โฆษกรัฐบาลแจงยิบ! กลับลำไม่โหลดแอปฯ หมอชนะ ไม่ติดคุก
รายการโหนกระแสวันที่ 8 ม.ค. 64 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "อนุชา บูรพชัยศรี" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ "ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ" ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กรณีดราม่าแอปฯ หมอชนะ ที่คนตั้งคำถามว่าจากที่ออกมาบอกว่าคนไม่โหลดแอปฯ จะติดคุก ตอนนี้รัฐบาลกลับลำแล้วหรืออย่างไร รวมถึง 5 จังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดแบบเข้มงวด การเข้าออกต้องทำเช่นไร
ตอนนี้ปัญหาที่เกิดเรื่อง 5 จังหวัดควบคุมสูงสุดแบบเข้มงวด มี ตราด จันทบุรี ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร สรุป 5 จังหวัดนี้จำเป็นต้องมีเอกสารในการเข้าออกหรือเปล่า
อนุชา : "ณ ตอนนี้อย่างน้อยในการออกจากพื้นที่ 5 จังหวัดต้องมีเอกสารที่รับรองโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และสองคือโดยนายจ้างก็สามารถออกให้ได้ เพราะบางครั้งมีพนักงานที่เขาอาจต้องดำเนินการขนส่งระหว่างจังหวัด เขาต้องเข้าออก วันนึงหลายครั้ง ตรงนี้สามารถให้นายจ้างผู้ประกอบการบริษัทหัวหน้างานต่างๆ ออกเอกสารได้ เพื่อที่เวลาผ่านไปจุดคัดกรอง สามารถนำเอกสารนี้ให้ดูว่ามีความจำเป็น เพราะบางครั้งการพูดลอยๆ อาจทำให้เกิดปัญหาได้ ถ้ามีเอกสารรับรองโดยผู้ประกอบการนายจ้างหรือหัวหน้างานก็จะดี สำหรับประชาชนทั่วไปไม่ได้ทำงานในรูปแบบบริษัทหรือห้างร้าน ก็ให้ไปขอที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรงนั้น ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปที่อำเภอ หรือจังหวัด ณ ตอนนี้ไปขอได้ที่ปลัดอำเภอ กำนัล ในตำบล หรืออยู่ในหมู่บ้านก็ไปขอที่ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ ตรงนี้ก็ช่วยได้ โดยวัตถุประสงค์ไม่ต้องการให้คนไปแออัดที่อำเภออยู่แล้ว"
อนุชา : "ตรงนั้นไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เขาจะดูความเหมาะสม ถ้ามีความจำเป็นต้องออกทุกวัน ใช้เวลาเท่าไหร่อย่างไร ซึ่งอันนี้จะดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ว่า หรือส่วนผู้ประกอบการ ต้องดูเรื่องความจำเป็น ทั้งนี้ทั้งนั้นวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวของประชากรน้อยที่สุด เพื่อลดจำนวนการแพร่ระบาด
อนุชา : "ไม่ต้องมีเอกสาร แต่เมื่อถึงจุดคัดกรอง พอถึงด่านตรวจ 5 จังหวัดก็จะถูกถามแน่นอน ว่าคุณจะเข้าไปทำอะไร แต่ถ้าท่านมีเอกสารจากหน่วยงานต้นสังกัดท่านจะทำให้ราบรื่นง่ายกว่า แทนที่จะลงจากรถไปตอบคำถามใช้เวลานาน ถ้ามีเอกสารอยู่ในมือมันจะช่วยอยู่แล้ว คล้ายๆ เป็นพาสปอร์ตอย่างหนึ่ง ถ้ามีอยู่ในมือเท่ากับว่ามีคนรับรองแล้วว่ามีความจำเป็นจริง ถ้ามาจากจังหวัดอื่นมีเอกสารนี้ก็จะช่วย แต่ไม่จำเป็นต้องมี แต่ต้องอธิบายเรื่องความจำเป็นที่จะต้องเข้าจังหวัด"
