วิเคราะห์แผนแหกคุก บรรยิน มีจริง! แต่บางส่วนก็มโน ชี้!หมดสิทธิ์ก่อเหตุแล้ว
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง วิเคราะห์แผนแหกคุก บรรยิน มีจริง! แต่บางส่วนก็มโน ชี้!หมดสิทธิ์ก่อเหตุแล้ว
กรณีที่การเปิดโปงแผนแหกคุกของ "พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์" ผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา โดยมีการเผยว่าจะมีการวางแผนระเบิดเรือนจำ จับภรรยาของผู้บัญชาการเรือนจำเป็นตัวประกัน เพื่อบีบให้ปล่อยตัว นำไปสู่การจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ 2 คน ก่อนจะถูกย้ายตัวไปขังเดี่ยว ที่เรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี และเผยว่ามีการพยายามฆ่าตัวตาย แต่เจ้าหน้าที่ช่วยได้ทัน
ล่าสุด รายการโหนกระแสวันที่ 22 มิ.ย. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ เปิดใจสัมภาษณ์ "พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ" หรือ "รองแต้ม" อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และ "รังสรรค์ เมืองเจริญ" อดีตหัวหน้าตรวจค้นจู่โจมภายในเรือนจำกลางบางขวาง
พล.ต.ต. วิชัย : "ก่อนพูดคดีนี้ ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าคุณบรรยินโดนข้อหาอะไรบ้าง ข้อหาแรกเป็นข้อหาฆ่าคนตาย คือนายชูวงษ์ โทษสูงสุดคือประหารชีวิต เป็นโทษในการฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา เป็นโทษตระเตรียมการไตร่ตรอง มันเป็นโทษอย่างเดียว คือประหารชีวิต ถ้าคุณบรรยินแพ้คือประหารชีวิตแน่นอน เรามาวิเคราะห์ว่าถ้าเป็นแบบนี้เขาคิดได้มั้ยว่าจะแหกคุก ก็เป็นไปได้ เขาอยากเอาตัวรอด หนีไปตายเอาดาบหน้า แต่แผนการในการหนีบางแผน ผมเชื่อว่าเป็นจริง และผมก็รู้มาจากเจ้าหน้าที่ว่าวางแผนจริง แต่การวางแผนระเบิด เอาคอปเตอร์มาผมว่าไม่น่าเชื่อ เพราะถ้าจะเอาคอปเตอร์มาแบบนี้ ต้องเป็นหน่วยงานรัฐ เขาจะช่วยหรือไม่ เป็นไปไม่ได้ แต่เท่าที่รู้มา การจับตัวเมียผู้บัญชาการเรือนจำต่อรอง ผมเชื่อว่ามีจริง เพราะขนาดอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาเขายังทำ"
ตร.กองปราบไปตามจับผู้ต้องหาคือโจ พอจับได้ปุ๊บ โจให้การรับสารภาพว่ามีส่วนพัวพันกับบรรยินตอนที่อยู่ในเรือนจำ บรรยินรู้จักโจซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ และทางนายท็อปอีกคน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ มีการเจรจานายโจให้ไปหาทนายมาประกันตัวให้หน่อย แต่มีเงื่อนไขสองข้อ ต้องวางแผนแหกคุก พาคุณบรรยินออกไปให้ได้ ไปชิงตัวบนทางด่วน สองถ้าชิงตัวบนทางด่วนไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร บรรยินบอกว่าวางแผนอีกแผนนึง คืออุ้มภรรยาผบ.เรือนจำกรุงเทพ เพื่อต่อรองให้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำ แล้วมีการบอกว่าให้ไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากส.ส.นครสวรรค์อีกหนึ่งราย แต่โจโทรไปเขาไม่เล่นด้วย ไปขอเงินเขาด้วย อีกรายนายท็อป มีคดีกรรโชกทรัพย์ ตอนอยู่ในเรือนจำ มีการพูดคุยกับคุณบรรยินว่าจะให้คนมาประกันตัว แต่มีข้อแม้
พล.ต.ต. วิชัย : "มโนหรือเปล่า เราต้องไปดูก่อน ผมรู้ว่าการวางแผนหลบหนีมีจริง ข่าวนี้อาจเล็ดลอดออกมา กองปราบเขามีหลักฐาน ก็ไปตามจับกุมนายโจ ซึ่งมีคดีหมายเก่า เขาจับมาสอบถาม นายโจก็รับสารภาพ เขาก็มาเชื่อมปะติดปะต่อ คุณประกันตัวมาได้ยังไง คนยื่นประกันตัวเป็นใคร ทนายเกี่ยวข้องกับบรรยินยังไง ปรากฎว่ามันก็เจือสมกัน ทนายกับโจไม่ได้รู้จักกัน แล้วอยู่ดีๆ จะไปประกันได้ยังไง ต้องมีเหตุผล พอประกันเสร็จแล้วก็รับสารภาพ และเชื่อมโยงส.ส. โทรศัพท์ต่างๆ สัมพันธ์กัน และได้ข่าวว่ากองปราบมีหลักฐานในการไปสอบผู้ต้องหาในคุกด้วยที่มีการวางแผนต่างๆ สิ่งเหล่านี้คือการเจือสมที่ทำให้เชื่อได้ว่าบรรยินมีการวางแผนหลบหนีจริง การจับตัวภรรยาผบ.เรือนจำเป็นตัวประกัน อันนี้ก็น่าเชื่อจริง เพราะขนาดพี่ชายผู้พิพากษาเขายังทำได้ และแต่งเครื่องแบบมาดำเนินการเอง เขาทำได้ทุกอย่าง ทำไมแค่นี้จะทำไม่ได้"
มองว่ากรณีอุ้มเมียผบ.เรือนจำมีสิทธิ์เพราะเคยอุ้มมาแล้ว?
พล.ต.ต. วิชัย : "ผมเชื่อว่าหลักฐานต่างๆ ทางผู้การกองปราบได้รวบรวมพอสมควร ข่าวถึงได้ออกมา แต่ข่าวเครื่องบินผมว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ชิงตัวประกันบนทางด่วนเป็นไปไปได้ แล้วต้องมาคิดอย่างนี้ ในการชิงตัวประกันมีครั้งเดียว นักโทษพม่าหนีคุกที่สมุทรสาคร หนีไปราชบุรี มีครั้งเดียว ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด คนที่ดำเนินการมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจกับนักโทษพม่า เอาอาวุธเข้าไป ทำให้นักโทษเอามาจี้ผู้บัญชาการเรือนจำ แล้วตอนหลังก็ถูกวิสามัญฆาตกรรมตาย ถ้าจำไม่ผิด ผบ.เรือนจำตายด้วย มีครั้งเดียว นอกนั้นไม่มี มีการจราจลหลบหนี แต่หนีไปก็จับได้หมด"
รังสรรค์ : "เป็นไปไม่ได้ ผมอยู่ภายในเรือนจำ เสาธงเป็นเหล็กยาวเป็นสิบๆ เมตรและหนัก คนเดียวคงแบบไม่ไหว กว่าจะถอดคงใช้เวลาเป็นชม."
ถ้าเขาระเบิด?
รังสรรค์ : "ฝังยังไงล่ะครับ แค่ระเบิดเข้าไปก็ยากแล้วครับ (หัวเราะ)"
เสาธงตามภาพ ถ้าล้มจริงๆ แล้วไปพาดกำแพง พาดได้มั้ย?
รังสรรค์ : "พาดได้ แต่กำแพงมีไฟ ไฟช็อตนะครับ"
ลวดหนามข้างบนเป็นไฟฟ้าแรงสูง ถ้าเสาธงล้ม ไฟเดินเข้าเสาธงแน่?
รังสรรค์ : "ครับ เป็นไปไม่ได้"
เคยมีเหตุการจรจลมั้ย?
รังสรรค์ : "บางขวางหนักที่สุดก็ปี 28 ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่พอดี เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ มีการเผาเรือนจำ กว่าจะเคลียร์พื้นที้ได้ 2-3 วัน เขาก่อเหตุจราจล แหกคุกหนี แล้วหลายคนรวมหัวกัน หัวโจกรวมหัวกันจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่หนีออกมาได้ก็มาแจ้งผม ผมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ท่านก็วางแผนดำเนินการจับ"
รังสรรค์ : "อย่างนี้มีโอกาสครับ"
พล.ต.ต. วิชัย : "มีโอกาสครั้งเดียว ตอนที่เอานักโทษออกมา ระหว่างเดินทางเป็นจุดเปราะบางที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่ในการดูแลน้อย ถ้าเกิดในการนำตัวมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจก็ง่ายในการชิงตัว แต่ถ้าในเรือนจำผมว่ายากมาก เมื่อไวๆ นี้ก็มีเผาที่บุรีรัมย์ มีอย่างเดียวคือก่อการจราจล ใช้โอกาสหลบหนี ที่สุดคือรบุรี เอาอาวุธเข้าไปจี้ตัวประกัน อย่างอื่นนี่ยาก ที่ศาลก็ยากเพราะเขามีห้องควบคุม การขึ้นไปศาลมีการตีตรวจ มันยากมาก"
อยู่ในสายกับ "พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรณีคุณบรรยินข่าวที่ออกมาเรื่องการแหกคุก มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอย่างนั้นจริงหรือเปล่า?
