ดร.เสรีวิเคราะห์ ข่าวลือ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ พระราชทาน!?

"ดร.เสรี" ถกทุกประเด็นร้อน รอยร้าวเพื่อไทย - ฟ้องนายใหญ่ เรียก "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เป็นนายกฯ พระราชทาน! ลั่นก่อนเชื่อและแชร์ต้องมีความรู้

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น.ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (28 ก.ย.) "ทอม ทศวรรต ทะสุวร"ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็น"ดร. เสรี วงษ์มณฑา"ในประเด็นข่าวร้อนที่กำลังเกิดขึ้น

ล่าสุดจะมีการเรียก "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" มาเป็นนายกฯ พระราชทาน เป็นไปได้หรือไม่?

"ข่าวปล่อยแน่นอน หนึ่งทำไมต้องไปดึงพระองค์ท่านมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ในเมื่อพูดอยู่ตลอดเวลาว่าพระมหากษัตริย์ไม่ยุ่งการเมือง ฉะนั้นใครก็ตามที่ปล่อยข่าวนี้ เป็นคนจาบจ้วงล่วงละเมิดอย่างมาก

 สองทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์เป็นคนที่ศาลได้ตัดสินแล้ว เป็นคนมีความผิด การตัดสินสูงสุดแล้วคือต้องติดคุก ไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน คนที่มีคดี ดำรงตำแหน่งนายกฯ รัฐมนตรีไม่ได้ แล้วคุณปล่อยข่าวทำไม ใครที่เชื่อก็แสดงว่าไม่เคยรู้อะไรเลย เวลาจะเชื่ออะไร จะแชร์อะไร จะโพสต์อะไร รู้สักหน่อยดีมั้ย อย่าขยายขี้เท่อเลย

คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ ถ้าจะกลับเมืองไทยก็กลับได้ เพราะไม่มีใครห้าม เพียงแต่คนมีคดีติดตัวกลับมาแล้วต้องติดคุก คุณทักษิณอายุเกิน 70 แล้ว ถ้าติดคุก 1 ใน 3 ของที่ต้องติด ก็อาจได้ออกมาอยู่ข้างนอกและใส่กำไล ส่วนเรื่องมาแล้วจะบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ติดคุกเลยเป็นไปไม่ได้ หรือมาแล้วจะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายกฯ ก็เป็นไม่ได้ หยุดเถอะค่ะ อย่าปล่อยข่าวนี้อีกเลย"

วันที่เพื่อไทยไม่มีคุณหญิงหน่อยเป็นเฮด เกิดอะไรขึ้น?
"ถ้าเราติดตามดูพรรคเพื่อไทยเป็นเวลานาน พรรคเพื่อไทยมีความเป็นเสี่ยงๆ มาตั้งนานแล้ว ข่าวที่ว่าคุณเฉลิมกับคุณหญิงหน่อยไม่ลงรอยกัน อันนี้ก็ว่ากันไปตามข่าว ก็เห็นรอยปริแยก ขณะเดียวกันด้านส.ส.อีสานก็ออกมาหลายครั้งว่าไม่พอใจการทำงานของคุณหญิงหน่อย การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมานั้นก็พ่ายแพ้ในหลายๆ พื้นที่ ตรงนี้เลยเกิดความแตกแยก ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นก็คงยากที่จะคาดเดา เพราะการลาออก เขาลาออกเพราะอะไรเราก็ยังสรุปไม่ได้ ปรากฎการณ์คุณหญิงพจมานถวายของและหมอบกราบ ก็เป็นสิ่งที่คนตีความไปได้หลายแบบ ถ้าตราบใดที่ยังตีความได้หลายอย่าง ทั้งการลาออกและหมอบกราบ มันก็ทำให้เราคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรคเพื่อไทย บางคนอาจบอกว่าแพแตก ซึ่งคือคำว่าล่มสลาย แต่ถ้าแตกพรรคเป็นกลยุทธ์ เราก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นเรื่องกลยุทธ์หรือล่มสลาย"

