
ไปฟัง หมอเก่ง วิเคราะห์โควิดรอบใหม่ กับโอกาสที่ไทยจะได้ฉีดวัคซีน

การกลายพันธุ์ของโควิด-19
- สายพันธุ์ที่อู่ฮั่นคือสายพันธ์ L ต่อมาในช่วงมกราคม 2563 มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ S จากนั้นแตกเป็นสายพันธุ์ G กับ V สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในไทยตอนนี้คือสายพันธุ์ G ซึ่งระบาดค่อนข้างไว และแพร่พันธุ์ไปแล้ว 3 ใน 4 ของโลก
- การกลายพันธุ์เกิดจากการที่มันระบาดเยอะ จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง เมื่อไวรัสเข้าไปในเซลล์แล้วสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ยิ่งมันสร้างซ้ำ ๆ เป็นล้าน ๆ ครั้ง ก็เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ และบางครั้งความผิดพลาดนั้นกลับทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น และถ่ายทอดความสามารถของมันต่อไปได้
- ส่วนหนึ่งที่สายพันธุ์นี้แพร่กระจายง่ายขึ้น เพราะคนที่ติดเชื้อไม่ค่อยมีอาการ ทำให้ยังออกไปใช้ชีวิตตามปกติ และกลายเป็นพาหะนำโรคโดยไม่รู้ตัว ส่วนสายพันธุ์เดิมผู้ติดเชื้อมีอาการมากกว่า จึงมักนอนซมอยู่บ้าน การแพร่ระบาดจึงต่ำกว่า
- อาการของผู้ติดเชื้อสำหรับสายพันธุ์นี้ก็ยังเหมือนสายพันธุ์เดิม คืออาการเหมือนคนเป็นหวัด แต่เปอร์เซ็นต์ความรุนแรงและการแสดงอาการจะน้อยกว่าของเดิม
- สำหรับการรักษา ส่วนใหญ่ไวรัสไม่มียาฆ่าเชื้อจำเพาะ ไม่เหมือนยาฆ่าเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นการรักษาโควิดก็ใช้ยาต้านไวรัสที่มีอยู่แล้ว และรักษาตามอาการเป็นหลัก
การระบาดระลอกสอง
- การระบาดระลอกสองถือเป็นความปกติ เพราะโรคระบาดจะไม่จบในคลื่นเดียว มันจะมีคลื่นสองเสมอ สุดท้ายแล้วเราอาจต้องอยู่กับโควิดตลอดไป แต่มันอาจกลายเป็นโรคตามฤดูกาลคล้ายไข้หวัดใหญ่
- การระบาดระลอกแรกไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของประชาชน การระบาดระลอกใหม่ก็เช่นกัน ประชาชนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี การ์ดเราไม่ตก คนไทยแทบจะร้อยละร้อยใส่หน้ากาก
ควรล็อกดาวน์หรือไม่
- หมอเก่งมองว่าการล็อกดาวน์ตอนระลอกแรกนั้นถูกต้องแล้ว เพราะตอนนั้นข้อมูลเกี่ยวกับโรคยังน้อย แต่สายพันธุ์ใหม่ความรุนแรงน้อยกว่าเดิม ควรป้องกันกลุ่มเปราะบางคือผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ส่วนคนที่แข็งแรงอาจติดเพิ่มขึ้นบ้าง แค่ควบคุมให้อยู่ในระดับความสามารถที่จะรักษาได้ของโรงพยาบาลและหมอในประเทศ
- สิ่งที่น่ากังวลคือ ถ้าโควิดระบาดตู้มเดียวเป็นล้าน ๆ คน คนที่อาการหนักต้องเข้าไอซียูก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าผู้ป่วยเกินความสามารถที่จะรองรับได้ เช่น มีผู้ป่วย 20 คน มีห้องไอซียูแค่ 10 ห้อง อัตราการเสียชีวิตก็จะสูงขึ้น
- อย่างไรก็ตาม หมอเก่งมองว่ามาตรการทางสาธารณสุขกับมาตรการทางเศรษฐกิจควรต้องสมดุลกัน ถ้าเรากดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้เป็น 0 หรือกดให้น้อยที่สุด แต่เศรษฐกิจพังหมดก็ไม่ได้
ติดโควิดแล้วปอดจะไม่กลับมาเหมือนเดิมจริงหรือไม่
