ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก

"ดร.อานนท์" เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก พร้อมเผยสาเหตุ หาก ร.7 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย เลือดไหลนองทั้งแผ่นดิน

รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.40 น. ทางเนชั่น ทีวี ช่อง 22 วันนี้ (7 ม.ค. 64)"ดร.เสรี วงษ์มณฑา" สัมภาษณ์ "ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์" อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ยังเบิกเนตรกันต่อกับหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ และหนังสือขุนศึกศักดินาและพญาอินทรี แหกตาใส่ร้ายสถาบัน

เอารายละเอียดหนังสืออีกเล่ม
"แก่นหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ แค่ชื่อก็มีปัญหาแล้ว เพราะชื่อจงใจประชดประชันกระทบกระแทกแดกดันเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวง ร. 9 ความฝันอันสูงสุด ซึ่งสำนักพิมพ์นี้ชอบใช้ชื่อหนังสือเป็นชื่อเพลงในหลวง ร.9 แต่เนื้อหาข้างในเป็นอีกเรื่องนึง อย่างเล่มที่บิดเบือนเรื่องทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่พิมพ์ออกมา ชื่อพระพรหมช่วยอำนวยให้ฝนหลั่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งคุณธนาธรเป็นเจ้าของ ตัวเนื้อหาหนังสือก็เป็นปัญหา แก่นของหนังสือกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงต่อต้านประชาธิปไตย ไม่ทรงเป็นประชาธิปไตย"


พระองค์ไม่ใช่เหรอ ที่ยอมพระราชทานรัฐธรรมนูญโดยไม่เสียเลือดเนื้อ แล้วจะไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน


"เล่มนี้เขียนเหตุการณ์หลัง 2475 ว่ามีความพยายามในการกลับคืนสู่พระราชอำนาจด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งในแง่ทรงทัดทานการใช้อำนาจของคณะราษฎร หรือสองการทรงอยู่เบื้่องหลังกบฎบวรเดช แล้วแต่งเรื่องโยงแบบที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล โยงไปหาพระสัสสุระหรือพ่อตา คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตนวิสิษฐ์ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พรระบรมราชินีในร. 7 ซึ่งทรงรับผิดชอบการจ่ายเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วพระองค์เจ้าบวรเดช ท่านก็รับราชการทหาร สุดท้ายท่านก็เป็นกบฎต่อต้านคณะราษฎร พอพระองค์ท่านแพ้ จอมพลป.บอกเลยว่าไอ้เดชหนี ไอ้ศรีตาย ไอ้เดชคือพระองค์เจ้าบวรเดชซึ่งหนีไปเขมร ส่วนไอ้ศรี คือพระยาศรีสิทธิสงคราม หรือดิ่น ท่าราบ ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีในปัจจุบัน ท่านถูกฆ่าตายที่หินลับ ที่สระบุรี หนังสือเล่มนี้ธีมคือพระเจ้าอยู่หัวร.7 ไม่เป็นประชาธิปไตย กระหายอำนาจ ต้องการกลับสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ด้วยการกระทำต่างๆ มากมาย ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย"

ทำไมตอนนั้นพระองค์เจ้าบวรเดชถึงลุกขึ้นมาทำสงครามกับคณะราษฎร
"ทรงเห็นว่าพระเจ้าอยู่หัว ร. 7 ถูกรังแกโดยคณะราษฎร สองคือไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คณะราษฎรยึดอำนาจเป็นของตัวเองแล้วเป็นสมบัติผลัดกันชม ตอนหลังทะเลาะกัน ถ้าเราจำได้ในประวัติศาสตร์ วันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 นายประยูร ภมรมนตรี หนึ่งในคณะราษฎรเป็นคนไปจับกุมตัว กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นองค์ประกัน ท่านก็ถามว่าแน่ใจแล้วหรือ ราชวงศ์จักรีปกครองประเทศมา 150 ปี รู้จักนิสัยคนไทยดียังไม่ง่ายเลย แน่ใจแล้วหรือ พลโทประยูรบอกว่าได้ไม่มีปัญหา ท่านก็บอกว่าแล้วพวกแกจะต้องฆ่ากันตายเอง แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ"

ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


หลายคนตายต่างประเทศ พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก จอมพลป. ก็ตายต่างประเทศ ท่านปรีดีก็ตายต่างประเทศหมดเลย

"ที่สำคัญตอนอยู่ พอมีอำนาจแล้วดีกันไม่ได้ จอมพลป. สร้างวัดพระศรีมหาธาตุที่บางเขน แล้วเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบเจดีย์ข้างใต้เจดีย์ถ้าใครเคยเข้าไปดู จะเป็นที่เก็บอัฐิคณะราษฏรทั้งหมด อยู่ด้วยกัน ตอนอยู่ฆ่ากันตาย แต่ตายแล้วเอากระดูกมาไว้ด้วยกัน เรียงหมดเลยที่ฐานพระเจดีย์ ซึ่งการบิดเบือนใส่ร้ายร.7 กับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ในหนังสือเล่มนี้ชัดเจนมาก แล้วก็ทำให้กลุ่มราษฎรปลดแอก 63 ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่เบิกเนตร แต่ผมเรียกว่าแหกตา เบิกเนตรเพราะว่าเอามาตั้งชื่อคณะราษฎร 2563 อันนี้เป็นคณะราษฎร 2475"

เขามองว่าเบิกเนตรเขายังไง
"เขาบอกว่าเขาต้องการประชาธิปไตย การได้มาซึ่งประชาธิปไตย ก็ต้องใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นเมื่อพระเจ้าแผ่นดินไม่เป็นประชาธิปไตยก็ต้องล้มล้างพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประชาธิปไตย"

เขาโยงมาตั้งแต่ ร. 7 จนถึง ร. 9
"จนถึงร. 10 เวลานี้เขามองว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นอุปสรรคในการพัฒนาบ้านเมือง นี่ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นคัมภีร์ที่เด็กปลดแอก คณะราษฎร 2563 ใช้ในการอ้างอิงและใช้เป็นธงนำในการต่อสู้"

คำปราศรัยของเพนกวินหรือใครหลายคนมาจากเนื้อหาตรงนี้หรือเปล่า
"ใช่ครับ เป็นหนังสือหลักที่เขาใช้กัน"

ตอนเขาอยู่ปฏิวัติกันไปมา หนีไปตายต่างประเทศเยอะแยะ ทำไมตอนตายกระดูกต้องมาอยู่ด้วยกัน

"คือวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ตั้งตอน 2500 ยุคกึ่งพุทธกาล จอมพลป.เป็นคนตั้งวัดนี้ ถ้าให้อ่านใจจอมพลป. คณะราษฎรทั้งหมดเป็นเพื่อนกันมาก่อน ตอนร่วมกันเขาไปกินกาแฟในปารีสและปฎิญาณเป็นเพื่อนกัน มาทำเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อความศิวิไลซ์ พัฒนาสยามประเทศ แต่พออำนาจอยู่ในมือใคร ถ้าอยากรู้ว่าคนๆ นั้นเป็นเช่นไร ให้เอาอำนาจไปใส่ในมือคนๆ นั้น เมื่อมีอำนาจ เมื่อมีคนอยากได้อำนาจ ความเป็นเพื่อนก็สะบั้นลง มันเป็นสัจธรรม ดังนั้นคำว่ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตเตือนไว้ว่าพวกแกจะต้องฆ่ากันตาย เป็นเรื่องจริง ทีนี้คนเรายังมีน้ำจิตน้ำใจกันอยู่ในความเป็นเพื่อน ตายกันหมดแล้วก็อโหสิกรรมเถอะ ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน กระดูกมาเป็นเพื่อนกันใต้ฐานพระเจดีย์องค์เดียวกัน คณะราษฎรถามว่ามีส่วนดีมั้ย ก็มีส่วนดี ถ้าใครไปที่วัดพระศรีฯ ลองไปดูที่ใต้เจดีย์นะครับ ฟากนึงเป็นช่องเก็บอัฐิปรีดี พนมยงค์ อีกฟากนึงเป็นช่องเก็บอัฐิจอมพลป.พิบูลสงคราม และรอบๆ ก็เป็นอัฐิของผู้ก่อการ 2475 คณะราษฎรทั้งหมด"

