ปะทะกลางรายการ! จูน โวยเหยื่อ หมอโทน ใส่ร้ายนางนกต่อ-ผัวสุดทนเตรียมฟ้องกลับ
กรณี "เอ" (นามสมมติ) หอบหลักฐานเข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "หมอโทน" อ้างถูกข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกาย ถ่ายรูป ข่มขู่และแบล็คเมล์เรียกเงิน 2 แสน อีกทั้งมีการออกรายการพูดพาดพิงถึงคนชื่อ "จูน" เชื่อเป็นนางนกต่อ นำข้อมูลส่วนตัวไปบอกหมอโทน ทำให้หมอโทนดูดวงแม่นจนตนนั้นหลงเชื่อ
รายการ ถามสุดซอย ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-11.00 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "จูน บุศรินทร์ บรรทัดเที่ยง" ผู้ที่ถูกกล่าวหา มาพร้อม "กฤต อยู่ฤทธิ์" สามี เพื่อชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว รับครอบครัวได้รับความเสียหาย เตรียมฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท
จูน : "จริงๆ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.ต้น แล้วกลับมาเจอกันตามเฟซบุ๊ก เวลาเพื่อนๆ หายไปนานมีการแอดเฟรนด์มา ถามว่าสนิทมั้ยไม่ได้สนิทกันถึงขนาดคุยได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ม.ต้นถึงวันนี้ก็เกือบสิบปีถึงมาเจอกันอีกที เขามาช่วยในเรื่องเงินกู้นอกระบบ ไม่ได้ช่วยเป็นเงินนะ แต่เป็นคำแนะนำว่าควรไปที่ไหนก่อน ควรไปทำอะไร เขามีพรรคพวกคอยแนะนำ ซึ่งตอนม.ต้นเขาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอะไร เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป"
คุณกฤตเป็นแฟนคุณจูน รู้จักหมอโทนด้วยมั้ย?
กฤต : "ไม่รู้ครับ รู้แค่ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องส่วนตัวคุยอะไรกัน เราก็รู้จากข่าวที่เกิดขึ้น ก็ให้กำลังใจจูน"
โกรธแทนมั้ย?
กฤต : "ยอมรับว่าโกรธครับเพราะจูนเขาเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว ซึ่งน้องไม่เคยติดตามข่าวเลย จนไปให้ปากคำที่สภ.ท่าม่วง เขาก็งงว่าคือเรื่องอะไร เขาไปตอน 20.20 น. แล้วน้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมเห็นข่าวก่อนอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าเป็นเขา ไม่คิดว่าเป็นเขา หลังให้ปากคำเสร็จ ก็บอกเขาว่าเป็นข่าวนี้แน่เลย คือเครียดกับข่าวในความรู้สึกว่าทำไมเขาไปให้ข่าวแบบนี้ ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักเขา ซึ่งผมมีเอกสารเป็นไลน์แชตทั้งหมด ที่เขาเป็นคนติดต่อเข้ามา เขาติดต่อมาเอง ไม่เคยรู้จักเขา แล้วไปกล่าวอ้างว่าเราเป็นนกต่อ เป็นคนเอาข้อมูลให้หมอโทน ซึ่งตรงนี้ผมตั้งใจจะไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท แต่ตร.บอกให้ไปหาหลักฐานมาก่อนถึงจะรับแจ้ง ตอนนี้เราก็ได้หลักฐานแล้ว"
เรารู้จักน้องที่เป็นผู้เสียหายได้ยังไง?
