เพนกวิน สู้ต่อ จ่อแจกไฟล์หมุด นัดหยุดงานประท้วง14ต.ค.
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง เพนกวิน สู้ต่อ จ่อแจกไฟล์หมุด นัดหยุดงานประท้วง14ต.ค.
'เพนกวิน' จ่อแจกไฟล์แบบหมุดคณะราษฎร 63 ให้โหลดไปหล่อแล้วปักตามใจชอบ พร้อมนัดหยุดงาน 14 ต.ค.แสดงพลังประท้วงรัฐบาล
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้นัด นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อดีตผู้สมัคร น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ทั้งหมดเป็นเเกนนำกลุ่มประชาชนปลดเเอก มาส่งตัวพร้อมสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาสำนวนในคดีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ,ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง กรณีจัดการชุมนุมปราศรัยหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อทั้งหมดเดินทางมาเจอหน้ากันนายพริษฐ์ได้พูดกับนายอานนท์ว่า "ของเราหายแล้ว" นะ
จากนั้น นายพริษฐ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่แปลกใจที่หมุดคณะราษฎรถูกเจ้าหน้าที่ถอนออกไปจากสนามหลวงในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า แต่เชื่อว่าหมุดคณะราษฏร 2563 มันได้ถูกปักลงกลางใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน และหลังจากนี้จะแจกไฟล์แบบ หมุดคณะราษฏร 2563 ให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมนำไปหล่อ และไปปักตามที่ต่างๆที่อยากจะปัก ส่วนตัวต่อจากนี้ อาจจะนำหมุดไปปักตามจุดสำคัญต่างๆทั่วกรุงเทพฯ
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการที่มีหน่วยงานของรัฐเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มแกนนำเรื่องของการบุกรุกโบราณสถาน ส่วนตัวมองว่า สนามหลวงเป็นสถานที่ที่ประชาชนคนไทยสามารถใช้ได้อย่างเสรีตั้งแต่อดีต ทั้งการเล่นหรือการพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงการชุมนุมที่แสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาก็หลายครั้ง แต่มาในรัฐบาลนี้ กลับพยายามยึดสนามหลวงให้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว และปิดกั้นการเข้าถึงของประชาชน อีกทั้งปูนที่กลุ่มแกนนำได้เจาะเพื่อฝังหมุดคณะราษฎร ก็ไม่ได้มองว่าเป็นโบราณสถาณ หรือโบราณวัตถุ เพราะปูนเพิ่งเทมาเพียง 3 ปี และมองว่า ตัวหมุดคณะราษฎร 2563 น่าจะเป็นศิลปะวัตถุ ที่ทางกรมศิลปากรควรจะต้องเข้ามาดูแลรักษามากกว่าการดำเนินคดีกับพวกตน เพราะถือเป็นศิลปะวัตถุที่จะมีผลทางประวัติศาสตร์ของไทยต่อไปในอนาคต ที่แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งสำคัญ
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า หนังสือข้อเรียกร้องที่ยื่นไป เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะไปไม่ถึงมือคนที่ตนเองตั้งใจไว้ แต่ทางแกนนำได้ อ่านคำเรียกร้องต่อหน้าสื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ถึงเจตนารมย์และข้อเรียกร้องแล้ว ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาของคำตอบที่ได้ แต่เชื่อว่าจากข้อเรียกร้องทั้งหมด ในส่วนประเด็นการถอดถอนนายกรัฐมนตรี น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรีขาดเสถียรภาพทางการเมือง ตนมองว่า ถูกทอดทิ้งทางการเมืองพอสมควร หากนายกรัฐมนตรีจะลาออก ก็ควรนำคนที่รับใช้ทั้งหมดออกไปด้วย
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 24 ก.ย. ของกลุ่มประชาชนปลดแอก สาเหตุที่ต้องมีการชุมนุมในวันนั้น เพราะรัฐสภามีการพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมีการแสดงพลังให้เห็นว่า มวลชนมีความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดการแก้ไขและป้องกันการเพิกเฉย หรือทำให้ญัตติตกลงไป ส่วนในวันที่ 14 ต.ค. ตนอยากขอเชิญชวนให้ผู้ที่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้หยุดงานเพื่อแสดงพลังให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของทางรัฐบาล การหยุดงานจะหยุดงานเพื่ออยู่บ้านเฉยๆ หรือจะออกไปเที่ยวก็ได้ทั้งหมด ส่วนทางแกนนำจะจัดกิจกรรมให้มวลชนเข้ามาร่วมหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือ.
