ลุงพล แจงยิบไม่ดื่มน้ำสาบาน-ปักธูปกลับหัว น้ำตามซึมซึ้ง!คนช่วยสร้างบ้าน

รายการโหนกระแสวันที่ 31 ก.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ  เปิดใจสัมภาษณ์ "ลุงพล" และ "ป้าแต๋น" มาพร้อม "หมอปลา" เพื่อพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว

ลุงพล : "ที่ผ่านมาเรายื่นมือช่วยงานน้องชมพู่เต็มที่ พอเจอเรื่องที่เราไม่คาดคิดก็รู้สึกช็อกนิดๆ"

ลุงพล : "ก็ไม่คิดว่าชาวบ้านเขากลัวนะ แต่ว่าคำพูดผมอาจจะโผงผาง ชาวบ้านไม่ได้กลัว"

ลุงพล : "ในความรู้สึกเราไม่เชื่อใจบรรดาญาติที่ไปทำพิธีด้วยกัน ถ้าเราไม่เชื่อใจแล้วเราทำอะไรลงไป โดยที่มีผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนที่เรานับถือ เขาพยายามเตือนสติเรา ให้เราระวังสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดกับเรา ทำให้ผมต้องระวังตัว และทำตามสิ่งที่เขาพยายามสื่อกับเรา"

ลุงพล : "ก็เชื่อบ้าง แต่ตอนที่ผมปักธูป ท่านอธิการบุญมาก็อยู่ ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่ดูแลสถานที่นั้น ซึ่งวันนั้นผมจุดธูป 9 ดอก นะโมสามจบ และอธิฐานในใจ ผมปักลงปกติ ไม่ได้เอาหัวทิ่มลงก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีภาพข่าวมาเพราะสื่อไม่ได้บันทึกอะไร หลังจากธูปปักไปได้สักพัก ผมก็รอให้มันไหม้ไปได้เกินครึ่ง ผมก็เกรงว่าอธิการบุญมาท่านอยู่ข้างๆ กลัวอาจารย์กลัวกลิ่นธูปด้วยแหละ ในเมื่อมีความเชื่อในใจ และเห็นอาจารย์ท่านนั่งอยู่ใกล้ๆ เผื่อท่านไม่ชอบกลิ่นธูปด้วย แล้วมีความเชื่อส่วนตัวที่ผู้ใหญ่ท่านนึงแนะนำผมมา ผมก็เลยปักธูปกลับหัว แค่นั้นเอง"

ลุงพล : "ก็อย่างว่าผมคิดเองเออเองตลอด ผมได้ทำอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับวัด ผมก็ได้มีโอกาสใกล้ชิดพระอธิการบุญมา ในความรู้สึกก็เลยได้ทำแบบที่เห็นภาพออกมา"

ลุงพล : "เชื่อครับ"

ลุงพล : "เรื่องตัดเส้นผมน้องชมพู่มาทำพิธี ยืนยันว่าวันที่ 11 ผมไม่ได้เจอน้องชมพู่เลย อีกอย่างผมไม่ได้มีวิชาแบบนั้น ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ก็เหมือนสวดมนต์ไหว้พระนี่แหละ ถ้าตั้งนะโม 3 จบ ก็ตั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่แล้ว ส่วนเรื่องไสยศาสตร์ที่เราเชื่อคือสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันน่ากลัวว่าสิ่งที่มองเห็น ผมก็เลยเชื่อไสยศาสตร์"

ลุงพล : "มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่อยากอธิบายให้มาก"

ลุงพล : "ผมไม่ทราบ แต่ด้วยความที่เรากลัว"

ลุงพล : "ไม่คิดว่าใครจะทำ แต่กลัวไว้ก่อน"

ลุงพล : "ไม่กล้าตัดสินใจ แค่ระวังตัวเองก็พอ คงไม่มีหรอก ธรรมะคงไม่คู่อธรรมะ"

ลุงพล : "ไม่กลัวครับ ผมเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือ ก็ไม่ทราบว่าเป็นการลบหลู่เบื้องสูงมั้ย ถ้ามีพิธีที่นั่นได้ ผมก็มั่นใจ"

หมอปลา : "ก็ลุงพลแกโดนรุมกัด แกก็เกิดความไม่สบายใจ เราก็แนะนำสิ่งดีให้เขาสิ เพราะเขาโดนกระทำ กลับธูปปักหัวคือให้ ในเมื่อคุณไม่ได้มีส่วนร่วมแล้วจะขนลุกพระแสงอะไร ดูเจตนาที่สาบานในวันนั้นสิ ต้องการให้คนมีส่วนร่วม หรือทำให้น้องชมพู่มีความเป็นไป เราไม่ได้ไปลบหลู่หลวงปู่ลิ้น คุณไม่แยกแยะ ต่อให้ลุงพลดีขนาดไหนวันนี้ลุงพลก็ไม่ดี"

