ผู้บริหารบริษัทอสังหาฯ ปล่อยโฮขอความเป็นธรรม ถูกยัดข้อหาค้ายา ครอบครัว-งานพัง
ทำอาชีพอะไร
เอก : เป็นผู้บริหารชีวาทัย ทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เงินเดือน 2.5 แสนต่อเดือน
อะไรทำให้ผู้บริหารชีวาทัย ตกเป็นจำเลยในกรณีค้ายา
เอก : ไทม์ไลน์เหตุการณ์ เกิดเมื่อ 3 ปีก่อน ตร.กล่าวอ้างว่าพบยา 16 ต.ค. ปี 60 ผมถูกจับดำเนินคดี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 62 เขามีหมายมาที่บ้านและบอกว่าผมเป็นผู้ค้ายาเสพติด ผมก็ช็อกเลย เขามีหมายค้นด้วยผมก็ยินดีให้ค้น ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติด หลังจากนั้นพาตัวมาที่กองปราบปรามยาเสพติด ถ.วิภาวดี ระหว่างนี้ผมได้ติดต่อทางหัวหน้าว่าเกิดคดีแบบนี้ขึ้น เรางงมาก เกิดเรื่องแบบนี้่กับเราได้ไง เพราะเราห่างไกลเรื่องนี้มาก ไม่ว่าด้วยอาชีพ ตำแหน่งงาน รายได้
ตอนตร.มาจับคุณเอก ถามอะไรอีกบ้าง ไล่สอบยังไง
เอก : เขาบอกให้รอผู้กำกับ มาจ้องหน้าผมเขม็ง ไปจับที่บ้าน ก็นั่งคุยกัน เขาถามว่าชื่อโอหรอืเปล่า ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมชื่อเอก เขาถามรู้จักนายโอมั้ย ผมบอกว่าไม่รู้จัก มีพี่น้องกี่คน ผมบอกว่าผมมี 6 คน ผมเป็นผู้ชายคนเดียว เขาถามว่าทำไมวันๆ คุณเดินทางเข้าโครงการหมู่บ้านต่างๆ เยอะเหลือเกิน ทำไมสัปดาห์นึงทำไมเข้าออฟฟิศวันเดียว ผมบอกว่าไม่แปลก เพราะเป็นอาชีพผม ผมดูแลพัฒนาโครงการหมู่บ้านทั้งหมด
เอก : ไม่รู้ เขาก็ถามว่าวันๆ ทำไมไปแบบนี้ มันเป็นอาชีพผม ผมดูแลเยอะหลายโครงการ หลังจากนั้นถามว่าทำไมมีหลายบ้าน ผมบอกว่ามีบ้านจริงแค่หลังเดียว อีกสองเป็นของภรรยา คอนโดเป็นของภรรยา และอีกหลังเป็นของคนสนิท
เขาถามเรื่องรถหรือยัง
เอก : ยังครับ มารู้เรื่องรถ ตอนตร.ฝ่ายสืบสวนเล่าให้ฟัง เริ่มจากสายของเขามีปัญหาเรื่องใบกระท่อม เขาต้องการแก้ตัว ต้องการสร้างผลงาน สายเขาชื่อนายพรเทพ โดนคดีใบกระท่อม แล้วต้องการแก้ตัว เขามีดีลกับผู้ค้ายารายหนึ่งชื่อนายโอ นัดกันว่าจะส่งยาและโอนเงิน เขาติดต่อนายโอที่คอนโด ปรากฎว่าเป็นคอนโดของเพื่อนที่ผมเคยไปเท่านั้นเอง
คุณไปคอนโดแห่งนั้น ซึ่งตรงกับพรเทพบอกว่าเขาติดต่อกับโอเอาไว้ว่าจะไปซื้อยาที่นั่น
เอก : เขาติดต่อกัน แต่การค้นพบยาเสพติด ไปพบที่ซอยศุภวรรณ 2 ฝั่งหนองแขม เมื่อ 16 ต.ค.ฐ ปี 60 ซึ่งผมไม่รู้จัก เพราะผมไม่เคยไป