ก่อนหน้านี้ถ้าวิเคราะห์ เพื่อไทยมีรอยร้าวเกิดขึ้นหลายรอบ?
"คือมีกลุ่มก้อนของเขาที่ไมค่อยจะลงรอยกัน เช่นเมื่อก่อน มีกลุ่มทางเชียงใหม่คือคุณเยาวภา ก็เป็นแกนนำที่อยู่ตรงนั้น และมีกลุ่มอีสาน ที่ตอนนี้มีกระแสว่าเขาอยากผลักดันคุณสุทิน คลังแสงขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค แล้วก็มีกลุ่มกรุงเทพฯ ซึ่งคุณหญิงหน่อยเป็นหัวหน้าพรรค แล้วกรุงเทพฯ ก็มีสองกลุ่มอีกนะ มีกลุ่มสายไหมกับบางบอน คือกลุ่มคุณเฉลิมและกลุ่มคุณสุดารัตน์ ภาพเหล่านี้เห็นชัดเจนอยู่ในข่าวตลอดเวลา รอยปริแยกมีมานานแล้ว แต่จะส่งผลอย่างไรต้องดูกันต่อไป"

ข่าวเมาท์วงในเมาท์ว่าเฮดใหญ่ๆ ในเพื่อไทยเขาหงอให้เด็กเกินไป จนไปฟ้องนายใหญ่ กลัวซ้ำรอยกับพรรคที่ผ่านมา?

"ถ้าจะพูดไปแล้ว ถ้าหากขณะนี้พรรคที่ต่อต้านรัฐบาล มีพรรคสีส้มกับพรรคสีแดง บทบาทพรรคสีเข้มค่อนข้างเข้มข้นกว่า แม้เขาประกาศตัวว่าเขาสนับสนุนการชุมนุม แล้วการชุมนุมเกิดผิดจริง เรื่องการพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย อย่าลืมว่ามันมีแฮชแท็กเรื่องคำว่าสาธารณรัฐประเทศไทยก็มี เรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่ใช่การปฏิรูป คำพูดหลายอย่างมันเป็นการล้มล้าง ถ้าบอกว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ถูกตีความว่าเป็นการสนับสนุนการล้มล้าง เขาถูกยุบพรรคได้ง่ายๆ หลายคนก็เลยมองดูว่าปรากฎการณ์หมอบกราบของคุณหญิงครั้งนี้ เป็นการลอยแพหรือลอยตัว เพราะถ้าลอยแพก็เฮ้ย ไม่เอาพวกแกแล้ว พวกแกสู้สีส้มไม่ได้ ลอยตัวก็คือว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ตรงนี้ฉันไม่เกี่ยวนะ ตรงนี้ยังตีความไม่ชัดเจน ว่าการออกมาหมอบกราบคือลอยตัวหรือลอยแพ ก็คิดได้สองทาง เวลานี้เรื่องตีความปรากฎการณ์หมอบกราบยังไม่ชัดเจน"

เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ พอไปถามทีละคน มีผลโพลออกมา 80 เปอร์เซ็นต์ เขาว่าเขาไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญเลย?

"อย่าว่าแต่ประชาชนเลยที่ยอมรับว่าตัวเอง ส.ส. บางคนที่ต้องการจะแก้ก็คงไม่ได้อ่านเช่นเดียวกัน แต่มันเป็นเรื่องกระแส ประชาชนจำนวนหนึ่ง และเด็กๆ ด้วยที่เขาอยากให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะมีกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองปล่อยข้อมูลตรงนี้ออกไป วิธีการปล่อยข้อมูลเขาก็มองภาพรวมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตั้งโดยสสร.ที่ตั้งโดยคสช. คสช.มาจากรัฐประหาร เป็นเผด็จการ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็น่าจะเป็นการร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการ ขณะเดียวกันการที่มีสว.250 คนที่สามารถลงคะแนนเสียงเลือกรัฐมนตรีได้ เขาก็ใช้คำว่าสืบทอดอำนาจ ฉะนั้นรัฐประหาร เผด็จการ สืบทอดอำนาจ ล้วนแล้วแต่เป็นวาทกรรม ที่ทำให้คนเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ไข แต่จริงๆ แล้วถ้าเกิดเขาติดตามอย่างใกล้ชิดจะรู้ว่าประเด็นแก้ไขไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนนักเลย เช่น เขาต้องการตั้งสสร.เพื่อร่างใหม่ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เสียเงินมากมายก่ายกอง เราพยายามถามเขาว่าจะแก้มาตราใด เขาพูดอยู่แค่ 2 มาตรา คือ 256 ที่ให้ตั้งสสร. และ 272 ที่ยุบอำนาจสว. พูดได้แค่นี้ 

