แม่แนท เปิดหน้าชนเจ้าหนี้ ยันหนี้สินของตนคนเดียว ไม่คิดหนีชัวร์ (คลิป)

แม่ทำอาชีพอะไร?
แม่ต่าย : "แม่ก็รับงานกับลูกก่อนทำโมเดลลิ่ง รับงานพวกถ่ายงานถ่ายอะไร รีวิวสินค้า อีเวนต์ รับมานานมากแล้วค่ะ ทำโมเดลลิ่งของตัวเอง ไม่มีหุ้นส่วน ถ้าลูกค้าจะติดต่อก็ติดต่อผ่านเราได้"

กิจการเป็นยังไง?
แม่ต่าย : "ช่วงแรกๆ โอเคค่ะ แต่มีปัญหาช่วงโควิด แม่อยากได้เงินเพิ่มมากขึ้นก็เลยไปลงทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ก็ลงเยอะหลายล้านค่ะ"

เจ้าหนี้คุณแม่มีการทวงถามตามเพจต่างๆ และทวงถามถึงน้องแนท แม่เป็นหนี้เขาจริงๆ?
แม่ต่าย : "ก็ทำธุรกิจด้วยกัน เป็นหนี้เขาจริงๆ แต่ไม่ได้จำนวนเยอะเวอร์ขนาดนั้น เขาบวกสูง อย่างต้นทุน 5 หมื่น กำไร 5 หมื่น เขาก็บวกไปเลย 1 แสนบาท ไม่ได้บอกราคาต้นทุนที่ออกข่าวมา ที่ออกมาพูดอยากบอกความจริงให้ฟัง ไม่ใช่ 3-4 ล้านแต่แม่ไม่มีเงินในแบงก์สักอย่าง ยกตัวอย่างค่ะ แล้วแนทเพิ่งรู้ว่าแม่เอารถไปขาย เพชรที่แนทซื้อให้แม่ สมบัติที่แนทให้แม่ ตอนที่เขาเขียนจดหมายมา"

กรณีไปร่วมลงทุน ลงทุนวิธีไหน?

แม่ต่าย : "แม่ยอมรับผิดนิดนึงว่ากรณีคุณทิพย์ เราไม่ได้ชวนค่ะ ตอนนั้นเราทำกับพี่คนนึงที่อุบลฯ เขาก็ช่วยเหลือเรามาตลอด ตอนนี้พี่จาก็ยังช่วยเราอยู่ เขาทำกับเรามาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ลงเงินเป็นจ๊อบเหมือนกัน พี่จาทำกับเรามานานมากก่อนคุณทิพย์ พอดีเจอโควิด เขาก็ถามเราขึ้นมา เราบอกเขาว่าเราทำแบบนี้ๆ เราจ่ายให้ดารานักแสดงทุกท่านนะคะ ที่เคยทำมา อย่างพี่เกด เมทินี, แจ๊บ เพ็ญเพชร, วิลลี่ แมคอินทอช ก็จ่ายเงินสด มีอีกหลายคน ส่วนมมากไม่มีปัญหาเพราะเราจ่ายเงินสดอยู่แล้ว เก็บเงินทีหลัง เราก็ซัปพอร์ตจ่ายไปก่อนอยู่แล้ว"

แม่ต่าย : "ใช่ค่ะ แต่ส่วนมากแม่ไม่ได้แบ่ง แม่ยกกำไรให้เขาไปเลยเพราะส่วนมากแม่เอาเงินมาหมุน ได้มาเราก็เอาเงินให้เขาไปเลย คนชื่อป่านเพิ่งทำด้วยกันแค่ 2 อัน อีกเรื่องเงินเขามาฝากเรากู้และเขาจะเอาต้นคืน แม่ก็รับช่วงต่อ เพราะคนที่ยืมเงินยังไม่จ่ายต้นคืน จ่ายแต่ดอก คุณป่านเขาต้องการเอาเงินต้นคืนแล้ว ก็เป็นอย่างนี้"

แนทรู้เรื่องมั้ย?
แม่ต่าย : "ไม่รู้ค่ะ แนทอยู่แบบพอเพียง เขาไม่อยากให้เราดิ้นรนมากมาย แต่เราเป็นคนชอบแสวงหาเอง เราไม่ชอบอยู่กับที่ เราเป็นคนอะเลิศ ลูกสาวบอกว่าชอบไปสร้างเรื่อง น้องแนทไม่คุยกับแม่เป็นปีแล้ว มีครั้งนึงเขาเขียนจดหมายเพราะเขาโกรธเรา ครั้งสุดท้ายนี่แหละ เขาบอกว่าแม่รู้มั้ยคนอื่นคิดว่าแม่ติดการพนัน เขารู้ไปทั่วแล้ว หนูเพิ่งรู้ว่าแม่ขายทั้งรถ ทั้งเพชร ไม่มีอะไรเหลือเลย เขาเขียนจดหมายให้เราครั้งล่าสุดประมาณวันที่ 20 กว่านี้เอง"