จูน : "เราทำงานคล้ายๆ บริษัทในเครือเดียวกัน วันเปิดร้านวันแรกตรงท่าม่วง ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยงานที่ร้าน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไปช่วยตั้งแต่เก้าโมงถึงบ่ายสาม นั่นคือการเจอกันวันแรก แล้วหลังจากนั้นเราไม่เคยติดต่อตั้งแต่ร้านนั้นเปิด จนเมื่อวันที่ 29 ต.ค. น้องเขาทักแชตมา ซึงเราไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย น้องเขาทักแชตมาว่าสวัสดีค่ะ พี่สนิทกับพี่โทนใช่มั้ย พอดีกู้เงิน 1 หมื่น เขาคิดดอกหนูร้อยละ 10 หนูจะใช้หนี้ผ่านพี่ได้มั้ย ไม่อยากรู้จักคนแบบนี้เลย เป็นการพูดคุยกันเรื่องกู้หนี้ ให้จูนเอาเงินไปใช้หนี้ให้เพราะน้องเขาไม่อยากเจอ"
จูน : "วันนี้คิดดอก อีกวันไม่คิดดอก เดี๋ยวทบต้นทบดอก เอาเงินมาคืนเลยนะ ประมาณนี้ เขาบอกว่าในเมื่อจะส่งหนี้ให้โทนในวันที่ 5 แตพอมีปัญหา โทนเร่งให้คืนเงิน ก็เลยแนะนำไปว่า เอาแบบนี้ดีกว่าถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ก็ไปทำสัญญากันซะ เพราะเขายืมปากเปล่ากัน เราก็บอกว่าเงินก้อนนี้มาทำสัญญากันสิ มาทำที่ร้านพี่ก็ได้ ก็ตกลงกันแล้ว บอกโทนบอกน้องแล้ว ก็มาทำสัญญาเงินกู้กัน สุดท้ายเขาไปทำสัญญากันเองที่บ้านหมอโทน ถ้าจำไม่ผิด เขาทำสัญญากันเสร็จก็โทรมาหาเราว่าพี่จูนคะ หนูโดนข่มขืน จากที่น้องเล่าให้ฟัง ในวันเดียวกัน เราเลยพูดกับน้องไปว่า ถ้าหนูไม่ได้ยินยอม หนูไปแจ้งความได้เลย ถ้าหนูไม่เต็มใจก็แจ้งได้เลย อย่างน้อยตรวจร่างกายก็มีหลักฐาน พอบอกไปปุ๊บ น้องหายไป 2-3 วัน น้องโทรกลับมาหาบอกว่าหนูไม่ได้ไปแจ้งความนะ เราถามว่าเพราะอะไร เขาบอกว่าโทนถ่ายคลิปหรือถ่ายรูปประมาณนี้ เขาเลยไม่กล้าไปแจ้งความ เราก็บอกว่าแจ้งได้ เป็นไปตามพยานหลักฐาน เราแนะนำแบบนั้น แล้วกลายมาเป็นแบบนี้"
เรื่องการทำแท้ง เขาได้มาปรึกษามั้ย?
จูน : "เราไม่ทราบว่าเขาท้องเขาแท้ง มีแต่เขาทักมาบอกว่าเขาอยากเอาเด็กไปทำกุมาร อยากให้ชีวิตพ่อเด็กมันพังฉิบหายแบบที่มันทำกับคนอื่น สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือพ่อมันฉิบหาย ถ้าทำให้พ่อมันฉิบหายได้ หนูโคตรสะใจ เราก็บอกว่าอย่าอาฆาตกันเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรม"
น้องเอได้มาคุยกับจูนกี่วันก่อนเกิดเรื่องใหญ่โต?
จูน : "คุยครั้งแรก 29 ต.ค. แล้วคุยกันเรื่อยมาเกี่ยวกับปัญหาของเขา เขาก็มาปรึกษาเรา"
เรื่องไปถึงตร.มั้ยที่เขาบอกว่าเขาโดนข่มขืน?
จูน : "น่าจะวันที่ 10 ธ.ค. เขาโทรบอกว่าโดนข่มขืนประมาณต้นพ.ย."
ก่อนแจ้งความได้มาปรึกษาอีกมั้ย?
จูน : "มีค่ะ เขาบอกว่าพี่คะ พอมีผู้หลักผู้ใหญ่พอช่วยชีวิตหนูได้บ้างมั้ย เราก็ไม่ทราบว่าช่วยชีวิตแบบไหน แต่ในแชตที่จูนตอบไป พี่ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนหรอก ถ้าตำรวจก็รู้จักแต่พวกโทนทั้งนั้นแหละ แต่สิ่งที่น้องเอาไปตีความหมาย หมายความว่าไปแจ้งความทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเป็นพวกโทนทั้งนั้น อันนั้นน้องอาจจะคิดแบบนั้น"
หลังจากน้องเอเขาบอกว่าโดนข่มขืนเราได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมมั้ย?
