แม่ชมพู่ ลั่น!ตอนนี้คนร้ายคงหัวเราะเยาะ - ปรเมศวร์ ชี้!คดีไม่โดนพับแน่นอน

ล่าสุด รายการโหนกระแสวันที่ 17 ก.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" เปิดใจ "อ.ปรเมศวร์ อิททรชุมนุม" อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี และวิดีโอคอลหา "สาวิตรี" แม่น้องชมพู่ ซึ่งอยู๋กับ "ออย วิภาดา นิ่มทอง" ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในพื้นที่

วิภาดา : "ออยลงพื้นที่รอบที่ 3 บรรยากาศในหมู่บ้านตอนกลางวันเงียบเหงา ชาวบ้านเริ่มไปดำนา ใช้ชีวิตตามปกติ กลางวันไปนา ตอนเย็นถึงกลับมา บรรยากาศชาวบ้านไม่ได้มีความสงสัยกัน หรือขัดแย้งกันเหมือนข่าวที่ออกไป ชาวบ้านยังรักกันเหมือนเดิม เมื่อวานจะเห็นภาพการดำนาสมานฉันท์ จะเห็นลุงพลกับป้าแต๋นไปร่วมงาน แต่คุณแม่ไม่ได้ไปร่วมดำนาด้วย เพราะติดดำนาที่ของคุณตาคุณยาย แต่ประเด็นการสืบสวนสอบสวนต่างๆ ตร.ยังทำงานต่อเนื่อง ยังลงพื้นที่อยู่ แต่สิ่งที่เกิดพิรุธข้อสงสัย มีการตั้งข้อสันนิษฐาน กรณีเรืองการเกง เป็นไปได้มั้ยน้องจะถอดฉี่เอง แล้วที่สำคัญมีรายงานว่าการตรววจกางเกง มีคราบขาวๆ อยู่ในกางเกง ซึ่งต้องไปฟังจากหมอ"

"อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องการตั้งข้อสันนิษฐานว่าจุดที่น้องเสียชีวิต อาจมีการถอดเสื้อทิ้งไว้ ถ้าน้องไปเอง บนภูเหล็กไฟ เขามีการเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย เป็นไปได้มั้ย วัวควายกินเสื้อ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ตั้งข้อสันนิษฐานเหมือนกัน และอีกเรื่องมีชาวบ้านเล่าให้ทีมข่าวฟังได้ยินเสียงหมาเห่าในคืนวันที่ 11 วันที่น้องหายตัวไป เป็นแถวๆ ป่าสวนยาง ตรงนั้นทะลุออกมาถึงถนนใหญ่และทะลุไปถึงบ้านลุงพลได้"

วิภาดา : "มันเป็นข้อสันนิษฐานที่อาจเป็นไปได้ แล้วไปคุยกับคุณหมอสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาบอกว่าวัวกินเสื้อได้ แต่มันจะไม่กิน แต่เรื่องนี้แม่เคยเห็นพฤติกรรมวัว นี่เป็นข้อสันนิษฐาน"

สาวิตรี : "แม่เคยเห็นวัวเคี้ยวเสื้อได้ แต่ไม่ได้กินไปหมดทั้งตัว"

วิภาดา : "คุณแม่ไม่ได้เลี้ยงวัว เคยเห็นวัวกินเสื้อ

สาวิตรี : "เคยเห็นวัวเคี้ยวๆ แล้วคายออกมา ตอนนั้นเสื้อตัวใหญ่ มีเนินในหมู่บ้านที่เขาเลี้ยงเป็นสนามหญ้าใกล้ๆ บ้าน"

วิภาดา : "บนเขาจุดที่น้องเจอเสื้อ เขาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายมั้ย"

สาวิตรี : "คิดว่ายังไม่เลี้ยง เพราะตอนนั้นหญ้ายังไม่ขึ้นเลย"

สาวิตรี : "ค่ะ น้องไม่มีนิสัยชอบเดินเข้าป่า ต่อให้ถ้าเดินไปเองจริงๆ ก็ต้องอยู่ข้างล่าง ไม่น่าเดินไปถึงตรงนั้นพร้อมรองเท้าทั้งสองข้างและไปอยู่ในสภาพนั้น"

สาวิตรี : "ถ้าตามข่าวน้องเสียชีวิตตอนออกจากบ้านได้ 2 วัน ต้องมีฉี่บ้าง น้องฉี่แล้วใส่กางเกงเอง เป็นไปไม่ได้"

สาวิตรี : "พวกเราโดนตร.สอบกันทุกคนค่ะ แม่ว่าให้น้องคุยกับตร. แค่นั้นก็พอค่ะ"

สาวิตรี : "น้าแตไม่มีค่ะ ตร.ได้ตรวจสอบน้าแตแล้ว คนในสังคมสงสัยก็ไม่เป็นไร เพราะเราให้ปากคำตร.ไปหมดแล้ว"

