ทันตแพทย์หนุ่มขอความเป็นธรรม คาใจรพ. ดังเชียงใหม่ ทำภรรยาดับ ช็อกช้ำต้องเสียลูก!

กรณีทันตแพทย์หนุ่ม สูญเสียภรรยาจากอาการแพ้สารทึบรังสีรุนแรง หลังภรรยามีอาการปวดท้องน้อย ก่อนใจสลายซ้ำสอง พบว่าภรรยาตั้งครรภ์ไม่รู้ตัว ทันตแพทย์ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญในชีวิตถึง 2 คนด้วยกัน ขณะที่รพ. ปฏิเสธการเยียวยา โดยอ้างว่าที่ผ่านมารักษาถูกต้องทุกอย่าง

รายการโหนกระแสวันที่ 8 ต.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ เปิดใจสัมภาษณ์ "ทันตแพทย์ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร" สามีผู้เสียชีวิต มาพร้อม "ดร. อรอนงค์ ปิลันธน์โอวาท สกุลธัญ" ทนายความ เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

แทบไม่เห็นลงรูปอะไรนอกจากรูปภรรยาในเฟซบุ๊กตั้งแต่แรก แสดงว่าผูกพันกันมาก?
ธีระวุฑฒ์ : "ครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเจอคนเยอะๆ ไม่ชอบออกสื่อ ถ้าไม่เป็นเรื่องส่วนตัว ผมก็ไม่มา ตั้งแต่แต่งงานกันมาเฟซบุ๊กผมไม่ค่อยเล่น ถ้าจะลงก็ลงเกี่ยวกับเรื่องภรรยา"

เรื่องเกิดอะไรขึ้น?
ธีระวุฑฒ์ : "วันที่ 8 เมื่อเดือนที่แล้ว ผมพาภรรยาไปส่งที่รพ. ก่อนหน้านั้น 2-3 วันเขาปวดท้องน้อย และบ่นปวดหลัง ปกติเขาปวดอยู่แล้ว คิดว่าอาหารเป็นพิษ หรืออะไร ผมเลยเลื่อนคนไข้ช่วงเช้า ตอนเช้าพาเขาไปส่งที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ เพราะเขาเชื่อในรพ.นี้ เป็นรพ.ใหญ่และเก่าแก่ เปิดมานานแล้วที่เชียงใหม่"

เขาไปรพ.นี้ประจำอยู่แล้ว?
ธีระวุฑฒ์ : "ใช่ครับ"

"ตอนนั้นบ่ายโมง บ่ายสองโมงเขาโพสต์ครั้งสุดท้ายรอเข้าห้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ สามโมงที่คุณแม่กิ๊ฟโทรหาผม ให้รีบตัดต่อรพ.ด่วนเพราะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ผมก็รีบโทรไปเพราะงงมาก และรีบบอกรพ.ว่าต้องทำอะไรก็ทำเลยนะครับ ตอนนั้นก็ยกมือไหว้ขอคนไข้บอกว่าภรรยาเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วรีบไปรพ. ปรากฎว่าตอนนั้นเขาอยู่ในห้องฉุกเฉิน"

"ผมก็งงมาก คุณหมอที่ห้องฉุกเฉิน หมอบอกว่ากิ๊ฟแพ้รุนแรงสารทึบรังสีที่ฉีดเพื่อเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และเขามีอาการแพ้รุนแรง ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอด หายใจไม่ออก เลยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่อาการเขาคงที่แล้ว เราก็สบายใจ เขาบอกอีกสักพักจะส่งไปดูอาการที่ห้องไอซียู เราก็รีบโทรหาพ่อแม่ภรรยา เพราะเขาอยู่พะเยาจะขับรถเข้ามาที่เชียงใหม่ ถนนก็ไม่ดี มีพายุด้วย เราก็บอกเขาว่าแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมจะดูแลกิ๊ฟเอง คุณแม่มาพรุ่งนี้ก็ได้ หลังจากนั้นพ่อแม่ผมก็ตามเข้ามา ผมก็จัดการประกันเรื่องอะไรให้เขาเพราะตั้งใจจะย้ายไปรพ.ที่คณะแพทย์ สัก 20 นาทีเราตามไปห้องไอซียู ภาพที่เห็นหมอพยาบาลปั๊มหัวใจภรรยาอยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นบอกว่าอาการภรรยาคงที่แล้ว"

"ผมช็อกมาก ตอนนั้นพูดไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไง คอยชะเง้อดู สักพักคุณหมอบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ปกติ คนที่แพ้ก็เป็นแบบนี้แหละ สักพักเขาก็ฟื้น เราก็ใจชื้น ผ่านไป 30 นาที เหมือนเขารู้ตัว มีการเรียกชื่อในห้องไอซียู เราก็หันมาบอกพ่อกับแม่ว่าโอเคแล้วนะ น่าจะไม่เป็นไรแล้ว สักพักพยาบาลวิ่งไปปั๊มอีกรอบ หัวใจหยุดเต้นอีกรอบ"

"รอบนี้ได้เจอคุณหมอเจ้าของไข้ภรรยาที่ตรวจครั้งแรก เขาเดินมาบอกว่าเขาอ่านผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้ว ผมเข้าใจว่าเขาไม่ทันเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลังฉีดสารเพราะเข้าใจว่าเขาเริ่มมีอาการ แต่อันนี้เขาบอกว่าเขาได้ผลซีทีแล้ว เขาบอกว่าเขาเจอถุงน้ำที่รังไข่ น่าจะเป็นเลือดอยู่ในข้างในและแตกออก ภรรยาเลยปวดท้อง แล้วที่สำคัญเขาเจอลักษณะถุงการตั้งครรภ์ หรือตัวอ่อน อายุครรภ์ 6-7 สัปาดห์ หมอเขาเจาะปัสสาวะจากร่างที่หัวใจหยุดเต้น ก็คอนเฟิร์มว่าตั้งครรภ์จริง ผมยืนอยู่ก็ไม่รู้ต้องรู้สึกยังไง ไม่รู้ต้องเสียใจหรือดีใจ เพราะเราอยากมีน้องมานาน แล้ววันที่ 8 ผมคิดว่าน่าจะเป็นเย็นวันนั้นที่เราจูงมือและฉลองกัน ไม่คิดว่าจะเป็นวันที่ผมไม่อยากจดจำไปทั้งชีวิต"

คุณหมอย้อนกลับไปถามรพ. เพื่อให้ชี้แจง ที่สงสัยคือก่อนฉีดรังสีทึบแสงต้องมีการเทสการแพ้หรือเปล่า?
ธีระวุฑฒ์ : "ผมเป็นหมอฟัน ผมก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ถ้าผมทราบว่าภรรยาตั้งครรภ์คงไม่พาไปรพ. ปวดท้องก็คงวินิจฉัยเองได้ แล้วจากประสบการณ์ที่เราทำงานมา ถ้ารู้ว่าสิ่งที่ให้คนไข้ไปมีความเสี่ยง ผมก็ต้องตรวจสอบ อาจต้องเทสก่อนในดุลยพินิจของเรา"

รพ.เขาแจ้งกลับมายังไง?
ธีระวุฑฒ์ : "หลังพาที่พาภรรยากลับมาทำพิธีที่บ้าน มันเสียใจมาก ระหว่างทำพิธี ภรรยาผมเป็นเภสัชกร น้องผมอีก 3 คนก็เป็นแพทย์ เขาก็เอาข้อมูลจากรพ.มาดู ก็เห็นว่ามีหลายขั้นตอนที่ไม่ตรงไปตรงมา แล้วเพื่อนเขาอาจารย์หมอหรือคนรู้จักหลายๆ คนเขาก็ถามว่าเป็นอะไร ทำไมเสียชีวิตในรพ. ได้ อันนี้เกิดข้างนอกรพ.หรือในรพ. เราตอบไม่ได้เพราะเราไม่ทราบจริงๆ หลังจากวันนั้น 3 วัน น้องผมเลยเข้าไปคุยที่รพ. ก็ได้เจอผู้อำนวยการ ก็แค่ไปขอคำชี้แจง"

จริงๆ ครอบครัวคุณหมอมีพี่น้องกี่คน?
ธีระวุฑฒ์ : "นับผมก็ 5 คน น้องสามคนเป็นแพทย์"

