เปิดใจ แฟนเหยื่อถูกรุมโทรม 7 ต่อ 1 นาทีรู้แฟนถูกข่มขืน!
เอ : "สองปีครับ"
วันที่เขาถูกจ้างให้ไปถ่ายแบบ คนติดต่อมาพูดว่าอะไร?
เอ : "ผมไม่ได้ทราบโดยตรง แฟนบอกมาอีกทีว่ามีถ่ายงานนิตยสารเมืองนอก ไม่มีขายในไทย ให้ค่าจ้าง 5 แสนบาท ส่วนตัวก็เอะใจ ตัวเงินเยอะแต่ไม่มีหนังสือสัญญาแล้วทางโน้นบอกไม่ใช่ตัวหลัก เหมือนจ้างเป็นจ๊อบเลยไม่มีหนังสือสัญญา"
เขาบอกมั้ยถ่ายแนวไหน?
เอ : "เขาบอกว่าเซ็กซี่ครับ เกือบเห็น"
ทำไมแฟนรับงานนี้?
เอ : "เขาบอกว่าอยากลองดู ตัวเลขก็อาจจูงใจ บวกกับผมไปส่ง ไปดูหน้าด้วยตัวเอง"
ปกติถ้าจ้างไปถ่ายงานประเภทนี้ ปกติจะจ้างอยู่ที่เท่าไหร่?
เอ : "แล้วแต่ตกลง ไม่แน่ใจอัตราทั่วๆ ไป 4-5 พันมั้งต่อหนึ่งงาน"
เราไปส่งด้วย ไปถึงเห็นทีมงานมั้ย?
เอ : "ไม่เจอ เห็นแค่มันออกมาคนเดียว ยืนคุยกับยาม เราไม่รู้จักมาก่อน เพิ่งเจอครั้งแรกก็ที่นั่น"
รู้มั้ยทีมนี้มีกี่คน?
เอ : "ตอนแรกมันบอกว่าถ่ายทีมงานคนเดียว กับแฟนเราหนึ่งคน แฟนบอกว่าคนนี้แหละเป็นคนถ่าย เพราะคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก มีรูปโปรไฟล์มัน"
รู้สึกมีพิรุธหลายอย่าง ค่าจ้างด้วยอะไรด้วย ทำไมไม่อยู่เฝ้าแฟน?
เอ : "มันบอกเป็นกฎบริษัทห้ามคนอื่นเข้าไป ผมให้แฟนพิมพ์บอกว่าผมจะอยู่ด้วย แต่มันบอกไม่ได้เลย"
เอ : "ผมรู้ตอนจบเลย รู้เพราะแฟนหนีมาได้ แล้วผมก็ไปเค้นบังคับถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ผมจะถามตลอดว่าช่างกล้องคนนี้ลวนลามมึงมั้ย"
ครั้งแรกที่ถูกข่มขืน เขาก็ไม่ได้เล่า เพราะอะไร?
เอ :"เขาบอกกลัวคนอื่นเดือดร้อน ถูกไอ้นั่นขู่ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ เขาก็หลอนไปหมด ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน"
ตอนโทรศัพท์หาเขา ตอนเขาอยู่ในโรงแรม คุยอะไรกัน ไม่มีอะไรผิดสังเกตเหรอ?
เอ : "มันเงียบ ปกติ เหมือนอยู่คนเดียว ผมก็ถามทุกอย่าง เขาพูดเหมือนเดิมว่าไม่มีอะไร"
ช่วงที่โดนข่มขืนที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิมอีก เราไปส่งมั้ย วันที่ 25?
เอ : "ผมน่าจะไปส่ง 20 ผมไม่ได้เอะใจเรื่องสถานที่ แต่เอะใจว่าทำไมเกินสัญญาที่ตกลงกันไว้ ตอนแรกตกลงกัน 2 วัน 3 คืนจบงาน ก็ถามแฟนตลอด เขาบอกช่างกล้องขี้เล่นมั่ง เมา ทำกล้องพัง ไปเรื่้อย"
ครั้งที่สองรู้มั้ยโดนรุมโทรมถึงผู้ชาย 5 คน?
เอ : "ยังไม่รู้ครับ ก็ติดต่อเขาได้ในเวลาเดิมๆ แล้วบางวันที่ติดต่อไม่ได้ แฟนก็จะบอกว่าเหนื่อยหลับ ปกติไม่ได้เจอกันทุกวันอยู่แล้ว ต่างคนต่างทำงาน"
รู้สึกผิดสังเกตมั้ย?
