ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย


ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย

"ต๊อบ - ดร.เสรี" ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย เงื้่อจะฟัน แต่ส.ส.พรรคแห่ขอเครื่องราชฯ!!!

รายการ "เปิดเนตร" เห็นความจริงให้เต็มตา ออกอากาศทุกวัน เวลา 11.00 - 12.00 น. ทางช่อง TOP NEWS PSI 77 วันนี้ (2 ก.พ.) "ต๊อบ วุฒินันท์ นาฮิม" เปิดใจสัมภาษณ์ "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" กรณี "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ออกมาโพสต์เรื่องวัคซีนรักษาโควิด-19 ล่าสุดศาลสั่งลบโพสต์นั้นแล้ว แต่อีกฝั่งบอกไม่รู้เรื่อง

"บ้านเมืองเรามีกฎหมายคอมพิวเตอร์อยู่ อะไรก็ตามที่ปรากฎในคอมพิวเตอร์ควรเป็นความจริง ถ้าไม่จริงก็นำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วันที่คุณธนาธรทำเฟซบุ๊กไลฟ์ มีข้อความเป็นเท็จเยอะมาก การที่สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ผลิต บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เขาเป็นคนเลือกด้วยคุณสมบัติด้านบุคคล ด้านเทคโนโลยี แต่ข้อความที่ปรากฎในไลฟ์และออกมาในคอมพิวเตอร์ เขาบอกว่ารัฐบาลไทย ใช้ภาษีไปอุ้มบริษัทเอกชนที่ขาดทุนมาโดยตลอด ตรงนั้นไม่ใช่เหตุผลเลย แอสตร้าฯ ไม่ได้เลือกเพราะที่นี่ขาดทุนหรือไม่ เขาเลือกเพราะเทคโนโลยีพร้อม เขาเลือกเพราะคนทำงานอยู่ในนั้นเก่ง ปรัญชาในการทำธุรกิจตรงกัน แอสตร้าฯ เขาตั้งใจเลยว่าการขายวัคซีนครั้งนี้ จะขายในราคามนุษยธรรม ไม่ขายราคาแพง ซึ่งบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ร. 9 ตั้งขึ้นมาด้วยทุน 5 พันล้าน ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ปรัชญาเดียวกัน คือต้องการผลิตยาเพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาได้ในราคาที่เป็นธรรม เพราะท่านทรงมองว่าที่มาจากฝรั่งแพง การที่ท่านต้องการให้คนไทยได้ยาราคาถูก ทำให้บริษัทนี้ขาดทุนมาโดยตลอด เพราะพระองค์มีปรัญชาว่าขาดทุนคือกำไร รู้มั้ยประโยคนี้คนจิตใจไม่สูงส่งพอไม่เข้าใจ ขาดทุนแต่ประเทศไทยได้เข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น ประเทศไทยได้ประหยัดเงินตราในการซื้อยาจากต่างประเทศ นี่คือกำไรสังคม ใครก็ตามจิตใจสูงส่งพอจะเข้าใจ แต่คำกล่าวหาว่ารัฐบาลเอาเงินไปอุ้มบริษัทเอกชน ซึ่งมีพระเจ้าอยู่หัวถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ คือความเท็จ คนคิดแบบนี้ก็แย่แล้ว"




"ต่อไปบอกรัฐบาลไปอุ้ม รัฐบาลไม่ได้เป็นคนเลือกว่าให้สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นผู้ผลิต แอสตร้าฯ เลือกเอง เพราะเขาไม่ต้องการผลิตวัคซีนขายในประเทศไทยเท่านั้น เขาต้องการให้มีบริษัทที่มีความสามารถผลิตวัคซีนขายในอาเซียน คำว่าไปอุ้มก็ผิด รัฐบาลไทยเป็นคนเลือกก็ผิด เมื่อเป็นความเท็จ คุณก็ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไง การที่คุณจ้องพยายามด้อยค่าสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่พระมหากษัตริย์ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น แสดงว่ามันมีความพยายามอยู่ ในการเขย่าสถาบัน เพราะถ้าสมมติพี่บอกว่าธุรกิจต๊อบห่วยแตกจะกระทบใคร ตรงนี้ก็เจตนาชัดเจน คุณพุดอย่างนี้ต้องการอะไร แล้วต่อมาตั้งคำถามอีก หลายคนก็ถามว่าถามจริงๆ ถามเพราะอยากได้คำตอบ หรือถามเพราะอยากให้ประชาชนร่วมสงสัยไปด้วย เอาเงินภาษีไปอุ้มบริษัทเอกชนที่ขาดทุน มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า คำถามเหล่านี้ถ้าคนเราถามด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนคงไม่ตำหนิมั้ง แต่หลายคนไม่ได้กินแกรบ กินหญ้า กินข้าวหอมมะลินะ เขามองออกว่าคุณถามเพื่้ออะไร ถ้าเราดูจากการที่เขาโพสต์และตั้งคำถาม มีข้อกล่าวหาหลายข้อนะ"

บางคนบอกว่าเป็นสิทธิพื้นฐานในการตั้งคำถามหรือเปล่า
"คนเราเวลาตั้งคำถาม คนเคยร่ำเรียนมาจะได้ยินคำๆ นึง อ่านระหว่างบรรทัด ถ้าอ่านข้อความเฉยๆ ก็ธรรมดา แต่ถ้าอ่านระหว่างบรรทัดจะรู้ ว่าคุณอ่านเพราะอยากรู้ หรือชี้นำสังคมให้สงสัยในสิ่งที่ถามถึง เช่น เขาบอกว่าบริษัทนี้ขาดทุน การเอาเงินภาษีไป เป็นการล้างขาดทุนให้หรือเปล่า ถามแบบนี้ศึกษาก่อนดีมั้ย"

เหมือนตั้งใจ เพราะประเด็นสยามไบโอไซเอนซ์ มุ่งผลิตยาให้คนไทยในราคาถูก แต่ไม่พูดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่กระแสตีกลับเขา ทัวร์ลง

"พี่คิดว่าเขาเดินแต้มผิดมาก เมื่อคนเรากินข้าวหอมมะลิ ก็พอจะเข้าใจว่าคืออะไร เขาก็โดนหนัก ทุกคนประณามว่าเจตนาเขาคืออะไร บางคนบอกรู้นะ เจตนาคืออะไร เจตนาคืออะไรอาจตีความยาก แต่สิ่งที่ไม่เป็นความจริง และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อันนี้ตีความไม่ยาก อย่างเช่นไปล้างขาดทุนให้บริษัท อันนี้ไม่ใช่แล้ว รัฐบาลเป็นคนเลือกช่วยเหลือ อันนี้ก็ไม่ใช่ ฉะนั้นมีสิ่งที่เขาพูดซึ่งไม่ใช่เยอะ โดยเฉพาะคำว่าวัคซีนพระราชทาน อันนี้ผิดมาก เพราะเขาบอกว่าเป็นการใช้ภาษีไพร่ ไปสร้างคะแนนนิยมให้ศักดินา ฉะนั้นคุณพูดผิดแล้ว อันนี้คือผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว"


ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย


"ขณะเดียวกัน การที่เราได้ราคาแพงกว่าบางประเทศ เขาก็เอาประเด็นแพงกว่า แต่ไม่พูดว่าถูกกว่าซื้อจากไฟเซอร์ หรือถูกกว่าซื้อจากโมเดอร์นา แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ ทำไมเราซื้อแพงกว่า ประเทศอียูหลายประเทศซื้อได้ถูกกว่าเรา เพราะเขาเป็นผู้บริจาคสำหรับการวิจัย การบริจาคดังกล่าวถ้าสมมติแอสตร้าเซนเนก้า วิจัยไปแล้ว ไม่ได้อะไรเลย เงินนั้นสูญเปล่านะ ในเมื่อเขากล้า เขาบริจาคไป ดังนั้นเขาก็ขายในราคาถูกกว่า ข้อมูลนี้ไม่พูด สองประเทศยากจนเขาจะขายให้ถูก บังเอิญประเทศไทย ไม่มีนิยามว่าเป็นประเทศยากจน เราเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ถ้าเราจนเขาจะขายให้เราถูก ถ้าเราเสี่ยงช่วยเขาวิจัย โดยไม่กลัวว่าเงินสูญเปล่าเขาจะขายถูก ข้อเท็จจริงข้อนี้มี แต่ไม่พูด พูดแค่ว่าเราซื้อแพงกว่าอียูบางประเทศ เราซื้อแพงกว่าประเทศยากจน ก็เขาจนไง"

"สมมติประเทศไทยเรา เอางบประมาณอันนึงไปช่วยเขาวิจัยโดยไม่รู้ผลจะออกมาเป็นยังไง คิดว่าด่ามั้ย ก็ต้องด่าอีก อาจโดนด่าสะเออะก็ได้ ฉะนั้นก็พูดแต่ว่าเราซื้อแพงกว่าประเทศยากจน แพงกว่าประเทศอียู แต่ราคานี้ถูกกว่าซื้อจากโมเดอร์น่า ไฟเซอร์ พูดมั้ย ก็ไม่พูด แล้วบอกว่าเป็นวัคซีนพระราชทาน มันไม่ใช่ บริษัทพระราชทานใช่ บริษัทนี้ในหลวงร.9 สร้างขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 5 พันล้าน ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นพูดได้ว่าเป็นบริษัทพระราชทาน แต่วัคซีนไม่ใช่วัคซีนพระราชทาน การพูดประโยคนี้ก็ผิดเหมือนกัน เขาทำเพื่อไม่ให้คนชื่นชมรัฐบาล ชื่นชมสถาบัน เพราะถ้ารัฐบาลทำให้เราได้วัคซีนเร็ว รัฐบาลก็ได้คะแนน เขาไม่อยากให้รัฐบาลได้คะแนน สองเมื่อเรารู้ว่าบริษัทนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ ร. 9 สร้างด้วยปรัญชา ขาดทุนคือกำไร ต้องการให้คนไทยเข้าถึงยาในราคาถูก แล้วสุดท้ายบริษัทนี้รับเลือกโดยแอสตร้าฯ เขาพูดว่านี่คือการเอามาสร้างคะแนนความนิยมให้สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการกล่าวหา ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างคะแนนนิยมใดๆ ทั้งสิ้น แต่คนไทยที่กตัญญูรู้คุณ เมื่อเห็นว่าแอสตร้าฯ เลือกสยามไบโอไซเอนซ์เป็นผู้ผลิตและเป็นบริษัทที่ในหลวงร. 9 ตั้งอยู่ เราย่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ"

"เราจะไมถามเลย มีแต่ชื่นชมด้วยความกตัญญูรู้คุณ แต่คนที่บอกว่าเอาเงินไพร่ไปสร้างคะแนนนิยมให้ศักดินา ก็เป็นความเท็จ เหมือนที่มองว่าพวกเราเป็นไดโนเสาร์ถูกทำให้เชื่อง ทำไอโอมาเป็นเวลา 70 ปี โอ้ย ไอโอบ้าบออะไร พระราชกรณียกิจเป็นของจริงเชิงประจักษ์ คนเราถ้าจะเสแสร้งแกล้งทำอะไรสักอย่าง เราทำได้ไม่นานถึง 70 ปีหรอก แต่เขาใช้คำว่าพวกพี่เชื่อง แล้วหลงรักในไอโอที่เขาทำโฆษณาชวนเชื่อมา 70 ปี ก็เชื่อ พี่ว่าคนกล่าวหาแบบนี้เขากล่าวคำเท็จ ถ้าเขาจะโดนคดีก็สมควรแล้ว อย่าได้มาสร้างวาทกรรมว่านี่คือนิติสงครามในความคิดต่าง คิดต่างกับคิดชั่วไม่เหมือนกันนะ คุณดูหมิ่้น สร้างเรื่องเท็จ กล่าวหาว่าร้าย คุณอาฆาตมาดร้าย ไม่ใช่คิดต่าง นี่คิดชั่ว งั้นอย่ามาพูดว่าใช้นิติสงครามปิดปากคนคิดต่าง"


ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย


ปิยบุตรลิสต์มา 9 ข้อ ข้อแรกมุ่งถึงคำถามสถาบันโดยตรง ทำไมถึงไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

"พระราชกรณียกิจบางอย่าง ที่พระองค์เสร็จไป ทำไมต้องมีการสนองพระบรมราชโองการ มันเป็นโครงการพระองค์เอง ซึ่งไม่รู้กี่โครงการ อย่างโครงการพระราชทานเครื่องมือแพทย์สารพัด 77 จังหวัด หลายร้อยรพ. และเครื่องมือหลายสิบชนิด เพื่อให้มีความครบครัน เป็นพระเมตตาพระองค์ที่ทรงต้องการช่วยเหลือประชาชน เราก็เคยเห็นถุงพระราชทาน รถตรวจโรค เครื่องมือแพทย์เยอะแยะมากมายก่ายกอง มันไม่ใช่เรื่องแต่งตั้งคนนั้นคนนี้ อย่าลืมนะโดยกฎหมายแล้ว พระมหากษัตริย์ ทรงใช้อำนาจสามอย่างผ่านรัฐบาลในแง่บริหาร ผ่านศาลในแง่ตุลาการ และผ่านสภานิติบัญญัติในเรื่องกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องอย่างนั้นต้องมีผู้สนองพระบรมราชโองการ เพราะเป็นไปตามสามขาประชาธิปไตย แต่นี่เป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่าไปหาเรื่อง ไม่เข้าใจในพระเมตตา"

แถมถามต่อว่าประเทศไทย ปกครองในระบอบอะไร
"เขาสอนกฎหมายไม่ใช่เหรอ เราก็ประกาศมาตลอด เราเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยประชาธิปไตยมีสามขา รัฐบาลเป็นขาบริหาร สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เป็นสาขานิติบัญญัติ ศาลเป็นสาขาตุลาการ พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจผ่านสามขานี้ อะไรก็ตามเกี่ยวข้องกับการบริหาร ต้องมีนายกฯ รับสนองพระบรมราชโองการ นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รู้ เพราะตอนเด็กๆ อยู่ในวิชาหน้าที่พลเมือง ที่เขาถามขอถามกลับ เจตนาของคุณคืออะไร ในเมื่อคนไทยส่วนใหญ่ก็รู้ประจักษ์แจ้งแล้ว ว่าเราปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คุณถามว่าปกครองด้วยอะไร ก็จะถามว่าไม่รู้จริงเหรอ ถามเพื่ออะไร อยากบอกว่าเราไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเหรอ จะบอกว่าเราเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์เหรอ จะบอกว่าเราเป็นราชาธิปไตย อำนาจเป็นใหญ่ที่พระราชาเหรอ นี่คือคำถาม อยากรู้เหมือนกัน ก็ตอบคำถามตรงนี้สิ ว่าคุณกำลังคิดอย่างนี้่หรือเปล่า เราไม่ได้กล่าวหาคุณนะ เราถามคุณ"

สิ่งที่เขาตั้งคำถามชี้นำสังคม เข้าข่ายบิดเบือนมั้ย
"จงใจสร้างความเข้าใจผิด เดี๋ยวนี้เฟกนิวส์หรือข่าวไม่ดี ประกอบด้วยข่าวไม่จริงเลย คนที่หนีไปอยู่ญึ่ปุ่นเก่งมากเรื่องนี้ สองไม่มีแก่นสารอะไรเลย ลือ เขาเล่าว่า เขาบอกว่า ได้ยินมาว่า อีกอันนึงเข้าใจผิด ไม่ทันรู้ข้อเท็จจริงอะไรเลย ได้ยินมากูแชร์ รีทวิต แต่สามอย่างนี้ไม่เลวร้ายเท่าข่าวบิดเบือน สมมติมีพระมหากรุณาธิคุณมีพระเมตตา แต่ไปมองว่านี่เป็นไอโอ นี่คือบิดเบือน"