สาวิตรี : "แม่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จริงๆ ห่วงความปลอดภัยของเรามาก คดีมันนาน ถ้าผู้ร้ายดูอยู่ก็คงหัวเราะเยาะ"

สาวิตรี : "แม่ไปดำนาตายายค่ะ คือตายายดำนาอยู่สองคน แล้วที่นั่นคนเยอะแล้ว ตายายเป็นคนแก่สองผัวเมีย ที่ลูกต้องไปช่วย"

สาวิตรี : "เคยเห็นถอดเองครั้งสองครั้ง บางครั้งถอดไม่ทันก็ราดใส่กางเกงเลย"

สาวิตรี : "ของน้องค่ะ น้องใส่จนชินแล้วค่ะ ใส่ทุกวันไม่ล้มค่ะ แล้วน้องไม่ใช่คนชอบเดินมากหรือวิ่งมากเกินไป"

สาวิตรี : "เป็นไปไม่ได้ ถ้าขึ้นเขาจริงๆ นิ้วน้องต้องพอง เพราะนิ้วล้นออกมา"

สาวิตรี : "ประมาณ 90 ซม. ค่ะ"

สาวิตรี : "แค่ให้นอนเล่นก็ปีนไม่ได้ ถ้าไม่มีเก้าอี้ให้เหยียบขึ้น"

วิภาดา : "บันไดบ้านถ้าจะขึ้นชั้น 2 ต้องมีม้านั่งให้น้องปีนขึ้น"

สาวิตรี : "จูงขึ้นยังไม่ยอม น้องกลัวค่ะ ต่อให้พยายามจูงน้องหัดเดินขึ้นบันไดน้องก็ไม่เอา"

สาวิตรี : "ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าน้องขึ้นไปได้ยังไง"

สาวิตรี : "ไม่ค่ะ น้องไม่ใช่เด็กเกเร ไม่ด่า ไม่พูดคำหยาบ"

สาวิตรี : "แม่ไม่รู้เรื่องแรงจูงใจอะไรเลย"

สาวิตรี : "ไม่มีค่ะ แบบนี้ไม่เคยมีเลย"

สาวิตรี : "แม่ไม่ค่อยรู้เรื่องไสยศาสตร์ ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่รู้เหมือนกันเขาตัดผมน้องไปทำไม"

สาวิตรี : "ไม่มีค่ะ"

สาวิตรี : "อันนี้เพิ่งรู้ค่ะ"

วิภาดา : "เห็นว่าเข้าไปจ.มุกดาหาร เห็นว่าเดินทางไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเข้าไปคุยกับลุงพล อีกประเด็นที่มีการตั้งข้อสันนิษฐาน มีรายงานว่านายพรานคนนึงได้ยินเสียงร้องไห้ ออยกำลังจะไปตามนายพรานคนนี้ ว่าได้ยินจริงมั้ย หรือเป็นการร่ำลือ เล่าอ้างของชาวบ้าน ออยกับทีมงานขึ้นไปบนภู ก็สุดยอด"

วิภาดา : "ออยปีนค่ะ มันสูงมาก ต้องตะกาย ถ้าไม่ชำนาญอาจหงายเงิบ ทั้งสูงและชัน ซึ่งถ้าถามความเห็นส่วนตัว ออยว่าเป็นไปได้ยากที่น้องจะขึ้นมา ออยไปหลายทางด้วยนะ ทาง 1.7 กิโลนี่ง่ายสุด สะดวกสุด"

สาวิตรี : "แม่เคยเห็นมันเคี้ยว ยังไม่เคยเห็นมันกลืนลงไป เคยเห็นมันเคี้ยวแล้วคาย เห็นแค่นั้น คนอื่นอาจเคยเห็นกลืนก็ได้ แต่แม่ไม่เคยเห็น"

วิภาดา : "ออยถามหมอ สัตวแพทย์ ถามว่าทำไมวัวกินเสื้อได้ เขาบอกว่าในเสื้อมีกลิ่นเหงื่อ มีความเค็ม วัวต้องกินคล้ายๆ เกลือ เป็นอาหารเสริม ถ้าได้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเค็มก็จะกินแต่พอกินไปแล้ว และรู้ว่าไม่ได้ฉีกขาดเหมือนหญ้า มันจะขย้อนออก"

ปรเมศวร์ : "สาเหตุการตาย รายงานชันสูตรพลิกศพ ต้องเข้าใจว่ากรณีน้องเสียชีวิตเป็นการตายผิดธรรมชาติ ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ถ้าเป็นความผิดทางอาญาจึงจะเกิดสำนวนคดีอาญา ณ วันนี้ที่ทำกันมาเป็นสำนวนชันสูตรพลิกศพ คือพิสูจน์ให้ได้ว่าตายเพราะอะไร ผู้ตายชื่ออะไร ใครทำให้ตาย ขณะนี้สาเหตุการตาย บอด ไม่รู้ ใครทำให้ตายไม่ต้องพูดถึง ทีนี้การทำสำนวนชันสูตรพลิกศพต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ถ้า 7 วันไม่เสร็จก็ขยายไป 2 ครั้ง รวม 60 วัน เพราะฉะนั้น วันนี้ถึง 67 วันหรือยัง ถ้าถึง 67 วัน สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องเสร็จ ถ้าการตายไม่เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ"

