แม่น้องชมพู่ งง! พยานถูกเขียนจม.ขู่ แต่เผาทิ้ง ไม่เอามาตรวจDNA (คลิป)

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร พบกับนางแตงโม (นามสมมติ) ระบุว่า ตนให้สัมภาษณ์อมรินทร์ทีวี ในวันที่ 30 มิ.ย.63 จากนั้น 1 ก.ค.63 ช่วงเช้าตนก็เห็นจดหมายข่มขู่ที่วางหน้าบ้าน โดยวางอยู่ตรงแคร่ ตอนแรกไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ตนเปิดประตูบ้านออกมาช่วง 06.00-07.00 น. ตนตั้งใจจะออกมากินข้าวที่แคร่ ซึ่งตนจะกินข้าวจุดนี้เป็นประจำ

ส่วนลักษณะลายมือเหมือนคนที่เขียนหนักสือ โดยการใช้มือข้างที่ไม่ถนัดเขียน เพราะตัวอักษรไม่ชัดเจน ตัวหนักสือที่เขียนคือ "อย่าพูดมาก รู้มาก มันจะเข้าตัว" ตอนที่ตนอ่านข้อความแทบไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นจดหมายข่มขู่

ทั้งนี้หลังจากตนได้อ่านเสร็จจึงนำไปเผา เพราะไม่ได้คิดจะมีเรื่องอะไร ส่วนตัวก็ไปทำเรื่องรับเงินที่สามีเสียชีวิตช่วงเช้า จากยั้นตนก็มารอซื้อกับข้าว มีคนที่รอซื้อกับข้าวถามตนว่า "เจ้ทำไมกล้าออกสื่อ ระวังนะ รู้มาก พูดมาก มันจะเข้าตัวนะ" ตนก็เลยเอ๊ะใจขึ้นมาทันที ตอนนั้นตนเผากระดาษไปแล้ว ตนเองก็งง แล้วก็มาประมวลคิดว่า สิ่งที่ตนกล้าออกสื่อมัยอาจจะอันตราย

เพื่อน ๆ ก็บอกตนว่า มันถึงแก่ชีวิตเลย ทำไมถึงกล้าไปพูด ตอนแรก ๆ ยอมรับว่ากลัว แต่ตอนนี้สบายใจขึ้น เพราะไปแจ้งความแล้ว ตำรวจก็ให้การคุ้มครอง ยอมรับว่าการที่ตนออกมาให้ข้อมูล มันอาจจะช่วยทางคดีได้ ซึ่งมีชาวบ้านอีกหลายคนที่มาบอกตนว่า เห็นรถแบ็กโฮแบบตน แต่ไม่กล้าออกมาพูด บางคนก็บอกว่าสื่อยังไม่ไปถาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อถอดปริศนาที่ว่า ทำไมถึงจำของเล่นได้ นางชะอม บอกว่า เหลือบเห็นรถแบ็กโออยู่ในหลุม จำสภาพรถแบ็โฮได้ ส่วนนางแตงโม บอกว่า จำสภาพรถแบ็กโฮได้ ดูข่าวจำรถแบ็กโฮบนภูเขา เห็นรถแบ็กโฮในหลุม

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ โดยนางสาวิตรี ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า สภาพจิตใจตนเองตอนนี้ ก็ยังคงเครียดกับข่าวอยู่บ้าง แต่เรื่องคดีตนก็ยังไว้วางใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนข้อมูลเรื่องรถแบ็กโฮ ที่นางแตงโม และนางชะอม ออกมาให้ข้อมูลนั้น ตนจำได้ว่าวันที่ 11 พ.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยให้ตนเองชี้จุดที่ชมพู่หาย ตอนที่ตนชี้จุดนั้น ตนก็ไม่เจอรถแบ็กโฮ เจอแต่ลูกมะม่วง ตนก็คิดว่าชาวบ้านน่าจะจำผิด

แม่ของน้องชมพู่ กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลนำจดหมายมาข่มขู่ นางแตงโม โดยนางสาวิตรี ระบุว่า นางแตงโมไม่น่าจะเผาจดหมายทิ้ง เพราะจดหมายข่มขู่ดังกล่าว ถือว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งช่วงนี้คดีลูกสาวตนก็ยังไม่จบ ตนก็เสียดายมาก เพราะตัวหนังสือ หรือดีเอ็นเอในจดหมายอาจเทียบตัวคนร้ายได้ หรืออาจเชื่อมโยงกับคดีลูกสาวของตนได้

แต่ถ้ามองอีกมุม ในสถานการณ์ที่บ้านกกกอก มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักข่าวอยู่กันจำนวนมาก ตนก็คิดว่าไม่น่าจะมีคนร้ายคนไหน เอาจดหมายข่มขู่ไปหย่อนที่บ้านของนางแตงโมได้ขนาดนั้น แต่ทั้งนี้ตนก็รู้สึกเสียดาย ถ้าจดหมายฉบับนั้นมีจริง

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ทดลองให้ ลุงพล ป้าแต๋น นายอนามัย นางสาวิตรี นางจำลอง นายนริน นางชนาภา (เมียนริน) นายชาญ ตาชมพู่ นางสมควร ยายชมพู่ ลุงประวิทย์ (คนที่เผาสลาก) รวม 10 คน โดยเขียนคำว่า "สวัสดี" เพื่อนำไปให้นางแตงโม (นามสมมติ) คนที่เห็นแบ็กโฮและถูกข่มขู่ดู

ทีมข่าวทดลองเขียนคำพูดตามที่นางแตงโม (นามสมมติ) กล่าว ซึ่งทดสอบเขียนทั้ง 2 มือ คือ ซ้าย กับ ขวา มือขวาคือมือถนัด ลายมือจะปกติ ส่วนมือซ้าย คือข้างที่ไม่ถนัด ลายมือจะไม่ตรงเส้น

ส่วนตัวอักษรที่ทีมข่าวเอามาให้ดู นางแตงโม ยืนยันว่าไม่มีลายมือไหนที่คุ้น หรือ ใกล้เคียงเลย เพราะลายมือสวย แต่สิ่งที่ตนเห็น คือลายมือที่มันไม่เท่ากัน ตัวเล็กใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบใครเป็นคนทำ หรือวางจดหมาย ตนก็ไม่ได้บอกใครว่าเจอคนมาวางกระดาษ ประกอบกับตนไม่กล้าบอกใคร แม้แต่ลูกก็ไม่ได้บอก ส่วนตัวยังคิดว่าจดหมายดังกล่าวมองไว้ 2 ทาง คือ ทางดีกับทางไม่ดี คนที่หวังดีอาจจะอยากเตือน แต่คนไม่หวังดีอาจจะเป็นคนร้ายก็ได้ วันนี้ตนก็ยังยืนยันว่า ตนเห็นรถแบ็กโฮตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้จริง ๆ