แต่ประเด็นอื่นเขาไม่ได้พูด แต่เรารู้ว่าเขาเถียงกันเรื่องบัตรใบเดียวหรือสองใบ พรรคเพื่อไทยเขาเสียประโยชน์จากบัตรใบเดียว เพราะเขามีส.ส.เขตมากพอจนเขาไม่สามารถได้บัญชีรายชื่อเลย ก็ทำให้เขาได้จำนวนส.ส.ลดลง ขณะเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่ตอนนั้นได้ประโยชน์จากตรงนี้ เขามีส.ส. เขตแค่ 30 กว่าคน แต่เขาได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 กว่าคน กลายเป็น 80 ตรงนี้ส.ส.ก็พูดว่าจะใช้บัตรใบเดียวหรือสองใบ ก็เป็นเรื่องของใคร เป็นเรื่องของนักการเมือง ไม่เกี่ยวกับประชาชนเลย นอกจากนั้นมีอีกหลายเรื่อง เช่นเขาต้องการยกเลิกมาตราที่พูดถึงการยอมรับคำสั่งของคสช.เขาอยากให้เลิกข้อนี้ เพราะถ้าเกิดมีการยกเลิก หลายคดีที่ผ่านไป ไม่รู้ต้องถูกรื้อหรือเปล่า โทษที่เคยมีจะกลายเป็นนิรโทษกรรมรอบ 2 หรือเปล่า เขาต้องการแก้ตรงนี้ หรือเช่นเรื่องความผิดบางอย่าง ไม่มีอายุความ 

ถ้าหนีไปต้องหนีตลอดชีวิต หรือถ้ามีการโกง ต้องติดคุกตะรางถึงขนาดตลอดชีวิต หรือถ้าบริหารประเทศเกิดความเสียหาย ต้องติดคุกและใช้เงินด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องประชาชน พี่ตั้งคำถามมานานแล้ว อยากให้ประชาชนช่วยกันตั้งคำถาม คุณส.ส. ที่รักคะ ที่คุณอยากแก้รัฐธรรมนูญ พอจะบอกเราได้มั้ยว่ามาตราไหนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่ใช่พวกคุณนะคะ คุณจะแก้มาตราไหนเพื่อฉันในฐานะเป็นประชาชน เมื่อแก้แล้วมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะดิฉันไม่รู้สึกเลยว่าเสรีภาพหายไป ไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าอยากจะชี้ ชี้เลยค่ะ มาตราไหน"

ม็อบบอกว่าเพราะมีสว.แบบนี้ เลือกมาก็แพ้ทุกที?
"แต่ไปดูตัวเลขสิ นายกฯ คนนี้ได้เป็นนายกฯ ด้วยคะแนน 251 จากสภานิติบัญญัติ โดยไม่จำเป็นต้องง้อสว. ถ้าเขาจะแก้ข้อนี้ก็เห็นด้วย เพราะฟังเขาพูดว่าการมีสว.ลงคะแนนเลือกตั้งนายกฯ ไม่มีความหมายอะไรหรอก ไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดที่หาเสียงไม่ได้เกิน 251 กล้ามาเป็นนายกฯ เพราะว่าถ้าหากเอากฎหมายด้านการเงินเข้าไป แล้วส.ส.ไม่ถึง 251 ถ้าหากกฎหมายฉบับนั้นตกไป ยังไงนายกฯ ก็ต้องลาออก ฉะนันมี 250 มาลงคะแนนให้นายกฯ ก็เป็นขี้ปาก ถูกนินทาเปล่าๆ เพราะยังไง ใครจะเป็นนายกฯ พรรคที่เป็นแกนนำ ต้องหาคนสนับสนุนให้เกิน 251 และต้องเกินเยอะๆ ด้วย ไม่งั้นหมิ่นเหม่เกินไป เราจะมีให้คนนินทาทำไม เพราะฉะนั้นเอาแค่ส.ส. ถ้าไม่มีคนสนับสนุนเกิน 251 ก็อย่าเผยอมาเป็นนายกฯ อยู่ไม่ได้หรอกค่ะ"

16.8 ล้านคนเขาก็เห็นด้วยกับอำนาจสว. และเขาบอกด้วยว่าคะแนนเขาก็กาให้ด้วย?