ผมตกใจ ขนาดทั้งบ้านเป็นครอบครัวหมอยังเจอแบบนี้ แล้วครอบครัวผมที่ไม่ใช่เป็นหมอ จะทำยังไง ชีวิตไม่อับปางเหรอ?
ธีระวุฑฒ์ : "สิ่งที่เราได้คำตอบกลับมาคือเขาจะให้ส่วนลดในการรักษาคุณพ่อคุณแม่ภรรยา ถ้ามารักษารพ.ในเครือ เราฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องพวกนี้ สิ่งที่ต้องการคือให้เขาเยียวยาและชี้แจง แต่พอเขาพูดแบบนี้ทำให้เรารู้สึกแย่ แล้วเขาขอเวลา 1 อาทิตย์เพราะต้องไปประชุมกับบอร์ดบริหาร"

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คุณหมอไปยื่นเรื่องต่อแพทย์สภา เป็นยังไง?
ธีระวุฑฒ์ : "เบื้องต้นก็รับเรื่องไปแล้ว น่าจะมีการตั้งกรรมการสอบ"

อย่างเช่น?
ดร.อรอุมา : "อย่างแรกก่อน คุณกิ๊ฟอายุประมาณเดียวกับคุณหมอ มีครอบครัว อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ จริงๆ ช่วงการซักประวัติเอง สิ่งแรกต้องสงสัยว่าจะมีการตั้งครรภ์ได้มั้ย การตรวจการตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่งอยาก และไปด้วยการปวดท้องน้อย สิ่งหนึ่งที่คุณหมอต้องสงสัย เกี่ยวกับสูติฯ ตั้งข้อสันนิษฐาน ก็เป็นจุดแรกที่ถ้ามีการตรวจน่าจะพบแล้วว่ามีการตั้งครรภ์ตั้งแต่แรก เขามีการเก็บปัสสาวะเก็บเลือด จริงๆ พวกนี้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ จุดนี้ก็เป็นจุดนึง อีกจุดนึงต้องมาดูว่าหลังแพ้ กระบวนการรักษาเป็นอย่างไร เท่าที่ดูเราก็ตั้งข้อสังเกตว่าได้ตอบโต้ทันท่วงทีมั้ย เข้าไปเราอาจไม่รู้หรอกว่าจะแพ้หรือไม่แพ้ แต่พอคนไข้แพ้แล้วต้องทำยังไง และได้ทำมั้ย นั่นล่ะค่ะ คือสิ่งที่ตั้งข้อสังเกต และเห็นจุดที่น่าสงสัย และมองว่าน่าจะนำมาซึ่งความประมาทและนำไปสู่การสูญเสียของครอบครัว"

หมอได้เวชระเบียบมาหรือยัง?
ธีระวุฑฒ์ : "ได้บ้างครับ ได้ยังไม่ครบ จริงๆ ควรต้องได้ครบแล้ว ติดประเด็นไหนผมก็ไม่ทราบ"

ถือว่าผิดแปลกมั้ย?
ดร.อรอุมา : "จริงๆ หนึ่งในสิทธิผู้ป่วยคือเขาสามารถขอเวชระเบียน ประวัติการรักษาของเขาทั้งหมดได้ อันนี้ก็แปลกค่ะ ก็ตั้งข้อสังเกตว่าถ้าไม่มีอะไร ทำไมไม่ให้มา ก็เป็นการตั้งข้อสังเกตของแพทย์และทีมทนาย"

ได้ถามรพ.มั้ยจะให้ทั้งหมดเมื่อไหร่?
ธีระวุฑฒ์ : "ทุกครั้งจะขอก็ต้องทำเรื่องเข้าไป ผู้บริหารอนุมัติก่อนแล้วค่อยไปรับอีกที"

เคยขอกล้องวงจรปิดมั้ย?
ธีระวุฑฒ์ : "เคยขอ ระบุแล้วว่าอยากได้ตรงไหนบ้าง แต่ก็ได้ไม่ครบ ตรงส่วนในห้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นจุดที่เราสงสัยว่าอาจมีการเข้าไปตรวจช้าหรือเข้าไปช่วยตรงส่วนนั้นมั้ยก็ไม่ได้ เขาบอกว่าไม่มีกล้องวงจรปิด"