จูน : "เราไม่ได้ถามเลยค่ะ เพราะน้องเป็นคนเล่าให้ฟังเองทั้งหมด ว่าเขาตบหนู เราก็แนะนำให้เขาไปแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกาย ให้น้องถ่ายรูปมาให้ดูด้วย หลักฐานอยู่ในแชต"
ได้ถามหมอโทนมั้ย?
จูน : "เราแคปที่น้องมาบอกเราให้ทางฝั่งโทนเขาดู ว่าทำแบบนี้กับน้องจริงมั้ย ทางนั้นก็ยอมรับว่าใช่ ทำกับน้องแบบนี้จริงๆ ที่บอกว่าใส่กุญแจมือ ทำร้ายร่างกาย ทำจริงแต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนที่น้องพูดกับเรา เราก็ถามว่าทำไมทำกับน้องแบบนั้น โทนก็แจ้งมาว่าน้องคบหลายคน"
จูน : "โทนเขาเล่าว่าเป็นเรื่องรสนิยม ตื่นเต้นอะไรแบบนี้"
เขาบอกมั้ยว่าน้องเอสมยอมมั้ย?
จูน : "มีการโทรไปถามเหมือนกัน คล้ายๆ กึ่งสมยอม เรื่องนี้ตอบยาก แต่ในใจเรา เราคิดว่าเขาคบกัน"
เชื่อใคร?
จูน : "จูนคิดว่าเขาคบกันอยู่เหมือนเป็นแฟนกัน"
กฤษณ์ล่ะ?
กฤต : "เหมือนเขาคบกันมาก่อนที่จะแชตมาหาน้องเขา ส่วนรายละเอียดผมไม่รู้ อย่างกรณีข่มขืนที่บอกว่าใส่กุญแจมือ ผมก็ถามตร. ตร.บอกว่าเขามีการใส่กุญแจมือหลังข่มขืน ซึ่งดูจากรายการที่เขาคุย คงเป็นอารมณ์โกรธว่าคุยกับคนหลายคน เลยมาใส่กุญแจมือ"
เรื่องการเป็นนกต่อ คืออะไร?
จูน : "เขาไปพูดในรายการหนึ่งว่าเราเอาข้อมูลเขาไปให้หมอโทน ทำให้หมอโทนดูดวงน้องแม่น จริงๆ เราไม่รู้จักน้องเป็นการส่วนตัว ไม่รู้ว่าบ้านน้องอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าน้องมีลูกกี่คน เราไม่รู้เลย แล้วเราไม่ได้เอาข้อมูลใดๆ ไปบอกหมอโทนทั้งสิ้น ไม่มี"
การถูกกล่าวหาเป็นนางนกต่อ มีผลกระทบยังไง?
จูน : "รู้สึกเสียใจ (เสียงสั่น) ทุกครั้งที่น้องปรึกษามา เราพยายามปลอบใจน้อง พอน้องไปออกรายการกลายเป็นคนละเรื่องเลย กลายเป็นว่าที่วันนั้นไปเซ็นสัญญา พี่จูนอ้างว่าพี่ไม่ว่าง ใช้คำนี้ ซึ่งกระทบจิตใจมาก โดยเฉพาะลุง คำพูดที่ติดหูคือลุงพูดว่าคนชื่อจูนก็ใช้ไม่ได้นะ พอเกิดเรื่องแล้วหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ ซึ่งไปดูในโทรศัพท์ มีการโทรมาหาแค่ครั้งเดียวในแมสเซนเจอร์ แล้วไม่เคยติดต่อมาเลย จนกระทั่งเขาไปแจ้งความกัน"
กฤต : "แล้วมีข้อความที่น้องเอยกเลิกเยอะมากในแชต ซึ่งผมคิดว่าข้อความที่เขายกเลิก เป็นโทษกับเขา แล้วเหมือนเก็บไว้เฉพาะที่เป็นคุณกับเขา เป็นประโยชน์กับเขาฝ่ายเดียว ซึ่งตรงนี้เราจะมีที่เขายกเลิกข้อความเยอะพอสมควร ซึ่งอันนึงที่น้องจำได้ชือเป็นรูปที่ทำแท้งออกมา แล้วส่งมาให้ดู ส่วนข้อความอื่น อยากให้คนเกี่ยวข้องไปกู้ข้อความกลับมา ที่เป็นประโยชน์กับคดี ว่าเขายกเลิกอะไรไปบ้าง เหมือนเขาคัดข้อความเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับเขา ไปดูได้ครับ ทั้งแมสเซนเจอร์และไลน์"
เคยเจอลุงมั้ย?