ถ้าจะเข้า 5 จังหวัดนี้เราก็ไปแจ้งเขาว่ามีความจำเป็น 1 2 3 4 แต่ถ้ามีใบรับรองจากที่ทำงานจะดีขึ้น
อนุชา : "มันจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกรวดเร็ว แทนที่เขาจะถามรายละเอียด จะได้ดูว่าทำงานที่ไหน อำเภอ ตำบลอะไร เข้าไปกี่วัน"
ไม่ได้เป็นใบอนุญาตเข้า
อนุชา : "ไม่ใช่ เป็นเหมือนหลักฐานว่ามีความจำเป็นต้องเข้า"
ถ้าเข้าไปแล้ว แล้วจะออกมา
อนุชา : "อาจมีความจำเป็น ถ้าท่านกลับไปจังหวัดไหน ถ้าเขาบอกว่าถ้าท่านกลับมาจาก 5 จังหวัดนี้ จะต้องกักตัวเองด้วย 14 วัน อันนี้ก็ต้องเข้าใจด้วย ถ้าอยากเข้าไปออกมาก็ต้องกักตัว แต่ ณ ปัจจุบันนี้แต่ละจังหวัดเขามีมาตรการของเขาเอง ถ้ากลับเข้ามาในบางจังหวัด เขาอาจให้คุณกักตัวที่บ้านคุณเองก็ได้ แต่ถ้าเป็นบางจังหวัดที่เขาเข้มงวด เขาก็จะบอกว่าคุณกลับเข้ามาก็ต้องเข้ามากักตัวในส่วนที่เขาเตรียมให้ก็มีเหมือนกัน ต้องศึกษาในรายละเอียดตรงนี้"
ทำความเข้าใจชัดๆ แล้วแต่จังหวัดจะมีมาตรการของเขาเอง สมมติคุณเข้าไป 5 จังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุดเข้มงวด คุณเข้าไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องขอเอกสารเข้าไป แค่แค่ไปแจ้งที่ด่านว่าจะเข้าไปทำอะไร แต่เข้าไปแล้ว คุณกลับออกมาต้องมีเอกสารกลับออกมา
อนุชา : "อาจไม่ต้องมีเอกสารเหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่คนในพื้นที่ใน 5 จังหวัดนั้น แต่พอออกจาก 5 จังหวัดนั้นแล้ว คุณต้องไปฟังที่บ้านคุณ ว่ากักตัวที่บ้าน 14 วันหรือที่เขาจัดไว้ให้ 14 วัน ศบค. ซึ่งเป็นส่วนกลางเขาจะมีมาตรการออกมา แต่ละจังหวัดก็มีหน้าที่ออกกฎเกณฑ์เพิ่มเติม ทีนี้ประชาชนก็จะถาม แล้วจะยึดหลักเกณฑ์ตรงไหนเป็นหลัก ก็ขอให้ทำความเข้าใจว่าอันไหนมีความเข้มงวดกว่ากันให้ยึดอันนั้น แต่ส่วนกลางออกมาแล้ว แล้วจังหวัดออกมาตรการขึ้นมาซึ่งเข้มงวดกว่าส่วนกลาง ให้ยึดของจังหวัด ถ้าเกิดจังหวัดไม่มีการออกมาตรการอะไรขึ้นมา หรือออกมาตรการแล้ว ศบค. ออกมาตรการที่เข้มงวดกว่า ก็ให้ยึด ศบค. อันไหนหย่อนยานกว่าไม่ต้องไปดู ให้ยึดอันที่เข้มงวดกว่า"
อนุชา : "ณ ตอนนี้ถามว่ามีความผิดหรือไม่คงไม่มีความผิดหรอก แต่อย่างน้อย คล้ายๆ หลักฐานเอกสาร ถ้าท่านโหลดแอปฯ ตรงนี้มาเจ้าหน้าที่ก็เกิดความสบายใจ ไม่ต้องซักไซ้ไล่เรียงท่านมากว่าท่านไปอยู่ไหนมา และท่านไปไหน พอท่านมีแอปฯ ตรงนี้ อย่างน้อยจะได้ผ่านได้เร็ว ออกนอกพื้นที่ 5 จังหวัดนี้่แล้ว เขาจะรู้แล้วว่าท่านมีเอกสารตรงนี้ บวกกับท่านมีแอปฯ ตรงนี้ เมื่อท่านกลับมาในพื้นที่ จะรู้เลยว่าท่านไปไหนมาบ้าง ไม่ต้องตรวจสอบอีกรอบ อันนี้เป็นการช่วย แต่ถ้าสอบถามที่จุดคัดกรอง พยายามปกปิดข้อมูลโดยเจตนา อันนี้มีความผิดนะครับ อยากแจ้งให้ทราบว่าความผิดเกิดขึ้นแน่นอน เพราะท่านปิดบังข้อมูลโดยเจตนามีความผิด"
