ลุงพลขับรถโชว์ แจงพิรุธชมพู่หายไม่ได้แวะซ่อนศพ

กรณีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ล่าสุดมีปมที่ระบุว่าพี่สาวของน้องชมพู่ไม่ได้หลับวันที่น้องชมพู่หายตัวไป แต่อาจไม่ได้หลับและเล่นโทรศัพท์อยู่ที่หน้าบ้าน จากข้อมูลพบว่ามีการเล่นแอปฯ TikTok จนถึงเวลา 09.45 น.

โดยไทม์ไลน์ของนายไชย์พล ลุงน้องชมพู่ วันที่ 11 พ.ค. 63 วันที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น เวลา 09.30 น. กลับมาจากสวนถึงบ้าน และออกไปส่งพระที่วัด ถึงเวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงพลอ้างว่าขับรถไปส่งพระจริง และพบกับชาวบ้านระหว่างทาง มีการจอดรถพูดคุยกัน ซึ่งมีห้วงเวลาคือ 22 นาทีที่ขับรถจากบ้านไปวัด และมีพยานสามารถยืนยันได้ว่าได้พูดคุยกับลุงพลจริง แต่มีอีก 15 นาทีที่ขับไปโดยไม่มีพยานยืนยัน

ล่าสุดวันที่ 12 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางทดสอบขับรถจากบ้านลุงพลมาที่วัดถ้ำภูผาแอก ซึ่งห่างจากบ้านลุงพลราว 2 กิโลเมตร โดยทีมข่าวเริ่มออกเดินทางจากบ้านลุงพล ใช้ความเร็วราว 20-30 กม./ชม. จากนั้นไปถึงซุ้มวัด และจอดทักชาวบ้านที่หน้าซุ้มวัด ก่อนเลี้ยวเข้าไปในซอย จากนั้นทีมข่าวตั้งข้อสังเกตว่า หากลุงพลเอาน้องชมพู่มาจริง อาจมีการแวะนำชมพู่ไปซ้อนก่อนที่จะไปรับพระที่วัดถ้ำภูผาแอก

เมื่อขับรถมาถึง สามแยกบริเวณหน้าวัดกกกอก ซึ่งเลี้ยวซ้ายจะไปวัดภูผาแอก เลี้ยวขวาไปวัดภูหลวง โดยหากจะไปซ้อนเส้นทางวัดภูหลวง ต้องตรงเข้าไปอีก จุดนี้ที่สามแยกใช้เวลาจากบ้านลุงพล 2.53 นาที

ทีมข่าวขับรถต่อเข้าไปที่วัดถ้ำภูผาแอก โดยวันที่ 11 พ.ค.63 ลุงพลยืนยันว่าไม่มีการทักใครหลังจากเข้าซุ้มวัดแล้ว เมื่อไปถึงที่วัดจะใช้เวลาอีก 3.37 นาที ใช้เวลารวมจากบ้านมาถึงวัด 6.31 นาที

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางแยง หนึ่งในชาวบ้านกกกอก ที่เห็นลุงพล ในวันที่ 11 พ.ค.63 โดยนางแยง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า วันที่ 11 พ.ค.63 นางวงค์ และนางแหล่ (เมียผู้ใหญ่บ้าน) ได้นั่งเล่นอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านตน ส่วนตนยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ห่างจากม้าหินอ่อน ประมาณ 2 เมตร

ตอนที่ตนเห็นลุงพล ก็คือตอนที่เขามาจอดรถยนต์กระบะที่ตรงข้ามบ้านตน และมีการลดกระจกลงจนสุด และพูดคุยกับนางวงค์ว่า "ป้าไปส่งพระด้วยกันไหม" และนางวงค์ จึงตอบว่า "ไม่ได้ไปด้วยหรอก แดดมันร้อน"

ป้าแยง ยังพูดอีกว่า ตอนที่ตนยืนดูป้าวงค์พูดคุยกับลุงพลนั้น ตนก็ไม่เห็นพระสงค์ที่นั่งมากับลุงพล ซึ่งตนยืนห่างกับนางแหล่ แค่ประมาณ 2 เมตร ซึ่งตอนที่ลุงพลลดกระจกมาพูดคุยกับป้าวงษ์นั้น ตนก็เห็นใบหน้าลงพลชัดเจน สีหน้าลุงพลตอนที่พูดคุยปกติดีทุกอย่าง มียิ้มบางครั้ง และไม่มีสีหน้าที่วิตกกังวลอีกด้วย ซึ่งรวมระยะเวลาที่ลุงพลมาจอดรถคุยที่หน้าบ้านตน ตนคำนวณให้สูงสุด 2 นาที