จูน : "จริงๆ ลุงน่าจะโทรมาถามกันก่อนว่าเป็นยังไง วันนั้นจูนยังตกใจเลย ที่ตร.โทรเรียก ซึ่งปกติถ้าน้องปรึกษาโทรหาเราได้ตลอด ทำไมกลับไม่โทร กลายเป็นคดีแบบนี้ไปเลย"
อะไรทำให้เราเป็นนางนกต่อ?
จูน : "คุณลุงพูด บอกว่าถ้าดูไม่แม่นขนาดนี้ เรานี่แหละเป็นนกต่อเอาข้อมูลน้องมาให้หมอโทน ทำให้ดูดวงแม่นนักแม่นหนา"
กฤต : "ซึ่งดูดวงเขาแอดเฟรนด์ไปคุยกันก่อน มีปัญหาเขาถึงทักจูนมา"
จูน : "เราไม่ทราบเลย"
จูนเชื่อใคร?
จูน : "จูนไม่ได้ฟังทั้งสองคน เพราะจูนไม่เสพข่าวเลย แต่ที่จูนรู้ ที่จูนเห็น เท่าที่รู้สึก คือจูนรู้สึกว่าเขาลองคบหากัน ไม่งั้นโทนคงไม่โอนเงินขนาดนี้"
กฤต : "ตร.ให้จูนไปเป็นพยานให้ผู้เสียหาย เพราะน้องเขากล่าวอ้างว่าทักมาปรึกษาทางนี้ จูนเลยถูกเรียกไปเป็นพยาน"
กฤษณ์วิเคราะห์แล้วเชื่อใคร ระหว่างเอกับโทน?
กฤต : "เรื่องข่มขืนก็ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ผมเองมีลูกสาว 3 คน ไม่สนับสนุนเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้ามีหลักฐานว่าเขาข่มขืนก็ดำเนินคดีไป แต่ในแชตที่อ่าน ก็เหมือนคนที่เขารู้จักกัน คุยกัน แล้วคบหาดูใจกันหรือเปล่าไม่รู้ ถ้ายกเด็กให้คงสนิทกันในระดับหนึ่ง อย่างผมเป็นผู้ชาย จะโอนให้ผู้หญิงก็ต้องสนิทกันในระดับหนึ่ง หรือมีการหวังผลอะไรสักอย่าง"
"น้องเอ" อยู่ในสาย เรื่องคดีที่เกิดขึ้น เรื่องการกล่าวหาจากคุณลุงน้องเอ ว่าจูนเป็นนางนกต่อ มองยังไง?
เอ : "คนชื่อโทนเขาพูดกับหนูเองว่าเขารู้เรื่องราวของหนูจากพี่จูน ตอนนั้นเขาอาละวาดจะเอาเงินคืน เขาบอกว่าเขาสนิทกับพี่จูน รู้เรื่องราวของหนูจากพี่จูน มันเลยทำให้หนูทักไปหาพี่จูน"
เรื่องที่ปรึกษาจูนตั้งแต่แรก?
เอ : "เรื่องข่มขืนใช่มั้ย หนูโทรไปหาพี่จูนเช้าวันที่ 10 หลายสาย แต่พี่จูนไม่รับ ให้พี่จูนช่วยหนูได้มั้ย หลังจากโดนข่มขืนหนูก็ขอให้พี่จูนช่วยหนู พี่จูนบอกว่าพวกโทนทั้งนั้น หนูบอกว่าพอมีคนมีอำนาจบารมีช่วยหนูได้บ้างเปล่า คำพูดนั้นทำให้หนูกลัวเข้าไปใหญ่"
รู้จักจูนก่อนหน้านี้มั้ย?
จูน : "หนูเคยทำงานกับพี่จูนครั้งนึง ตอนปี 61"
ตอนจูนแนะนำให้มาเซ็นสัญญาที่ร้าน ทำไมไม่มาเซ็นต่อหน้าจูน?