อนุชา : "ไม่ได้เอาเรื่องแอปฯ เป็นหลัก แต่เอาเรื่องเจตนาของท่าน ถ้าท่านมีสมาร์ทโฟน แล้วบอกว่าไม่ติดตั้งแอปฯ หมอชนะ ไม่บอกรายละเอียด ท่านพูดเหมือนจงใจปกปิด ตรงนี้มีความผิด แต่ถ้าท่านมีแอปฯ หมอชนะ จุดคัดกรองเขาสบายใจ เขาอาจปล่อยท่านได้เร็วกว่าเดิมก็ได้ ดังนั้นความสะดวกสบายมันเกิดขึ้นกับตัวคุณเองในการผ่านจุดคัดกรอง ข้อดีแอปฯ หมอชนะไม่ใช่เฉพาะในส่วนสังคม ส่วนตัวท่านเองที่จะได้ประโยชน์"
มันดียังไง และเสถียรแล้วจริงๆ ใช่มั้ย สำหรับแอปฯ หมอชนะ
ดร.สุพจน์ : "จริงๆ แอปฯ นี้ใช้หลักใหญ่ติดตามตัวเรา ว่าไปไหนมาบ้าง ช่วยสองส่วน ส่วนที่ตอนหลังคนมาพบว่าตัวเองติดเชื้อ เวลาไปกรมควบคุมโรคก็จะมีการสอบถามว่าไปไหนมาบ้างซึ่งมันต้องใช้เวลา ถ้าเราลงแอปฯ ไว้ตลอด มันจะบันทึกว่าท่านได้เดินทางไปไหนมาบ้าง"
อย่างผมลงไว้แล้ว เขาจะดูในนี้เหรอว่าไปไหนมาบ้าง
ดร.สุพจน์ : "ไม่ครับ มันจะเก็บข้อมูลไปอยู่ในระบบเฉยๆ โดยที่เราไม่มีการเรียกเก็บเบอร์โทรศัพท์ ไม่มีเก็บชื่อ เก็บที่อยู่ใดๆ ทั้งสิ้น ฝั่งระบบที่เก็บจะไม่ทราบว่าเป็นของใคร เขาจะรู้เป็นรหัสเป็นภาษาคอมพิวเตอร์เป็นชื่อเล่น 1 2 3 4 5 6 ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นใคร"
เขาจะรู้เลยว่าเราไปไหนมาบ้าง
ดร.สุพจน์ : "ใช่ครับ เหมือนเราเปิดกูเกิลแมป จะมีเส้นทางบอกว่าเราไปไหนมาบ้าง อันนี้ใครจะเข้าถึงบ้าง ก็คือกรมควบคุมโรค กรณีที่สมมติตอนหลังไปรพ. แล้วพบว่าติดเชื้อมา เขาจะรู้ว่าถ้ามีโหลดแอปฯ หมอชนะนี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาสอบถาม"
ในนี้บันทึกไว้หมดว่าไปไหนมาบ้าง
ดร.สุพจน์ : "มันจะบอกเองว่าไปไหนมาบ้าง จริงๆ เป็นการบันทึกธรรมดาว่าผ่านที่ไหนมาบ้าง แล้วสิ่งที่กรมควบคุมโรคทำคือไม่ต้องประกาศบนหน้าหนังสือพิมพ์ ตอนนี้เรากำลังเพิ่งเริ่มรณรงค์ให้ใช้ ถ้าเราทุกคนใช้กัน ความจำเป็นตรงนั้นก็จะหมดไป เราจะเอาระบบนี้ไปดูว่ามีใครโหลดแอปฯ หมอชัยชนะ แล้วสัมผัสใกล้ชิดคนติดเชื้อบ้าง ถ้าเราไปไล่ดูเราก็จะรู้ว่า มีกี่คนที่สัมผัสใกล้ชิดในช่วง 14 วันที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคก็สามารถส่งข้อความไปแจ้งเตือนได้ว่าคุณเข้าข่ายความเสี่ยงนะ ต่อไปนี้ให้กักตัวเอง 14 วัน หรือสัมผัสใกล้ชิดเลยจริงๆ ให้รีบติดต่อกรมควบคุมโรคเพื่อตรวจดูว่าติดเชื้่อหรือเปล่า ก็เป็นต้น"