"เขาเห็นด้วยเพราะตอนนั้นเขาก็หวั่นวิตกอยู่เหมือนกัน ว่าถ้ามีการเลือกตั้งแล้วเป็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ถ้าติดตามการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2544 สิ เพื่อไทยชนะตลอด เขาก็กลัวแล้ว เพื่อไทยที่มาเป็นรัฐบาลครั้งสุดท้าย มีปัญหาเรื่องจำนำข้าว พยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ถ้าสมมติเลือกตั้งมาแล้วเพื่อไทยชนะ แล้วไม่มีสว. ก็อาจทำให้ในที่สุดเพื่อไทยกลับมาครองเมือง หลายคนจึงไปลงคะแนน เห็นด้วยกับคำถามพวกที่ว่ายินดีให้สว.เลือกนายกฯ มั้ยอย่างนี้เป็นต้น เขาจึงเห็นด้วยเนื่องจากมองว่าเวลานี้ถ้าให้เพื่อไทยมา เขาก็กลัวกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยค่ะ"

แฮชแท็กไม่ออก ไม่เรียน จนกว่านายกฯ จะลาออก เกินไปมั้ย?
"ก็ช่างเขาสิ ไม่ใช่ลูกเต้าเรา พ่อแม่เขาอยู่ไหน เป็นลูกกำพร้าเหรอ เราอยู่นอกครอบครัวเขา เขาไม่อยากเรียน ไม่อยากมีอนาคต ไม่อยากมีความรู้ไปทำมาหากินก็เรื่องของเขา คนที่เดือดร้อนไม่ใช่เรา พ่อแม่ตั้งใจจะเลี้ยงดูเขาตลอดชีพมั้ย พ่อแม่ต้องบอกว่าถ้าลูกไม่เรียน หางานทำไม่ได้ ลูกต้องมั่นใจว่าลูกตายก่อนแม่นะ แม่จะได้เลี้ยงดูตลอดไป ถ้าแม่ตายก่อนลูกจะอยู่ยังไง อย่าไปเดือดร้อน อย่าไปวุ่นวายกับเขา ไม่ต้องไปบอก ไปเตือน ไปเถียงเขา เขาตัดสินใจของเขาเอง เอาที่สบายใจก็แล้วกัน ไม่ลาออกแต่ไม่ไปเรียน กฎโรงเรียนเขามีนะจ๊ะ ว่าขาดกี่วันเขาตัดออกจากบัญชี ไม่งั้นไม่ต้องลาออกหรอก ถ้าไม่ไปเรียน เขาเอาออกไปเอง 

แต่คนที่ส่งเสียคุณเรียนคือใคร คือพ่อแม่ ทำไมพ่อแม่ให้ไปเรียน เพราะเขาต้องการให้มีความรู้ไปติดตัวทำงานทำการ เพราะเขารู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แล้วโดยธรรมชาติ คนแก่ต้องตายก่อนเด็ก ถ้าไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุ ถ้าเขาไม่ไปเรียน เราคนนอกก็อย่าไปยุ่งกับเขา ถ้าเขาพูดแบบนี้แล้วพ่อแม่ยังเฉยเมย เราถามว่ามีลูกทำไม มีลูกแล้วไม่สอน เด็กพวกนี้ไม่ใช่กำพร้านะ ต่อให้กำพร้าข้างใดข้างหนึ่ง เขาก็คงไม่กำพร้าญาติมั้ง ต้องมีป้า น้า อา ลุง ย่า ยาย ก็เห็นดาราหลายคนอยู่กับยาย อยู่กับย่า กับป้า ถ้าเขาพูดแบบนี้แล้วคนในครอบครัวไม่ทำอะไรเลย ก็ปล่อยเขา เขาไม่ใช่ลูกหลานเรา เราไม่ได้เลี้ยงเขามา ถ้าเขาไม่มีงานทำ เราก็ไม่เกี่ยวข้อง เราไม่ได้เดือดร้อน เขาก็จะอดตายของเขาเอง เขาต้องไปหาพระหาเจ้า เนื่องจากลูกไม่ได้เรียนหนังสือ คงหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ขอให้ตายก่อนพ่อแม่ ขอให้พ่อแม่เลี้ยงลูกจนกว่าจะตาย ขอให้พ่อแม่อายุยืนกว่าลูกนะ สาธุ"