จูน : "หนูไม่รู้ว่าเขาคุยกับคนชื่อโทนยังไง เหมือนตอนแรกเขาบอกแล้วว่าให้มาเซ็นสัญญาที่ร้าน แล้วคนชื่อโทนโทรมาอาละวาด ว่าไม่มีเจ้าหนี้คนไหนต้องไปเซ็นสัญญาที่ลูกหนี้อยู่ หนูเลยทักไปหาพี่จูน ว่าพี่คุยอะไรกับเขา เขาโมโหหนูใหญ่เลย โทรมาอาละวาดหนูใหญ่เลย"
เรานัดเซ็นสัญญาที่ไหน?
จูน : "หนูต้องไปเซ็นสัญญาที่บ้านเขา เพราะเขาไม่ยอมเซ็นสัญญาที่อื่น วันนั้นหนูชวน 3 คนได้ หนูโทรหาพี่จูนตั้งแต่ 06.11 น. และหลังจากนั้นก็ทักไปว่าให้ไปเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้มั้ย คือหนูพยายามโทรหาพี่จูนตลอด แต่พี่จูนไม่รับสายหนูเลย แล้วคนชื่อโทนโทรมาเร่งหนูให้หนูรีบไป คนชื่อโทนก็บอกว่าฟังจากน้ำเสียงหนู เขารู้ว่าหนูกลัว เขาไม่ทำอะไรหรอก เขาให้เซ็นสัญญาเพราะกลัวหนูหนีเงินกู้เขา"
เอ : "อันนี้หลังถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้แล้ว วันนั้นเป็นวันที่ 5 ที่เขาให้หนูเลือกให้เร็วที่สุด ว่าจะให้ปล่อยคลิปหนูที่เขาถ่ายเก็บไว้ ตลอดเวลาเขาเอาเรื่องคลิปและเรื่องเด็กมาข่มขู่ วันที่ 5 หนูเลยโทรปรึกษากับพี่จูนว่าทำยังไง หนูบอกว่าเข้าใจใช่มั้ย คนไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วไปนอน มันไม่ใช่ มันขยะแขยง มันไม่ใช่ พี่จูนบอกว่ามันเป็นปกติ หนูเคยมีลูกแล้ว ต้องให้หนูยอมตามที่พึ่โทนพูด หนูก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เขาบอกจะลบคลิปให้หนู เลิกยุ่งกับครอบครัวหนู วันที่ 6 ทำให้ต้องไปเจอเขา เพื่อให้ลบคลิปลบทุกอย่างแต่ไม่ได้เป็นไปตามที่คนชื่อโทนบอก วันนั้นทำให้เขาล็อกกุญแจหนู และตบหน้าหนู"
มีข้อความที่หมอโทนคุยกับจูน บอกว่าเหตุผลทำร้ายน้องเอ เพราะน้องเอยุ่งกับผู้ชายหลายคน?
เอ : "เขาจะขอดูโทรศัพท์หนู แต่หนูไม่ได้ให้เขาดู เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ส่วนหนูคุยกับใครไม่ได้เกี่ยวกับเขา ที่ออกไปเพราะเขาจะลบคลิปให้ หนูก็บอกว่าหนูคุยกับคนอื่น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ไม่จำเป็นต้องคุยกับเขาคนเดียว เป็นการหึงหวงของเขา"
เหตุผลอะไรปรึกษาจูน?
เอ : "เหมือนเขาจะให้หนูเป็นแฟนเขา แต่หนูไม่เป็น เขาก็เหมือนจะอาละวาด เอาเงินทั้งหมดคืน หนูก็เลยกลัว หนูเลยทักไปหาพี่จูน เขาบอกหนูเองว่าเขารู้เรื่องราวทุกอย่างจากพี่จูน"
อยากบอกอะไรจูน?