อาจมีบางคนกลัวไทม์ไลน์ตัวเอง ไปไหนมาไหนอาจไปเจอกิ๊ก เจอคนโน้นคนนี้ วันนึงติดโควิด กลายเป็นว่าไม่ตายเพราะโควิด แต่จะตายเพราะที่บ้านฆ่า วันนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะไทม์ไลน์จะไม่หลุดออกมาแล้ว ไทมืไลน์จะไปอยู่ในหมอชนะ แล้วคนรู้จะมีแค่กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น
ดร.สุพจน์ : "ใช่ครับ เราก็ไม่บอกด้วย เราใช้ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลเอา ว่ามีใครลงแอปฯ หมอชนะบ้างแล้วอยู่ใกล้ชิด ฉะนั้นไม่ต้องมาประกาศว่าไทม์ไลน์เป็นไงอีกต่อไป"
ผมโหลดแล้ว
ดร.สุพจน์ : "เยี่ยมครับ แต่ไม่รู้กลัวโควิดหรือกลัวอะไร (หัวเราะ)"
แอปฯ หมอชนะ นอกจากเก็บข้อมูลว่าเราเดินทางไปที่ไหนมาบ้าง พอเราติดหรือเสี่ยงสูง กระทรวงจะรู้ทันทีและโทรศัพท์มาหาเราเลยใช่มั้ย
ดร.สุพจน์ : "เป็นการแจ้งเตือนมาผ่านข้อความ ว่ายูเข้าข่ายเสี่ยง"
ดร.สุพจน์ : "เมื่อสักครู่เป็นการแจ้งเตือนตัวเอง ถ้าเราไปสัมผัสใกล้ชิดคนติดเชื้อก็จะมีการแจ้งเตือนมาที่เรา คนทำแอปฯ ก็ไม่ต้องทำอะไร ถ้ากรมควบคุมโรคไม่ได้แจ้งอะไรท่านมา แสดงว่าท่านปลอดภัยดี สองทำให้เวลาสอบสวนโรคทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ไม่ต้องมานั่งนึกกันว่าท่านไปไหนมา ส่วนคนอื่นไม่ต้องเรียกหาว่าใครไปที่เดียวกันบ้างและเรียกหาให้มาตรวจเชื้อต่อไป"
ดร.สุพจน์ : "ต้องเรียนว่าจริงๆ ตามแผนที่วางไว้ มีการปรับเปลี่ยนสีไปได้ตามความเสี่ยง แต่หลังจากที่เราได้ดูว่าต้องเอามาให้ประชาชนจำนวนมากนำไปใช้ เราได้ปรึกษากับกรมควบคุมโรคแล้ว เราอยากให้มีความเข้าใจง่ายในการใช้งานก่อน ดังนั้นสำหรับคนที่ลงแอปฯ ครั้งแรก สมมติฐานเราคือทุกคนมีความเสี่ยงต่ำก่อน จะขึ้นปุ่มสีเขียวก่อน แต่ถ้าใครไปติดเชื้อจริงๆ ถึงจะเปลี่ยนสีให้กลายเป็นสีแดง หลังจากนั้นไปประมวลผลในระบบ ว่าใครใกล้ชิดคนนี้ไปบ้าง ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา"
ของผมทำไมสีส้ม
ดร.สุพจน์ : "เป็นเวอร์ชั่นไหนต้องดูก่อน เป็นไปได้ว่าโปรแกรมเดิมกำหนดไว้ ก็จะเป็นแบบนี้ เรากำลังปรับปรุงแบบสอบถามอยู่ ว่าจะนำแบบสอบถามนี้ออกก่อน แล้วให้ทุกคนเป็นสีเขียว ใช้ไปแล้วถ้ามีความเสี่ยงกรมควบคุมโรคจะแจ้งมา อย่างนี้ถือว่าเสี่ยงน้อยอยู่นะครับ"
อนุชา : "ไม่ใช่ว่าพอโหลดหมอชนะมาแล้วเลิกไทยชนะนะครับ ไทยชนะเป็นเครื่องมือในการเช็กอินเช็กเอาท์ หมอชนะเข้าไปในห้างแต่ไม่สามารถบอกว่าเข้าไปที่ห้างนี้่แล้วเข้าไปร้านไหน แต่ถ้าเข้าห้างแล้วเข้าร้านเช็กอินเพิ่มเติม ช็อปปิ้งร้านไหน ถ้ามีผู้เสี่ยงติดเชื้อเข้าใช้บริการในเวลาเดียวกันจะทำให้เกิดความละเอียดขึ้น"