เอ : "ผมรู้สึกตลอด แต่จะให้ทำไง จะให้ไปโวยวายเหรอ ตอนสัญญาเกินก็คิดจะไปคุย แต่กฎบริษัทเหมือนเดิม บอกแฟนจะไปค้างด้วย ไปดูด้วยเลย มีอยู่รอบนึงเขาบอกถ่ายเช้าเลิกกองไว เราบอกจะไปค้างด้วย ตอนนั้นยังอยู่กรุงเทพฯ ทีมงานบอกมาไม่ได้ ห้ามพาคนอื่นเข้ามา ผมก็ท้วงว่าทำไมมันพาอีกคนมาได้ เขาบอกว่าขอทางบริษัทแม่ไว้แล้ว ผมคุยผ่านแฟนตลอด ไม่ได้คุยกับมันโดยตรง แฟนเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนมันมาอีกคนเป็นช่างกล้องเหมือนกัน"
เอ : "ยังไม่บอก ผมไปรับตอนเช้าวันที่ 27 แล้วให้เขาไปเรียน เขาบอกมีสอบ ไปรับที่โรงแรมที่กรุงเทพฯ ที่เดิม"
ตอนนั้นเห็นอะไรผิดปกติมั้ย?
เอ : "ตอนนั้นดูว่าออกจากห้องไหน ทำไมห้องติดกัน ปกติม่านรูดจะมีรูดม่านปิดตลอดเวลา แต่ทำไมห้องติดกันถึงเปิดไว้ ไม่มีรถจอดไม่มีอะไร ผมก็ไม่ได้เอะใจมาก แต่ก็ถามว่าช่างกล้องหายไปไหน ทำไมม่านรูดเปิดอยู่อย่างนั้น แฟนบอกไม่รู้ ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเยอะ ถ้าด้วยสายตาเขาก็เดินมาเหมือนคนทั่วไป"
"น้องบี" วันนั้นเป็นสามช่วงเวลา?
บี : "ไทม์ไลน์แรก เป็นวันที่ 18-20 ที่พระรามห้ากรุงเทพฯ ไทม์ไลน์ที่สองก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ช่วง 25-27 แล้วก็วันที่ 27-29 ไปเพชรบุรีค่ะ"
ช่วงแรกพอไปถึงเห็นเราถูกมอมยา?
บี : "ใช่ค่ะ เขาฝากซื้อโซจูและเอ็ม150 รวมทั้่งขนมกรุบกรอบเพื่อไม่ให้เราหิว เราก็เข้าไปในโรงแรมม่านรูดโดยแฟนไปส่ง เขาบอกให้เราดื่มโซจูเพื่อให้หน้าเป็นสีเลือดฝาด แก้มแดง หน้าจะได้ไม่แข็ง แล้วเราทำงาน เราจะเซฟตัวเอง ดื่มไม่เยอะ อึกสองอึกแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทน"
ปกติเวลาถ่ายอะไรแบบนี้ ต้องดื่มมั้ย?
บี : "แล้วแต่คนค่ะ บางคนก็ให้ดื่มพอมึนๆ ปกติก็กินเหล้่าแต่ไม่เมา เอาแค่พอมึนๆ ไม่แข็ง ไม่เขินกล้องแค่นั้นค่ะ กินเข้าไปตอนแรกก็ขมๆ เป็นเหล้าธรรมดา ดื่มด้วยน้ำเปล่า คุยงานชั่วโมงนึง เราไปเข้าห้องน้ำ แล้วพอเรากลับมาเขายื่นแก้วน้ำให้เราดื่มน้ำ ซึ่งอึกแรกที่ดื่มมันเป็นโซจู ก็เหมือนถามเขา เขาบอกดื่มพอมึนๆ เดี๋ยวจะเริ่มถ่ายงาน ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเริ่มออก เหงื่อออก เริ่มร้อน สับสน กระวนกระวาย เต้นเหมือนหัวใจจะหลุดออกมา มีความรู้สึกอยากทางเพศ อารมณ์เบลอๆ เหมือนฝัน ไม่รู้เป็นยาเสพติดด้วยมั้ย วิ้งๆ เริ่มจำภาพเหตุการณ์ไม่ได้ แล้วภาพก็ตัดไปเลย"
บี : "จำได้แค่ช่วงยากำลังจะออกฤทธิ์ แต่หลังจากนั้นจำอะไรไม่ได้เลย ภาพตัดไปเลย"
เราถูกข่มขืนด้วยคนกี่คน?
บี : "นาย ค. คนเดียวค่ะ วันที่ 18-20 ถามว่าทำไมอยู่นานขนาดนั้น โดนมอมยามอมเหล้า พอเริ่มฟื้่นตัว เขาก็จะให้เราดื่มน้ำ ถ้าไม่ดื่มก็กรอกปากเรา เราก็จะจำเหตุการณ์ไม่ได้ คืนแรกถ้าเห็นคลิป ตอนนั้นสารภาพเลย คนในคลิปคือหนู แต่หนูจำไม่ได้"
รู้มั้ยมีการอัดคลิป?
บี : "รู้วันที่ 20 เขาเอาคลิปมาแบล็กเมล์"
ในคลิปเสียงที่เขาเอามาปล่อย ผู้ชายบอกไม่ไหวแล้วขอพักก่อน แล้วเสียงผู้หญิงพูดว่ากินยาก่อนสิ คือเสียงเรา?
บี : "ใช่ค่ะ จำไม่ได้เลยค่ะ ว่าทำไมพูดออกไป แต่หนูโดนมอมยามอมเหล้าจริงๆ เพราะในคลิปนั้นเขาพูดมาว่าหนูไม่กินโซจูแล้วใช่มั้ย ก็เป็นหลักฐานว่าหนูโดนมอมยาในเหล้าจริงๆ เราพูดเรื่องไปกินยาก่อนสิ หนูจำไม่ได้ หนูอาจจะรู้หรือไม่รู้ หนูไม่กล้ายืนยันว่าทำไมพูดออกไป เป็นช่วงไม่มีสติ"
ทำไมไม่บอกแฟนตั้งแต่โดนข่มขืนรอบแรก?
บี : "หนูโดนถ่ายคลิปแบล็กเมล์ไว้ เขาบอกว่าถ้าหนูบอกใครก็ตาม เขาจะประจานคลิปเราที่มีเพศสัมพันธ์กันในโซเชียล หนูเรียนเกี่ยวกับคณะแพทย์ด้วย หนูห่วงชื่อเสียงตัวเองด้วย แล้วห่วงความปลอดภัยตัวเองด้วย เขาขู่และรู้บ้านของหนูว่าอยู่ไหน เขาบอกว่าจะทำร้ายร่างกายหนู และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้"
รู้สึกผู้ชายคนนั้นมาก่อนมั้ย?
บี : "ไม่เคยรู้จักมาก่อน"
เอเอะใจ ไม่ถามเค้นเอาความจริงเหรอ?
เอ : "ไม่ครับ เดี๋ยวเขาอารมณ์เสียใส่ผมเปล่าๆ ผมก็ถามเท่าที่ถามปกติอยู่แล้ว"
บี : "จำได้ลางๆ ว่าเขาถามว่ากินอะไรหรือยัง โดนใครลวนลามมั้ย หนูจำได้ว่าเขาให้ตัดบทให้วางสาย บอกว่าทำงานก่อนนะ มีจำได้ลางๆ เป็นช่วงๆ หลังวางสายกับแฟน เขาก็บังคับให้กินน้ำเข้าไป ซึ่งคืนวันที่ 18 มั่นใจว่าเป็นยาเสียสาว ยาปลุกเซ็กซ์ แต่คืนอื่นๆ ไม่มั่นใจว่าคือยาอะไร แต่อยู่ในประเภทกดประสาทแน่นอน มันทำให้จำไม่ได้ ไม่รู้เป็นยาเสพติดมั้ย เหมือนฝันเพ้อๆ ดูล่องลอย"
ช่วงที่สอง วันที่ 25 ถูกเรียกกลับไปที่เดิม ไม่คิดจะบอกแฟนอีกเหรอ เพราะเรารู้แล้วว่ามันจะเอาเราไปข่มขืนอีก ไม่พยายามหาใครช่วย?
บี : "เราอายุเพิ่ง 20 แล้วประสบการณ์ทางด้านนี้เราไม่เคยเจอ เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะแจ้งความดีมั้ย หรือบอกคนใกล้ชิดดีมั้ย เพราะเขาข่มขู่ว่าถ้าเราบอกใคร เขาจะไปเก็บคนนั้นด้วย เรางงไปหมด แล้วเราอายุยังน้อย ไม่รู้ว่าการตัดสินใจควรต้องทำยังไง"
ช่วงที่สอง มีคน 5 คน?