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "เป็นเบาะแส เป็นข้อมูลข่าวสารในทางลับที่เราได้มาร่วมกับเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ท่านผู้การ รองผู้การ น้องๆ ช่วยกันขยายผล กับทางเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วย ก็มีมูล จริงหรือไม่อย่างไร ก็ระวังป้องกันเอาไว้ก่อน แต่พบว่ามีมูลความจริง"
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "เนื่องจากมีตัวละครเกี่ยวข้อง เป็นผู้ต้องขังที่นำตัวไปสอบปากคำขยายผล ผมเข้าใจว่าทางกองปราบไม่ได้ยืนยันมา ก็เอาเป็นเรื่องลับไว้ก่อน แต่ไม่ว่ามาไม้ไหนเราก็เตรียมระวังป้องกันไม่ประมาทอยู่แล้ว ตามมาตรฐานของเรา"
มีข่าวว่าบรรยินฆ่าตัวตาย จริงหรือเปล่า?
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "อันนี้อาจเป็นการเทสเจ้าหน้าที่ว่าหากมีเหตุฉุกเฉินจะเข้าไปถึงห้องพักกี่นาที ผมได้รับรายงานมาอย่างนั้น เป็นการประเมินเบื้องต้น อาจไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย"
เทสเจ้าหน้าที่ หมายถึงเรือนจำเทสเองหรือบรรยินเทส?
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "เจ้าตัวเป็นตร.เก่า เข้าไปผมก็ทราบว่าก็เรียกไปถามฝ่ายไหนเมื่อไหร่อย่างไร มีกำลังกี่คน ก็ดูทรงแล้วไม่ค่อยจะดี ไปถามในสิ่งที่เราไม่ควรจะบอก ผมก็กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ไปบอกข้อมูลต่างๆ เหล่านั้น เจ้าหน้าที่คนไหนบกพร่อง หละหลวมก็โยกย้ายออกไป"
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "อันนี้เป็นข้อมูลที่ทางเจ้าพนักงานตำรวจทราบ อย่างน้อยต้องใช้เงินในการประกันตัวบุคคลเหล่านี้ออกมาและให้ไปทำงานโน่นนี่นั่นตามที่เป็นข่าว ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถยืนยันได้ ให้ตร.พูดดีกว่าเป็นขั้นตอนการสอบสวนของตำรวจ"
บรรยินมีพฤติกรรมเป็นมาเฟียหรือเปล่า เพราะมีข่าวว่าตอนอยู่ในเรือนจำก็ขอย้ายไปอยู่ที่ดีๆ?
พ.ต.อ.ณรัชต์ : "ไม่มีหรอกครับ คดีที่คุณบรรยินก่อและถูกกล่าวหา ต้องหาคดีอาญาร้ายแรง ครึกโครม โหดร้ายทารุณ เรือนจำเราต้องมีดุลยพินิจว่าควบคุมเข้มข้น และประกอบกับพื้นภูมิเบื้องหลัง เป็นอดีตตร. เป็นอดีตนักการเมือง ก็เชื่อว่ามีกำลังเงิน ใช้เงินซื้อ ก็มีการกำชับเป็นพิเศษ แต่ลักษณะเป็นมาเฟียไม่มีหรอก เพราะคนใหญ่กว่ามาเฟียในคุกคือผู้คุม ต้องปฏิบัติการตามระเบียบทุกประการ"
รังสรรค์ : "ใช้กฎระเบียบดูแล"
ใครดื้อตีเหมือนในหนังมั้ย?