อีกหนึ่งประเด็น รุ้ง แกนนำม็อบ เขามอบกล้วยให้ประธานอย่างคุณชวน?
"เขาแจกมา เขามีเหรอ (หัวเราะ) ทั้งคนแจกและคนเห็นด้วย มีเหรอ แล้วจริงๆ แล้ว การที่คุณทำแบบนี้ คะแนนคุณร่วงเลย เพราะหลายๆ คนไม่ว่าเขาจะเกลียดหรือชอบหรือเฉยๆ กับพลเอกประยุทธ์ จำนวนมากยกย่องให้เกียรติคุณชวน คุณชวนเป็นนักการเมืองซึ่งไม่มีเรื่องด่างพร้อย คุณชวนทำหน้าที่นายกฯ มาแล้ว ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา หลายคนดูการทำงานของคุณชวนเวลานี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้ารัฐสภารอบนี้ ไม่มีคุณชวนเป็นประธาน คงเอาไม่อยู่ ในเมื่อคุณชวนเป็นคนอย่างนี้ แล้วมีคนที่เป็นนักเรียน อายุน้อยกว่าเยอะมาทำตัวแบบนี้ 

หลายคนไม่เห็นด้วย บอกได้เลยว่าการทำแบบนี้ ไม่ได้แปลว่าจะเพิ่มแนวร่วม แต่จะลดจำนวนแนวร่วม มันเป็นการด้อยค่าการชุมนุม และเชื่อว่าเด็กบางคนคิดได้เองที่จะไม่ไปร่วม และอย่าลืมว่าผู้ชุมนุมไม่ได้มีแค่เด็ด ผู้ใหญ่บางคนเขาก็ไม่ไปร่วม เด็กบางคนที่แม้ไม่ได้คิดได้เอง แต่พ่อแม่คิดได้ ก็คงต้องชี้ให้ลูกเห็นว่าลูกเห็นมั้ยว่าการชุมนุมของเขาเป็นอย่างนี้ บ้านเราเชื่อเรื่องความสุภาพ และทำอะไรมีรสนิยม การทำแบบนี้ไม่สุภาพ ต่ำตม รสนิยมทราม ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะไปสนับสนุนเขาอีกหรือ ทั้งสามกลุ่มจะทำให้แนวร่วมการชุมนุมลดลง แม้เขาจะพูดว่าเดือนต.ค.นี้เขาจะจัดการยกระดับอะไรต่างๆ นานา จากการคาดการคิดว่าการมีคนมาร่วมมือ แม้นว่าไม่มีการจัดตั้ง ไม่มีการขนคน ให้มาโดยธรรมชาติ จะไม่มีจำนวนมากอย่างที่เขาคิด"

ย้อนกลับไป เมื่อสองสามวันก่อน มีการปิดล้อมรัฐสภา ม็อบพยายามจะให้ส.ส. สว. ที่เขาทำงานเสร็จเปิดประตูรถ แบบนี้คุกคามมั้ย?

"แน่นอน คุกคามตั้งหลายเรื่องแล้ว คุณนำสติ๊กเกอร์อะไรต่างๆ ไปติดรัฐสภา นั่นคุณกำลังทำลายสมบัติซึ่งเป็นของราชการ นี่คือคุกคาม คุณเขียนใบลาแทนพวกเขาแล้วโปรยเข้าไป คุณเรียกหาประชาธิปไตย แต่คุณเขียนใบลา บังคับให้เขาลาออก มันใช่่ประชาธิปไตยมั้ย ขณะเดียวกันคุณเรียกร้อง 3 ข้อต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณไม่ให้โอกาสเขาคิดเลยเหรอ คุณต้องทำตามที่คุณต้องการเหรอ ขณะเดียวกัน พอเขาจะออกมา มันเป็นความน่าเกลียดน่าชังที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย มีส.ส.จำนวนหนึ่ง เดินออกมาด้วยการชู 3 นิ้ว แล้วเดินออกมาได้ฉลุยโดยไม่มีใครขัดขวาง 

แต่ถ้าคนไม่ได้ชู 3 นิ้ว ก็แปลว่าเป็นส.ส.ซีกรัฐบาลบ้าง เป็นสว.บ้าง เขาก็พยายามที่จะไปเปิดรถอะไรต่างๆ นานา แล้วมีส.ส.คนนึงที่เขารู้ว่าต้องสร้างความปลอดภัยด้วยการไปที่ประตูใดประตูหนึ่ง ปรากฎว่าเธอโพสต์ค่ะ ว่าบรรดาสว. และส.ส. พรรครัฐบาลออกประตูไหน นี่คือการชี้ให้เห็นว่าถ้าจะจัดการคนไหนให้ไปที่ประตูนั้น การที่ไปดักหน้าถนน ดักที่ลำน้ำ ล้วนแล้วแต่เป็นการคุกคามทั้งสิ้น แล้วพอเขาเดินออกมา คุณก็ตะโกนด่าเขา ด้วยถ้อยคำที่ถือเป็นคำด่า สัตว์ตัวนี้บางคนเรียกตะกวด แลน เหี้ย แต่สุดท้ายเป็นคำด่าเพราะสัตว์ตัวนี้มีลิ้นสองแฉก ซึ่งแปลว่าพูดจาสับปรับ ไม่อยู่กับร่องกับรอย และที่สองคือชอบขโมยไก่และลากไปกินในน้ำ มันเลยกลายเป็นคำด่า การที่สว.ส.ส. เขาลงคะแนนเสียงว่าเรายังไม่ได้คุยกันเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ฉะนั้นอย่าเพิ่่งลงคะแนนเสียงทั้ง 6 ญัตติเวลานี้ได้มั้ย ไปคุยกันสักเดือนก่อนดีมั้ยแล้วค่อยกลับมา ถามว่าเขาเลวถึงขั้นต้องตะโกนด่าอยู่ข้างหน้าสภาเหรอ ถ้าคุณเป็นการชุมนุมเรียกร้องหาประชาธิปไตย คุณจำเป็นมั้ยต้องใช้คำหยาบคาย ต้องใช้ความรุนแรง คุกคามความปลอดภัยคนอื่น มันย้อนแยงกัน"

มีการแชร์ภาพประธานศาลฎีกาคนใหม่ เป็นภาพเก่าที่เขาไปร่วมกปปส. ทัวร์ลงเชียว?

"การชุมนุมมีหลายกลุ่ม แต่เจตนาการชุมนุมคืออะไร ชอบธรรมหรือไม่ เช่นกปปส. เขาชุมนุมเพราะเขาไม่พอใจกฎหมายนิรโทษกรรม เขาชุมนุมเพราะคิดว่าโครงการจำนำข้าวสร้างความเสียหาย ซึ่งไม่เหมือนการชุมนุมในครั้งนี้ การชุมนุมในครั้งนี้จากป้ายที่เขาถือ จากคำปราศรัย เราเห็นชัดเจนว่าเขาต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัติรย์ ขณะเดียวกันแฮชแท็กสาธารณรัฐประเทศไทย มันคือเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง งั้นใครที่มาร่วมก็มีส่วนตรงนั้น แต่การมีก. ข. ค. ง. ช. ไปร่วมการชุมนุมกปปส. ก็แปลว่าเขาต้องการให้ยุติโครงการจำนำข้าว เขาต้องการให้ยกเลิกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเพราะมันไม่ยุติธรรม การที่ปล่อยให้คนฆ่าคน ทำลายทรัพย์สิน เผาบ้านเผาเมืองไม่ได้รับการลงโทษ"

++++
เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ เรื่องลับมาก