บี : "ใช่ค่ะ วันที่ 26 เขาได้บังคับให้มุดไปอีกห้อง พอเปิดประตูเข้าไปเจอชายฉกรรจ์ 5 คนอยู่ในห้องน้้น ไม่ได้รวมคนแรก พอเราเข้าไปปุ๊บ เขาบอกพวกแกจะทำอะไรก็ทำ มีเวลาให้ชม.สองชม. ซึ่งตอนนั้นหนูขาแข็งทำอะไรไม่ถูก เพราะในห้องนั้นมีการเสพยา ดื่มน้ำกระท่อม ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ อบายมุขเต็มที่เลย"
ตอนนั้นถูกมอมยาด้วยมั้ย?
บี : "ไม่โดนแล้วค่ะ ไทม์ไลน์ที่ 2 กับที่ 3 ไม่ได้โดนมอมยาแล้ว แต่โดนทำร้ายร่างกายและโดนข่มขืนค่ะ"
ระหว่างที่เราอยู่ตรงนั้น เอโทรหาด้วย?
บี : "ค่ะ แต่โทรหาช่วงเวลาประมาณสองสามทุ่ม คือเขาจะให้เราติดต่อพ่อแม่ ติดต่อแฟนได้ตามปกติ เพื่อไม่ให้มีพิรุธว่าเราหายไป"
ไม่อยากบอกแฟนเหรอ?
บี : "เราอยากบอก เราบอกเขาในใจ เราบอกเขาเป็นนัยๆ ว่าเราระบมไปทั้งตัว เราเจ็บ เราเหนื่อย เราล้า ไม่ไหวแล้ว อยากกลับบ้าน บอกแค่นี้ก็จะเริ่มมาแล้ว จิกหัวบิดแขน หนักสุดคือเริ่มกำแขนแน่นๆ ทำร้ายร่างกาย ไม่ให้พูด เราก็ต้องตัดบทว่าเราไปทำงานก่อนนะ หลังวายสายก็โดนซ้อม โดนตบตี หนักสุดถ้าไม่ทำตามคำพูดเขาหนูก็จะโดนชกท้อง ซึ่งหนูเป็นผู้หญิงโดนชกท้องไปก็ตัวงอเป็นกุ้งแล้ว"
เอ : "เจอแป๊บเดียวแค่ตอนเช้า"
เขาถูกทำร้าย มีอาการมั้ย?
เอ : "เดินออกมาจากห้องปกติ เดินออกมาเหมือนคนทั่วไป ตอนนั้นใส่เสื้อแขนยาว บวกกับต้องรีบไปด้วย"
สภาพเขาเป็นแบบไหน?
เอ : "ดูเหมือนคนนอนดึกแค่นั้น"
รอบสามไปต่างจังหวัด ตอนที่พวกนั้นติดต่อมา เราก็รู้อยู่แล้วว่าจะพาไปข่มขืนอีกแน่ๆ ไม่คิดแจ้งตร.เหรอ?
บี : "กรณีแรก เราโดนถ่ายคลิปแบล็กเมล์ เราอายไม่กล้าบอกใคร เราโดนข่มขู่ทำร้ายร่างกายด้วย มันเป็นฝันร้ายของเรา เป็นเหตุการณ์ที่จำเข้าไป เรากลัวคนนี้มาก เขารู้บ้านเรา บอกว่าจะไปทำร้ายเราถึงบ้าน กลัวจนไม่มีสติ อยู่ในภาวะขวัญเสีย"
ณ ตอนนั้นคิดมั้ยจะช่วยเหลือตัวเองยังไง?
บี : "ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก หนูคิดว่าต้องทำตามที่เขาพูด ถ้าหนูทำตามที่เขาพูด เขาจะไม่ทำร้ายหนู จะไม่เอาคลิปหนูไปประจานทำให้หนูเสียชื่อเสียง"
รอบสามโดนอะไรบ้าง?
