สืบเนื่องจาก กรณี ผู้ว่า จ.กาญจนบุรี เปิดไทม์ไลน์ สองสามีภรรยา ชาวบ้านดอนชะเอม อ.ท่ามะกา ติดเชื้อโควิด-19 สอบพบมีประวัติทำงานในสถานที่เล่นพนันย่านปิ่นเกล้า กทม.ระหว่างวันที่ 20-28 ธันวาคม 2563 ยังทำงานทื่บ่อนในกรุงเทพฯ ซึ่งขัดแย้งกับที่มีการระบุว่า กรุงเทพฯไม่มีบ่อน
จากนั้นเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา กำลังตำรวจ นำหมายศาลอาญาตลิ่งชันเข้าตรวจค้นอาคารคอนโดมิเนียม ย่านปิ่นเกล้า ในซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา ที่คาดว่าเป็นสถานที่ตั้งบ่อนลอยฟ้า
โดยนายดนัย กล่าวว่า รู้กันดีมาตั้งแต่สมัยไหนๆว่า ทุกตรุษจีน ตำรวจจากหลายสน.มีการตั้งแถวไปรับแต๊ะเอียจากมือเจ้าของบ่อนเป็นที่ฉาวโฉ่ แต่หลังๆก็ทำเป็นเรื่องลับกันมากขึ้น ซึ่งถ้าพูดถึงบ่อนลอยฟ้า แถวปิ่นเกล้า ก็มีแค่บ่อนเดียวนี่แหละ...
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรรวจสอบอาคารดังกล่าวบริเวณชั้น 8 พบว่ามีป้ายเป็นห้องจัดเลี้ยงสัมมนาติดอยู่หน้าทางเข้าภายในมีห้องโล่งมีเพียงเก้าอี้และโต๊ะวางอยู่แต่ไม่พบมีอุปกรณ์เล่นการพนัน
ผู้ดูแลอาคาร เปิดเผยว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยเป็นบ่อนการพนันแต่เลิกไปนานแล้วปัจจุบันภายในห้องบริเวณดังกล่าวใช้เป็นห้องจัดการประชุมสำหรับลูกบ้านและจัดงานเลี้ยง ไม่ได้เป็นบ่อนตามที่มีกระแสโซเชียลโพสต์แต่อย่างใดและวันนี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าที่นี่ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย
นางอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ หรือ แมวสาว เผยว่า จะเกิดวาทะกรรม เหมือน ไม่ใช่ยาเสพติด มันคือแป้งมัน, ไม่ใช่บ่อน มันคือโกดัง อีกมั้ย คราวนี้น่าจะ ไม่ใช่บ่อน มันคือ ห้องจัดเลี้ยงสัมนา!
ด้าน นายดนัย ได้เผยเพิ่มเติมว่า ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลองปรึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกับทางผู้ว่าเมืองกาญจ์ว่า บ่อนปิ่นเกล้านั้นอยู่ตรงไหน จะได้ไม่มีวาทะกรรม สุดฮือฮาว่ามันไม่ใช่บ่อนแต่คือห้องจัดเลี้ยง!! ตามมา
นางอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ หรือ แมวสาว กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 28 ตอนนั้นบ่อนระยองเริ่มประทุฝีแตกแล้วนะ แต่ 20-28 ปิ่นเกล้ายังเล่นกะอยู่
นายดนัย กล่าวว่า ด้วยความเคารพไม่เคยคิดจะประจานใคร เพียงต้องการสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง เชิงระบบ หลักการณ์ นำไปสู่การแก้ไข