ลุงบุญเลิด ต้นตำรับชาบูนางใน เคลียร์ใจแทนสาขาต้นปัญหา - เผยไล่แอดมินออกแล้ว!?
เต้ย : "สาขาพระราม9 ซอย 43 ไปกินประจำเป็นร้านใกล้บ้าน 3-4 ปี ตั้งแต่แรกๆ ที่ย้ายไปอยู่แถวนั้นก็เป็นร้านประจำที่ไปเลย"
ปกติราคานี้ตลอด?
เต้ย : "ครับ 349 บาท กินแบบนี้ตลอด ส่วนใหญ่กินกับแฟน 2 คน ส่วนใหญ่สั่งเนื้อ สั่งกุ้ง เน้นเลย"
กินหนักมั้ย?
เต้ย : "ตอบตรงๆ ผมเป็นคนกินเยอะอยู่แล้วเฉลี่ย 6-10 จาน เป็นเนื้ออย่างเดียว กุ้งส่วนใหญ่แฟนเป็นคนกิน 3-4 จาน ผักก็ไม่เน้น กินแต่เห็ดเป็นหลัก"
ทนายเป็นแฟนชาบู ไปทานต้องล้างท้องไปก่อนมั้ย?
ทนาย : "ไม่ขนาดนั้นครับ ผมก็สั่งแต่เนื้อ ไม่สั่งอย่างอื่น ได้ประมาณ 6-8 เท่านั้นแหละ ชาบูนางในสาขาแถวปากเกร็ด อิ่มแล้วก็เดินไปย่อยต่อแล้วกลับมากินต่อ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ 349 บาทราคาเดียวกัน ให้เพื่อนนั่งรอแล้วเราไปย่อยก่อนแล้วเราไปเดินก่อนแล้วค่อยกลับมากินต่อ"
เต้ย : "ผมไม่ขนาดนั้น (หัวเราะ)"
เรื่องเกิดอะไรขึ้น
เต้ย : "เราไปกินตามปกติ ปกติจะสั่งของกับพนักงาน เผอิญพนักงานเดินไปในครัว พอดีเจ้าของร้านเดินออกมาก็เลยสั่งเพิ่มกับเจ้าของร้าน ตอนนั้นสั่งเนื้อไป 6 ถาด กุ้ง 2 ถาด วุ้นเส้นกับไข่ไก่ เนื้อ 6 ถาดก็ถาดใหญ่ เจ้าของร้านบอกว่าถ้าลูกค้าจะสั่งแบบบี้ไม่ได้นะ ถ้าสั่งแต่เนื้อ กุ้ง ไม่สั่งผักเลยไม่ได้ ตอนแรกก็งงว่าทำไมสั่งไม่ได้ เขาบอกว่าลูกค้าต้องสั่งหลากหลาย ผมก็ให้ความเป็นธรรมนะ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ผมก็ถามว่าหมายความว่ายังไง น้ำเสียงเขาเปลี่ยน น้ำเสียงแว้ดขึ้นมาเลย ว่าก็หมายความว่าสิ่งที่ลูกค้าสั่งไป เขายังไม่ได้ต้นทุนเลย ไหนจะค่าพนักงานอีก ผมฟังก็อึ้งๆ นิดนึงว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้ เราก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเราเป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนกัน ทำไมพูดแบบนี้กับลูกค้าได้ แต่พอประโยคสุดท้ายก่อนเขาเดินไป เขาบอกว่าถ้ามาทานแบบนี้อีก คราวหน้าจะเก็บเงินเพิ่ม"
คุณก็ขึ้นเลย?
เต้ย : "ผมไม่ได้ขึ้น ยังงงอยู่ว่าทำไมกล้าพูดอย่างนั้น เขาก็เดินหันหลังไปเลย"
คุณกลับมาบ้านคุณก็โพสต์เสียความรู้สึก?
เต้ย : "ใช่ครับ"
เต้ย : "เคยเจอ แต่ไม่เคยคุย ที่ร้านพนักงานจำได้ ถึงขั้นผมเดินเข้าไปเขาเตรียมมาให้เลยว่าผมจะกินอะไร"
หรือเจ้าของร้านเขาไม่รู้ว่าคุณกินอะไรยังไง?
เต้ย : "ผมว่าเขารู้ เพราะจากข้อความที่ตอบโต้ทีหลัง เขาบอกว่าลูกค้าท่านนี้เข้ามาเป็นประจำ และสั่งแต่แบบนี้ ผมเชื่อว่าเจ้าของร้านเขารู้"
หลังเห็นเขาโพสต์ คุณรู้สึกยังไง?