ปรเมศวร์ : "ไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด แต่ที่ดูกันมาตั้งแตต้นจนวันนี้ เป็นกระบวนการแรกก่อน เพื่อสอบสวนให้ได้ความว่าการตายของน้องเป็นการฆาตกรรม หนึ่งฆ่า สองทำร้ายจนเป็นเหตุตาย สามประมาทให้ตาย สี่พาเด็กไปทอดทิ้งให้ตาย ตอนนี้ไม่ได้ข้อมูลสักอัน คนพาไปก็ไม่มี ปกติถ้าจะเป็นคดีอาญาต้องมีต้นน้ำ มีพยานอื่นประกอบกับชันสูตรพลิกศพมั้ย อันนี้ชันสูตรพลิกศพบอกไม่ได้จริง แต่ถ้ามีคนอื่นที่เกี่ยวข้องก็เป็นคดีอาญาได้ ขณะนี้ไม่ถือว่าเป็นคดีอาญา วันนี้ตร.เองก็พยายามเต็มที่ เอามาเข้าสำนวน 60 กว่าคน เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ หรือเป็นการกระทำความผิดทางอาญาหรือไม่"

ปรเมศวร์ : "อันนี้เป็นตัวหลัก แต่ต้องมีตัวอย่างอื่นประกอบ สมมติมีพยานเห็นว่า มีคนเห็นคนนี้อุ้มเด็กคนนี้ไป อันนั้นอาจประกอบได้ เพราะการพบศพก็ดี สภาพศพก็ดี สภาพภูมิศาสตร์เด็กไม่น่าเดินขึ้นไปเอง"

ปรเมศวร์ : "สำนวนชันสูตรพลิกศพไม่ได้บอกว่าน้องตายเอง แต่บอกว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องบอกให้ได้ว่าสาเหตุการตายคืออะไร แต่เมื่อกฎหมายกำหนดว่า 67 วันต้องจบ ตอนนี้ 66 วันแล้ว ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ว่าเป็นผลจากการกระทำความผิดทางอาญา ส่วนจะเป็นสำนวนคดีอาญาหรือไม่ ถ้าเขาสอบสวนต่อไป แล้วมีคนนั้นเขาก็ตั้งเป็นคดีอาญา อยากให้แยกก่อนว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนคดีอาญาใครเป็นผู้ต้องสงสัยยังไม่เกิด"

ปรเมศวร์ : "ไม่ผิดหรอก แต่ผมว่าตร.กำลังจ้องจับอยู่ว่าใครมีพิรุธที่สุด"

ปรเมศวร์ : "ไม่ๆ ในการสอบชันสูตรพลิกศพเป็นอีกเรื่องนึง ไม่ใช่เป็นผลของคดีอาญา แต่ตร. แม้จะจบสำนวนชันสูตรพลิกศพ แต่ก็ไม่จบเรื่องการสืบสวนว่าน้องตายเพราะอะไร แล้วถ้ารู้ว่าตายเพราะการกระทำความผิดทางอาญาก็โอเค ตอนนี้สภาพศพเรายังไม่รู้ว่าน้องตายนอนหงายนอนคว่ำ เพราะร่องรอยหลักฐานเสียหายไปเยอะ ที่บอกว่าเด็กมีรอยขีดข่วน ถ้าเด็กเจอกิ่งไม้ขีดข่วน ผมถามว่าเด็กจะถอยหรือเดินต่อ เด็กต้องถอยกลับ แต่ถ้ามีคนอุ้มเด็กไปละ ถ้าอุ้มเด็กร้องแล้วไม่อยากให้ร้องก็ปิดปาก โอกาสหมดลมหายใจมีมั้ย มี ผมก็คิดว่าอุ้มเด็กไปแล้วปิดปากเด็กจนสลบไปหรือเปล่า เพราะไม่มีคำอธิบาย เสื้อผ้าถอดยังไง รอยเท้าถอดยังไง ตรงนี้เป็นสิ่งที่สังคมสงสัย และคิดว่าตร.คงสงสัย แต่ไม่พูด"

ปรเมศวร์ : "คงไม่พักหรอก คงสืบต่อไป แต่สำนวนชันสูตรพลิกศพจบแล้วว่าได้แค่นี้ แต่เชื่อเถอะตร.เขาทำต่อแต่เขาอาจไม่พูด เขาก็อยากให้เราหยุดพูดบ้างก็ได้มั้ย"

ปรเมศวร์ : "มีผลมาก ก็มีอิทธิพลพอสมควร"

ปรเมศวร์ : "ไม่มีทาง"

ปรเมศวร์ : "ไม่เชื่อ"