พระ ปัดชวนสาวหายตัวปริศนาเล่นแชร์ forex-3d-ครอบครัวโต้กลับหนังคนละม้วน!
แม่ : "26 ป่ค่ะ น้องป่วยมาหลายปีก่อน แกมีอาการซึมเศร้า"
อภิสทธิ์ : "ตอนแรกเรียนอยู่มหาลับ มีอาการปวดหัว น้องบอกว่าไม่สามารถเรียกต่อได้ ก็กลับมาบ้าน แล้วที่บ้านมีอาการแปลกๆ มีคืนนึงน้องบอกว่าถ้าหนูมีอาการแปลกๆ แม่อย่าจับตัวหนูนะ น้องนั่งสมาธิ สักพักเสียงดัง ท่องบริกรรมอะไรไม่รู้ พุทโธๆ แล้วอาการมันออก แม่ก็ตกใจไปจับตัว บอกว่าพอแล้ว ให้หยุด นี่จากที่แม่เล่าให้ฟัง"
หลังจากนั้นแม่เลยพาน้องไปฝากไว้ที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง?
อภิสิทธิ์ : "ครับ แม่เชื่อว่าถูกของ ไสยศาสตร์ เลยพาไปสำนักสงฆ์วัดป่าเทพนิมิต ชื่อเป็นวัด แต่ไม่ใช่วัด จริงๆ เป็นสถานปฏิบัติธรรมเท่านั้น"
พาไปเมื่อไหร่?
อภิสิทธิ์ : "เมื่อสองปีก่อน ตอนปี 61"
ไปๆ มาๆ เหรอ?
อภิสิทธิ์ : "จะออกมาเมื่อมีธุระสำคัญ พาแม่ไปธุระสำคัญหรือพาไปติดต่อธุรกรรมการเงิน ออกมาก็ไม่เคยนอนบ้านเลย จะนอนที่นั่นเลย"
กลางวันมีกลับมาแต่ไม่ทุกวัน?
แม่ : "ไม่ค่อยกลับค่ะ"
อภิสิทธิ์ : "กลับมาตอนมีธุระสำคัญ"
แม่ : "อยากได้อะไรก็โทรมา แม่เอาไปส่งให้"
น้องไปอยู่ที่นั่นอาการเป็นยังไง?
แม่ : "อยู่กับเพื่อนก็ดีขึ้น ร่าเริงดี แต่แม่ดูแล้ว ไม่ดีขึ้น เขาบอกแม่ว่าให้แม่ทำบุญนะ แก่แล้ว อาการก็ไม่ดี เขาผอม อยากจะได้เงินไปทำบุญ"
อภิสิทธิ์ : "ใช่ครับ ขอไปทำบุญ"
แม่ : "แกพูดเรื่องอดีตชาติอย่างนั้นอย่างนี้"
อภิสทธิ์ : "ก่อนเข้าปฏิบัติธรรม แกก็ไปฝึกสมาธิอะไรอย่างนี้ เขาบอกว่าเห็นอดีตชาติ"
อาการไม่ดีขึ้นเลย?
อภิสิทธิ์ : "ดูแล้วไม่ได้ดีขึ้น แต่น้องบอกว่าเขาดีขึ้น"
จนตัดสินใจกันแม่ลูก ว่าจะพาน้องไปรักษา พาไปหาหมอ วันที่เท่าไหร่?
อภิสทธิ์ : "วันที่ 10 ส.ค. พาไปรักษาที่รพ.ดอนตาล มุกดาหาร ไปแผนกจิตเวช เขาก็จะมีพยาบาลจิตเวชมาประเมินอาการน้อง ประมาณ 2 ชม. เขาบอกว่าเข้าข่ายซึมเศร้าครับ ตัวน้องไม่รู้แต่พยาบาลเขารู้ พอพยาบาลประเมินเสร็จ ก็ส่งให้หมอเป็นผู้วินิจฉัย พอหมอวินิจฉัยเสร็จก็บอกว่าให้ส่งตัวรักษา วันนั้นคือวันที่ 11 ส.ค.ครับ"
เตรียมการส่งตัว หลังจากนั้นเป็นยังไง?
อภิสิทธิ์ : "พาไปนอนที่บ้านน้า นอนกับแม่และน้า น้าอยู่ข้างบน แม่อยู่ข้างล่าง ตอนนั้นผมกลับไปรพ. ไปคุยกับพยาบาล อยากรู้อาการน้อง"
น้องหายไปกี่โมง?
อภิสิทธิ์ : "ประมาณห้าทุ่มครับ ตอนแรกผมคุยกับพี่พยาบาลถึงห้าทุ่ม พอห้าทุ่มน้าโทรมาหาว่าอยู่ไหน น้องหายไปแล้ว ไม่รู้ไปไหน ผมก็ใจสั่นกลัวจะไปทำร้ายตัวเอง ตกใจมาก รีบขับรถกลับมาจากรพ. โทรหาน้ามาช่วยกันตามหา ก็ช่วยกันตามหาคาดว่าเส้นทางที่น้องจะไป วันนั้นเอารถยนต์กันไป 3 คน"
อภิสิทธิ์ : "เห็นรอยเท้าครับ วันนั้นฝนตกด้วย แล้วเป็นโคลน ถนนลูกรัง ก็ไปดูเส้นทางเพราะก่อนน้องหายตัวไป คือศรัทธาพระมาก บอกว่าจะกลับไปที่วัดป่า เพราะผูกพันมาก อยู่มา 2 ปีมีความผูกพัน ผมก็เลยคิดว่าจะไปเส้นนี้หรือเปล่า ก็ตามไปแล้วบังเอิญเห็นรอยเท้า"
มั่นใจได้ไงว่าเป็นรอยเท้าน้อง?
อภิสิทธิ์ : "เป็นรอยเท้าเล็กๆ ของผู้หญิง เวลานั้นไม่มีคนออกมาแน่นอน"
คุณทำงานอะไร?
อภิสิทธิ์ : "ผมทำงานรับราชการ เป็นตชด."
คุณมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว?
อภิสิทธิ์ : "ครับ ผมอยู่ในป่าอยู่แล้ว ก็ขี่รถตามไป ดูเป็นช่วงๆ ว่ารอยเท้าอยู่มั้ย พอถึงแยกก็ยังไปตามเส้นทาง"
ทั้งหมดกี่กิโล?
อภิสิทธิ์ : "5 กิโล ตามไปจนถึงหน้าวัดเลยครับ"
พอเห็นแบบนั้นเป็นไง?
อภิสิทธิ์ : "ตอนแรกผมคิดว่าน้องคงกลับไปนอนที่นั่น พอเห็นรอยเท้าใจเริ่มมา น้องยังอยู่ ก็ไปถึงประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ มันดึกแล้ว ใจเราก็อยากเข้าไปตอนนั้นเลย แต่มันดึกแล้ว ถ้าเข้าไปกลัวไม่เหมาะ เลยตกลงกับน้าว่ากลับมาที่บ้านมาคุยกันก่อนจะเอายังไงกันต่อ พอวันที่ 12 ก็เข้าไปถามดูทางพระ แม่ชี เขาบอกว่ามีญาติโยมทำบุญค่อยไปดูทีเดียว แต่เราไม่ได้จะไปค้น เราขอเปิดดูเฉยๆ ถ้าเจตนาบริสุทธิ์ก็น่าจะให้ดู ที่อยากจะพาน้องออกมา ปกติวัดเป็นที่สงบ ปฏิบัติธรรม แต่การนำเงินไปลงทุน เป็นทางโลก ผมมารู้เรื่องจากน้าว่าแม่เอาเงินไปลงทุน"
แม่ : "น้องเรียกจากแม่ไปลงทุน"
แม่ : "เอาที่ดินเข้าธกส. 14 ไร่"
เอาเงินแสนห้าให้ลูกสาวไป บอกว่าเอาไปลงทุนกับพระ?
อภิสิทธิ์ : "ครับ พระเป็นคนเชิญชวน น้องก็มาบอกแม่"
แม่ : "เขาบอกว่าเพื่อนเขาลงไปแล้ว เหลือแต่มันคนเดียว"
อภิสิทธิ์ : "ตอนแรกไม่รู้เอาเงินลงทุนไปทำอะไร ก็เข้าไปคุยกับพระด้วย ว่าลงทุนอะไร"
ตอนนี้สงสัยอะไรที่สุด?
อภิสิทธิ์ : "วันแรกที่หายไป ผมมั่นใจว่าน้องอยู่ที่วัด เพราะรอยเท้าจบที่นั่น ขอเข้าไปตรวจสอบ พระก็ไม่ให้ตรวจสอบ วันนี้ก็ยังสงสัยอยู่ว่าต้องอยู่ในนั้น"
เห็นว่าเจอรองเท้าแตะ?
อภิสิทธิ์ : "เจอตอนหลังครับ ตอนกลางวัน เป็นรองเท้าของน้าที่น้องใส่ไปวันนั้น เจอห่างจากหมู่บ้าน 500 เมตร ใกล้ๆ ลำห้วย ที่ผมเห็นรอยเท้า ตอนแรกคิดว่าออกจากบ้านน้องไม่ได้ใส่รองเท้าไป พอมาถามแม่ แม่บอกใส่ไป เราก็อ้าว เส้นทางที่ผมไป ผมอ้อมไปอีกเส้นแล้วเจอเท้าเปล่า แสดงว่าถ้าใส่รองเท้าก็ต้องถอดไว้ที่ไหนสักแห่ง กลางวันผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาดู ก็เจอทิ้งอยู่"
พระอาจารย์คำนวณ : "ใช่ เรายืนยันว่าไม่มี"
น้องอยู่ที่นั่นกี่ปี?
พระอาจารย์คำนวณ : "รู้สึกจะ 2 ปีกว่า จำไม่ได้ แต่ 2 ปีแน่นอน"
น้องเจี๊ยบมีอาการยังไง?
พระอาจารย์คำนวณ : "ก็อาการปกติ"
มีอาการซึมเศร้ามั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "เขาปกติ ชอบอ่านพระไตรปิฎก นั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะ"
สำนักสงฆ์ทำอะไรบ้าง?
พระอาจารย์คำนวณ : "เดินจงกลม นั่งสมาธิ ทำโรงครัว สวดมนต์ปกติ"
ที่เขาบอกทางหลวงพี่มีการชักชวนให้เอาเงินไปลงทุนForex ?
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่มี"
แล้วที่บอกว่าทางท่านมีการชักชวนน้องเจี๊ยบให้เอาเงินแสนห้าไปลงทุนForex ?
พระอาจารย์คำนวณ : "โยมน้าพระอาจารย์ เขามีโรงเรียนเป็นเอกชนของเขา เขาสร้างโรงเรียน แต่กิจการอะไรเขาพระอาจารย์ไม่รู้ ทีนี้แม่ของเจี๊ยบเขาเคยไปที่โรงเรียนโยมน้าพระอาจารย์ตอนเราไปทำบุญแล้วไปแวะ เจี๊ยบไปด้วย โยมน้าพระอาจารย์ก็พูดเรื่องจิต เรื่องการภาวนา เรื่องสร้างอาชีพต่างๆ นานา"
เรื่องลงทุนนั่น Forex แหละ ถูกมั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่ๆ เรื่องเงินที่มาสร้างโรงเรียนคืออะไร เป็นเงิน Forex มั้ย ได้ยินว่าForexๆ กำไรยังไง"
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่ได้ชวน แค่ไปนั่งฟังเอา"
ใครอยากลงเงินเองก็มา?
พระอาจารย์คำนวณ : "ถูกต้อง"
แล้วผลตอบแทน เห็นว่าน้องเจี๊ยบลงแสนห้าต้องได้ 6 พัน?
พระอาจารย์คำนวณ : "โยมน้าก็บอกว่าแสนห้าถ้าจะลงทุนไม่ต้องหรอก อัตราเสี่ยงมันเยอะเรื่อง Forex ถ้าจะทำให้ผมยืมเลย"
ตกลงน้ายืมเงินน้องเจี๊ยบ เจี๊ยบไม่ได้เอาเงินไปลงทุน?
พระอาจารย์คำนวณ : "ใช่ โยมน้าบอกว่าผมไม่เอาคนภายนอกเพราะกลัวมีปัญหา จะเอาเฉพาะญาติที่มาสร้างโรงเรียน ถ้ามีเงินให้ยืมกก็ให้ดอกมากกว่าธสก. รู้สึกร้อยละ 4 มั้ง"
แสนห้าได้ประมาณ 6 พัน แล้วตัวน้องเจี๊ยบได้เท่าไหร่?
พระอาจารย์คำนวณ : "ได้ 6 พัน"
แต่ถึงมือน้องแค่พันเดียวถูกมั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "เงินที่น้องเจี๊ยบได้คือเงินที่พระอาจารย์ให้น้องไปซื้อของแต่ละเดือน บางเดือนก็ได้ บางเดือนก็ไม่ได้ ให้เขาไปซื้อของพูดง่ายๆ เป็นเงินอนุเคราะห์คนที่อยู่ในวัด ไม่ต้องเดือดร้อนพ่อแม่ ให้อยู่ใช้ที่นี่"
ตกลงถึงมือน้องเจี๊ยบเท่าไหร่?
พระอาจารย์คำนวณ : "ตกลงก็คือเราไม่มีส่วนแบ่งให้น้องเจี๊ยบเลย พระอาจารย์ไม่ได้เอาไป ในสัญญาเจี๊ยบสัญญาโดยพี่ชายเขากับแม่นั่นแหละเซ็นเป็นพยาน"
อภิสิทธิ์ : "ตอนแรกท่านไม่ได้ทำสัญญาอะไรให้เลย ผมเลยตามไปเพื่อให้ทำสัญญาให้หน่อย แต่พอทำสัญญาออกมา กลายเป็นว่าพี่ชายของพระเป็นคนกู้เงิน ส่วนน้าเป็นคนเอาเงินไปลงทุน"
ตกลงเขาต้องให้เงินน้องเราเท่าไหร่?
อภิสิทธิ์ : "เขาตกลงจะให้เดือนละ 6 พัน วันแรกผมไปถามแล้ว วันที่ไปตามหาน้องวันแรก พระอาจารย์บอกว่าจะให้น้องเดือนละ 6 พัน จากการนำเงินไปลงทุน พระอาจารย์ตอบว่าได้ อีก 5 พันอยู่กับพระอาจารย์ ให้น้องใช้เดือนละ 1 พัน ผมก็ถามว่าทำไมไม่โอนเงิน 6 พันให้น้องโดยตรงเลย เขาบอกไม่ไว้ใจเขา เขายังเด็กอยู่"
พระอาจารย์คำนวณ : "โดยเฉลี่ยแล้วน้องจะได้ 6 พัน"
ตกลงเป็นน้าหรือพระอาจารย์กันแน่ เพราะดูรู้เรื่องมากกว่าน้า?
พระอาจารย์คำนวณ : "ตัวน้า คือน้าเขาให้ 6 พัน แต่เพื่อความสบายใจ ถ้ามีความจำเป็นก็ให้เจี๊ยบมาเอาเงินกับพระอาจารย์ก็ได้"
6 พันสรุปเจี๊ยบได้มั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "6 พันถามโยมน้าพระอาจารย์แล้ว เขาบอกว่าสิ้นปีแต่ละปีเขาให้ดอกเบี้ย"
แต่พี่ชายบอกพระอาจารย์เก็บไว้ 5 พัน ให้เจี๊ยบแค่พันเดียว แล้วพระอาจารย์เก็บเงินน้องเขาไว้ทำไม?
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่ พระอาจารย์ไม่ได้เอาเงินเขามา"
ตอนนี้เขาขอเข้าไปค้นทั้งหมดเลยได้มั้ยที่สถานปฏิบัติธรรม?
พระอาจารย์คำนวณ : "เมื่อวาน ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกฯ อบต. ปลัดอำเภอ ชาวบ้านมาที่นี่ 100 คนให้ตรวจกุฏิ ตรวจอะไรหมดเลย แต่ไม่เจอ"
วันนี้เราก็รู้สึกว่าน้องน่าจะอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งนั้น หรือคนในสำนักสงฆ์ต้องรู้?
อภิสิทธิ์ : "ต้องรู้ เพราะมันมีพิรุธตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปตามแต่เขาไม่ให้ค้น ให้ดูแค่ห้องที่น้องอยู่ เจตนาไม่บริสุทธิ์"
น้า : "ผมคิดอย่างนั้น จากการที่ผมเป็นผู้ปกครองท้องที่ เป็นผู้ใหญ่บ้าน หลังจากได้รับแจ้งก็ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่าที่จะประสานได้ ไม่ว่าจะตร. กำนัน อบต. แต่การเข้าค้นหาต้องมีการขออนุญาตจากเจ้าสำนักสงฆ์ วันนั้นญาติเข้าไปก่อน เราเข้าไปตกเย็นแล้ว วันที่ 13 ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปวันที่ 14 มีเจ้าหน้าที่ศูนย์พึ่งพาได้ โรงพักเข้าไปด้วย ก็อนุญาตเฉพาะจุดที่ท่านอนุญาตเท่านั้น ส่วนเมื่อวานที่พระอาจารย์ท่านว่า หน่วยงานหลายหน่วยงานเข้าไปเป็นพยาน เจ้าหน้าที่ตร.สองโรงพักด้วยเข้าไปหมด"
จุดสงสัยมีมั้ย?