โทรหา "คุณป่าน" ผู้เสียหาย ที่มาที่ไปเป็นยังไง?
ป่าน : "เริ่มต้นแม่เขาถามเราว่าทำงานอะไร เขามีงานนึงอยากชวนมาทำ เราโอเคมั้ย งานนี้ประมาณแสนนึง หักกำไรส่วนแบ่งไปแล้วก็คนละครึ่งไปเลย ป่านก็โอนให้แม่ตามยอดที่แม่แจ้ง แล้วแม่ก็บอกว่าระยะเวลาอยู่ที่ 15-30 วัน ได้รับเช็คแล้วโอนเงินเข้าบัญชี"

แม่จะเอาเงินคุณป่านไปจ่ายให้นักแสดง จ่ายใหัใคร?
ป่าน : "จ่ายให้ทางน้องน้ำตาลค่ะ รอบแรกโอน 3.6 หมื่นค่ะ ป่านหุ้นกับอีกคน"

แม่ต้องชดใช้ให้เท่าไหร่?
ป่าน : "ถ้าตามยอดที่คุยกัน อยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นกว่าๆ อันนี้ไม่ได้รวมกำไร เป็นต้นเฉยๆ เลยค่ะ"

อันนี้เจรจาไกล่เกลี่ยไปหรือยัง?
แม่ต่าย : "กับป่านคุยกันหลังสุด แม่ทานยาและน็อกไป 2-3 วัน เขาติดต่อไม่ได้ก็ติดต่อนิต้า นิต้ามาปลุก แม่นอนทานยาไป 4 เม็ดแล้วนอนยาว ก็คุยกับป่านคนสุดท้ายถ้าจำไม่ผิด"
ป่าน : "คุยกันวันที่ 4 ค่ะ แล้วไม่สามารถติดต่อได้เลย"

คุณแม่จะจัดการหนี้สินคุณป่านมั้ย?
แม่ต่าย : "แน่นอน แม่ไม่คิดจะหนีอยู่แล้ว ส่วนผิดก็ต้องยอมรับ ก็ขอโทษป่านด้วย ที่เขาติดต่อไม่ได้ ปกติแม่คุยกับป่านตลอด มีช่วงนึงที่หายไปวันสองวันที่ทานยา คือตื่นมาก็เห็นไลน์ เบอร์โทรเต็มไปหมด ตอนที่ลูกตามหา นิต้าตามหาแม่ เพราะมีคนติดต่อเขาหลายคน เขาก็กลัวแม่เครียดฆ่าตัวตายเขาก็ไล่ตามหาแม่"

จะชดใช้โดยการผ่อนชำระหรือยังไง?
แม่ต่าย : "เดี๋ยวก็คุยกับป่านค่ะ ก็ต้องผ่อนชำระ เงินป่านจำนวนไม่เยอะมาก ต้องดูก่อน เรื่องงาน ไม่อยากรับปากแล้วทำไม่ได้"
ป่าน : "ระยะเวลากี่เดือนล่ะคะ"
แม่ต่าย : "ตอนนี้ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่หมดแล้ว เพราะเป็นข่าวแล้ว"
ป่าน : "แล้วหนูจะได้มั้ยละคะ"
แม่ต่าย : "ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ก็ทุกคนทำให้เป็นแบบนี้ไปแล้ว หน้าที่การงาน ก็ไม่รู้เป็นยังไง ยังมีบางคนเชื่อศรัทธาเรา ก็ยังมีอยู่ แต่ไม่รู้จะเป็นยังไง เราจะมารับปากมั่วๆ แล้วทำไม่ได้ก็มีข่าวไม่จบ คนเราต้องมีการเริ่มต้นใหม่ ตอนนี้ก็ต้องเริ่มจากศูนย์ อย่างต่ำก็ 3 เดือนขึ้นไป"
ป่าน : "แม่จะผ่อนเริ่มเดือนนี้เท่าไหร่ ทำเอกสารได้มั้ย"
แม่ต่าย : "มันทำได้อยู่แล้ว เราไม่คิดจะโกงอยู่แล้วเงินเท่านี้ เราไม่ได้ดูถูกเงินนะเพราะเราเคยหาเงินได้ แต่ ณ เวลานี้ไม่รู้จะเป็นยังไง ลูกค้ายังศรัทธาเราอยู่มั้ย ก็ขอเวลา 3 เดือนค่ะ แม่ลำบากแน่นอน"