คนส่งมาในทวิตเตอร์ อยากทราบอีกครั้ง จังหวัดควบคุมสเข้มงวด 5 จังหวัด ถ้าจะเข้าไปตราด จันทบุรี ชลบุรี ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรเข้าไป แค่ไปชี้แจงหน้าด่าน เข้าไปปุ๊บกลับมาไม่ต้องขออะไรออกมา แต่ต้องรอประกาศจากกรุงเทพฯ ว่าคุณไปจังหวัดนี้มาต้องกักตัวหรือเปล่า ถูกต้องมั้ย
อนุชา : "ต้องดูจังหวัดที่ตัวเองมีภูมิลำเนาอยู่ เดิมพักกรุงเทพฯ ไป 5 จังหวัดนี้แล้วกลับมากรุงเทพฯ เขามีมาตรการใด เชียงใหม่อาจมีมาตรการของเขา ขอนแก่นก็อาจมีมาตรการของเขา ดูที่มาตรการจังหวัดนั้นๆ เป็นหลัก"
แต่ถ้าอยู่ใน 5 จังหวัดนั้นๆ ออกมาจำเป็นต้องขอใบอนุญาตออกมา
อนุชา : "ถูกต้องครับ อันนี้ก่อนผ่านจุดคัดกรองให้ออกจาก 5 จังหวัดนั้นได้ ต้องมีเอกสารเพื่อรับรองผล โดยนายจ้าง ผู้ประกอบการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน ต้องมีเอกสารตัวนี้ติดตัวมาก่อนออกจาก 5 จังหวัดนี้"
กรุงเทพฯ เอง มีโอกาสกลายเป็นจังหวัดควบคุมสูงสุดเข้มงวดมั้ย
อนุชา : "อยู่กับพวกเรากันเอง คุณหมอ ผอ. โฆษกรัฐบาล หรือคุณหมอทวีศิลป์เองก็ตอบไม่ได้ อยู่ที่ว่าประชาชนคนไทยให้ความร่วมมือกับมาตรการที่ออกมามากน้อยแค่ไหน ถ้าเรามีความหย่อนยาน การ์ดไม่สูง ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้ประเทศเราไปสู่มาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเราช่วยกัน ณ ตอนนี้ พยายามงดการเคลื่อนตัวของตัวเอง เวิร์ก ฟรอม โฮมบ้าง อะไรที่ไม่จำเป็นต้องออกจาบ้าน หรือข้ามจังหวัด หยุดพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ ทำให้การแพร่ระบาดของเชื้่อลดน้อยลง ก็จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ทุกอย่างจะกลับมาสู่ภาวะปกติเร็วขึ้นเท่านั้น อีกไม่นานวัคซีนจะมาแล้ว วัคซีนมาก็จะดีขึ้น แต่ตอนนี้วัคซีนที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงไปพื้นที่จังหวัดต่างๆ การใช้หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ การหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่ที่คนแออัด อันนี้จะเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด และวันนี้ที่เราคุยกัน ติดตั้งแอปฯ หมอชนะ สแกนเช็กอิน เช็กเอาท์ ไทยชนะ พวกนี้จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยเร็ว"
แน่นอนไทยชนะที่มีเอาไว้ เวลาไปห้างร้านที่ไหนๆ เขาให้ช่วยสแกนหน่อย เวลาเขาตามเขาจะตามคุณได้ ถ้ามีคนติดโควิด ส่วนหมอชนะเขาเอาไว้ไล่ไทม์ไลน์คุณ ว่า 7 วันคุณไปไหนมาบ้างเผื่อคุณจำไม่ได้ พอโหลดแอปฯ นี้ เหมือนจะเป็นแอปฯ คอยดูแลเรื่องไทม์ไลน์ของคุณ
