่าหลายคนที่หวังจะพึ่งลุงป้อมให้จัดการเรื่องปรับครม. แล้วพลเอกประยุทธ์เกรงใจ คุณสนธิญาณพูดเป็นนัยว่ารู้จักพลเอกประยุทธ์น้อยไป ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าคุณสนธิญาณจะหมายความว่ายังไง แต่เอาเป็นว่าคนที่เขาจะเอาลุงป้อมมาเป็นหัวหน้าพรรค เขาเห็นแล้วว่าลุงป้อมคือพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ อย่างไรเสียพลเอกประยุทธ์ต้องเกรงใจ เมื่อมีการปรับ ครม.แล้วลุงป้อมเสนอใครบ้างในพลังประชารัฐขึ้นไป เขาก็คิดว่าพลเอกประยุทธ์ไม่น่าจะค้าน อันนี้เป็นจุดแข็งที่สำคัญมากๆ"

"ปรับแน่นอน แต่ก่อนไปถึงตรงนั้น มาคุยจุดอ่อนของลุงป้อมก่อน หนึ่งลุงป้อมยังโดนวาทกรรมเรื่องยืมนาฬิกาเพื่อนไม่เลิก ถึงแม้ป.ป.ช. จะบอกว่ายืมอย่างแท้จริง ไม่มีหลักฐานเรื่องโกงอะไรต่างๆ แต่วาทกรรมอันนี้ยังอยู่ สองลุงป้อมยังมีเรื่องเรือดำน้ำ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานอะไรชัดแจ้ง แต่คนก็บอกว่าการซื้อเรือดำน้ำ ลุงป้อมต้องได้เงินทอนแน่นอน ตรงนี้หลักฐานเอาผิดท่านก็ไม่มี แต่มันมีวาทกรรมอยู่อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เป็นจุดอ่อนเรื่องความโปร่งใส จุดอ่อนอีกเรื่องนึง อันนี้พูดแรงไม่ได้ ท่านไปเกี่ยวพับกับนายตำรวจบางคนซึ่งพ้นจากหน้าที่ไป หลายคนบอกว่าเล่นแต่ตัวเล็กหรือเปล่า ตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังยังมีอยู่ อันนี้ก็ไม่มีหลักฐานใดๆ แต่ถามว่ามีวาทกรรมนี้มั้ย มีข่าวอยู่ในโซเชียลมั้ย มีข่าวอยู่ในสื่อมวลชนมั้ยว่าท่านไปเกี่ยวพัน แต่ในที่สุดแล้วเรื่องก็จบลงตรงที่มันไม่ถึงท่าน แต่วาทกรรมก็สร้างกันไปเรื่อยๆ แต่หลักฐานที่ว่าท่านเกี่ยวข้องกับนายตำรวจคนนี้มันก็ไม่มี"

"อันนี้ชัดมาก ท่านแก่กว่าพี่สองปีเองนะ ท่านเดินโยกไปโยกมาต้องเกาะตัวคน พี่เห็นคนบางคนอายุ 78 79 แข็งแรงกว่าท่าน เวลาท่านอยู่ในสภา คนก็ใจร้ายใจดำ ชอบไปถ่ายภาพตอนท่านนั่งสัปหงก หลายคนก็ห่วงเรื่องสุขภาพ หนึ่ง ท่าเดิม สองเวลาท่านนั่งหลับในสภา สามท่านเคยป่วยหนักมากครั้งนึงที่หยุดงานไปนานเลย หลายคนก็เลยบอกว่าเฮ้ย ไหวเหรอ ในสภาพต่างๆ นานาเหล่านี้ ในที่สุดเมื่อท่านมาเป็น ก็อาจทำให้พลังประชารัฐทัวร์ลง อาจทำให้พลังประชารัฐเป็นตำบลกระสุนตก เพราะตัวท่านเองนั่นแหละน่าจะเป็นสายล่อฟ้า"

"ร้อยเปอร์เซ็นต์ ปรับ ครม.แน่นอน แต่ปรับแล้วจะเป็นยังไงก็เรื่องนึง แต่ถ้า 4 กุมาร ตกก็น่าเห็นใจเขานะ เพราะตอนเขาออกมาในการหาเสียง เขายังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ยังไม่ได้ลาออก เขาถึงไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐได้ จนเขาไม่มีเวลา 90 วันในการลง ส.ส.ถ้าเขาหลุดจากรัฐมนตรีแปลว่าเขาหลุดจากวงการเมืองไปเลยนะ ส.ส.ก็ไม่ได้เป็น ต่างๆ นานา ทีนี้ถามว่าทำไมมั่นใจว่าจะมีการปรับ ครม.เนื่องจากก่อนมีการตั้งครม.ชุดนี้ ถ้าดูตาข่าวมันมีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาว่าคนนี้อยากได้กระทรวงนี้ คนนี้อยากได้กระทรวงนั้น แต่ปัจจุบันนี้ที่มีการจัดเรียบร้อย หลายคนไม่ได้กระทรวงตามที่ต้องการ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวครั้งนี้เขาหวังว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว เขาจะได้กระทรวงตามที่เขาอยากได้ ทีนี้กระทรวงที่เขาอยากได้ บังเอิญบางกระทรวงก็เป็นกระทรวงที่ 4 กุมารอยู่ แต่ถ้า 4 คนนี้หลุดไป ก็ไม่รู้จะไปตกอยู่ที่มือใคร ถ้าตกอยู่ในมือ ส.ส.โอลนอร์มอล ก็ไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการบริหารกระทรวงเหล่านั้น"

"พี่คิดว่าคนวิจารณ์สิ้นคิดมากกว่า การพูดแบบนี้คือวาทกรรมในการกล่าวหา ตาไม่ได้ดู หูไม่ได้ฟัง แล้วเป็นการสวนทางกับความคิดของประชาชนที่คะแนนพลเอกประยุทธ์ขึ้น"

"ก็โควิดมันไม่ใช่ภาวะธรรมดา คุณกำลังเอาเรื่องวิกฤตมาวิพากษ์วิจารณ์คนประหนึ่งเราอยู่ในสภาพสภาวะธรรมดา แต่จริงๆ การแก้ปัญหาของพลเอกประยุทธ์ ร่วมกับหมอ ร่วมกับเจ้าสัวได้รับคำชม เขาไม่ได้ยินเลยหรือไง อยากจะรู้จริงๆ"

"มันตกต่ำทั่วโลก แล้วถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาโควิด ทำไมถึงไม่เข้าใจเลย พี่คิดว่าเวลาเขาพูด เขาพูดแบบคนสิ้นคิด อยากจะด่าจะว่ารัฐบาลอย่างเดียว โดยไม่ดูตัวเลข สถานการณ์ทุกวันๆ 11.30 น.เปิดดูสิ"

"ไปดูสิ รถไฟเสร็จกี่สาย รถไฟที่มีแต่เงื้อง่าราคาแพงไม่เสร็จซะที เสร็จไม่รู้กี่สาย มอเตอร์เวย์ไปโคราชเสร็จเรียบร้อย อย่างนี้จะบอกว่าไม่เอาไหนอีกเหรอ"

"โอ้โห ตอนนี้ 30 กว่าล้านแล้วยังหยุดเลย ยังบอกว่ามีใครตกหล่นที่ไหนเดี๋ยวจัดการให้ ตอนนี้จะ 40 ล้านอยู่แล้ว มันยุ่งยากบ้างเรื่องข้อมูล แต่ก็ได้กันถ้วนหน้า"

"พอนายกฯ ขอให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ให้ไปทบทวนงบประมาณปี 63 ที่จะคืนได้ เขาคืนมาได้ 4 หมื่นกว่าล้าน เป็นของกระทรวงกลาโหม 17,000 ล้าน ซึ่งมากที่สุด แต่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขาบอกว่าคืน 17,000 ล้านสู่กองทัพ จริงๆ กองทัพคืน 17,000 ล้าน แต่เขากลับรู้สึกรัฐบาลนี้ประเคนเงินให้กลาโหมเพิ่มอีก 17,000 ล้าน ซึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้กระจอกงอกง่อย อยู่คู่เมืองไทยมานานและหลายคนก็มองว่าเป็นหนังสือพิมพ์คุณภาพ แต่พาดหัวแบบนี้ จะบอกว่าอ่อนด้อยภาษา หรือจงใจทำให้คนเข้าใจผิด"

"มีไว้กลั่นกรองในมติที่ลงไปแล้ว เพราะ ส.ส.บางคนไม่มีคุณภาพ ถ้า ส.ส.ไม่มีคุณภาพกลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ สรุปอะไรมาบางอย่างแล้วส่งไป ส.ว.ก็มีสิทธิ์ทักท้วงได้ ถ้าไม่มี ส.ว.เลย แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ส.ส.ทำสิ่งที่มีคุณภาพ อย่าลืมนะ ว่า ส.ส.บางทีก็สะท้อนประชาชนที่เลือกมาเหมือนกัน ถ้าประชาชนเลือกมาไม่มีคุณภาพ เราก็จำเป็นต้องมี ส.ว.เอาไว้กลั่นกรองอีกทีไงคะ"

" ตรงนี้ประชาชนที่กำลังดูตอบได้แล้วล่ะ โดยเราไม่จำเป็นต้องตอบเลย เขามีเอาไว้เพื่อรณรงค์การเปลี่ยนแปลงตามที่เขาต้องการ แต่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการ"