พ่อขึ้นป้าย ฉะ! ลูกเนรคุณ-แม่ร่ำไห้อีกฝ่ายบอกไม่ใช่ลูก (คลิป)
รายการโหนกระแสวันที่ 18 ม.ค. 64 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "อากงจิว" และ "อาม่าน้อย" ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น สาเหตุต้องขึ้นป้ายฉะคืออะไร โดยมาพร้อม "ทนายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย" และ "อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม" ผู้ตรวจการอัยการ
อากงจิว : "มีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย คนที่สองเป็นหญิง คนที่สามเป็นผู้ชาย"
ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น?
อากงจิว : "ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รักกันดีมากเลย ไปไหนมาไหนก็กอดคอกัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
อาม่าน้อย : "จนเราคิดว่าเรามีอายุแล้ว มาแบ่งให้ลูกๆ ทำมาหากิน"
อากงกับอาม่า มีที่ดิน?
อาม่าน้อย : "มีกิจการ มีปั๊ม ขายส่งน้ำมัน ที่ดินต่างๆ นานา"
ทั้งสองท่านไม่มีบัตรประชาชน?
อาม่าน้อย : "ตอนแรกมาไม่มี"
เวลาไปซื้อที่ทำกิจการ ทำยังไง?
อาม่าน้อย : "ให้น้องสาวซื้อที่ให้ และใส่ชื่อน้องสาวไว้ ผมก็ให้ชื่อเขา แล้วบอกว่าตอนนี้ลูกยังเล็ก โตแล้วให้น้องสาวโอนคืนให้ลูกทั้งสามคน พอลูกโตก็โอนคืนให้ โดยการโอนลอย แล้วผมก็โอนให้ทีเดียว"
ทนายพิสิษฐ์ : "คุณพ่อคุณแม่แต่เดิมเป็นคนต่างด้าวทั้งคู่ แล้วเข้ามาเมืองไทย ตอนหลังคุณแม่มีบัตรประชาชนได้ ส่วนลูกชายคนโตแต่เดิมเกิดที่ฮ่องกง ตอนหลังแจ้งเป็นคนไทยได้ คุณพ่อทำธุรกิจปี 23 ปั๊มที่ลานสัก ปั๊มเกิดเหตุ สมัยก่อนเป็นปั๊มสามทหารก่อนเป็นปตท. ซื้อที่ดินจากน้องชายแหละ น้องชายมีสัณชาติไทย ตัวเองเป็นต่างด้าวซื้อไม่ได้ ก็ให้น้องสาวมีสัญชาติไทย ใส่ชื่อน้องสาวแทน หลังจากนั้นพอปี 47 ลูกโตแล้ว ก็ให้น้องสาวโอนก็ใส่ชื่อลูกๆ ถือแทนแก เพราะพ่อแม่เป็นต่างด้าว เท่าที่สอบข้อเท็จจริง พอช่วงแกทราบว่าทางแฟนลูกชายคนโต มีเรื่องฟ้องร้องในศาล เรื่องเกี่ยวกับชู้สาว แกก็ไม่สบายใจ แกเห็นว่าลูกโตแล้ว แกแก่แล้ว เลยอยากเอาที่ดินทั้งหมดที่ใส่ชื่อลูกๆ ทั้งหมด เอามาแบ่งให้ลูกต้อง ให้ครบ ก่อนหน้านี้แค่ฝากเอาไว้ ยังไม่ได้แบ่ง"
อดีตทั้งสองท่านไม่มีบัตรประชาชน พอซื้อที่ดิน ทำกิจการมีเงินก็ซื้อที่ดินเอาไว้ แต่ตัวเองไม่ใช่คนไทย ถือครองไม่ได้ ก็ฝากน้องสาวถือครอง มีข้อตกลงว่าเดี๋ยวลูกๆ โตขึ้นก็ให้โอนคืนลูกกลับไป แต่ก็ยังไม่ให้ แค่ฝากเอาไว้?
ทนาย : "ให้ถือแทน"
ที่บอกว่าลูกชายคนโตมีแฟน แล้วแฟนมีปัญหาเรื่องอะไร?
ทนาย : "คุณพ่อคุณแม่บอกว่าถูกฟ้องร้องเรื่องชู้สาว แต่ไม่ทราบรายละเอียดมาก ทีนี้ทางคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มไม่สบายใจ ประกอบกับแกเริ่มอายุมาก เลยคิดว่านอกจากที่ดินที่ปั๊ม ก็มีที่ดินแปลงอื่นที่ใส่ชื่อลูกทั้ง 3 คนค่อนข้างหลายแปลง ก็เลยอยากจัดการแบ่งเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน"
คือเรียกทรัพย์มากองไว้ตรงกลางแล้วแบ่งให้อีกที?
ทนาย : "แกก็ทำหนังสือแบ่งทรัพย์ให้ ทีนี้เกิดข้อข้ดแย้งกันว่าลูกชายคนโตไม่เห็นด้วย เมื่อก่อนเขามีบ้านวัชรพลด้วยนะครับ ซื้อไว้ 2 หลัง แฟนลูกชายก็มีการขับไล่คุณแม่ออกจากบ้าน เลยต้องไปอยู่อีกหลังซึ่งเป็นของน้องชาย บ้านสองหลังที่ซื้อ มีชื่อลูกชายหลังนึง และเป็นชื่อลูกทั้งสามคน"
ทนาย : "ลูกชายคนโตอยู่หลังนึง ลูกชายคนเล็กอนยู่หลังนึง แต่ชื่อเป็นลูกสามคน ที่ฟังมาพอเกิดความข้ดแย้งกัน ก็ออกจากบ้านนี้แล้วข้ามรั้วไปอยู่อีกบ้านที่อยู่ติดกัน"
มีปัญหากันภายในครอบครัว?
ทนาย : "ครับ ทีนี้พอเกิดปัญหาขึ้น คุณพ่อก็อยากฟ้องเรียกคืน แต่ที่ดินตรงปั๊มที่ลานสัก เป็นที่ดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2523 พอคุณพ่อจะฟ้อง ปรากฎว่าลูกชายคนโตก็โอนที่ดิน ที่ปั๊ม ที่ปั๊มจะมีบ้านที่พักอาศัยกับพ่อแม่อยู่ด้วย อยู่ลานสัก อุทัยธานี"
ปั๊มเป็นชื่อใคร?
ทนาย : "ชื่อที่ดินเมื่อก่อนใส่ชื่อน้องสาวถือแทน ตอนหลัง ปี 47 ใส่ชื่อลูกชายคนโตถือแทน แต่บริหารจัดการ บริหารจัดการในนามหจก. ทุกคนก็ถือหุ้นในปั๊มนี้ พ่อใส่ชื่อทุกคนถือ และมีการทำเรื่องสัญญาเช่าเกี่ยวกับเรื่องภาษี เพราะเขทำธุรกิจ ทีนี้ลูกชายคนโต มีการโอนชื่อจากทะเบียนที่ตัวเองถือครองที่ดินอยู่ ก็โอนขายให้แฟนตัวเองในราคา 2 แสนบาท ทีนี้ทางแฟนก็มีหนังสือมาแจ้งหนี้ว่าเขาเป็นเจ้าของ คุณพ่อเลยมาฟ้องคดี"
เล่าง่ายๆ พ่อเรียกทรัพย์คืนจากน้องสาวตัวเอง ให้โอนใส่ชื่อลูกชายคนโต ลูกชายเอาไปขายแฟนตัวเองในราคา 2 แสนบาท เขาทำนิติกรรมในการขาย?
ทนาย : "ซึ่งราคาที่ดิน 20 ล้าน"
หลังจากนั้นที่ดินแห่งนี้ขาดจากลูกชายไปเป็นของแฟน แฟนเลยมาเรียกเก็บเงินค่าเช่ากับห้างหุ้นส่วนจำกัด ในนั้นมีใครบ้าง?
ทนาย : "ถือทุกคนอยู่ในนั้น หุ้นส่วนพ่อแม่ก็ถือได้"
แต่แฟนลูกชายคนโตมาฟ้องห้างหุ้นส่วน?
ทนาย : "ตอนแรกเรียกค่าเช่า 9 แสน"
อากงจิว : "เขาบอกค้างค่าเช่า 2 ปี 9 แสน ต้องคืนเขา หาไม่ก็ไม่ให้ขายน้ำมัน ผมก็ไม่มีจะให้ แล้วมีจดหมายมา 5 ฉบับ ทำจดหมายจะไล่ออกไป ไม่ให้ขายน้ำมัน ผมก็จำเป็น โดนแบบนี้ฟ้องศาลดีกว่า"
อากงจิว : "เขาบอกต่างด้าวฟ้องคนไทยไม่ได้หรอก ผมแพ้แน่ ให้เตรียมตัวออกจากปั๊ม ผมก็กลุ้มใจ รอศาลตัดสินออกมาว่าชนะ เขาต้องคืนผม"
ทนาย : "เรียนว่าที่ฟ้องไป ทรัพย์หลายแปลง แต่ในส่วนที่ดินที่ลานสัก 49 แปลง ที่ไม่ใช่ปั๊ม และหนึ่งแปลงที่เป็นปั๊ม ศาลพิพากษาแฟนลูกชายโอนคืนให้คุณพ่อ และใส่ชื่อคุณแม่"
ที่คืนให้แฟน ให้โอนคืนกลับมา ทำไมถึงได้ เพราะอะไร?
ปรเมศวร์ : "ที่ดินราคา 20 กว่าล้าน โอนขายแค่ 2 แสน ศาลไม่เชื่อ แล้วคนสองคนนี้มีความสัมพันธ์กันฉันท์สามีภรรยา ศาลก็ไม่เชื่อ บังเอิญทนายพิสูจน์ได้ว่าที่นี่อากงซื้อจริง น้องสาวเป็นคนถือแทน น้องสาวมาทำปั๊มด้วยนะตอนแรก เจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็เอาเงินทางนี้ออก นี่เป็นข้อเท็จจริงศาลฟังชัดว่าเงินที่ซื้อที่ดินเป็นของอากง แต่ตัวเองถือเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ เลยฝากน้องสาวลูกโตจะโอนให้ลูกถือไว้เพื่่อจัดการแบ่งให้ลูกทั้ง 3 คน อันนี้ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา เพราะตอนอ่านข่าวคิดว่าเป็นการให้โดยเสน่หา แล้วประพฤติเนรคุณเอาคืน ไม่ใช่ เรื่องนี้ศาลไม่พูดเรื่องประพฤติเนรคุณ ศาลพูดว่าคุณถือแทนเขา แล้วเจตนารมณ์เจ้าของทรัพย์จริงๆ เขาต้องการให้คนได้กัน 3 คน ศาลตัดสินถูก เป็นศาลชั้นต้น"
มีการอุทธรณ์มั้ย?
ทนาย : "อยู่ระหว่างอุทธรณ์ เขายังไม่ได้ยื่น แต่อยู่ในระยะที่ยื่นได้"
ปรเมศวร์ : "เขาคงอุทธรณ์ แต่จริงๆ พูดกันตรงไปตรงมา แทนที่จะอุทธรณ์ มานั่งคุยกันใหม่ได้มั้ย"
ทนาย : "ปัญหาคือทางคุณพ่ออยากคุย แต่ลูกไม่ยอมคุยด้วย ที่คุณแม่เขาเสียใจมากที่สุดคือในวันนั้นลูกความนั่งฟังลูกชายเบิกความในศาลว่าเขาไม่ใช่ลูกชายของทั้งคู่ ทีนี้แม่แกก็เลยร้องไห้ให้ คือประเด็นนี้ทางพ่อกับแม่เป็นโจทก์ฟ้องว่าถือแทน เพราะเขาเป็นลูกเลยให้ถือแทน แต่ลูกชายเบิกความว่าเขาไม่ใช่ลูก เขาซื้อมา เขาไม่ได้ถือแทน ประเด็นพอลูกชายเบิกความในศาลว่าไม่ใช่ลูก พ่อแม่ตายไปแล้ว ทางคุณแม่รับตรงนี้ไม่ได้"
อากงจิว : "เขาเกิดฮ่องกง พอมาเมืองไทย ไม่อยากให้เขาเป็นต่างด้าว อยากให้เขาเป็นคนไทย"
ทนาย : "คุณพ่อเป็นต่างด้าว รู้ว่าลูกจะมีปัญหา ถ้าเข้ามาเป็นต่างด้าว พอลูกมาเมืองไทยก็พยายามไปเสียบบัตรประชาชน ทำสูติบัตรเอาเพื่อนที่เป็นคนไทยมาสวมเป็นพ่อ เพื่อออกสูติบัตร สมัยก่อนทำได้ แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้ว"
พอบอกว่าไม่ใช่ลูกสองท่า ทำยังไง?
ทนาย : "แม่ก็ร้องไห้ ก็เลยท้าในศาลว่าตรวจดีเอ็นเอมั้ย ศาลเลยถามว่าเอาผลตรวจพิสูจน์กันเลย พ่อแม่บอกว่าถ้าตรวจแล้วไม่ใช่ลูกเขา พ่อแม่ยอมแพ้เลย ให้ลูกหมดเลย แต่ถ้าลูกแพ้คดี ถ้าตรวจแล้วเป็นพ่อลูกกัน ลูกแพ้คดีก็คืนให้หมด เอามั้ย ลูกชายเขาก็ไม่เอา"
อากงจิว : "ไม่กล้ายอมรับคำท้าผม"
ทราบมาอีกมุมว่าตัวลูกชายไม่ได้มีปัญหากับพ่อแม่ เขามีปัญหากับคนเล็ก เขาฟ้องไม่ได้ขับไล่พ่อแม่ แต่ฟ้องเพื่อให้เรื่องทั้งหมดไปถึงน้องชายคนเล็ก พออยู่ในกลุ่มห้างหุ้นส่วนจำกัด พ่อแม่เลยโดนด้วย?
อากงจิว : "ไม่จริง"
พ่อแม่ไม่สบายใจมาร้องว่าที่ดินฟ้องศาลชั้นต้น ให้กลับมาเป็นของอากงกับอาม่าแล้ว ตอนฟ้อง ฟ้องกี่รายการ?
ทนาย : "หลายรายการ ที่ได้คืนมาคือทีดิน 49 แปลงที่ลานสัก ที่ดินที่ปั๊มอีกหนึ่งแปลง ที่ดินลานสักเป็นชื่อลูกชายคนโต ส่วนที่ดินที่ปั๊มเป็นชื่อแฟนเขาแล้ว ศาลให้คืนหุ้นส่วนปั๊มน้ำมันทั้งหมดคืนให้กับพ่อแม่"
ทนาย : "เรียนว่าในศาลต้องพิสูจน์ตามพยานหลักฐาน มันติดขัดบางส่วน เช่นคนขายตายไปแล้ว หรือทรัพย์บางตัว เงินพ่อแม่ก็จริง แต่เกิน 5 ปี ขอหลักฐานที่แบงก์ก็ไม่มีแล้ว แบงก์เก็บแค่ 5 ปี มันติดขัดพวกนี้ ศาลจะให้เฉพาะที่พิสูจน์ได้เท่านั้น"
ปรเมศวร์ : "ศาลมองจุดสำคัญที่สุดคือที่ดิน 20 กว่าล้าน แต่ขาย 2 แสน มันไม่ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องนิติกรรมอำพรางเป็นหลัก"
ขอถามแย้งว่าเห็นว่าเขาต้องการฟ้องน้องชายคนเล็ก เพราะมีปัญหากับลูกชายคนโต แต่เอาป๊ากับม๊ามาเป็นเหยื่อ เพราะมีชื่ออยู่ในนั้น อากงมองยังไง?
อากงจิว : "ไม่จริงแน่นอน ผมไม่ได้ออกแทนลูกชายคนเล็ก เพราะผมมีจุดหมายจะแบ่งทรัพย์สิน เขาเป็นคนโต ผมยกทรัพย์สินให้เขามากที่สุด ตัวปั๊มก็ยกให้เขาเลย เขายังไม่พอใจ เขาจะฮุบทรัพย์สินทั้งหมดของผม มาไล่ผมออกจากปั๊ม ไม่ให้ขายน้ำมัน แล้วจะไล่ลูกชายคนเล็กได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ผมเอง ไม่เกี่ยวกับลูกชายคนเล็กเลย"
เขาต้องการฟ้องทั้งสองท่าน?
อากงจิว : "ใช่ เพราะผมกับภรรยาอยู่ แฟนเขาฟ้อง ไม่ใช่ตัวเขาฟ้อง เพราะเขาไม่ได้จดทะเบียน เขาถือว่าเป็นคนนอก ฟ้องไล่ผมได้ แต่ลูกชายไล่ไม่ได้ จริงมั้ย เขาเอาข้อนี้มาจัดการผม"
เขาทำได้เหรอ?
ปรเเมศวร์ : "ทำได้ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าตอนย้ายบ้าน มีปัญหากันอันนี้เหตุผลอันนึง ตอนนี้พอทำก็เอาสะใภ้ไม่ได้จดทะเบียนมาฟ้อง ลูกฟ้องเองก็จะเป็นปัญหาเรื่องประพฤติเนรคุณ แต่เขาคิดว่าไปแบบนี้ง่ายสุด แต่ฝั่งนี้เยี่ยมหน่อย เพราะฟ้องเรื่องการถือกรรมสิทธิ์แทน ไม่ได้ฟ้องเรื่องการยกให้"
อากงจิว : "ถามว่าเขาตัดขาดกับผมนานแค่ไหน 2 ปีกว่าเขาไม่เคยติดต่อกัน วันเกิดเขายังไม่มาสนใจผมเลย วันพ่อผมอุตส่าห์นั่งรถมา เรียกมากินข้าวด้วยกัน เขาโกหกว่าอยู่พัทยา พอพรุ่งนี้่ก็บอกว่าไม่ว่าง ลูกชายคนเล็กพาไปเที่ยวเซ็นทรัล พอดีเขาสามพ่อแม่ไปเที่ยวเซ็นทรัลเหมือนกัน แล้วเจอกัน ลูกเขาอยู่ชั้นบนลงมาข้างลาง ผมถามว่ามากับใคร เขาบอกมากับป๊าม๊า อ้าว อยู่ข้างบน เขาโกหก"
อากงจิว : "โหย ผมเกือบจะตาย อยู่ที่ศาลเขาบอกว่าไม่ใช่พ่อแม่ คิดดูสิ"
อาม่าน้อย : "(ร้องไห้)"
อากงจิว : "ผมท้าเลย ถ้าไม่ใช่ทรัพย์สินให้หมด"
อาม่าน้อย : "เจ็บใจที่สุดเขาบอกว่าไม่ใช่ลูกเรา เขาห่างจากคนที่ 2 สิบเอ็ดปี เรารักเขาขนาดไหน แต่เขาบอกว่าเขาไม่ใช่ลูกเรา (ร้องไห้)"
คิดว่าอะไรทำให้ลูกเปลึ่ยนไป?
อากงจิว : "จริงๆ ไม่อยากพูด แต่มีคนนอกยุแหย่เขา"
อาม่าน้อย : "เรารอเขามาคุยทุกวัน"
อากงจิว : "ผมเอาให้เอกสาร เขายังมาด่าผมเลย เขาว่าผมไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำไมเอาเอกสารมาให้เขาได้ เอกสารมีรายละเอียดให้เขา อยากให้เขารู้ด้วย เขามาด่าผมด้วยว่ามึงไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว มึงไม่ต้องมา"
ป้ายยังขึ้นอยู่มั้ย?
อากงจิว : "ขึ้น อยู่หน้าบ้าน บ้านกับปตท. ติดกัน ผมยกมาอยู่ที่บ้าน ย้ายมาติดที่หน้าบ้าน แต่ยังอยู่"
ตอนแรกมีข่าวว่าเอาป้ายลง?
อากงจิว : "ปตท. เขาขอให้ลง ผมก็ต้องลง เดี๋ยวดูไม่ดี เขาขอลงเราก็ได้ 6 โมงเช้าก็แกะเลย ย้ายเอง ทำเอง"
ไม่ได้มีคนให้เอาขึ้น เราขึ้นเอง คิดเอง?
อากงจิว : "ผมเอาขึ้นเอง เอาลวดมามัด ตรวจสอบได้"
ปรเมศวร์ : "มันก็ไม่ชัดว่าเขาว่าใคร เขาพูดมาลอยๆ การหมิ่นประมาทต้องเฉพาะเจาะจงว่าใคร เหมือนเดินผ่านวัดมีพระ 5 เรื่อง แล้วบอกว่าวัดนี้ไม่ได้เรื่อง ไม่เป็นหมิ่นประมาท"
ในเมื่อได้ที่แปลงนี้กลับมา ทำไมยังมีปัญหาขึ้นอีก?
อากงจิว : "เขายังจะอุทธรณ์"
ถ้าเขาไม่อุทธรณ์ จบมั้ย?
อากงจิว : "จบ ผมก็บอกเขาว่าคืนมาก็จบ"
ปรเมศวร์ : "เขาคืนมาแล่วจะยกที่ให้เขาอีกมั้ย"
อากงจิว : "ยก แล้วจะจัดใหม่"
ไม่เคยเจอแบบนี้ ตอนนี้พ่อฟ้องเอาทรัพย์ทั้งหมดกลับมา กำลังจะบอกว่าลูกเป็นยังไงก็ตามแต่ สุดท้ายเมื่อทรัพย์อยู่ตรงกลางเดี๋ยวแบ่งให้ใหม่ แต่ขอให้เอากลับมาก่อน ไอ้ที่โกหกไม่เป็นไร ช่างมัน?
อากงจิว : "ก็ลูกเรา เขาทำพ่อได้ แต่ผมทำลูกไม่ได้"
อาม่าน้อย : "เขาบอกว่าไม่ใช่ลูกเรา เราบอกว่าพูดงี้ได้ไง (ร้องไห้) เบ่งมาเองตั้ง 9 เดือน แต่บอกไม่ใช่ลูกเรา"
ปรเมศวร์ : "ฝั่งโน้นอย่าอุทธรณ์เลย"
อากงจิว : "เขาก็มีลูกเหมือนกัน ถ้าเขาเจอแบบนี้จิตใจจะเป็นยังไง"
ปรเมศวร์ : "เรื่องนี้่จริงๆ มีทางคุยกัน เจอพ่อแม่ประเสริฐแบบนี้มาคุยกันเถอะ อย่าอุทธรร์ ทุกอย่างจบได้ สายเลือดไม่ใช่สายน้ำ"
พร้อมให้อภัยมั้ยถ้าเขามาขอโทษ?
อาม่าน้อย : "รับได้ทุกอย่าง ถ้าเขามาคุย เรารออยู่ทุกวัน เรารักเขา เขาทิ้งเรา แต่เราทิ้เงขาไม่ได้ สายเลือดเดียวกัน"
ที่ได้กลับคืนมาก็หารสามให้ลูกอยู่ดี คนโตก็ต้องได้?
อากงจิว : ไให้ด้วย ผมมีลูกสาม"
ปรเมศวร์ : "สุดยอดเลย"
อยากบอกอะไรลูก?
อากงจิว : "ถ้านับถือผมเป็นพ่อก็ให้มาคุยกัน ถ้าไม่นับถือก็แล้วไป เขาก็มีลูก อยากให้คิดตรงนี้ ถ้าลูกเขาทำกับเขาแบบนี้ เขาจะคิดยังไง"
อาม่าน้อย : "ยังไงเราก็ตัดเขาไม่ขาด เราคิดถึงเขาอยู่ทุกวัน เรามองว่าเมื่อไหร่จะมาหาเราซะที เราทำผิดอะไร ทำไมไม่นับถือกัน"
VVVV
VV
V