บี : "ไปเพชรบุรี เขามารับที่สายใต้ใหม่ พาเราขึ้นมินิบัสไปลงปตท.คลองโคน แล้วมีรถกระบะโตโยต้าสีดำมารับเราไปที่บ้านพัก ตอนแรกเขาให้เรากินอยู่ปกติเลย"
บี : "มีนาย ค. และนาย ต. สองคน เขาขังหนูไว้ในบ้าน ให้หนูกินข้าว ไม่เจอใครเลย เย็นวันนั้นมีเจ้าของรีสอร์ตหรือแม่บ้านมาเสิร์ฟอาหาร นาย ค. ก็ให้หนูเข้าห้องน้ำ เขาก็ไปรับอาหารมาแล้วให้หนูกิน บังคับให้หนูกิน นาย ต. กลับมาพร้อมเหล้าโซจู บังคับให้หนูกิน หนูก็ไม่กิน ก็โดนซ้อมอีก แล้วเขาก็พาไปที่เตียงพยายามข่มขืน หนูดิ้นๆ ร้องขอความช่วยเหลือ ร้องไห้ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นฝันร้ายกับผู้หญิงมาก พอเสียงดังมากๆ เขากลัวคนอื่นได้ยิน เขาก็ต่อยท้องหนู บอกว่าอย่าให้กูลงไม้ลงมืออีก หนูกลัวร้องไห้แทบไม่มีเสียงแล้ว"
สุดท้ายทำไมถึงตัดสินใจหนี?
บี : "ฟางเส้นสุดท้ายขาด เขาพาเราไปแม่กลอง คนนึงพาไปร้านสะดวกซื้อไปซื้่อของ อีกคนไปดูดบุหรี่ ข้างหน้าเป็นตลาดร่มหุบ ถ้าเราวิ่งไป คนเยอะๆ มันน่าจะหนีได้ ไม่งั้นหนูอาจโดนขายอีก"
เห็นจังหวะหนีน่าจะรอด สุดท้ายก็หนีมาได้ รู้มั้ยเขาไปต่างจังหวัด?
เอ : "รู้ครับ เขาบอกไปถ่ายที่ทะเล ทีมงานไปสมทบกับทีมงานที่โน่น บอกว่าจะไป 1 คืน 2 วันแค่นั้น"
ตอนนั้นไม่ไปเฝ้า?
เอ : "ตอนนั้นผมทำงาน เขาสอบเสร็จก่อนก็ไปเลย"
ทำไมถึงตัดสินใจบอกแฟน?
บี : "หนูไม่คิดจะบอกแฟน และไม่คิดบอกใครในตอนนั้น และตอนนี้ด้วย หนูห่วงอันตรายคนในครอบครัว ห่วงเรื่องคลิปแบล็กเมล์ แต่วันนั้นแฟนเขาเหมือนรอยฟกช้ำ คาดคั้นกับเราจนเราบอก และพาเราไปแจ้งความทันที"
นาทีรู้ว่าแฟนโดนข่มขืน?
เอ : "เสียใจสิพี่ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมาเกิดกับแฟนเรา ตอนนั้นผมอยากไปฆ่ามันมาก"
บี : "เขาโมโหมาก"
บี : "ก็ต้องสู้ในชั้นศาล แต่ที่เขาปล่อยคลิปมาเป็นอย่างแรกที่ยืนยันความบริสุทธิ์ได้ หนูโดนถ่ายคลิปแบล็กเมล์จริง แล้วสองคือเป็นหลักฐานว่าหนูโดนมอมเหล้าโซจูจริง"
ฝ่ายนั้นอ้างเราสมยอม?
บี : "ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้สมยอม วันที่ 18-20 เราอาจดูเหมือนสมยอม แต่เราอยู่ในสภาพไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ เราไม่มีสติ เราโดนยา เราอยู่ในอาการล่องลอย เหมือนความฝัน แต่วันที่ 25-29 เราโดนทำร้ายร่างกาย เลยต้องยอมเขา เขาข่มขู่ถึงขนาดถ้าเราไปบอกใคร ไปขัดขืนเขาจะเอาเราให้ตายตรงนั้นเลย"
แค้นมั้ยที่ฝั่งนั้นออกมาบอกว่าแฟนเราสมยอม?