หมอปลา : "มันดูที่เจตนา การปักธูปกลับหัวก็ไม่ได้ปักดอกเดียว ปักตั้ง 9 ดอก มันคนละอย่าง"

หมอปลา : "ได้จริงๆ มันศักดิ์สิทธิ์กว่าการไปดื่มน้ำอีก นี่ก็ย้อนกลับไปร้อยเท่าพันเท่าแล้วจะเห็นผลไวมาก ไม่กี่ชม. เห็นผลเลย ร้อนกันเพียบเลย(หัวเราะ)"

หมอปลา : "อีกวันประชุมกันใหญ่โต เป็นเรื่องใหญ่โต แค่ปักธูปกลับ"

หมอปลา : "มันอยู่ที่เจตนาอย่างเดียว ก็ลุงพลแกไม่สบายใจ ในการสาบานวันนั้น ผมถามว่าใครเป็นกลาง ไม่มีใครเป็นกลาง"

หมอปลา : "ไม่มีสิทธิ์หรอก ผมไปหาลุงพล ไม่ได้ไปหาเขา เขามีสิทธิเหรอ"เขาบอกเข้าไปแล้วไป

หมอปลา : "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านผมก็ไม่ลบหลู่ ลุงพลก็ไปกับผมตลอด เรื่องศาลก็ไม่แตะ ไม่ทุบ ถามลุงพลได้ ผมไปหาเห็ดมากิน ไม่ได้ลบหลู่อะไรเลย แต่เคสน้องชมพู่ เมื่อคุณไม่ได้มีส่วนร่วมกับการทำให้น้องชมพู่ตาย คุณอย่ามาตีโพยตีพาย เอาความจริงสิ เอากฎหมายมา ไม่ใช่เอากฎหมู่ แต่นี่คุณเล่นกฎหมู่"

หมอปลา : "ไปแน่ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์"

ป้าแต๋น : "ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ไปถามผู้เฒ่าผู้แก่ เขาบอกให้ไปขอขมาก็จบ ความเชื่อก็ไม่แน่ใจ แต่เขาไม่เคยเห็นแบบนี้กับสถานที่ที่มีพระ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ ส่วนมากเป็นที่อื่น เขาไม่เคยเห็น อาจเป็นบางคนที่จุดอะไรขึ้นมา คนอื่นที่เข้าไปบางทีเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประชุมอะไร เขาไปฟังเฉยๆ เขาบอกมาแบบนั้น"

ป้าแต๋น : "ไม่ได้คุย แต่วันที่ไปสาบานเราก็ถามเขาเพราะว่าใส่รองเท้าบูทมา ฝนตก"

ป้าแต๋น : "ก็ถามแค่นั้นแหละ เขาบอกใส่บูทมาฝนตกมันลื่น"

ป้าแต๋น : "ก็คงเป็นห่วง แต่ไม่พูด"

ป้าแต๋น : "ก็ได้นะ"

ป้าแต๋น : "ก็ไม่แน่ใจ ตอนแรกไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ท้ายๆ มาเขวไปทางอื่น ก็อาจจะมี"

ป้าแต๋น : "ก็คนในหมู่บ้านล่ะมั้ง เราก็คิดของเรา เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้"

ลุงพล : "ก็เห็นว่ามองจ้องนานเหลือเกิน ก็ถามว่ามองหน้าทำไม เราจะทำพิธีสาบานอยู่แล้ว จะจุดธูปไหว้พระอยู่แล้ว เขาก็มองจ้องเขม็ง"

ลุงพล : "ไม่ครับ ไม่มีความคิดจะทำร้ายญาติตัวเอง"

ลุงพล : "ถ้าเรื่องนี้จบด้วยดี พ่อแม่ชมพู่ และเราเข้าใจซึ่งกันและกัน ก็คงมีโอกาส แต่ต้องใช้เวลา"

ลุงพล : "ไม่ เรื่องที่ไปคุยกับพระอธิการบุญมา ผมไม่ได้ลบหลู่ท่านนะ ท่านอาจอายุเยอะแล้ว คำพูดที่ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ อาจไม่ตรง ก็ไปเตือนท่านเฉยๆ ว่าถ้าตรงไหนมันไม่ใช่ก็อย่าไปพูดย้ำบ่อยเพราะทำให้ผมแย่"

ลุงพล : "ไม่ครับ"

ลุงพล : "ผมก็ไปถามความจริงเขาว่าเจอผมตอนกี่โมง อยากรู้ว่าเขาจำถูกช่วงถูกเวลามั้ย ซึ่งเขาบอกว่าเจอผม 09.20 น. ซึ่งเวลานั้นผมยังจับจีพีเอสสวนมันกับแม่น้องชมพู่อยู่ ผมก็แค่บอกเขาว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ ผมก็บอกเขาแค่นั้น ก็ให้เขากลับไปคิดเอง"

ลุงพล : "ไม่ใช่ร้อนตัว แต่ความจริงไม่ใช่ เลยไปพูดเตือนสติเขา ไม่ได้ข่มขู่"

