ลุงของ ‘การ์ตูน’ เปิดใจ! หลานจบม.3 ไม่เคยรู้เรียนพยาบาล (คลิป)

จากกรณี น้องการ์ตูน หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมชุดพยาบาล ถ่ายคลิปลง TikTok ถูกแฉว่าเป็นสาวเชียร์เบียร์แอบอ้างเป็นพยาบาล หลอกคบหาตำรวจให้รักหวังแต่งงานใช้ชีวิตคู่ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้ตรวจสอบหญิงสาวรายนี้นั้น

วานนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองตะไก้ หมู่ 11 ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว หลังทราบว่าหมู่บ้านดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาของหญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นพยาบาล

นายประหยัด อายุ 51 ปี ลุงของหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นพยาบาล เปิดเผยว่า หลานสาวคนนี้ได้ออกจากบ้านเพื่อไปหางานทำมานานหลายปีแล้ว และทางบ้านก็ไม่ทราบว่าทำงานอยู่ที่ใด ล่าสุดรู้เพียงว่าเคยทำงานรับจ้างเป็นสาวเชียร์เบียร์ ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนการศึกษานั้นก็ทราบเพียงว่า เรียนจบชั้น ม.3 และก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลานสาวเรียนจบพยาบาลมาแต่อย่างใด

และทราบแต่เพียงว่า หลานสาวไปแต่งงานกับทหารคนหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าจังหวัดใด เพราะไม่ได้ไปร่วมงาน ส่วนประเด็นที่ว่าหลานสาวไปหลอกเอาเงินตำรวจหรือทหาร ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน ส่วนแม่ของหลานสาวนั้นก็ได้แยกทางกับสามีตั้งแต่หลานสาวยังเด็ก และย้ายไปทำงานที่พัทยา นานหลายปีแล้ว ทั้งนี้ตนอยากให้หลานสาวออกมาพูดความจริง และให้ความกระจ่างกับสังคม เพราะทุกคนยังพร้อมที่จะให้อภัย

ลุงของ ‘การ์ตูน’ เปิดใจ! หลานจบม.3 ไม่เคยรู้เรียนพยาบาล (คลิป)

ขณะที่ เพื่อนบ้านของหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นพยาบาล เปิดเผยว่า เห็นหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นพยาบาลมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนอุปนิสัยสนุกสนาน ร่าเริง พอโตเป็นสาวก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็ไม่เคยพบเห็นอีกเลยมานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนประเด็นที่หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยเห็นใส่ชุดพยาบาลกลับมาที่บ้านเกิดแต่อย่างใด ตนอยากให้น้องการ์ตูนออกมาพูดความจริง ทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยสำหรับคนที่สำนึกผิด

ด้าน พลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่ากรณีดังกล่าวต้องดูพฤติกรรม ว่ามีการนำชุดพยาบาลไปแอบอ้างแสดงตัวว่าเป็นพยาบาล เพื่อใช้ในการหลอกลวงผู้ใดหรือไม่ หรือมีการติดเครื่องหมายสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องหมายกาชาด เครื่องหมายกนกคอ หรือเครื่องหมายองค์กรต่าง ๆ ซึ่งหากมีการนำชุดไปแอบอ้าง หรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นพยายาลก็จะมีความผิด ซึ่งต้นสังกัดที่เป็นเจ้าของชุด หรือสภาการพยาบาล ถ้าเห็นว่าได้รับความเสียหาย ก็สามารถเข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจเพื่อดำเนินคดีได้

ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล เปิดเผยว่า ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพพยาบาล ต้องสอบขึ้นทะเบียนเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ดังนั้นใครที่มาแอบอ้างก็จะมีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และหากไปหลอกลวงผู้อื่นก็จะมาความผิดตามกฎหมายอื่นอีก ขอเตือนว่าเครื่องแบบพยาบาลมีกำหนดไว้ในราชกิจจานุเบกษา ไม่สามารถนำไปแต่งเองได้

โดยกรณีนี้ได้รับรายงานว่าสถาบันการศึกษาที่ถูกแอบอ้างก็จะแจ้งความ โดยสภาการพยาบาลจะร่วมแจ้งความดำเนินคดีด้วย ซึ่งขณะนี้สภาการพยาบาลกำลังเร่งพัฒนาระบบออนไลน์เพื่อให้คนภายนอกสามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นพยาบาลจริงหรือไม่ ส่วนปัจจุบันการจะตรวจสอบก็ให้นำข้อมูลชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน มาเพื่อให้ตรวจสอบได้ แต่ต้องระบุเหตุผลในการตรวจสอบ

นอกจากนี้ พยาบาลที่เดินหน้าสืบ แฉการ์ตูนว่าไม่ใช่พยาบาลตัวจริง เปิดเผยว่า ถูกการ์ตูนโทรมาขู่ ว่าปรึกษาทนายส่วนตัวแล้ว จะฟ้องกลับที่โดนประจาน และทำให้อับอาย