รังสรรค์ : "ไม่ตีครับ จะมีต่อเมื่อเขาทะเลาะเบาะแว้งกัน ห้ามปรามกันอาจมีบ้าง เพราะกระทบกระทั่งกันระหว่างนักโทษก็มีบ้าง"
พอเจอเรื่องการวางแผน การดูแลจะเพิ่มมาตรการอีกขั้นคือการใส่ตรวจ ถ้าเป็นคนอื่นไม่ใส่เหรอ?
รังสรรค์ : "ส่วนใหญ่ใส่ในนักโทษประหาร หรือนักโทษร้ายแรงอาจก่อเหตุร้ายในเรือนจำเขาจะใส่"
เพราะฉะนั้นคุณบรรยินน่าจะโดนแบบนั้นแล้ว?
รังสรรค์ : "ใช่ เพราะมีเหตุการณ์แบบนี้แล้วน่าจะต้องใส่ ถ้าไม่ใส่ก็จะมีข้อบกพร่องได้"
การจับตานักโทษคดีร้ายแรงแบบนี้จะจับตามากกว่าเดิมมั้ย?
รังสรรค์ : "จับตาเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม.ควบคุมดูแล"
การยัดเงินซื้อตัวนักโทษในเรือนจำเหมือนในหนังมีมั้ย?
รังสรรค์ : "สมัยก่อนมี แต่สมัยนี้ไม่ทราบ เพราะผมเกษียณออกมาแล้ว"
พล.ต.ต. วิชัย : "ผมว่าตอนนี้บรรยินจบแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่รัฐเขาไม่ไว้ใจแล้ว ต้องเข้มงวด ป้องกัน ตั้งแต่เครื่องพันธนาการ เจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาต้องรับผิดชอบทั้งหมด ผมว่าต่อไปบรรยินจบแล้ว รออย่างเดียวคือศาลตัดสิน"
ในมุมอดีตนายตำรวจ อยากทราบเรื่องการขยายผลที่ไปเกี่ยวข้องกับส.ส. ที่เขาไม่เล่นด้วย เขาผิดมั้ย?
พล.ต.ต. วิชัย : "การที่คุณวางแผน ผมถือว่านายโจและนายท็อปได้ดำเนินการแล้ว คือทำตามที่นายบรรยินบอกแล้ว ไปติดต่อแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ส.ส.ก็เอามาเป็นพยานได้ ผูกมัดคนที่ช่วยเหลือได้ เอามาเป็นพยาน"
มุมทนายความคุณบรรยิน รู้จักทนายความอีกคน และจ้างทนายคนนั้นให้มาประกันตัวนายโจ-นายท็อปออกไป?
พล.ต.ต. วิชัย : "คนที่ประกันตัวนายโจ-นายท็อปรู้หรือไม่ ถ้ารู้ถึงพฤติกรรมว่ามีการจ้างให้ไปประกันตัว ทนายคนนี้ก็เกี่ยวข้อง แต่ถ้าประกันโดยไม่รู้ เขาก็อาจไม่ผิด"
แผนแหกคุกบรรยินจบสิ้น ไม่มีทางก่อเหตุได้อีกแล้ว?
พล.ต.ต. วิชัย : "ไม่มีทางแล้ว ไปอุ้มอะไรยากแล้วตอนนี้เขาให้ไปขังเดี่ยว ติดต่อใครก็ยากอยู่แล้ว แล้วให้อยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา คุณจะไปติดต่อใคร จะทำยังไง ก็ค่อนข้างยาก"
รังสรรค์ : "ก็อยู่ที่การพิจารณา และตัวคุณบรรยินว่าประพฤติตัวได้ดีมั้ย"
เคยคุมคนไปประหาร เมื่อก่อนเป็นพี่เลี้ยงนักโทษด้วย?
รังสรรค์ : "เป็นหัวหน้าประหารโดยตรง"
ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีโทษประหาร รู้สึกมั้ย?
รังสรรค์ : "รู้สึก ก็อยากให้กลับมา บ้านเมืองจะได้สงบ สมัยก่อนคดียา 10 กิโล ประหารเลยนะ เดี๋ยวนี้คดียา 100 กิโลยังเฉย"
พล.ต.ต. วิชัย : "ผมว่าคดีไหนมีโทษประหาร แล้วพรุ่งนี้ไปทำการประหาร อะไรๆ จะเบาบาง แต่สมัยนี้โทษประหารแล้วแต่ไม่ประหาร พวกนี้ยังใช้โทรศัพท์ติดต่อค้าขายปกติ มันก็เลยไม่หมดซะที"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น