เมื่อลุงพลมาถึงวัดได้เดินต่อไปยังศาลาการเปรียญ จากนั้นมีกราบพระ และไปที่แคร่ ยกขนของ ของพระครูบารัตน์ และเดินกลับมาที่รถ เพื่อนำเชือกรัดของที่หลังกระบะ ก่อนจะเดินต่อไปยังโรงครัวของวัด และมีการพูดคุยกับพระอธิการบุญมา รวมทั้งครูบารัตน์ก็เดินมาด้วย ตอนนั้นก็มีโยมแม่ออกของวัดอยู่ด้วย (แม่ดอน แม่ทอง) ลุงพลก็ไปหยิบกระสอบข้าวที่โรงครัว จากนั้นก็ยกข้าวไปที่รถกระบะ จังหวะนี้ครูบารัตน์ยังไม่เดินตามมา ลุงพลยืนรออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพระครูบารัตน์ก็มาที่รถ ลุงพลก็ออกจากวัด โดยจับเวลาที่อยู่ในวัดได้ 8.23 นาที รวมตั้งแต่ออกจากบ้าน 14.54 น.

ลุงพลขับรถโชว์ แจงพิรุธชมพู่หายไม่ได้แวะซ่อนศพ

จากนั้นขับรถออกมาจากวัด ไปที่บ้านแม่ถอน โดยใช้ความเร็วราว 10 กม./ชม. ลุงพลยืนยันไม่มีการทักทายใครตอนออกมา เพื่อไปรับบ้านภรรยา แม่ถอน ตาม็อค โดยใช้เวลาออกมา 5.59 นาที รวมเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มออกจากบ้าน ถึงวัด และมาบ้านแม่ถอน คือ 20.53 นาที

ทีมข่าวทดสอบ หากมีการนำเด็กซ้อนที่วัดภูหลวงก่อน จะสามารถทำได้หรือไม่ ทีมข่าวเริ่มที่จุด สามแยกหน้าวัดกกกอก เริ่มจับเวลาใหม่ที่ 3 แยก จากจุดนี้ไปถึงวัดภูหลวงระยะ 2 กิโลเมตร ต้องผ่านที่ดินสวนยางของแม่ชมพู่ ซึ่งหากไปซ้อนต้องเห็นลุงพล รวมทั้งพ่อตาแม่ยาย เพราะเส้นทางเข้ามาทางเดียว

โดยเส้นทางเป็นทางลูกรังตลอดทาง มีหลุมบ่อ ทำความเร็วได้ราว 5-10 กม./ชม. ไปถึงวัดใช้เวลา 13.40 นาที หากรวมเวลาจากบ้านลุงพล ต้องบวก 2.53 นาทีเข้าไป เป็น 16.33 นาที เมื่อกลับลงมาที่ สามแยกหน้าวัดกกกอกต้องใช้เวลาอีก 15.09 นาที ซึ่งรวมเวลาไปกลับ 28.51 นาที ดังนั้นจะเกินช่องว่างเวลาของลุงพล

ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ พระอาจารย์สมบัติ อภิสัทโธ หัวหน้าที่พักสงฆ์เวฬุวัน (วัดภูหลวง) เปิดเผยว่า

ช่วงวันเกิดเหตุ โดยเฉพาะ 11 พ.ค.63 ลุงพลไม่ได้ขึ้นมาหาอาตมา และไม่มีวันไหนที่ลุงพลมาหาอาตมาตั้งแต่เช้ามึดถึงค่ำ จะมีแค่หลังจากเผาศพน้องชมพู่ไปแล้ว ส่วนตัวมั่นใจว่าลุงพลไม่ใช่คนก่อเหตุ ด้วยช่วงเวลา 15 นาที หรือ 30 นาที ที่อื่นอาจจะมองว่าก่อเหตุได้ แต่หมู่บ้านนี้ก่อเหตุไม่ได้ เพราะออกมาจากบ้าน หรือวัด คนก็ต้องเห็น ยกเว้นแต่ "คนในหมู่บ้านตาบอด"

อย่างไรก็ตาม สรุปคำชี้แจงลุงพล ที่ยังเป็นปริศนา เหลือเวลา 07.06 น. ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยว่าลุงพลหายไปอยู่ที่ไหน และทำอะไรอยู่