เต้ย : "เราคิดว่าควรรักษาสิทธิ์ของเรา เราเป็นผู้บริโภค ตราบใดเราทำตามเงื่อนไขที่ร้านกำหนด เราไม่ได้กินเหลือก็ควรรักษาสิทธิ์ตรงนั้น เราดำเนินการ 2 ส่วน ส่วนแรกเราแจ้งสคบ. วันนั้นเลย อีกส่วนก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ว่าเราไปกินร้านนี้และเกิดเหตุการณ์แบบนี้"
กังวลมั้ยเขาจะฟ้อง?
เต้ย : "ไม่กังวลครับ"
คุณไปลงในไหน?
เต้ย : "จริงๆ มันเป็นรีวิวในเพจครับ"
คุณก็ไปพิมพ์อย่างนั้น เขาเลยตอบโต้ ฝั่งเขาจะฟ้องทางนี้ได้มั้ย?
ทนาย : "พอเขาพูดงั้นพี่กินต่อมั้ย"
เต้ย : "ไม่กิน รอแฟนกินจนเสร็จ แต่เนื้อ 6 จานนั้นหมดแล้ว ยังไม่อิ่ม ที่เสียดายคือผมสั่งเห็ดเข็มทองเพิ่มเขาไม่เอามาให้"
ทนาย : "อันนี้เป็นการรีวิวบริการอย่างหนึ่ง เราใช้บริการจริง เจอสภาพแบบนี้จริงๆ ไม่ได้ปั้นเติมเสริมแต่ง พอเอามาโพสต์ก็ไมผิด เป็นการติชมโดยสุจริต สามารถทำได้ ใครๆ เขาก็ทำกัน ลูกค้าเจอบริการแบบนี้ใครๆ ก็ทำได้ ร้านอื่นก็ทำกัน ทีนี้ถ้าร้านไม่อยากให้รีวิวก็ไม่ควรเปิดเฟซบุ๊กให้เรารีวิว หรือปิดคอมเมนต์ไปเลย"
เต้ย : "เขาอาจไม่รู้ว่าระบบรีวิวเฟซบุ๊กมันลบไม่ได้ การที่เขาทำแบบนี้จะกลายเป็นหลักฐานอยูกับเพจเขาร้านเขาตลอดไป"
กินแบบนี้ผิดเหรอ?
ทนาย : "พอเราไปรีวิว ถ้ามีการโต้แย้งกันว่าไม่ได้สั่งจริง ไม่ได้มาทานจริงๆ เจ้าของร้านฟ้องได้ แต่จากเนื้อหาการตอบโต้ก็คุยเรื่องเดียวกัน แสดงว่าเนื้อหาเป็นเรื่องจริง แต่การขึ้นป้ายว่าราคาเท่านี้ให้ทานไม่จำกัด ลูกค้าใช้เวลาตามที่ปรากฎ ไม่ได้ทำนอกเหนือจากเมนู ทำตามเงื่อนไขทุกประการ ร้านไม่มีสิทธิ์บ่นนะ"
หรือร้านต้องกำหนดเขียนไว้เลยว่าถ้ากินเนื้อเลย 6 จานขึ้นไปต้องคิดเงินเพิ่ม?
ทนาย : "ถ้าเอาให้แฟร์ ไม่ผิดกฎหมายคุณต้องขึ้นแจ้งเงื่อนไขใช้บริการ ถ้าไม่ขึ้นเลย ขึ้นป้ายไม่ชัดเจนร้องไปที่พาณิชย์จังหวัดได้ ปรับหมื่นนึงนะครับ อย่าลืมไปร้องนะ"
เต้ย : "วันนั้นไม่ได้แจ้งครับ บอกแค่ว่าจะปรับราคาขึ้นถ้ามาใช้บริการครั้งหน้า ถ้ามากินครั้งหน้าจะขอคิดเงินเพิ่ม"
คิดได้ว่าเขากำลังว่าคุณอยู่?
เต้ย : "จะให้คิดเป็นแบบอื่นได้ยังไงครับ"
เหมือนเขาอธิบายในร้านจะมีนโยบายเพิ่มราคา ถ้าใครสั่งเนื้อชั้นดีของเข าจะเพิ่มเงิน 200 เป็น 549?