เอ : "หนูไม่ได้กล่าวหาว่าพี่เป็นนกต่อนะคะ แต่คนชื่อโทนเป็นคนบอกหนูเองว่าเขาสนิทกับพี่มาก เขารู้เรื่องราวทั้งหมดมาจากพี่ วันนั้นที่หนูบอกพี่จูนว่าหนูรู้จากคนในกองปราบปรามคนหนึ่ง จะไปขอร้องให้เขาช่วย เรื่องที่บอกพี่จูน พี่จูนเอาไปบอกพี่โทนทำไม"
จูน : "เรื่องกองปราบไม่ได้ทราบเรื่องตรงนี้ และไม่ได้คุยกับโทนเรื่องนี้ ไม่ทราบด้วยว่ากองปราบที่ไหน มีแต่หนูทักมาบอกว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ช่วยได้ เราก็บอกว่าถ้าช่วยได้ก็ให้ผู้ใหญ่ทางนั้นช่วยไปก่อนสิคะ"
เอ : "ผู้ใหญ่นี่หนูพูดวันที่ 11 นะพี่"
จูน : "ใช่ค่ะ และพี่พูดเองว่าไม่ได้รู้จักใคร นอกจากพวกโทนทั้งนั้น แล้วข้อความแชตถัดไป พี่บอกว่าเรื่องหนี้สิน ไม่ได้พูดว่าคุณจะไปข่มขืน ไม่ได้ต้องการตรงนั้น เพราะพี่บอกอยู่แล้วถ้าหนูไม่เต็มใจก็ไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่หนูโทรมาบอกพี่ แล้วเรื่องทำร้ายร่างกายก็แนะนำให้แจ้งความทั้งหมด และให้บอกที่บ้านว่าเกิดอะไรขึ้น"
เอ : "พี่ให้หนูพูดกับคนที่บ้านว่าหนูพลาดเอง"
จูน : "ใช่ค่ะ"
เอ : "กับคำว่าพลาดเองกับการโดนข่มขืน ไม่เหมือนกันนะคะ"
จูน : "หนูก็เห็นในแชตนี่คะว่าเหตุผลเป็นเพราะอะไร"
เอ : "แต่มันไม่ใช่ตัดปัญหาไงพี่ ถ้าคำว่าพลาดเอง มันเท่ากับว่าเป็นความผิดหนูเอง ไม่ใช่ความผิดพี่โทน หนูปริ้นต์แชตมาแล้วทั้งหมดไงคะ แล้วพี่คุยกับพี่ พี่บอกว่าการไปนอนกับใครเป็นเรื่องปกติ ที่หนูคุยกับพี่ อันนี้ไม่มีในแชต แต่โทรคุยกับพี่ พี่บอกว่าการมีเพศสัมพันธ์มันเป็นเรื่องปกติ เพราะเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เพราะเรามีลูกแล้ว"
กฤษณ์ : "อันนี้ผมชี้แจงว่า ในความรู้สึกที่ว่าเราคิดว่าเขาคบกันอยู่ พอเขาทักมาปรึกษา"
เอ : "หนูคุยกับพี่จูนตลอด ไม่ได้บอกว่าคบกับคนนี้"
กฤต : "คิดว่าเขามีอะไรกันแล้ว การที่จะไปลบคลิปก็ไม่ใช่ประเด็นเสียหายอะไร เราไม่รู้ความสัมพันธ์"
เอ : "หนูคุยกับพี่จูนตลอดว่าไม่ได้ชอบเขา"
จูน : "น้องบอกตลอดว่าไม่ได้ชอบ ไม่ได้มีใจ"
กฤต : "เข้าใจว่าไม่ได้ชอบ ไม่ชอบก็ไปเอาเงินเขาทำไม อย่าไปยุ่งกับเขาสิ"
เอ : "เป็นเงินกู้ยืมค่ะ หนูไม่ได้เอาเงินเขามาฟรี เพราะรอบสุดท้ายที่โอนให้ 4,900 เพราะเขาบอกว่าให้พึ่จูนจัดการ เขาให้หนูโอนเงินให้พี่จูน หนูไม่ได้เอาเงินเขามาฟรีๆ นะคะ พี่พูดอย่างนี้ไม่ได้"
ข้อความแชตถูกลบเยอะ ข้อความที่ลบไปเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง?
เอ : "ลบไม่เยอะนะคะ ถ้าหนูพิมพ์ผิดอันนั้นจะยกเลิก เพราะอ่านไม่รู้เรื่อง"
คิดว่าจูนรู้ทุกเรื่องมั้ย?