น้า : "หลักฐานที่ยืนยันชัดเจนคือจากคำบอกเล่าของแบงค์ พี่ชาย ที่ไปสุดตรงนั้น ตั้งแต่วันแรกที่หาย"
บริเวณสถานปฏิบัติธรรม ในป่า หาหมดหรือยัง?
น้า : "เท่าที่หาเมื่อวาน ตามกุฏิ ตามเส้นทาง แต่เนื่องจากวัดมีบริเวณกว้างมาก เป็นป่าเป็นอะไร ก็ยังดูไม่ละเอียดพอ"
แบงค์ตั้งประเด็นการหายตัวไปบ้างมั้ย?
อภิสิทธิ์ : "คิดอยู่ครับ ประเด็นแรกคือน้องไปรักษาที่รพ.จิตเวช เขาทำหนังสือส่งตัวเรียบร้อย หมอลงความเห็นแล้ว มียามาให้กิน เขาบอกหนูไม่กินยาได้มั้ย เขาก็แปลกๆ สร้างเงื่อนไข ถ้าไม่ให้กินจะไปเรียน"
สองปีที่ผ่านมาเขาก็ไปเรียนหนังสือ?
อภิสิทธิ์ : "เขาไม่ได้ไปเลย ทางมหาวิทยาลัยรออยู่ พระสอนว่าถ้าไปเรียนจบมาเป็นครู เงินเดือนเท่าไหร่ มาอยู่กับพระอาจารย์ พระอาจารย์มีเงินให้ใช้ มั่นคงกว่าอาชีพอื่นๆ"
พระอาจารย์แนะนำเจี๊ยบว่าไม่ต้องไปเรียนเหรอ?
พระอาจารย์คำนวณ : "คิดว่าพระอาจารย์จะพูดมั้ยล่ะ"
ท่านบอกว่าท่านไม่ได้พูด แต่แม่ยืนยันได้ยินกับหู พระอาจารย์บอกเจี๊ยบต่อหน้าแม่ และได้ยินกันหลายคน บอกว่าถ้าไปเรียนเป็นหนี้เขา เงินไม่พอใช้ ถ้าอยู่กับพระอาจารย์จะมีเงิน ทำไมบอกอย่างนั้นล่ะ?
พระอาจารย์คำนวณ : "ทำไมสรุปว่าพระอาจารย์พูดล่ะ พระอาจารย์บอกว่าเจี๊ยบให้น้องใช้เหตุผล หนึ่งน้องต้องชั่งน้ำหนักตัวเองว่าไปเรียนหนังสือได้มั้ย ดูสุขภาพตัวเอง สองถ้าตอนนี้เรียนไม่ได้ น้องดร็อปก็ได้ สามถ้าน้องตั้งใจปฏิบัตธรรม น้องอย่าเดินครึ่งทาง เราโตแล้วให้เราตัดสินใจเอง ไม่มีใครบังคับ"
แต่ตอนแรกพระอาจารย์ไม่ได้ป่วย แล้วไปบอกให้น้องดูแลสุขภาพตัวเองทำไม?
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่ๆ หมายถึงให้ชั่งน้ำหนักใจตัวเองว่าจะไปยังไง มายังไง ให้ใช้เหตุผลใคร่ครวญตัวเอง ประเมินตัวเอง เราประเมินแทนไม่ได้"
ขอทวนข้อสองหน่อย?
พระอาจารย์คำนวณ : "ให้ประเมินตัวเองว่าไปเรียนได้มั้ย สองถ้าเราไม่ไปเรียน เราจะไปทางพุทธศาสนามั้ย ถ้าไปเรียนไม่ได้ไปดร็อปไว้ก่อนได้มั้ย ให้น้องประเมินตัวเอง"
พระอาจารย์คำนวณ : "พระอาจารย์รับถวายแต่ไม่เอา ถ้าเจี๊ยบอยากใช้ค่อยมาเอา"
ตอนนี้เจี๊ยบไม่อยู่ จะไปคืนใคร?