อนุชา : "ผมเติมนิดนึง ส่วนแอปฯ อันนี้มีบลูทูสด้วยนอกเหนือจากจีพีเอส ถามว่ามีไว้ทำไม ระยะทำการของเครื่องที่จะส่งสัญญาณบลูทูสไปอีกเครื่องนึง ระยะประมาณ 15 เมตร ถ้าเราไปในพื้นที่เสี่ยงและคนที่เข้าไปมีโอกาสติดเชื้อ หรือเขาเคยเข้าไปในพื้นที่ติดเชื้อมาก่อน มันจะเตือนเราได้ด้วยครับ ถ้าคุณอยู่พื้นที่ที่เสี่ยงแล้วนะ ผ่านบลูทูสตรงนี้ นี่คือเทคโนโลยีที่จะช่วยด้วย"
ดร.สุพจน์ : "ใช่ครับ"
อนุชา : "แล้วคิวอาร์โค้ดจะขึ้นมาเป็นสีแดง ให้เตรียมตัวไปหาคุณหมอเพื่้อตรวจสอบ"
แล้วที่บอกว่าโหลดแอปฯ นี้ฟังเสียงเราได้นะ มันดูดข้อความได้นะ
ดร.สุพจน์ : "ไม่จริงเลย ต้องเรียนว่าในเวอร์ชั่นที่เรารณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันโหลดและใช้ ไม่มีการเก็บเสียงของเรา สิ่งแรกที่ต้องมีคือรูปเซลฟี่ เพื่อบอกว่าตัวคิวอาร์โค้ดนี้ แอปฯ นี้เป็นของคุณ"
ถ่ายรูปอื่นได้มั้ย อย่างแมว
ดร.สุพจน์ : "จริงๆ ในระบบไม่ได้ห้าม แต่ถ้าถ่ายแบบนั้น เวลาท่านเอาไปใส่กระดาษที่จะเข้าสู่จังหวัดเข้มงวดสูงสุด จะเป็นหลักฐานไม่ได้นะครับ ดังนั้นก็ให้ถ่ายรูปเซลฟี่ท่าน แต่ก็เข้าใจหลายท่านบอกว่าถ่ายแล้วไม่ได้มุม เราก็ให้เวลาท่านหนึ่งวันไปเตรียม จนกว่าจะได้รูปที่น่าสนใจ แล้วมันติดอยู่ในมือถือเท่านั้นเอง ไม่ได้ส่งไปที่เซิร์ฟเวอร์นะครับ หน่วยงานรัฐไม่เห็นหน้าท่าน มั่นใจได้ว่าเราไม่ได้มีการไปล่วงข้อมูลอะไรท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากตำแหน่งของท่านอย่างเดียว"
ตกลงวันนี้มีการเตรียมงบประมาณในการเยียวยามั้ย
อนุชา : "ตอนนี้มี 3 หน่วยงานหลักที่ได้พูดคุยกัน คือกระทรวงการคลัง ส่วนสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนแห่งชาติ ตอนนี้มีการประชุมอยู่ งบประมาณตอนนี้่จดตัวเลขมาเรียนให้ทราบนิดนึง ว่ามีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ซึ่งเป็นงบกลาง เป็นงบสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินปัจจุบัน ในสถานการณ์โควิด มีประมาณ 1.39 แสนล้านบาท และมีส่วนพ.ร.ก.เงินกู้ที่ใช้ยังไม่หมด 4.7 แสนล้าน สุดท้ายมีงบประมาณที่อยู่ในส่วนรัฐวิสาหกิจอีก งบลงทุนอีก 2.9 แสนล้าน"
เป็นตัวเลขสำหรับเยียวยาโดยเฉพาะ
อนุชา : "เป็นตัวเลขนำมาใช้ได้ ถ้าเกิดไม่มีความจำเป็นก็เอาไปใช้อย่างอื่น ถ้ามีความจำเป็นฉุกเฉินอย่างที่เรียน เป็นงบสำรองจ่ายฉุกเฉินและจำเป็นใช้จ่ายบรรเทาในกรณีโควิด เราสามารถดึงออกมาได้ เงินกู้ทีเป็นพ.ร.ก.ออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีอีก 4.7 แสนล้านที่สามารถทำได้ ฉะนั้นโครงการเช่นคนละครึ่ง จะมีเฟส 3 หรือเปล่า เพราะตอนนี้ไม่สามารถไปจับจ่ายใช้สอยในตลาดได้ อนาคตจะทำเพิ่มเติมหรือไม่ อันนี้ก็อยู่ในโครงการที่กำลังพิจารณาอยู่เหมือนกัน"