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้นัด นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อดีตผู้สมัคร น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ทั้งหมดเป็นเเกนนำกลุ่มประชาชนปลดเเอก มาส่งตัวพร้อมสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาสำนวนในคดีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ,ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง กรณีจัดการชุมนุมปราศรัยหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อทั้งหมดเดินทางมาเจอหน้ากันนายพริษฐ์ได้พูดกับนายอานนท์ว่า "ของเราหายแล้ว" นะ
จากนั้น นายพริษฐ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่แปลกใจที่หมุดคณะราษฎรถูกเจ้าหน้าที่ถอนออกไปจากสนามหลวงในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า แต่เชื่อว่าหมุดคณะราษฏร 2563 มันได้ถูกปักลงกลางใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน และหลังจากนี้จะแจกไฟล์แบบ หมุดคณะราษฏร 2563 ให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมนำไปหล่อ และไปปักตามที่ต่างๆที่อยากจะปัก ส่วนตัวต่อจากนี้ อาจจะนำหมุดไปปักตามจุดสำคัญต่างๆทั่วกรุงเทพฯ
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการที่มีหน่วยงานของรัฐเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มแกนนำเรื่องของการบุกรุกโบราณสถาน ส่วนตัวมองว่า สนามหลวงเป็นสถานที่ที่ประชาชนคนไทยสามารถใช้ได้อย่างเสรีตั้งแต่อดีต ทั้งการเล่นหรือการพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงการชุมนุมที่แสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาก็หลายครั้ง แต่มาในรัฐบาลนี้ กลับพยายามยึดสนามหลวงให้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว และปิดกั้นการเข้าถึงของประชาชน อีกทั้งปูนที่กลุ่มแกนนำได้เจาะเพื่อฝังหมุดคณะราษฎร ก็ไม่ได้มองว่าเป็นโบราณสถาณ หรือโบราณวัตถุ เพราะปูนเพิ่งเทมาเพียง 3 ปี และมองว่า ตัวหมุดคณะราษฎร 2563 น่าจะเป็นศิลปะวัตถุ ที่ทางกรมศิลปากรควรจะต้องเข้ามาดูแลรักษามากกว่าการดำเนินคดีกับพวกตน เพราะถือเป็นศิลปะวัตถุที่จะมีผลทางประวัติศาสตร์ของไทยต่อไปในอนาคต ที่แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งสำคัญ
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า หนังสือข้อเรียกร้องที่ยื่นไป เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะไปไม่ถึงมือคนที่ตนเองตั้งใจไว้ แต่ทางแกนนำได้ อ่านคำเรียกร้องต่อหน้าสื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ถึงเจตนารมย์และข้อเรียกร้องแล้ว ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาของคำตอบที่ได้ แต่เชื่อว่าจากข้อเรียกร้องทั้งหมด ในส่วนประเด็นการถอดถอนนายกรัฐมนตรี น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรีขาดเสถียรภาพทางการเมือง ตนมองว่า ถูกทอดทิ้งทางการเมืองพอสมควร หากนายกรัฐมนตรีจะลาออก ก็ควรนำคนที่รับใช้ทั้งหมดออกไปด้วย
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 24 ก.ย. ของกลุ่มประชาชนปลดแอก สาเหตุที่ต้องมีการชุมนุมในวันนั้น เพราะรัฐสภามีการพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมีการแสดงพลังให้เห็นว่า มวลชนมีความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดการแก้ไขและป้องกันการเพิกเฉย หรือทำให้ญัตติตกลงไป ส่วนในวันที่ 14 ต.ค. ตนอยากขอเชิญชวนให้ผู้ที่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้หยุดงานเพื่อแสดงพลังให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของทางรัฐบาล การหยุดงานจะหยุดงานเพื่ออยู่บ้านเฉยๆ หรือจะออกไปเที่ยวก็ได้ทั้งหมด ส่วนทางแกนนำจะจัดกิจกรรมให้มวลชนเข้ามาร่วมหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือ.
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น