พระอาจารย์คำนวณ : "ก็คืนให้เจี๊ยบเขาแหละ มามั้ยไม่รู้ แต่ถ้าไม่มาก็คืนให้แม่เขาไป"
แสนห้าตกลงแม่ให้ใคร?
พระอาจารย์คำนวณ : "ให้โยมน้าพระอาจารย์"
แม่เป็นคนเอาเงินไปให้ใคร?
แม่ : "ให้น้องไปเอาเงินที่ธกส. กับพี่ชายพระอาจารย์ เป็นเงินสด"
ทำไมถึงแนะนำให้ลูกศิษย์ลูกหาไปลงทุน?
พระอาจารย์คำนวณ : "พระอาจารย์ไม่ได้แนะนำ ให้ไปฟังเอง ใครอยากลงก็ลง"
ทำไมไม่ห้ามล่ะ สถานปฏิบัติธรรมไม่ควรมีเรื่องนี้หรือเปล่า?
พระอาจารย์คำนวณ : "จะห้ามยังไง พระอาจารย์ก็บอกว่าพาไปบ้านโยมน้า พาไปทำบุญมา แล้วแวะบ้านโยมน้า คุยกันเรื่อยเปื่อย คุยตามประสาญาติๆ ว่าร่ำรวยแล้ว มีเงินแท้ เราพูดในเชิงวิสาสะ"
พี่ชายกับน้าพระอาจารย์จะคืนเงินเขามั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "คืน สิ้นปีเขาคืนให้หมด ถามเขาแล้ว"
พร้อมดอกเบี้ยเดือนละ 6 พัน?
พระอาจารย์คำนวณ : "พร้อมดอกเบี้ย 6 พัน เพราะพอมีปัญหา ก็ถามน้าว่ายังไง น้าบอกว่าจะให้คืนเขาเอง พระอาจารย์ไม่ได้เป็นคนเอาเงิน น้าเป็นคนเอาเงิน และจะคืนให้เขาเอง ถ้าใครอยากคุยให้ต่อสายเลย น้าเป็นคนเอาไม่เกี่ยวกับพระอาจารย์"
ห่วงเจี๊ยบมั้ย?
พระอาจารย์คำนวณ : "ห่วงมาก ถ้าเจี๊ยบได้ยินหรือเห็นข่าว ก็ให้โทรมาที่วัดหรือที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ที่จะสามารถรู้ได้ว่าเจี๊ยบอยู่ตรงไหน พระอาจารย์ไปตามหา วันที่รู้ว่าเจี๊ยบหาย ให้ลูกศิษย์ขับรถตามหารอบๆ มุกดาหาร"
พระอาจารย์คำนวณ : "พระอาจารย์ไม่แน่ใจว่ามายังไง ไปยังไง ไม่รู้ว่าหายจริงหรือเปล่า พระอาจารย์ก็บอกว่าทำไมมาไม่ให้เกียรติพระอาจารย์เลย ลูกศิษย์ลูกหาพระอาจารย์ไม่ทำหรอก พระอาจารย์ให้ค้นกุฏิที่จำเป็น จะค้นกุฏิทุกกุฏิไม่ได้ เพราะมันไม่เกี่ยวกับพระไง"
เขาบอกขอแค่ให้เปิดไปดูหน่อย?
พระอาจารย์คำนวณ : "คนไม่ได้ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าไง"
เขาบอกอยากดูในโรงครัวก็ไม่ให้ดู?
พระอาจารย์คำนวณ : "ให้ดูแล้ว แต่เขาไม่ดูเอง"
สามคนพูดตรงกันว่าวันแรกไม่ให้ดู ไม่ให้แตะ ให้ดูแค่ที่เดียว?
พระอาจารย์คำนวณ : "เราพากันไปดู วันที่บอกว่าน้องหายเราก็พากันไปดู มันมีข้อสังเกตตรงที่ว่าเสื้อตัวนึงห้อยอยู่บนข้างหน้ากุฏิ เขาบอก แล้วมันหายไป เจี๊ยบไม่มีที่นี่จริงๆ เหรอ นี่ที่ตั้งสมมติฐานกัน"
แม่นั่งกอดอกเบื่อหน่าย หมดอาลัยเลย เหมือนพระพูดไม่ตรงข้อเท็จจริง?
แม่ : "ให้ดูกุฏิหลังเดียว หลังอื่นไม่ให้ดู"
เห็นบอกว่าสำนักพุทธ เจ้าคณะจะไปตรวจสอบแล้วนะ?
พระอาจารย์คำนวณ : "มาแล้วนะ เขาไม่ได้พูดอะไร มาวันที่มาพร้อมๆ กันนั่นแหละ สำนักพุทธไม่ได้พูดอะไร"
สำนักสงฆ์มีเรื่องการดูดวงด้วย?
พระอาจารย์คำนวณ : "มีอยู่บ้าง ก็ทั่วๆ ไปแหละ แต่ให้ไปทำบุญมากกว่า"
ให้ความร่วมมือทุกอย่าง?
พระอาจารย์คำนวณ : "ใช่"
เขาสงสัยว่าพระอาจารย์อาจมีส่วนรู้เห็นในการที่น้องเขาหายไป?
พระอาจารย์คำนวณ : "มันก็มีสิทธิ์ที่เขาจะสงสัยเพราะน้องศรัทธาเลื่อมใสที่นี่ ถ้าเป็นพระอาจารย์ก็ต้องสงสัยอยู่แล้ว เพราะเขาปฏิบัติธรรมที่นี่ 2-3 ปี ไม่ได้บอกว่าการสงสัยผิดนะ การสงสัยเป็นจิตวิญญาณมนุษย์"
ทำไมตอนน้องเจี๊ยบไปอยู่สถานปฏิบัติธรรม 2 ปีไม่กลับบ้าน ทำไมไม่บอกให้ลูกเขากลับบ้าน ในฐานะเป็นพระ?
พระอาจารย์คำนวณ : "นิสัยพระอาจารย์ไม่บอกแบบนี้ ทุกคนที่มาก็ให้ตัดสินใจเอา ไม่ได้บอก ไม่ใช่เฉพาะเจี๊ยบนะ คนอื่นด้วย โตแล้ว จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ให้ตัดสินใจเอา ถ้าอยากไปก็ให้ไปได้เลย ไม่ห้าม แต่ให้ใช้เหตุผลว่าเหตุผลที่ไปเพราะอะไร ถ้าบอกว่าผมไม่สามารถปกครองท่านได้ ก็ให้ท่านไป ไม่ห้าม"
สองปี ลูกศิษย์ลูกหาต้องมีเงินมาทำบุญ ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ไม่งั้นลำบาก?
พระอาจารย์คำนวณ : "ใช่"
พระอาจารย์คำนวณ : "ไม่มีๆ มีแต่พี่ชายเป็นคนกู้ และเงินจำนวนนี้ไม่ได้ถวายพระอาจารย์เลย ไม่ผ่านมือพระอาจารย์เลย ดอกเบี้ยไม่ได้เก็บไว้ให้ เงินที่เก็บไว้ให้คือเงินหมื่นห้า"
ท่านบอกว่าท่านเก็บมั้ย?
อภิสิทธิ์ : "เก็บครับ มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงครับ"
พระอาจารย์คำนวณ : "ประโยคที่บอกว่าอยู่กับพระอาจารย์ หมายความว่าพระอาจารย์จะติดต่อโยมน้าให้เอง ไม่ได้หมายถึงเงินอยู่กับพระอาจารย์ ขึ้นอยู่กับพระอาจารย์จะติดต่อน้าให้ได้วันไหน พระอาจารย์ยืนยันว่าพระอาจารย์ติดต่อโยมน้าแล้ว โยมน้าบอกว่าจะให้"
วันนี้จะเอายังไง?
อภิสิทธิ์ : "ก็ยังค้นหาไปเรื่อยๆ"
คิดว่าน้องยังอยู่มั้ย?
อภิสิทธิ์ : "ผมคิดว่ายังอยู่"
แม่ : "แม่ก็ไม่มั่นใจ"
พี่ชายห่วงน้องสุดๆ?
อภิสิทธิ์ : "เป็นคนส่งน้องเรียนด้วย"
ต้องลงไปยะลาเมื่อไหร่?
อภิสิทธิ์ : "ต้นกันยายน"
น้า : "การค้นหาต้องทำให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ปกครองท้องที่ เป็นน้าและเป็นผู้ใหญ่ด้วย"
ถ้าน้องดูอยู่ อยากบอกอะไร?
อภิสิทธิ์ : "อยากให้กลับบ้าน ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรา ไปอยู่ที่วัดที่นั่นก็ไม่มีญาติสักคน รู้จักแค่ไม่กี่ปี แต่นี่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ส่งเรียน"