เต้ย : "จริงๆ ชาบูนางในเป็นเฟรนไชส์ ถ้าให้ความเป็นธรรม สาขาอื่นก็ต้องรู้โปรโมชั่นนี้เหมือนกัน ถูกมั้ยครับ วันนี้เจอเจ้าของก็สามารถสอบถามได้เลย"
ตกลงจะแจ้งความเอาผิดมั้ย?
เต้ย : "แจ้งที่สคบ. ถ้าเขาแจ้งเรา เราก็ดำเนินการต่อ"
ฟ้องได้มั้ย?
ทนาย : "ต้องดูว่าฟ้องประเด็นไหน ถ้าเรื่องหมิ่นประมาทมันไม่เข้า ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย มันไม่เข้า ประเด็นที่ว่าการแสดงราคาสินค้าไม่มีเพิ่มในป้าย เป็นประเด็นที่กรมกาค้าภายในต้องไปตรวจสอบเขาต้องดำเนินการต่อ"
ลุงวันเลิด : "12 ปี"
ทำไมตั้งชาบูนางใน?
ลุงวันเลิด : "พอดีผมมีรูปนางในเป็นสาวชาววัง สองจะสื่อความหมายว่าชาบูชาบูก็จริง แต่รสชาติไทยๆ"
ลุงเอาสูตรมาจากไหน?
ลุงวันเลิด : "คิดเองครับแล้วลูกค้าแนะนำ ปรับแต่งไปเรื่อยๆ"
ทำไมวันนี้มี 60-70 สาขาทัวประเทศ?
ลุงวันเลิด : "เขามาขอ ลุงก็ให้เลยครับ"
ทำไมไม่คิดขาย?
ลุงวันเลิด : "คนมาขอเฟรนไชส์เป็นลูกค้า ตอนที่ร้านยังไม่มีชื่อเสียง ยังไม่เป็นที่รู้จัก เป็นเด็กที่เรียนจบต้องการสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนจะเปิดกิจการก็มีสองด้าน ประสบความสำเร็จแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หากประสบความสำเร็จ เราก็ดีใจด้วย แล้วถ้าไปเก็บค่าเฟรนไชส์เขาก็เสียเงินเยอะ ผมก็คน กิเลสอยู่ เราตัดปัญหาด้วยการไม่เก็บซะดีกว่า"
ค่าสูตร ค่าสอน ไม่เก็บเลย?
ลุงวันเลิด : "ไม่ แต่ใครจะมาเปิดต้องมาเทรนด์ที่ร้านสาขาใหญ่"
คณน้อยช่วยดูแล ตอนนี้กี่สาขาแล้ว?
น้อย : "ตอนแรก 2-3 ปีก็เกือบร้อย ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 60 ต้นๆ"
มาตรฐานชาบูนางใน ถ้าคนกินเยอะ เก็บตังค์เพิ่มมั้ย?
ลุงวันเลิด : "ไม่เคยอยู่ในหัวเลย ราคาแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ดูสภาพแวดล้อม ถ้าแวดล้อมราคาไม่สูงมากไปขายแพงมากลูกค้าก็หนี"
มีร้านอื่น 299 ก็มี?
ลุงวันเลิด : "ใช่ แตร้านเรา 399"
ใครเป็นคนคิดมาตรฐานราคา?
ลุงวันเลิด : "เราก็คิดตามต้นทุนของเรา ตั้งมาพอให้มีกำไร พออยู่ได้"
ถ้าลูกค้าอย่างคุณเต้ยไปกิน 20 จาน คิดเพิ่มมั้ย?
ลุงวันเลิด : "ไม่เพิ่มครับ ลูกค้ากินเยอะยิ่งชอบ แสดงว่าของเราอร่อย ไม่กลัวครับ เพราะมีลูก้าทานมากทานน้อย ไม่ใช่ลูกค้าทานน้อยแล้วเราไปลดราคาให้เขา ทานมากทานน้อยคิดเท่ากันหมด"
เท่าที่ทราบมาเห็นว่ามีกฎอย่างนึงเรื่องชาบูนางใน จะห้ามไม่ให้มีการเปิดสาขาใกล้กัน ของลุงอยู่ 41 ของเขา 43 ได้เหรอ?
ลุงวันเลิด : "สาขาอื่นเราก็เกรงใจ เขาลงทุนไปเยอะ แต่อันนี้ใกล้สาขาผม ถ้ามีผลกระทบก็กระทบผม อันนี้คนอื่นไม่เดือดร้อน คนเดือดร้อนคือผม"
ใจลุงใหญ่กว่าหม้อชาบูเยอะมาก ถ้าที่อื่นเปิดใกล้กัน สองร้านแย่งลูกค้ากันเอง แต่ถ้ามาแย่งลูกค้าจุดลุงอยู่ไม่เป็นไร คนเดือดร้อนคือลุง ลุงยอม?