เอ : "หนูคิดว่ารู้ แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับคนชื่อโทนบ้าง เพราะเขาพูดเองว่าเขารู้เรื่องราวทุกเรื่องจากพี่จูน เรื่องงานเรื่องอะไรเขาก็บอกว่ารู้จากพี่จูน ก็ทำให้หนูสงสัยว่าหนูปรึกษาพี่ตลอด พี่เอาไปบอกเขาทำไม"
จูน : "แต่ถามว่าพี่จะรู้เรื่องของน้องได้ยังไง ในเมื่อพี่ไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับน้องเลย ต้องไปถามจากโทนว่าเอาเรื่องนี้มาจากไหน เรื่องประวัติส่วนตัวพี่จะรู้จากไหน เพราะเราไม่ได้รู้จักกันส่วนตัว โทนเขามาอ้างว่าพี่เป็นคนพูด"
เอ : "ค่ะ เรื่องกองปราบหนูจำได้ว่าหนูคุยกับพี่คนเดียว แล้วเขาจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"
ตอนนี้หมอโทนถูกจับแล้ว อยากพูดอะไรกับเขา?
เอ : "ตอนนี้มีผู้หญิงคนนึงทักมาหาหนูว่าเขาก็เจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน โดนข่มขู่กรรโชกทรัพย์เหมือนกัน เขาจะมาเป็นพยานให้ หนูก็รอปรึกษากับตร. อีกที หนูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ"
ฟังแล้วเป็นไงบ้าง ที่เขาบอกเรารู้ทุกอย่าง?
จูน : "มันเหมือนพูดไม่ออกเลยค่ะ"
กฤต : "ช่วงเลิกงาน น้องเขาจะทานยาซึมเศร้า พอถึงเวลาจะหลับแบบไม่มีแรง เช้าเรียกยังไม่ตื่น ต้องปลุกมาเรียกถักเปียให้ลูก 3 คน มันก็ยุ่งอยู่แล้ว การที่เขามาคุยบางทีมาคุยในเวลายุ่งและไม่ได้รู้จักสนิทสนม ก็อาจให้คำปรึกษาผ่านๆ เพราะไม่ได้รู้จักอะไรกันขนาดนั้น แล้วเรื่องตัวเองก็เยอะอยู่แล้ว ลูก 3 คน ต้องเสียเวลามาสละให้เขา ตอนนี้เขาบอกเขาเป็นผู้เสียหาย แต่ตอนนี้ครอบครัวผมเป็นผู้เสียหาย เป็นจำเลยสังคม ทั้งที่ตำรวจบอกว่าเป็นพยาน แต่น้องเขาผลักให้เป็นจำเลยสังคม เป็นนกต่อ น้องเขาต้องไปนอนรพ. 3 วัน ด้วยอาการเครียดว่าเราจริงใจกับเขา แต่เขาไปให้ข่าวว่าเป็นนกต่อ"
"ซึ่งตรงนี้ผมก็รวบรวมหลักฐานแล้ว จะไปแจ้งความเหมือนกัน เราเสียหายเต็มๆ เป็นจำเลยสังคม เป็นนกต่อเอาข่าวไปให้เหมือนที่น้องเขาบอก ซึ่งถ้าหลักฐานตามไลน์ เขารู้จักกันก่อน ดูดวงกันก่อนเป็นเดือน ตามที่เขาให้ข่าวครั้งแรก แล้วจะเอาข้อมูลมาจากน้องจูนตรงไหน ส่วนรายละเอียดพูดตรงๆ กดดัน เบลอยา กลับไปอาจต้องเข้ารพ.อีก ในภาวะผู้ป่วยซึมเศร้า แล้วเขาลูก 2 คนยังรับผิดชอบไม่ได้เลย ยังต้องเอาออกเลย"
"ประเด็นนี้ก็สงสัยเหมือนกัน ว่าพูดออกรายการตั้งหลายรายการว่าเขาทำแท้ง ความผิดทำแท้งเป็นอาญาแผ่นดิน ทำไมตร.ไม่ดำเนินคดีกับเขา ตร.จะบอกว่าไม่มีหลักฐานไม่ได้ ผมก็จะดำเนินคดีกับเขาให้ถึงที่สุดเหมือนกัน เรื่องหมิ่นประมาท เพราะตรงนี้เราเป็นผู้เสียหายเต็มๆ เขาบอกเป็นผู้เสียหาย แต่เขาได้เงินได้ทองไป แต่ครอบครัวเราไม่ได้อะไร ลูกต้องหยุดเรียนไปเฝ้าจูนที่รพ. ต้องดูแลแม่ แล้วเป็นจำเลยสังคมแบบนี้ มันยุติธรรมกับเราเหรอ ทั้งที่เราไม่ได้เกี่ยวข้อง หลักฐานก็มีหมด"