เอ : "แค้นจัดเลย โคตรพ่อโคตรแม่แค้น ผมบอกให้เขาไปนัดมันออกมาเดี๋ยวนี้ ผมจะไปกระทืบมัน แล้วแฟนก็พูดไปพูดมา ว่าถ้าเราฆ่ามันตายเราก็ติดคุก"
บี : "เขาจะไปฆ่า จริงๆ คดีนี้เกิดที่เรา เราไม่อยากให้คนรอบข้างเรา คนที่เรารักเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าด้านไหนก็ตาม ตอนนั้นต้องลากกลับบ้านเพราะเขาไม่ไหวแล้ว"
เอ : "พอเขาปล่อยคลิปออกมา ผมก็ถามแฟน เพราะเขาไม่ได้บอกหมดตั้งแต่แรก ถามว่าเห็นตอนจับได้ไม่ได้บอกว่าโดนข่มขืนตั้งแต่วันแรก เขาบอกกูไม่อยากให้มึงเสียความรู้สึก ผมก็ยิ่งเจ็บไปใหญ่"
บี : "เรารักเขามาก เราคิดว่าถ้าบอกเขาไปหมด เขาก็จะเจ็บและเสียใจหนักมากๆ ซึ่งเราพยายามปกป้องความรู้สึกคนรอบตัว ไม่ให้คนรอบตัวมาเกี่ยวข้องกับคดี"
ฝ่ายโน้นบอกแฟนเราสมยอม?
เอ : "มันแย่ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก ต้องพูดให้ตัวเองดูดีอยู่แล้ว ถ้าไม่คาหนังคาเขาก็คงไม่ยอมรับ"
เอ : "ผมได้เห็นมุมมองโลกอะไรหลายๆ อย่าง ผมเติบโตในครอบครัวกลางๆ ลงมาล่างๆ ก็จะเห็นความมืดในสังคมมาเยอะ ผมก็นั่งคิดว่าได้มุมมองใหม่ๆ แฟนเราโดนแบบนี้ คุณค่าผู้หญิงคนนึงอยู่ตรงไหน อยู่ที่เขาผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ ทำไมผู้ชายได้ผู้หญิงมาเยอะแล้วไปนั่งโม้ในวงเหล้าว่าเจ๋ง แต่ผู้หญิงผ่านผู้ชายมาเยอะ ไปด่าเขาว่าร่าน ขายตัว นี่มันยุคไหนแล้ว เราจะมาคิดเหมือนมนุษย์ถ้ำก็ไม่ใช่ ต้องมีความเท่าเทียม"
ถ้าวันนี้เจอไอ้คนนั้น จะพูดอะไร?
เอ : "ไม่ต้องพูดแล้ว โดดเลย มันกล้าเจอผมหรือเปล่าเหอะ"
ปรึกษาผู้ใหญ่ ทนายยังไงบ้าง ว่าเราจะต่อสู้ยังไง?
บี : "ตอนนี้มีทนายส่วนตัว และมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาค และผู้หญิงปลดแอกคอยดูแล ก็คือเขาจัดการเรื่องคด ให้คำปรึกษา ตอนนี้พ่อแม่รู้แล้ว เขาก็เสียใจมาก แต่ก็คอยอยู่ข้างๆ หนูพร้อมกับแฟน"
ถ้าออกมาแล้วฝ่ายโน้นชนะ?
บี : "หนูว่าเรื่องนี้เป็นของตายตัวอยู่แล้ว เรารู้อยู่แล้วว่าใครผิดใครถูก เหตุการณ์นี้เกิดกับเรา เราเป็นผู้หญิงมีแต่เสียกับเสียที่พูดเรื่องนี้ เราต้องการความเป็นธรรม ไม่ต้่องมีใครมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบเราอีกแล้ว เราต้องการเป็นคนสุดท้าย อาจของผู้ชายคนนี้ก็ได้ ไม่ให้เขากระทำผิดอีก"
เหตุการณ์นี้ได้เรียนรู้อะไร?
บี : "ถ้าพูดตรงๆ เราโลภเงิน ปกติเราอยู่ที่หลักหมื่น ถามว่าไปถึงหลักแสนเป็นไปได้มั้ย เป็นไปได้ถ้าเป็นนางแบบโปรเฟสชั่นแนลแล้ว เขาก็แตะหลักแสนได้ ซึ่งเราก็มองว่าเป็นโอกาสทองของเราหรือเปล่า เป็นโอกาสแรกที่เราจะได้งานนี้ และก้าวสู่วงการนี้อย่างเต็มตัว ที่ผ่านมาเราไม่ได้เป็นโปรเฟสชั่นแนลขนาดนั้น แล้วก็อยากฝากผู้หญิงทุกคนที่โดนแบบนี้ ไปแจ้งความค่ะ อย่าได้กลัว คนต้องกลัวคือผู้ข่มขืนเรา เราไม่ผิด เราเป็นคนกล้าหาญที่ออกมาแสดงออก ไม่ให้มีคนอื่นเป็นเหยื่อของสังคมแบบนี้อีก"