หมอปลา : "ไม่กลัว ผมไม่ใช่ลุง (หัวเราะ)"

หมอปลา : "(หัวเราะ)"

หมอปลา : "ยินดีและจะเอาทนายระดับประเทศไปช่วย ยังไงผมก็ไม่ทิ้ง ไม่มีคำว่าทิ้งลุงพลเด็ดขาด ผมมั่นใจและเชื่อ"

หมอปลา : "ประมาณนั้น ผมคือผู้วิเศษ (หัวเราะ) ผมเชื่อว่าเขาเป็นผู้บริสุทธ์ล้านเปอร์เซ็นต์"

ปลา : "จะแหกได้ไง คนมันไม่ได้ทำความผิด จะแหกได้ไง แล้วมีพวกสงข้อความมาทางอินบ็อกซ์ โทรมาว่าระวัง ขอโทษนะไม่ต้องเผือกเรื่องผม เผือกเรื่องครอบครัวคุณเถอะ ผมรู้ผมทำอะไรอยู่ และที่สำคัญผมไม่ได้เอาเงินพวกคุณมาใช้จ่ายเลย ลุงพลไม่ต้องกลัว ผมสัญญาว่าจะเป็นอะไรก็แล้ว ผมจะจัดการหมดทุกอย่าง"

ลุงพล : "สบายใจครับ"

ป้าแต๋น : "สร้างบ้านให้ (จะร้องไห้) มาช่วยสร้างบ้าน และมีคนให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านมาเยอะ"

ลุงพล : "ดีใจครับ ที่เขาเห็นคุณค่าความดีของเรา"

ป้าแต๋น : "ลูกดีใจ บอกว่าแม่จะได้บ้านสวยแล้วเหรอ ขอบคุณคนที่มั่นใจว่าเราไม่ทำกับหลาน สิ่งที่เราทำช่วยหลาน ช่วยน้องทุกคน มันเป็นสิ่งที่ดี เขามองเห็นเรา"

ลุงพล : "เชื่อมั่นในความดี คิดว่าอีกไม่นาน"

ลุงพล : "ไม่คิดตรงนั้น คิดว่าตร.คงมีหลักฐาน"

ลุงพล : "เมื่อวันสองวันก่อนมีตร.มาถามเรื่องความเป็นอยู่"

ลุงพล : "ก็ไม่เหนื่อย"

ลุงพล : "ผมไม่เคยพูดคำว่าเบากว่านี้ ไม่เคยพูด"

ลุงพล : "มีหลักฐานอะไรมั้ยล่ะที่ได้ยิน ขนาดวันที่พาชมพู่ลงมา บอกว่าผมมีการเอ่ยชื่อว่าคนนี้คนนั้นฆ่าน้อง มีหลักฐานหรือเปล่าว่าผมพูดตอนไหน รู้มั้ยคนเดินนำหน้าผมมีใครบ้าง คนเดินข้างหลังยังจำได้เลยว่าใครบ้าง แล้วคนไหนพูดใส่ผม คนพูดกล่าวหาใส่ร้ายผมให้เอาพยานมาเลย คนที่หาว่าผมไปเอ่ยชื่อเขาน่ะ ชื่ออะไร ผมจำได้หมด เราเดินลงมาไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียว เพราะต่างคนต่างเดินลงมา"

ลุงพล : "ไม่ค่อยได้ขึ้นภูเหล็กไฟ อย่างมากก็ไปหาเห็ดเผาะแถวๆ ใกล้ๆ ก็พอกินแล้ว"

ลุงพล : "ผมว่าสื่อเขาพยายามช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น ผมก็เข้าใจนะ ถ้าเขาพยายามสอบถามพยานแวดล้อมและมานำเสนอ มันก็อาจจะช่วยอีกทางหนึ่ง ก็เลยอยากใหสื่ออยู่ในพื้นที่ว่าคดีนี้จะจบยังไง"

ลุงพล : "เจ้าหน้าที่เขาต้องแยกแยะนะครับ ระหว่างสื่อกับการทำงานตร. ตร.ไม่ได้มาเอาหลักฐานกับสื่อ เขาจะอยู่ไปตลอดเลยก็ได้ ถ้าเขาอยากทำข่าว ทุกสื่อนะ ถ้าอยากอยู่ ตร.เขาก็ทำหน้าที่ของเขา คนละอย่างกัน ไม่เกี่ยวกัน"

ลุงพล : "ไม่เสียใจที่สื่อเขายังอยู่ ก็ต้องขอบคุณสื่อด้วยซ้ำไป"

หมอปลา : "ไม่ต้องกลัวอะไร เราไม่ได้ทำผิด กลัวอะไร แค่นี้แหละ สั้นๆ ได้ใจความ วันจันทร์ผมลงพื้นที่ ไม่ต้องมาไล่ผม ผมไม่ใช่ลุง มาไล่ผมทำไม"

คลิป

vvvvvvv

vvvvv

vvv

v