รออีก 3 เดือนมั้ย?
ป่าน : "รอ 3 เดือน แต่ต้องมีระยะเวลา เพราะหนูก็ลำบาก อย่างที่แม่รู้ทุกอย่าง"
แม่ : "รู้จักกันดี คิดว่าเขาคงไม่คิดทำร้ายแม่ ไม่งั้นคงไม่รอ เรารู้จักเพราะซื้อบ้านจากเขา"
ป่าน : "ป่านทำสินเชื่อให้ค่ะ แล้วมองตลอดว่าครอบครัวนี้น่ารัก และไม่คิดว่าแม่จะเป็นแบบนี้"

แม่รับปากแล้วนะ?
แม่ต่าย : "ค่ะ"

เจ้าหนี้มีกี่คน?
แม่ต่าย : "ก็หลายคนอยู่ เพราะเอาเงินมาทบ บางคนช่วยเราจริง มีคุณกุ้งทำงานแบงก์เขาก็ช่วยเหลือเรา แต่ดอกเบี้ยก็รายชั่วโมง เพื่อเอามาปิดคนนี้"

เคยบอกให้ลูกช่วยมั้ย?
แม่ต่าย : "ไม่เคย แนทเคยบอกแล้วว่าให้แม่มีชีวิตอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงานอะไรอยู่แล้ว ปกติเราทำงานดูแลเขา เขาก็ให้ 30 เปอร์เซ็นต์จากค่าตัวถ้าเราหางานได้ เหมือนแนทเป็นนางแบบของแม่ เราตกลงกันว่าน้องแนทดูแลตายาย"

ที่แม่มาออกอากาศเพื่อยืนยันว่าไม่ได้หนีไปไหน?
แม่ต่าย : "ไม่ได้หนี คุณหนุ่มโทรหาแม่ติดมั้ยละคะ ไม่เคยไม่รับโทรศัพท์นะคะ แต่ 3 วันนั้นที่หายไปคือไปเช็กที่บริษัทได้เลยค่ะโทรศัพท์โดนตัด เพิ่งไปจ่ายมา 3,300 บาท"

ตอนนี้มีหนี้รวมเท่าไหร่?
แม่ต่าย : "เฉพาะต้นทุนก็ล้านกว่าบาท ถ้ารวมก่อนๆ ที่แม่ทำบัญชีไว้ประมาณ 3 ล้านบาท ต่อสายหาพี่ทิพย์ได้เลย"

ได้คุยกับเขาหรือยัง?
แม่ต่าย : "ก็คุยกับเขาตลอด แต่อารมณ์คน บางครั้งเขาก็โมโหใส่เรา เราก็โมโหใส่เขา แต่ส่วนมากเราก็เด็ก เขาก็คงรักเรา ก็คงโกรธบ้างอะไรบ้าง"

ต่อสาย "คุณทิพย์" เรื่องคุณแม่นี่ยังไง เขาบอกเป็นหนี้พี่ 3 ล้าน จริงมั้ย?
ทิพย์ : "ไม่จริงค่ะ อันใหม่อยู่ที่ 2.3 ล้านกว่า อันเก่า 1.7 ล้าน 2.2 ล้านกว่าเขาชำระไปบางส่วน แล้วเหลืออีก 1.7 ล้าน รวมทั้งหมด 4 ล้านค่ะ มีเอกสารหมด มีใบโอนเงิน อีก 8 งานที่เหลือทิพย์ไม่ได้เงินคืนสักบาทเลยนะคะ"

พี่เคยให้เขากู้เงินก้อนแรก?
ทิพย์ : "เขายืมเงินไปลงทุนธุรกิจเขา อย่างร้านทำผม ร้านนวด ร้านขายเสื้อผ้าของเขาที่ถนนนิมมานเหมินต์ แล้วตีเช็คมาชำระให้เรา แต่ถึงเวลาเช็คเด้ง แล้วไม่ใช่เราเจ้าเดียวมีเจ้าอื่นด้วยที่มีเรื่องกัน คนทำงานแบงค์ 6 แสนกว่า ตอนนี้เราให้ทนายทำเรื่องคดีความกันอยู่สองคนที่อันเก่าค่ะ แต่อันใหม่ที่โดนไป 2.3 ล้านกว่าค่ะ"

อึดอัดใจกลัวไม่ได้เงินคืน?
ทิพย์ : "ถูกต้องค่ะ เขารู้ตลอดว่าไม่มีเงิน จะเอารถเบนซ์ไปรีไฟแนนซ์ได้มา 1.5 ล้าน พี่ก็บอกเขาว่าถ้ามีความตั้งใจจริงก็มาช่วยกันตรงนี้ เขาบอกจะไม่โกง เขาจะไม่ทำให้พี่เสียใจ เขาเป็นคนพูดเอง พี่ร้องไห้ทุกวัน เขารู้ พี่นอนไม่หลับ"

จะเอายังไง?