ขอถามแบบโง่ๆ ถ้าตอนแรกอยางสมุทรสาคร เรารู้ว่ามีผู้ติดเชื้อจากไทม์ไลน์ หรือจันทบุรี ระยอง ตอนแรกถ้าเรามีการล็อกเฉพาะจังหวัด 14 วัน ห้ามคนในออกคนนอกเข้า ปิดตั้งด่านทุกอย่าง ล็อกดาวน์จังหวัดเลย ถึงเวลาเราค่อยเยียวยาแต่ละจังหวัด เหมือนเมลเบิร์น ออสเตรเลียทำ จะง่ายกว่ามั้ย
อนุชา : "ตอนนั้นที่เราทำก็มีมาตรการที่เข้มข้น อย่างห้ามกรณีเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติ ตอนนั้นมีผู้ประกอบการหรือนายจ้างเอาแรงงานต่างด้าวไปทิ้งไว้ที่ต่างๆ จะโดนมาตรการสูงสุด ส่วนเรื่องการเข้าออกแต่ละจังหวัด ต้องบอกว่าไม่ได้นะ เพราะการซีลล็อกดาวน์แต่ละจังหวัด นึกภาพว่าจังหวัดนึงมีถนนหนทางออกได้กี่เส้น ต้องใช้ปริมาณคนค่อนข้างสูง ก็มีเหมือนกันว่าจะเอาปริมาณความมั่นคงไปดูเรื่องชายแดนด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นก็มีเหมือนกันว่าทำไมไม่เอาไปดูชายแดน ปล่อยให้เขาเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติได้ ตอนนั้นโยกกำลังทหาร ไปดูแลชายแดนเรา เพื่อไม่ให้ใครลักลอบเข้ามา แล้วเรื่องประชาชนคนไทย ก็พยายามไม่ให้ถึงขนาดเข้าออกจังหวัด ไม่งั้นจะมีอีกว่าทำไมรัฐห้าม สิทธิเสรีภาพในการออก แม้แต่ 5 จังหวัดที่มีอยู่ แม้แต่การเข้าออกต้องมีเรื่องเอกสารนะ ก็จะเห็นคนจำนวนมากไปขอเอกสารกันเยอะ ถ้าตอนนั้นเราล็อกดาวน์ทั้งหมด อาจเกิดปัญหามากขึ้น แต่ ณ ตอนนี้เรามีเรื่องเทคโนโลยี เวชภัณฑ์ มีเรื่องคุณหมอ อสม. ซึ่งเราทำได้ดีอยู่แล้วในครั้งแรก ครั้งนี้ถ้าเราร่วมมือกันอีกครั้ง จะทำให้ปัญหาเราหมดไปโดยเร็วและกลับสู่สภาพนิวนอร์มอลที่เราเคยทำกันอยู่ปกติ"
ล่าสุดแหม่มโพธิ์ดำลงข้อความว่า สถานการณ์โควิดชายแดนแม่สอด ไม่ได้ไกลจากคำว่าฉิบแล้ว ชายแดนยังหลวม เขาได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้จากเจ้าหน้าที่ในรพ. สื่อในพื้นที่ เจ้าหน้าที่อีกหลายคนบอกว่ารพ.แม่สอดกำลังรับศึกหนักมากๆ ศึกที่ไม่มีวันชนะ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน มาคอยอำนวยความสะดวกให้คนข้ามชายแดนไปบ่อนพม่า
อนุชา : "ถ้ามีข้อมูลส่งมาให้ที่ผมเลย ผมทำงานทำเนียบอยู่แล้ว ถ้ามีข้อมูล มีคลิป มีชื่อ มียศ มีอะไรที่ติดต่อเกี่ยวข้องด้วย ส่งมาให้ผม รับรองถึงมือท่านนายกฯ แน่นอน"
อนุชา : "มีครับ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ ท่านนายกฯ ดำเนินการในทางลับอยู่ เพราะมีหลายส่วนที่ส่งข้อมูลมา และท่านก็ให้ตรวจสอบ และกำลังจะตั้งคณะกรรมการมาชุดนึงเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะด้วยเหมือนกัน ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม นอกเหนือจากชายแดน ไม่ว่าจะบ่อน หรือการทำสิ่งผิดกฎหมาย สามารถส่งเรื่องมาได้เลยที่ทำเนียบ"