ในฐานะมีพี่น้องเป็นคุณหมอ จริงๆ ต้องมีมั้ย?
ธีระวุฑฒ์ : "ถ้าเป็นรพ.ใหญ่ มีมาตรฐานก็ควรต้องมี"

อันนี้ก็เป็นรพ.ใหญ่?
ธีระวุฑฒ์ : "ก็รอให้เขาชี้แจง"

เห็นว่าทุกวันนี้ขับรถผ่านรพ.แทบไม่ได้?
ธีระวุฑฒ์ : "มันกลัว ขับผ่านก็มือสั่น แค่คิดก็เหงื่อแตกแล้ว แต่ที่ผ่านมาต้องไปขอเวชระเบียน ไปมา 3 รอบแล้ว"

ระหว่างสัมภาษณ์ คุณหมอเอารูปภรรยาวางที่หน้าตัวเองตลอดเวลาบนโต๊ะ ทุกครั้งที่ถามคำถามจะก้มเหลือบไปมองรูปภรรยาทุกครั้ง เหมือนเขาอยู่ข้างๆ?
ธีระวุฑฒ์ : "ครับ แล้วก็มีแหวนแต่งงาน ผมเป็นคนใส่ให้เขาเอง เขาไม่เคยถอดเลย แม้ไม่ใช่แหวนที่แพงมากเขาก็ใส่ติดตัวไว้ตลอด ผมเป็นคนสุดท้ายถอดให้เขาวันที่ 8 ก็เหมือนเขาอยู่กับผม เพราะผมเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง"

อยากให้จบตรงไหน?
ธีระวุฑฒ์ : "อยากให้เขาออกมาชี้แจง เราทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เชื่อว่าไม่มีหมอคนไหนอยากให้คนไข้เสียชีวิต แต่ประมาทหรือผิดพลาดขั้นตอนไหน ต้องชี้แจงและรับผิดชอบ สิ่งที่ทางครอบครัวผมเสียไปคือชีวิตของภรรยาของลูก และลูกของพ่อแม่ วันนี้มันเอากลับมาไม่ได้แล้ว วันนี้อยากให้เขาชี้แจง และเยียวยาตามความเหมาะสมและจริยธรรม"

คุณหมอเสียถึงสองชีวิต คือไม่รู้มาก่อนภรรยาตั้งครรภ์ ถ้าย้อนกลับไปว่าวันนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ภรรยาไม่ได้แพ้สารทึบรังสี แล้วมีการฉีดสารเข้าไปก็สูญเสียอยู่ดี เพราะเด็กคนนั้นก็เสียชีวิตอยู่ดี อย่างน้อยหนึ่งชีวิตต้องเสีย แต่วันนี้โชคร้ายถึงสอง สิ่งที่ต้องการต้องการคือคำชี้แจงและความเป็นธรรมให้พ่อแม่คุณกิ๊ฟ ไม่อยากได้ยินคำว่าทำถูกต้องแล้ว มีอะไรอยากพูดกับรพ.?
ธีระวุฑฒ์ : "คือวันนี้ที่ทางรพ.บอกว่าทำถูกต้องตามมาตรฐานแล้ว ผมอยากให้คุณหมอทุกคน อาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์ทุกคน วันนี้มันเกิดขึ้นผิดพลาดมาแล้ว อยากให้ตรวจสอบอย่างเป็นกลางที่สุดว่าเป็นมาตรฐานตามที่รพ.ได้บอกไว้จริงหรือเปล่า ถ้าวันนี้คุณหมอ หรืออาจารย์ทุกคนรับได้ ตามที่รพ.อ้าง ว่าถูกต้องจริงๆ ทางผมและครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะครับ เราเป็นคนมีเหตุผล แต่ถ้าวันนี้มีข้อผิดพลาดขึ้น ก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดกับครอบครัวไหนอีก ผมไม่ต้องมาปลอบคนอื่นแบบนี้ ถ้าไม่เกิดกับตัวจะไม่เข้าใจคำว่าใจสลายเป็นยังไง วันนี้ผมใจสลายครับ"

เข้าใจคุณหมอ เพราะเรื่องราวแบบนี้เคยเกิดกับคุณพ่อผมเหมือนกัน?
ธีระวุฑฒ์ : "ขอบคุณพี่หนุ่มครับ"