ดีกันหลังตาย
"ดีกันหลังตาย ก่อนตายไม่มีอำนาจก็ดีกัน แต่พอมีอำนาจก็ฆ่ากัน มันเป็นธรรมชาติอำนาจ"

ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


อยู่กันที่นั่นกี่คน
"ผมไม่ได้นับ น่าจะ 60 คนขึ้นไป"

ตอนนี้ยังเหลือมั้ยคณะราษฎร
"โห้ น่าจะตายหมดแล้วครับ น่าจะเหลือรุ่นลูกแล้ว ก็เป็สัจธรรมครับ"

เนื้อหาในนั้นที่บอกว่าแหกตา เอาประเด็นสำคัญที่แหกตาเด็ก แล้วเด็กเอามาใช้เป็นคัมภีร์ในการปราศรัย

"ในหนังสือเล่มนี้รวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เป็นรอยัลลิสต์ทั้งหมด (คนภักดีต่อสถาบัน) ซึ่งรวมพระองค์เจ้าบวรเดช ซึ่งต้องการปฏิวัติและสนับสนุนพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสือเล่มนี้เขียนให้คนอ่านคิดไปในเชิงที่ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสนับสนุนพระองค์เจ้าบวรเดชต่อต้านคณะราษฎร คณะราษฎรได้อำนาจมาก็ตีกันหนักมาก ในนี้กล่าวถึงหม่อมราชวงศ์นิมิตรมงคล นวรัตน์ ซึ่งเป็นทหารผู้จงรักภักดี และเป็นทหารที่ชาญฉลาดมาก เขียนนิยายเป็นภาษาอังกฤษสำหรับคนยุคนั้น เก่งมาก และวาดภาพประเทศไทยควรมีอุดมคติยังไง พูดถึงสอ เสถบุตร ซึ่งเป็นเลขาพระปกเกล้า ก็พยายามลากโยงทุกคนที่อยู่รอบพระองค์ที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างจากคณะราษฎร"

มองว่าคนอยู่ใกล้ชิด ร. 7 ฝักใฝ่ระบอบการปกครองอันเดิม
"ใช่ครับ หนังสือเล่มนี้จึงกลายเป็นว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว ไม่ทรงเป็นประชาธิปไตย และชักใยอยู่เบื้องหลัง ต่อต้านประชาธิปไตย สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคต่อความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่ความเป็นจริงแต่อย่างใด"

นี่คือที่มาที่กลุ่มปกแอกชอบด่ารอยัลลิสต์
"ใช่ และบอกว่าต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ คณะราษฎรนี่ตีกันยาวนานมาก ตั้งแต่ 2475 จน 2492 แล้วจบด้วยหนังสือเล่มนี้ เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์รัฐประหารจอมพลป."

คือการสิ้นสุดบทบาทคณะราษฎร การปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ก็กลายเป็นยุคใหม่
"ซึ่งหนังสือขุนศึกศักดินาพญาอินทรี ก็ไปกล่าวหาอีกว่าการรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ ในหลวง ร. 9 ทรงอยู่เบื้องหลัง และสหรัฐอเมริกาก็หนุนจอมพลสฤษดิ์ด้วย เพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ ก็ตีความเป็นเรื่องระเบียบการเมืองโลก ว่าสหรัฐอเมริกาถือหางจอมพลสฤษดิ์เพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ และร. 9 อยู่เบื้่องหลังการรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์เพื่อโค่นล้มจอมพล ป. และทำให้ทรงกลับมีพระราชอำนาจ ซึ่งเป็นการบิดเบือนอย่างหนักเลยทั้งคู่"

การบิดเบือนเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร มีครั้งแล้วครั้งเล่า
"คือเรื่องนี้ เป็นประเด็นที่คณะราษฎร 2563 และกลุ่มอื่นๆ พยายามทำมาโดยตลอด ผมต้องชี้แจงว่าพระเจ้าแผ่นดินทรงอยู่เหนือการเมือง และต้องดำรงพระองค์เป็นกลาง อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้นผ่าน 3 สถาบันเป็นไปตามหลัก The King can do no wrong คราวนี้รัฐประหารทุกครั้ง คณะคนที่ทำรัฐประหารก็ไปยึดอำนาจรัฐ อำนาจการปกครองแผ่นดินมา แล้วขึ้นไปกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงมาลงพระปรมาภิไธย ฝั่งนึงก็บอกว่าทำไมพระเจ้าแผ่นดินต้องลงนามล่ะ ผมพูดอย่างตรงไปตรงมา ถ้าไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย คนเหล่านั้นถืออำนาจรัฐแล้ว ความปลอดภัย ความมั่นคงของพระเจ้าแผ่นดินจะอยู่ตรงไหน แล้วบ้านเมืองจะวุ่นวายขนาดไหน ย้อนกลับไปสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 2475 ตอนทำปฏิวัติสยาม กระทั่งกำลังก็ไม่มี ไปหลอกนักเรียนนายร้อยมาชุมนุมกันที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า ไม่มีกำลังแล้วหลอกเด็กมาเป็นกำลังร่วมกันปฏิวัติ นักเรียนนายร้อยรุ่นนั้นไม่ได้รู้เรื่องเลย เนื่องจากไม่มีกำลัง วันนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงกอล์ฟอยู่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ใกล้ๆ วังไกลกังวล กำลังจะตีลูกลงหลุมสุดท้าย ก็มีมหาดเล็กมาทูลว่ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ท่านก็เสียความรู้สึก ลูกสุดท้ายจะเอาลงก่อนไม่ได้เหรอ ทรงตรัสว่าวังไกลกังวลไม่ได้ไกลกังวลเลย ก็ไม่ทรงปรารถนาให้คนไทยต้องฆ่ากันเอง ก็เลยทรงประนีประนอม ยอมตามคณะราษฎร ซึ่งจับตัวตัวประกันคือ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และเจ้านายอีกหลายพระองค์ไปไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ก็แบบเดียวกัน เหตุผลคือเขาทำรัฐประหารกันเสร็จแล้ว พระเจ้าแผ่นดินไม่ได้ทรงรู้เรื่อง อำนาจอยู่ในมือคนเหล่านั้นแล้ว แล้วคนเหล่านั้นก็บีบบังคับพระเจ้าแผ่นดินทางอ้อมให้ต้องลงพระปรมาภิไธย ถ้าไม่ลงก็เกิดปัญหา"

ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


24 มิ.ย. 2475 เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ถามว่าถ้าร.7 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย อะไรจะเกิดขึ้น

"คนไทยจะฆ่ากัน ทหารจะออกมารบ เลือดจะนองแผ่นดิน เจ้านายที่ถูกจับเป็นองค์ประกัน คงถูกปลงพระชนม์ นึ่คือรัฐประหารครั้งแรกและสำเร็จด้วย ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่ทำให้เกิดการนองเลือด พระเจ้าแผ่นดินแลดูเหมือนทรงมีพระราชอำนาจมากมาย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มากขนาดนั้นอย่างที่กล่าวหากัน แล้วในอดีตที่ผ่านมา การทำรัฐประหารก็เป็นเรื่องที่ส่วนใหญ่คณะทหารดำเนินการเรียบร้อยแล้วจึงกราบบังคมทูลพระกรุณา มีไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่ยังไม่ทันได้กราบบังคมทูลพระกรุณา แล้วอีกฝั่งพลิกสถานการณ์ หรือรัฐบาลที่กำลังถูกโค่นล้มแก้ไขสถานการณ์ได้ เช่นกรณีเมษาฮาวาย ซึ่งพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ ขณะนั้น จับตัวพลเอกเปรมได้แล้ว แต่พลเอกเปรมท่านก็ยังออกมาจากบ้านสี่เสาเทเวศน์ได้ด้วยบารมีส่วนตัว ไปกราบบังคมทูลร.9 กับพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปกราบบังคมทูลล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เสด็จไปภาคที่ 2 ของโคราช ซึ่งก็พลิกสถานการณ์ ทำให้เมษาฮาวายกลายเป็นกบฎ"

โทษกบฎเป็นยังไง
"ประหารชีวิต อันนั้นก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ว่าประเทศไทยเวลากบฎถึงขั้นประหารชีวิตมีไม่มากครั้ง มีน้อย การรัฐประหารสถาบันไม่ได้อยู่เบื้องหลัง สถาบันอยู่ในภาวะจำยอมหรือถูกบีบบังคับเสียด้วยซ้ำ"

หนังสือประชาธิปกประชาธิปไตย เขาพูดถึงหนังสือ 2 เล่มนี้ยังไง
"หนังสือเล่มนี้กล่าวหาว่าในหลวง ร. 7 ไม่เป็นประชาธิปไตย หนังสือประชาธิปกประชาธิปไตย ศึกษาเอกสารและเป็นการเขียนตอบโต้ ณัฐพล จริงใจ โดย รองศาสตราจารย์หม่อมราชวงศ์พฤทธิสาณ ชุมพล ซึ่งสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในหนังสือเล่มนี้ มีหนึ่งรีพอร์ทเขียนเป็นภาษาอังกฤษ รายงานหนึ่งฉบับเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อปัญหาของสยาม เรียบเรียงและเขียนโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเอง ทรงนิพนธ์เอง และส่งไปปรึกษาพระยากัลยาณไมตรี ฟรานซิส บี. แซร์ ที่ปรึกษาราชการแผ่นดินชาวสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลายาวนานว่า อยากมีพระราชดำริให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แล้วทรงมีแผนการว่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง หนังสือเล่มนี้ยังเขียนอธิบายว่าแม้กระทั่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์เอง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงพอพระทัย ในการเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพราะทรงตระหนักในความสามารถพระองค์เอง พระองค์เองมองว่าพระองค์ท่านไม่ใช่คนที่เตรียมตัวจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านทรงมองว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ไม่พร้อม แต่ว่าพระเชษฐาทิวงคตกันไปหมด ก็เลยทำให้ราชสมบัติ ราชบัลลังก์ตกเป็นของพระองค์ท่าน แต่พระองค์ท่านเป็นคนมีการศึกษา ทรงตั้งอภิรัฐมนตรีสภา เพื่อริดรอนอำนาจพระองค์ท่านเอง แล้วก็ไม่ได้ทรงใช้อำนาจอย่างที่ลุแก่อำนาจประการใดเลย แล้วพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าสนใจศึกษาการเมืองการปกครอง ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เรื่อง มาร์กซิสต์ เรื่องคอมมิวนิสต์ ในหนังสือสิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นของหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล เขียนเลยว่าทรงอ่านหนังสือมาร์กซิสต์ ฟาสซิสต์ รู้เรื่องดีที่สุด และทรงไม่เห็นด้วย ทรงร่างรัฐธรรมนูญโดยที่พระยากัลยาณไมตรีกับพระยาศรีวิสารวาจา ช่วยกันร่างรัฐธรรมนูญถวาย ทรงมีรัฐธรรมนูญที่พระองค์เตรียมพระราชทานไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อ 2475 ทำรัฐประหารก็เลยทรงประนีประนอม ให้เกิดประชาธิปไตย"

ถ้าจะส่งข่าวสารไปพูดกับคณะราษฎรที่เสียชีวิตไปหมดแล้ว อยากพูดว่าไง
"พระยาทรงสุรเดช เป็นคนร่วมก่อการ 2475 บอกว่าสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิต คือการเอาคนชั่วกับคนโลภมาเปลี่ยนแปลงและปกครองบ้านเมือง"

ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก


ดร.อานนท์ เบิกเนตรละเอียดยิบ หนังสือ 2 เล่มคัมภีร์เยาวชนปลดแอก

ชมคลิป
VVV
V
VV
V
VV
V
VV
VVVVV


เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ เรื่องลับมาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์