- ไม่เสมอไป โควิดมีหลายดีกรี ตั้งแต่กลุ่มที่ไม่มีอาการเลยประมาณ 80% มีอาการเล็กน้อย 15% อาการหนัก 3-4% และอัตราการตายอยู่ที่ 1-2% แล้วแต่ศักยภาพของโรงพยาบาลและประเทศ
- ในกลุ่มที่ไม่มีอาการเลย ปอดก็จะไม่เป็นอะไร เพราะโรคไม่ได้ลงไปที่ปอด แต่ในรายที่มันลงปอด ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเข้าไอซียู ก็เปรียบเสมือนการที่เราเป็นแผล ร่างกายก็ต้องสมานและสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดแผลเป็น เช่นเดียวกับปอดที่สร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ก็เกิดแผลเป็นเช่นเดียวกัน
เด็ก 7 เดือนติดโควิด
- คนทุกวัยสามารถติดโควิดได้ แต่ในช่วงแรกไม่มีรายงานว่าเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ติดโควิดแล้วเสียชีวิต ทำให้วงการแพทย์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
- ต่อมามีการศึกษาจนพบว่า โควิดมีแม่กุญแจที่ต้องไขกุญแจเข้าเซลล์ แต่เซลล์ของเด็กไม่มีรูกุญแจนั้น เพราะเซลล์ของเด็กยังไม่ได้พัฒนาตัวนี้ขึ้นมา มันจึงเสียบเข้าเซลล์ของเด็กไม่ได้
- แต่ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2563 เริ่มมีรายงานว่ามีบางโรคที่เกิดขึ้นในเด็กพร้อมโควิด เช่น เป็นไข้เลือดออกพร้อมโควิด ทำให้เด็กอาการหนักขึ้น และมีรายงานว่าเด็กเสียชีวิตได้
โอกาสที่จะได้ฉีดวัคซีนของคนไทย
- ตอนนี้ไทยกำลังทำอยู่ 3 ทาง ทางแรก ไทยผลิตเอง ซึ่งมีหลายที่กำลังทำอยู่ เช่น จุฬาฯ มหิดล สวทช. และภาคเอกชน ซึ่งของจุฬาฯ ก้าวหน้ามากที่สุด แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีเจ้าไหนเข้าสู่การทดลองในคน ยังทดลองในสัตว์อยู่ และการทดลองในคนก็มี 3 เฟสอีกเป็นอย่างน้อย ดังนั้นหมอเก่งจึงมองว่าหนทางนี้ยังค่อนข้างห่างไกล
- ทางที่ 2 ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างชาติมาผลิต ซึ่งรัฐบาลไทยได้เซ็นสัญญากับ ‘สยามไบโอไซเอนซ์' และ ‘แอสตร้าเซนเนก้า' (บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน) ไปเมื่อตุลาคม 2563 เมื่อไหร่ที่แอสตร้าเซนเนก้าทำเสร็จ ก็จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เรา แล้วสยามไบโอไซเอนซ์จะนำมาผลิตในประเทศไทย
- ทางที่ 3 คือการซื้อวัคซีนของต่างชาติมาเลย ซึ่งไทยจองไปแล้ว 6-8 พันล้านบาท สามารถฉีดให้ประชาชนได้ประมาณ 20% ซึ่งหมอเก่งมองว่ายังน้อยเกินไป
- ตอนนี้สิงคโปร์ได้วัคซีนมาแล้วและเริ่มฉีดให้ประชาชนแล้ว โดยรัฐบาลสิงคโปร์รับรองต่อประชาชนว่า ภายในปลายปีหน้าประชาชน 100% จะต้องได้รับวัคซีน
- ส่วนของไทยตั้งเป้าไว้ว่า 50% ของประชากรจะต้องได้รับวัคซีนภายใน 3 ปี (อ้างอิงจากการรายงานของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ) ซึ่งหมอเก่งมองว่าช้าไปหน่อย
- หมอเก่งบอกว่าที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่เพื่อตำหนิหน่วยงานในประเทศ หมอไทยมีศักยภาพมาก แต่ปัญหาคือความล่าช้าของราชการรวมศูนย์ ตอนนี้งบวิจัยในประเทศไทยไม่ได้แยกเป็นหน่วย แต่มารวมอยู่ที่กองเดียว คือกองทุนของ สกสว. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) และทุกคนต้องไปของบจาก สกสว. อีกทีหนึ่ง ทำให้ล่าช้า
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday