แม่ชมพู่ พร้อมสาบานร่วมลุงพล เพื่อความสงบสุข - ลุงขอไม่ดื่มน้ำหวั่นยาสั่ง (คลิป)

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่วัดกุดแข้ ต.ดงชน อ.เมือง จ.สกลนคร ไปพูดคุยกับ พระสุดสาคร ยติกโร พระที่สามารถทำพิธีเสกน้ำเลิกยาเสพติดได้ โดยพระสุดสาคร เปิดเผยว่า อาตมาไม่สามารถทำได้ เพราะอาตมาบวชแค่ 3 พรรษา แต่อาตมาพอจะทราบขั้นตอนวิธีทำ คือ ต้องมีพระทั้งหมด 9 รูป โดยผู้ที่สวดนำต้องเป็นพระระดับเจ้าอาวาส และบวช 6 พรรษาขึ้นไป

ส่วนพระอีก 8 รูป ก็อยู่ที่พระสวดนำนั้นเป็นผู้เลือก สำหรับวันในการปลุกเสกน้ำมนต์นั้น พระผู้นำสวดจะเป็นผู้เลือกเอง ซึ่งจะมีฤกษ์ยามของท่าน และต้องยกขัน 5 ภายในขันมีดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 ไหว้พระประธาน โดยจะเป็นพระแบบไหนก็ได้แล้วแต่ศรัทธา และจะนำน้ำใส่บาตร นำสายสิญจน์ผูกรอบบาตรที่ใส่น้ำ และให้พระทุกรูปในพิธีจะต้องถือสายสิญจน์ หลังจากนั้นพระผู้นำก็จะถือเทียน 1 เล่ม จุดเทียนและวนรอบปากบาตรเพื่อให้น้ำตาเทียนหยดใส่น้ำ

โดยพระผู้นำจะเป็นผู้เลือกบทสวดด้วยตัวเองว่า จะสวดบทอะไร ซึ่งส่วนมากจะสวดเปิดด้วยบท "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" แต่พระบางท่านก็ไม่สวด หลังจากนั้นสวดบทอื่นตาม ซึ่งคาถาที่สวดต่อนั้นจะเป็นบทสวดเฉพาะของพระแต่ละท่าน ซึ่งจะแตกต่างกัน เมื่อสวดเสร็จและจะสวดเพียงรอบเดียว พระผู้นำจะเอาเทียนที่จุดจุ่มลงไปในน้ำ ก็เป็นอันเสร็จพิธีของการเสกน้ำดื่มสาบาน ส่วนการสาบานนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ต้องการสาบานเองว่าต้องการจะสาบานแบบไหนหรือพูดอะไร

พระสุดสาคร กล่าวต่อว่า อาตมาได้ติดตามข่าวมานาน ก็คิดว่าการดื่มน้ำสาบานจะช่วยให้ปรองดองกันได้ เพราะอาตมาเชื่อในตัวของตาชาญที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นเสาหลัก สามารถพูดให้ทั้ง 2 ฝ่ายปรองดองไม่แตกแยก อย่างไรก็ตาม อาตมายอมรับว่าไม่สามารถจะทำน้ำสาบานได้ เพราะยังบวชพรรษาไม่ถึง แต่การเลิกยาเลิกเหล้ายังทำได้

แม่ชมพู่ พร้อมสาบานร่วมลุงพล เพื่อความสงบสุข - ลุงขอไม่ดื่มน้ำหวั่นยาสั่ง (คลิป)

ด้านนายไชย์พล วิภา สาบานครั้งที่ 1 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ในวันที่ 2 ก.ค.63 ความว่า "หากข้าพเจ้ากระทำผิดต่อชมพู่จริง ขอให้ทำลายชีวิตข้าพเจ้า และขอให้มีอันเป็นไปในเร็ววันด้วยเถิด"

การสาบานครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 ก.ค.63 ที่วัดถ้ำภูผาแอก ความว่า "ถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นในการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้าจงวิบัติ ขอให้ข้าเจ้าตายโหงไปพร้อมน้องชมพู่ด้วย" ซึ่งผ่านมา 14 วันแล้ว ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไรแต่อย่างใด

เมื่อย้อนรอยคำสาบานครั้งที่ 1 ของแม่น้องชมพู่ ในวันที่ 9 ก.ค.63 ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ความว่า "ข้าพเจ้าขอสาบานว่า เราไม่ได้ฆ่าลูกตัวเอง ถ้าผิดคำสาบาน ขอให้มีอันเป็นไป ภายใน 3 วัน 7 วัน" ซึ่งผ่านมา 14 วันแล้ว ร่างกายของนางสาวิตรี ไม่เกิดอุบัติเหตุกับชีวิตแต่อย่างใด

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า สำหรับการสาบานที่ตาชาญพูดถึงนั้น ตนก็ยินดีไปสาบาน จะทำพิธีทุกอย่างตามที่ตาชาญบอกด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนก็ได้พูดคุยเรื่องนี้กับตาชาญแล้ว ซึ่งญาติพี่น้องทุกคนก็รับรู้แล้ว

นายไชย์พล กล่าวว่า เรื่องการสาบานกับครอบครัวชมพู่ ช่วงเช้าพ่อแม่ตนเองโทรมาพูดคุย ซึ่งระบุว่าไม่สบายใจหากต้องดื่มน้ำสาบาน เพราะห่วงเรื่องการถูกยาสั่ง แต่หากจะดื่มน้ำสาบานพร้อม ถ้าไปที่วัดพระแก้ว แต่หากจะสาบานที่วัดในหมู่บ้าน ตนพร้อมที่จะกล่าวคำสาบาน แต่การดื่มน้ำต้องเคารพพ่อแม่ตนเพื่อความสบายใจ

นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า หลังจากตนบอกว่าอยากใช้พระกริ่งในการแกว่งน้ำที่จะใช้สาบานเพื่อระวังเรื่องของคุณไสย ซึ่งลุงพลระบุว่า ได้ให้อาไปแล้วในวันที่เขามาเยี่ยม ตนเองมีอยู่องค์เดียว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าได้มาจากไหน พระองค์นี้อยู่กับตนมาก็หลายปี

ล่าสุดปู่ย่าโทรมาสั่งไม่ให้ลุงพลกินน้ำแล้ว เพราะกลัวเรื่องยาสั่ง ตามความเชื่อของชาวบ้าน จึงกลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย จึงตัดสินใจจะไม่ดื่มน้ำสาบานเพื่อความสบายใจพ่อแม่ของสามี แต่หากต้องการกินก็ไปได้ แต่ต้องไปที่ ๆ มีศูนย์กลางของวัดนั้น ๆ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