แม่ต่าย : "จริงๆ แล้วคนที่ทำงานร่วมกัน พูดตรงๆ ว่าร่วมผลประโยชน์เท่านั้น อันนี้ต้องยอมรับความจริง ส่วนที่เขาได้รับเงินไป งั้นเอางี้สิคะ ถ้าเขาอยากได้เงินคืน กำไรที่เขาได้ไปหรือที่ลูกค้าไม่ได้จ่าย แม่ต้องรับซัปพอร์ตเขาก็หักเราเป็นหนี้ก็ได้นี่คะถ้าอยากได้เงินเขาคืน เขาบวกเราซะสองล้านกว่าแบบนี้"
ทิพย์ : "ที่เขาบอกว่ากำไรที่ได้มาหักได้เลย เมื่อวานทำตัวเลขแล้ว หักแล้ว ยอดเงินคงเหลืออยู่ 2.2 ล้านกว่า เอกสารทำไว้หมดแล้วเพื่อเตรียมแจ้งความค่ะ ถ้าหากหักกำไรจะเหลือแค่ล้านกว่าบาท บอกได้เลยว่าไม่จริงค่ะ"
แม่ต่าย : "ก็แล้วแต่เขา ถ้าเขาทำฝั่งเขาแล้ว เดี๋ยวแม่ก็จะทำของแม่เหมือนกัน ส่วนที่บวกลบคูณหาร มันเยอะเกิน"

ทำสัญญาประนีประนอมใช้หนี้เขาได้มั้ย?
แม่ต่าย : "ทำได้ แต่บางครั้งเราทำงานอยู่เขาโทรมาด่าเราเสียๆ หายๆ โห คำพูดเขาออกรายการไม่ได้ เราเข้าใจเรายอมรับเราเป็นหนี้เขา เขามีสิทธิ์ที่จะด่า แต่ความเป็นคนมันเกินไป ถ้าเราทำสัญญาจะจ่ายเงินให้เขา ก็ต้องจบตามที่เราไปลง คุณไม่มีสิทธิ์ด่าเรา ที่ผ่านมาด่าถึงลูกเรา คำพูดหยาบคายเยอะมาก คุณแม่ก็มีหมดที่เขาด่า เราไม่มีความเป็นคน มนุษย์ทุกคนเป็นหนี้ มีศักดิ์ศรี (ร้องไห้) ถึงแม่เป็นหนี้ แต่นี่ด่าเราเยอะมาก ด่าเราเยอะมาก คนทุกคนเป็นหนี้ แต่ด่าเหมือนเราไม่ใช่คน คำพูดก็กูมึง เราไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้กับใครเลยเกิดมา ถึงแม้บ้านเราฐานะยากจนพ่อแม่อบรมสั่งสอนเรามา แต่เราไม่เคยจิกหัวหรือใช้กิริยาเรียกใครแบบนี้"

แม่จะบอกว่าหนี้ทุกสตางค์ใช้เอง ขอเวลาหน่อย ?
แม่ต่าย : "ใช่ค่ะ ไม่ได้หนีไปไหน แนท นิต้าไม่เคยรู้เรื่องนี้ มีแต่คนโทรไปหาน้อง ตอนที่เค้าตามแม่ไม่ได้"

เจ้าหนี้ไม่เกี่ยวกับแนท เดี๋ยวแม่จะดำเนินการเอง?
แม่ต่าย : "อย่างคุณทิพย์ บอกว่าจะดำเนินการเรื่อง เราไม่ได้ท้าทายเจ้าหนี้ ถ้าเขาสบายใจแบบไหนเราก็รับไป ต้องขอโทษทุกคน เราผิดเอง เขาจะทำอะไรมันสิทธิ์เขาที่จะทำ ต่อไปนี้ถ้าเขาแจ้งความถือว่าจบกัน อย่ามาด่าเราแม้แต่คำเดียว พูดเหมือนเราเป็นหมาตัวหนึ่ง คนทุกคนมีศักดิ์ศรี แล้วคนที่เขายากจนเขาลำบากเป็นหนี้เขาก็ต้องโดนเจ้าหนี้ด่าเหมือนหมาข้างถนนเหมือนแม่สิ คนเรามีความเป็นคน เป็นหนี้ใช้หนี้ทุกบาททุกสตางค์ ไม่โกงค่ะ และไม่คิดหนีด้วย (เสียงสั่น) ขอเหอะ หยุดเอาลูกมาข่มขู่ ลูกเขายังเด็ก ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตาเลี้ยงยาย ลูกคนเล็กไปไกลมากแล้ว แต่ก็ยังวกมาหาลูกอยู่ ขอให้เกียรติกันบ้าง"