ลุงวันเลิด : "ใช่ครับ"
ลุงวันเลิด : "ประหลาดใจนะครับ เงียบมานาน เป็นปี แต่เมื่อวานคนล้นร้านเลยครับ"
วันแรกที่มีเรื่อง มีประเด็นมั้ย?
ลุงวันเลิด : "ตอนแรกคิดว่าร้านแย่"
น้อย : "วันนั้นไม่มีคนมากินเลย ช่วงเย็นคือเงียบ"
แต่พอเขาบอกว่าไม่เกี่ยวกัน มามั้ย?
น้อย : "เต็มครับ"
ลุงวันเลิด : "เพราะคุณเต้ยให้สัมภาษณ์แทนที่จะซ้ำเติมก็บอกว่าต้องแยกแยะ แต่ละสาขาไม่เหมือนกัน เขาพูดในแง่บวก"
เต้ย : "สิ่งที่ผมรู้คือแม้เรารักษาสิทธิ์ของเรา แต่ก็กระทบเฟรนไชส์อื่นๆ ด้วย สิ่งที่ผมบอก ผมบอกสื่อทุกคนว่าอยากให้ช่วยกัน อย่าเหมารวมการกระทำคนนึงไปเหมาองค์กร เหมารวมเฟรนไชส์ อยากให้สื่อแค่ร้านนี้ ร้านอื่นไม่เกี่ยว ถ้าเขาบริการคุณดี ก็อยากให้สนับสนุนเขาต่อไป"
สาขาซอย 43 ติตต่อลุงมามั้ย?
ลุงวันเลิด : "ติดต่อครับ เขาขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน ผมก็บอกว่าอย่าคิดมาก เกิดขึ้นแล้วก็อย่าแก้ตัว แก้ไขดีกว่า คุณเต้ยให้สัมภาษณ์ไม่ใช่ช่วยร้านผมอย่างเดียว แต่ช่วยทุกสาขา"
เขาไม่มาขอโทษทางนี้?
เต้ย : "ไม่ได้ติดต่อ"
ลุงไปขอโทษเขาเอง?
ลุงวันเลิด : "ในฐานะเป็นเจ้าของแบรนด์ ผมก็รับผิดชอบ"
เต้ย : "แต่ลุงไม่ได้ตังค์จากเขาเลยนะ"
ลุงวันเลิด : "ไม่เป็นไร เพราะผมไม่อยากได้อยู่แล้ว ผมเคยไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญ ท่านก็สอนเยอะ สองอย่างที่นำมาปฏิบัติ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเราก็มา นึกอย่างนึงตอนเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ผมไม่เคยทำธุรกิจ เป็นมนุษย์เงินเดือน แม้จะซื้อของไปเก็บรักษาผักให้สด เนื้อหมู ไปถามใครก็ไม่มีใครยอมบอก ต้องศึกษาเองว่าทำยังไง ก็ตั้งใจว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นวิทยาทาน ใครอยากรู้ผมบอกหมดไม่กั๊กเลย"
ลุงวันเลิด : "ถ้าหากกรณีนี้ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน ไม่ใช่แจ้งกะทันหันแบบนี้ แจ้งให้ทราบว่ามีพรีเมียม มีหอยแมงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งแม่น้ำ อาจเพิ่มราคา ก็ต้องแจ้งก่อน"
ซอย 43 เขามีเมนูใหม่เป็นเนื้อชั้นดี เพิ่มราคาเป็น 549 แต่ 349 ก็มี นางในต้นตำรับไม่มี?
ลุงวันเลิด : "ไม่มี"
มาตรฐานต่างกัน ลุงไม่บอกเขาเหรอว่าขึ้นไม่ได้?
ลุงวันเลิด : "ก็ต้องยอมรับว่าให้เขาทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกค้าเข้าร้านแต่ต้องสมน้ำสมเนื้อ ราคากับวัตถุดิบต้องสมน้ำสมเนื้อกัน"
ฟังแล้วรู้สึกยังไง?