เพื่อนคุณอยู่ชั้นไหนที่ไปบ่อยๆ ในคอนโด
เอก : ชั้น 3 ส่วนฝั่งโน้นอยู่ชั้น 8 คอนโดเดียวกัน เรื่องราวมีการนัดกัน ครั้งแรก วันที่ 14 ที่บิ๊กซี เพชรเกษม ครั้งแรกก็ไม่เจอใครเลย คุยย้ายเปลี่ยนที่เป็นเพชรเกษม 69 ก็ไม่พบไม่เจอ ย้ายอีกเป็นที่ศุภวรรณสองแห่งนี้ พบยาอยู่ในซองพลาสติกซ้อนอยู่ในขนม ทิ้งอยู่ในขยะข้างทาง ผมเลยมีคำถามทันทีว่าทำไมถึงเป็นผมล่ะ เขาบอกว่าผู้ค้าขับมาสด้า 3 สีน้ำเงิน เลขทะเบียน 4กช9951 ซึ่งดันเป็นรถทะเบียนรถผม ผมขับรถมาสด้า CX5 เขาบอกสืบจากทะเบียนราษฎร์ ปรากฎเป็นชื่อผม
เหมือนโอเอาทะเบียนไปสวมใส่รถเขาเอง แต่รถมาสด้าคนละรุ่นกัน เป็นไปได้มั้ยโออาจไปคอนโดนั้นและเห็นรถคันนี้ แล้วก็เอาทะเบียนไปสวม
เอก : เป็นไปได้ ผมก็อยากพิสูจน์ว่าเราไม่เกี่ยวข้อง เราไม่เคยทำ เราบริสุทธิ์ ก็บอกว่าเอาตัวนายพรเทพที่เคยติดต่อกับนายโอมาชี้ตัวผมเลยว่าใช่ผมมั้ย เหตุเกิดที่กองปราบปรามยาเสพติด ถ.วิภาดี นั่งกันหลายคน ทางตร.ก็ติดตามตัวมา เขามาถึงก็เดินมาเห็นปุ๊บเขาก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ผม จับผิดตัวนะพี่ อย่าไปจับเขา ผมเอารูปให้ดูแล้ว ไม่ได้ดูเหรอ
พรเทพชี้เป้าว่าโอนัดกับเขางี้ๆ โอเป็นคนค้างี้่ๆ เดินมาชี้ตัวคุณ
เอก : มีส่วนพยานบุคคลเป็นผู้บริหารบริษัทมาช่วยซัปพอร์ต 2 ท่าน แล้วทนายบริษัทอีก 1 ท่าน ตร.ที่นั่งและด้านหลังเป็นห้องผู้กำกับ ทุกคนได้ยินหมด
พรเทพบอกว่าไม่ใช่คนนี้ อย่าไปจับเขานะ จับผิดตัว เคยเอารูปโอให้ดูแล้ว ไม่ได้ดูเหรอ มันก็น่าจะจบตรงนี้
เอก : ความเข้าใจผมคิดว่าจบ หลังจากนั้นตร.ไปสอบสวนเพื่อลงบันทึก แล้วเล่าเหตุการณ์ว่าเนื้อหาผมอัยการให้สอบเพิ่มเพราะรายละเอียดไม่หนักแน่นพอที่จะกล่าวหา เขาเลยเรียกเจ้าของห้องที่ปล่อยให้นายโอเช่ามาสอบถามและมีเจ้าของบัญชีที่มีการโอนเงินมาสอบถาม ซึ่งเจ้าของบัญชีชื่อพรเทพเหมือนกันอยู่เชียงราย ตร.เรียกมาแล้วทั้งสองคน ปฏิเสธไม่รู้จักผม ผมก็คิดว่าจบ จนบ่ายแก่ๆ ท่านผู้กำกับเรียกผมเข้าไปโดยมีทนายเข้าไปด้วย และร้อยตร.เอกท่านนี้ มีลูกพี่ลูกน้องผมที่เป็นอัยการเข้าไปด้วย ท่านก็กล่าวว่ามันเป็นข้อผิดพลาด ต้องขอโทษด้วย ผมก็คิดว่ามันจบ ซึ่งหลังจากนั้นคุยกันเรื่องธุรกิจอสังหาด้วยซ้ำ ท่านเล่าว่าครอบครัวทำอสังหาอยู่อยุธยาเหมือนกัน แต่ปรากฎว่าท่านบอกจะให้ประกันตัว
เอก : ผมก็ไม่รู้
ทนาย : ที่มาชี้ตัว ถ้าเป็นผมเขาเรียกว่าดูตัวเฉยๆ ถ้าการชี้ตัวตามหลักระเบียบสำนักงานตร.แห่งชาติ ต้องให้บุคคลยืนปะปนไม่น้อยกว่า 5 คน และให้ตัวผู้ถูกกล่าวหาเลือกว่าอยู่ตำแหน่งไหน ต้องมีผู้บังคับบัญชาเขา พนักงานสอบสวน ให้ผู้ชี้ตัวมาชี้ว่าเบอร์ไหนๆ ถ้าภาษานักกฎหมายเขาเรียกมาดูตัวเฉยๆ แต่พอสายลับบอกว่าคุณเอกไม่ใช่ผู้ค้ายา ตร.บอกว่างั้นให้ประกันตัว อย่างนี้หมายความว่าเขาตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว
หรือเป็นเพราะไม่ได้เข้ากระบวนการชี้ตัวจริงจัง
ทนาย : ผมก็ไม่ทราบว่าทำแบบนี้เพราะอะไรแต่โดยหลักการ ท่านต้องแจ้งข้อหาและตกเป็นผู้ต้องหา ถามกลับนิดเดียว คดีอัตราโทษสูงประหารชีวิต ท่านให้ประกันตัวเหรอ แล้วญาติคุณเอกบอกว่าไม่เคยมีใครได้ออกไปหรอก มีคุณคนแรกได้ประกันตัว ผมตั้งข้อสังเกตว่าส่วนมากคดียาเสพติด เขาไม่ให้ประกันตัว เขาไปจับตามหมายจับของศาล อยู่ในอำนาจของศาล ในหลักการเขาเอาตัวผู้ต้องหาไปส่งศาล ให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการให้ประกันหรือไม่ อันนี้ท่านอาจเป็นความกรุณาให้ประกันในชั้นสอบสวน
โอเขาพยายามสวมรอยเป็นตัวคุณ
เอก : ก็เป็นไปได้ โดยความเป็นจริงของผู้กระทำผิดกฎหมายเขาไม่แสดงตัวตน เขาต้องปกปิด เกิดอะไรขึ้นเขาจะได้ไม่โดน
ผู้กำกับขอโทษ บอกว่าอาจเป็นเหตุผิดพลาดและให้ประกันตัว ทั้งที่คุณไม่ผิด แต่เมื่อทุกอย่างถูกผลักเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว แล้วทำไมเรื่องยังไม่จบ
เอก : ตร.ก็ส่งฟ้องต่อไปยังอัยการ พอส่งไปทางอัยการ ก็เหมือนกับผมยังอยู่ในกระบวนการอยู่ ตลอดระยะเวลา 14 เดือน ผมได้พยายามร้องขอความเป็นธรรม ร้องขอในประเด็นหลักๆ เพื่อพิสูจน์ว่าผมบริสุทธิ์จริง รายละเอียดผมร้องขอไปที่อัยการเจ้าของสำนวน 2 ครั้ง อัยการสูงสุด 2 ครั้ง ครั้งนี้ครั้งที่ 3 เป็น 5 ครั้ง อันดับแรกเรื่องตัวบุคคล ที่สายที่คุณกล่าวอ้าง และมาพบหน้าตัวผมเป็นๆ ให้มาบอกเลยว่าใช่ไมใช่ สองเบอร์หมายเลขทำการติดต่อโอนเงินค้ายา ระหว่างสายกับนายโอ มีอยู่สองหมายเลข ซึ่งไม่ใช่เบอร์ผม ซึ่งมันตรวจสอบได้ แล้วตัวบุคคลที่มีการโอน ชื่อนายพรเทพ ไปตรวจสอบบัญชีเขาสิ ว่ามีการนัดส่งยากัน โอนไปที่ใคร โอนไปที่บัญชีนี้เมื่อไหร่ มันตรวจสอบได้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมร้องขอเพื่อให้เห็นว่ามันพิสูจน์ชัดว่าผมห่างไกลจากเรื่องนี้เหลือเกิน แม้แต่รถเองในช่วงเกิดเหตุที่คุณกล่าวอ้าง ผมได้ขายไปแล้วให้พี่สาวพี่เขย ตั้งแต่ 31 ส.ค.ปี 60 ซึ่งผมโอนลอยไป พี่สาวพี่เขยก็เป็นพยานได้ สืบได้หมด
พูดคุยกับ ท่านประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีนี้เมื่อเช้าเพิ่งไปร้องท่าน มุมอัยการสูงสุดจะดูแลเรื่องนี้ยังไงบ้าง
ประยุทธ : เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ต้องหาและทนาย ที่มายื่นหนังาอร้องขอความเป็นธรรม เท่าที่ทราบสำนวนอยู่ในชั้นพนักงานอัยการแล้ว ทีนี้ถ้าจะพูดเรื่องสำนวนเป็นยังไง ทางเราไม่มีข้อมูล ขณะเดียวกันต้องเรียนตรงไปตรงมาว่าทางคุณเอกที่มาเล่าให้เราฟังก็ดี หรือออกรายการคุณหนุ่ม กรรชัย เป็นการพูดหรือฟังความฝ่ายเดียว ที่จริงแล้วสำนวนจะเป็นอย่างไร หรือมีมากกว่านี้อย่างไร เราคงไม่สามารถให้ความเห็นได้เพราะเราไม่ได้ตรวจให้ละเอียดตั้งแต่ตอนต้น แต่ทางคุณเอกได้มายื่น คิดว่าข้อเท็จจริงคงตรงกับที่เล่าในรายการ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทางทางโฆษกได้นำกราบเรียนอัยการสูงสุดและท่านคงดำเนินการกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวมสำนวนเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งเราได้รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเรียบร้อยแล้ว กำลังนำกราบเรียนในวันนี้ และหลังจากนั้นคงได้ส่งต่อไปสำนักงานยาเสพติดเพื่อประกอบเรื่อง ทั้งหมดทั้งมวลต้องดูภาพรวมในคดี เป็นจริงหรือไม่ก็เป็นอัยการเขาจะสรุปข้อเท็จจริง ถ้ามีอะไรคืบหน้า ทางเราจะเรียนเพิ่มเติมให้ทราบ
จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนถึงขั้นเรียกคนชี้ตัวเขามายืนยันอีกทีมั้ย
ประยุทธ : ตรงนี้ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่เป็นดุลยพินิจอัยการผู้ตรวจสำนวน ประเด็นทั้งหลายที่คุณเอกเล่า ผมไม่ทราบว่าเป็นข้อเท็จจริงที่อยู่ในสำนวนแล้วหรือยัง เขานำไปพิจารณาเปรียบเทียบแล้วหรือยัง หรือเป็นประเด็นใหม่พยานหลักฐานใหม่ ทั้งหมดทางเราให้ความเห็นไม่ได้ ต้องรอทางเจ้าของสำนวนนำไปประกอบพิจารณาเรื่องทั้งหมด
กังวลใจอะไรบ้าง
เอก : (ร้องไห้) อยู่บนความทุกข์ 14 เดือน (ร้องไห้) ผมนอนไม่หลับ เจ็บป่วย ต้องกลับมารักษา คนข้างหลัง ลูก ทุกข์แน่นอน สังคม โดยเฉพาะพ่อผม 80 ไม่กินข้าวแล้ว ผมอยู่ลำบากกับสิ่งที่ผมไม่ได้กระทำ แม้แต่ความรุนแรงของผม ข้อพิพากษาถึงประหาร ผมรับไม่ได้ ครอบครัวรับไม่ได้ กระทบการทำงานมาก
ที่ทำงานเป็นยังไง
เอก : ปัจจุบัต้องแอสไซน์ทีมงานในการมอนิเตอร์ การริหารจัดการงานโครงการ งานขายทั้งหมดทดแทนก่อน ต้องกราบขอบคุณท่านประธาน และกรรมการผู้จัดการที่เชื่อมั่นในตัวผมตั้งแต่วันแรกโดยไม่มีข้อสงสัย บริษัทให้การสนับสนุนพร้อมช่วยผม ก็ขอบคุณท่านมาก
เอก : ผมไม่ทราบ
จะทำยังไงต่อไป
ทนาย : จริงๆ แล้ววันที่เขามาดูตัว ที่สายลับมาดูตัว ท่านอ้างว่าสำนวนคดีนี้สั่งฟ้องไปแล้ว ในทางกฎหมายเขาเรียกว่าสั่งฟ้องโดยรู้ตัวผู้กระทำผิดแต่ยังจับตัวไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงวันนั้นเมื่อท่านฟังว่ามีสายลับคดีท่านเองมายืนยันว่าคุณเอกไม่ใช่นายโอ ที่เป็นพ่อค้ายา ถ้าท่านจะอำนวยความยุติธรรมให้เขา ท่านสอบพยานปากนั้่นและทำความเห็นเสนอไปที่พนักงานอัยการสิครับ
ตอนตร.ทำเรื่องส่งอัยการ ส่งไปว่าอะไร
ทนาย : เท่าที่ฟังอนุมานเอา ฟังจากคุณเอกพูด ตร.มีความเห็นสั่งฟ้องไป เขาสั่งฟ้องกรณีที่ยังจับตัวจำเลยไม่ได้ เขาถึงขอศาลออกหมายจับ 16 พ.ค. ปี 62
ไม่แปลกไปเหรอ อยู่ดีๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มีคนมาบอกว่าคนนี้ หนึ่งหลักฐานเรื่องยาเสพติดก็ไม่ได้เจอในบ้าน ในห้อง ไปเจอทิ้งอยู่ข้างทางไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย มาเจออีกทีปีกว่าๆ
เอก : ถึงวันนี้ 3 ปีกว่าแล้ว จับผม 17 ก.ย. 62
คนที่เป็นสายตร.ยืนยันว่าให้ดูรูปโอแล้ว พี่อย่าไปจับเขาเลย สุดท้ายวันนี้คุณเอกยังเป็นผู้ต้องหาอยู่
ทนาย ปัญหาว่าพนักงานสอบสวน ท่านบันทึกสิ่งที่สายลับยืนยันหรือเปล่า ถ้าท่านบันทึก อำนวยความยุติธรรมให้กับคน ท่านพบข้อเท็จจริงใหม่ เขามายันว่าคุณเอกไม่ใช่ผู้ต้องหา ไม่ใช่ผู้ค้ายาเสพติดนายโอ ท่านต้องทำบันทึกสิครับ ทำส่งเข้าสำนวนสิครับ เพื่อให้ท่านอัยการให้ความเห็นว่าควรสั่งฟ้องต่อหรือไม่
เอก : ผมอยากให้เคสผมเป็นเคสสุดท้าย ที่เกิดกับผู้บริสุทธูิ์แล้วถูกยัดข้อหาที่รุนแรงถึงชีวิต ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย ผมไม่ใช่คนแรก แต่ก็อยากให้จบที่ผม และผมเป็นคนสุดท้าย ผมยังเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศยังมีอยู่ (ร้องไห้)