เผยเหตุยูทูเบอร์ล้อม ลุงพล กันสื่อไม่ให้สัมภาษณ์ 2 เดือน (คลิป)
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ลงพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อพูดคุยกับพ่อเเม่ของน้องชมพู่ในเรื่องความคืบหน้าทางคดี พร้อมให้กำลังใจ
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ในอดีตตนเคยลงพื้นที่อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อหาหลักฐานคดีครูจอมทรัพย์ จึงทำให้คุ้นชินพื้นที่ เเละมีพรรคพวกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคดีน้องชมพู่ตนจึงทราบความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด
โดยทันทีที่ทีมข่าวไปถึง ได้มีกลุ่มยูทูเบอร์ที่มาตามติดชีวิตลุงพล มากกว่า 10 ช่อง พากันออกมาขัดขวางเเละบอกว่าไม่ให้สื่อหลักเข้าถึงตัวลุงพลได้ โดยระบุว่าลุงพลของดให้สัมภาษณ์สื่อเป็นเวลา 2 เดือน หากมีประเด็นอะไรจะชี้เเจงผ่านช่องยูทูเบอร์เท่านั้น
ขณะที่ลุงพลก็ยังคงนั่งนิ่ง ลักษณะคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผู้สื่อข่าวก็พยายามถามเพื่อให้ได้คำตอบ จะได้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เเต่ลุงพลไม่พูดอะไร เเละพยามพูดเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำถาม ในลักษณะเมินไม่สนใจสื่อ เเล้วยูทูเบอร์คนดังกล่าว ก็พยายามพูดเเทรกออกตัวเเทน เเละพยายามนำตัวลุงพลหนีสื่อ ส่วนยูทูเบอร์รายอื่น ๆ ก็พยายามไลฟ์สดเหตุการณ์ ณ ขณะนั้นด้วย
อีกประเด็นคือการเปิดรับบริจาคสร้างรูปปั้นพญานาค ซึ่งได้เงินมากว่า 1,300,000 บาท ดังนั้นลุงพลจึงอยากดำเนินการทั้ง 2 ส่วนให้เเล้วเสร็จก่อน จึงจะกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อกระแสหลัก
ต่อมาเมื่อมีคนมาอยู่มากขึ้น ตนก็ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ทั้งเจาะน้ำบาดาล วางระบบประปา นอกจากนี้ยังลงทุน 50,000 บาท ซื้อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 3 เครื่อง มาติดตั้งจึงมีรายได้จากค่าซักผ้า ได้เดือนละ 3,000 บาท
จากภาพที่เกิดขึ้นวันนี้ มันเกิดจากที่ลุงพลเกิดความกลัวบางสิ่งบางอย่างที่แสดงออกไป หากสื่อหลักเห็นภาพก็จะเอาไปนำเสนอ แต่ถ้าเป็นลุงพลสั่งลบได้ เรียกง่าย ๆ ว่า เขาไม่สามารถคุมสื่อใหญ่ได้ แต่เขาสามารถคุมยูทูเบอร์ได้ ความจริงแล้วยูทูเบอร์ ไม่มีอิทธิพล แต่ลุงพลต่างหากที่มีอิทธิพล เพราะลุงบอกยูทูเบอร์ได้ว่า อะไรเอาออกได้ อะไรห้ามเอาออก แต่ห้ามสำนักข่าวไม่ได้ สำนักข่าวต้องนำเสนอรอบด้าน ไม่ได้นำเสนอด้านเดียว เรียกได้ว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
อยากฝากบอกลุงพลว่า ตอนลุงพลเป็นข่าวแรก ๆ ในวันที่ลุงพลยังไม่มีชื่อเสียง มีสื่อช่องหลักที่ติดตามทำข่าวลุงให้ ไม่มียูทูเบอร์คนไหนมาแม้แต่คนเดียว วันนั้นนักข่าวเกือบทุกสำนักติดตามชีวิตลุง สงสัยอะไรนักข่าว พาลุงไปจำลองเหตุการณ์ให้คลายข้อสงสัย ลุงพลคนน่ารักคนนั้นหายไปไหน ถ้าลุงไม่ผิดจะกลัวอะไร ลุงพลคนเดิมหายไปไหนแล้ว หรือว่าวันนี้ไม่ใช่ลุงคนเดิมแล้ว "วันนั้นที่เริ่มเป็นข่าว มีแต่นักข่าวนะลุง ยังไม่มียูทูเบอร์สายเลียนะลุง ลุงจะมาตกน้ำตายเพราะยูทูเบอร์นั่นแหละ"
โดยยูทูเบอร์รายนี้ ระบุว่า ได้ติดตามลุงพลขึ้นไปดูการเทพื้นศาลาสำนักสงฆ์ภูหลวง เเละเป็นผู้ขวางสื่อไม่ให้สัมภาษณ์ลุงพล เเต่เมื่อกลับลงมาข้างล่าง พบว่ารถเก๋งของตัวเองเป็นรอยยาว คาดว่าโดนขีด ซึ่งยูทูเบอร์รายนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของสื่อมวลชน เพราะไม่เคยมีศัตรูที่ไหน เพิ่งมีความขัดเเย้งกับสื่อมวลชนในวันนี้
โดยบางช่วงบางตอนมีการพูดว่า "นี่หรือจรรยาบรรณสื่อ ผู้ชายอกสามศอก พอไม่ได้ข่าวก็มาทำเเบบนี้" หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยเเพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาเเสดงความคิดเห็นในช่องยูทูบดังกล่าว โจมตีสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากสื่อหลักทั้งหมดที่ไปขอสัมภาษณ์ลุงพลแล้วไม่ได้ ก็ไปทานข้าวร่วมกันที่หมู่บ้านกกตูม จากนั้นก็เเยกย้ายกันกลับ ไม่มีใครเเวะไปจุดที่ยูทูเบอร์คนดังกล่าวจอดรถเลย เเละสื่อทุกคนก็ไม่มีใครทราบด้วยว่า รถของยูทูเบอร์รายนี้คันไหน จอดอยู่ที่ไหน ไม่มีใครทราบ
VVV
V