เต้ย : "มองในมุมมองนักธุรกิจ มันไม่ใช่การทำธุรกิจ มันเหมือนเป็นการให้มากกว่า"
ลุงวันเลิด : "ใช่ คนก็เตือนผมว่าถ้าให้ฟรีมันไม่มีค่า ถ้าคิดตังค์จะมีค่า ผมก็ยอมรับว่าทำธุรกิจไม่เป็น อยากให้เขาตั้งตัวได้อย่างเดียว ในแง่การบริหาร ธุรกิจก็ผิดยอมรับ มือยังไม่ถึง"
ลุงไม่กลัวเหรอว่าการที่เราปล่อยเฟรนไชส์โดยไม่เก็บเงิน วันนึงจะมีผลเสีย เช่น มาตรฐานร้านอาจไม่อร่อย เนื้อร้านนี้ไม่ดี กลัวเสียมาถึงเรามั้ย?
ลุงวันเลิด : "กลัวครับ เราถึงหยุดให้มาหลายปีแล้ว"
คนที่เขามีกระจายๆ ทำยังไง?
ลุงวันเลิด : "ปกติเราเรียกประชุม แต่ตอนหลังผมก็หย่อนยาน ไม่ได้เรียกประชุมมาหลายปีแล้ว ต่อไปคงต้องเรียกประชุม คงต้องเคลียร์ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้ เราไม่ขอใช้กฎหมายเพราะเราไม่คิดฟ้องร้องใคร"
ลุงน่ารัก มีลูกเมียมั้ย?
ลุงวันเลิด : "ไม่มีครับ โสดครับ"
เงินที่ขายได้มา?
ลุงวันเลิด : "ทำบุญบ้างครับ เก็บไว้รักษาตัวเองเผื่อเจ็บไข้ได้ป่วย"
ลุงวันเลิด : "ก็ให้ผู้จัดการนี่แหละ"
อยู่มานานหรือยัง?
น้อย : "อยู่มาตั้งแต่เปิด"
ฟังแล้วเป็นยังไง?
น้อย : "(จะร้องไห้ ตื้นตันใจ) ลุงดีจริงๆ ดูแลผมเหมือนลูกคนนึง"
ให้ญาติพี่น้องมั้ย?
ลุงวันเลิด : " ไม่ให้ครับ ให้คนที่เขาช่วยเรา ญาติพี่น้องไม่ได้มาช่วยเรา ไม่ให้"
เขาไม่โกรธเหรอ?
ลุงวันเลิด : "ช่างเขา นี่เขาช่วยผมมาตั้งแต่เปิดร้าน อยู่มา 10 กว่าปีแล้ว บอกได้เลยว่าผมให้เขา แต่ขอให้เขาเลี้ยงลูกน้องให้ดี"
จะมีสาขา 2 มั้ย?
ลุงวันเลิด : "ไม่มีแล้วครับ"
ไปปิดเองเลยมั้ย?
เต้ย : "ผมไปอุดหนุนคุณลุงดีกว่า ไปจอด 43 แล้วมาอุดหนุน 41"
อยากบอกอะไรคนดูที่เขาเป็นแฟนคลับชาบูนางใน?
ลุงวันเลิด : "ก่อนอื่นขอโทษ และขอบคุณลูกค้าที่อุดหนุนมาตลอด ต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอบคุณคุณเต้ยที่กรุณา นอกจากไม่ซ้ำเติมแล้วยังช่วย"
คุณเต้ยอยากบอกอะไรเจ้าของร้านชาบู 43?
เต้ย : "เอาเห็ดมาเสิร์ฟ ก็ยังรออยู่ จริงๆ เป็นเรื่องการทำธุรกิจ ทัศนคติที่ถูกต้องกับลูกค้า เราอย่ามองกำไร หรือขาดทุน แน่นอนสำคัญสำหรับธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญคือความรู้สึกลูกค้า การที่คุณเงียบ หายไป ไม่เกิดการแอ็กชั่นอะไรก็ตาม ผมไม่ต้องการคำขอโทษ แต่คำขอโทษเป็นผลดีมากกว่า คุณไม่ต้องมาขอโทษผม คุณควรขอโทษลูกค้าที่หายไป ไม่ควรปล่อยให้เจ้าของเฟรนไชส์มาพูดเอง มันเป็นความรับผิดชอบ"
เจ้าของร้านซอย 43 บอกว่าคนที่ไปโพสต์คอนเพลนต่อว่าคุณเขาไล่ออกไปแล้ว เขาบอกว่าเป็นแอดมิน?
เต้ย : "(หัวเราะ) แอดมินใช้คำพูดเดียวกับเจ้าของร้านที่มาพูดเด๊ะ สงสัยเขาสอนมาดี"
ทนาย : "แอดมินมีเบอร์มั้ย ขอสัมภาษณ์หน่อย"