นี่หรือเปล่าที่ส.ส.ก้าวไกลไม่ยอมเอาเครื่องราชฯ
"เพราะเขาไปใช้ประโยคฝรั่งว่า เครื่องราชฯ เป็นสัญลักษณ์การเป็นทาสของศักดินา ตอนที่มีเรื่องเซ็น เขาบอกไม่ได้ขอเลย เป็นระเบียบ เป็นรูทีน ไม่ได้ขอ สุดท้ายนักสืบไซเบอร์เก่งมาก ไปลากมาจากไหนไม่รู้ เอาลายเซ็นออกมา คนยื่นให้อาจทำตามระเบียบ ถ้าคุณไม่เซ็นเขาก็ไม่ส่ง เขาเซ็นแล้วบอกว่าถ้าไม่เซ็นเจ้าหน้าที่จะเดือดร้อน ทำเอกสารมาให้เซ็นเขาก็เซ็นไม่ให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อนไงล่ะ"

อนาคตจะมีปัญหาเรื่องการขับไล่ส.ส.บางคนหรือเปล่า
"ตอนนี้ก็มีแล้ว แต่ไล่หรือไม่ไล่ก็ไม่รู้ เพราะมันมีบทเรียน ไล่แล้วส.ส.ตัวเองก็หดแล้วไปเพิ่มที่คนอื่น"

ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย


ท่าทีปิยบุตรไม่พอใจ
"ไม่พอใจมาก ซึ่งคนในพรรคเขาที่รับ บอกว่าขอจริง จุดยืนเขาไม่เหมือนปิยบุตร ปิยบุตรคิดคิดยังไงก็เป็นจุดยืนปิยบุตร ไม่ใช่จุดยืนของผม ส่วนคนที่ชลบุรี ไม่เพียงแต่บอกว่าจุดยืนไม่ตรง ยังช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยว่า พระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณกับคนชลบุรีอย่างไร เอาเครื่องมือแพทย์ไปช่วยอย่างไร ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เราได้ยินจากคุณปิยบุตรอยู่เสมอ ก็เหลือคนอื่นๆ ยังไม่พูดอะไรเลย แต่ก็โดนสังคมถามว่าย้อนแย้งมั้ย เห็นการ์ตูนอันนึงเป็นภาพคนถือขวาน ใครก็ไม่รู้หน้าตาคล้ายปิยบุตรยืนอยู่ข้างหน้า มีต้นไม้ใหญ่มาก คนอยู่ข้างหน้าบอกว่าเราจะไปโค่น ข้างหลังก็มีคนถือขวานเยอะเลย พอฉากต่อไป คนอยู่ข้างหน้าวิ่งไปถือขวานจะจาม หันมองข้างหลัง หายไปหมดแล้ว พออีกฉากนึง แหวนไปดูข้างบน คนเหล่านั้นแขวนอยู่ข้างบนโดยมีเครื่องราชฯ ไม่ฟันต้นไม้แล้ว"

เขาคุมส.ส.ไม่ได้
"เขาจะทำให้คนในพรรคเห็นด้วยกับเขาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ พี่ว่ายากมาก สันนิษฐานว่าตอนแรกคนมาร่วมกับเขา มองแค่ว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่ อาจเบื่อนักการเมืองเก่าๆ เลยอยากลองของใหม่ดู ก็เข้ามาร่วม จำได้มั้ยคุณปิยบุตรเขาได้พูดว่าตอนตั้งพรรคเขาได้พูดในสิ่งที่ไม่อยากพูด เขาพูดว่าจะไม่แตะ 112 เขาพูดอย่างนั้นเพราะให้พรรคเดินหน้าได้ แต่บัดนี้ไม่ใช่ เขาต้องการให้ยกเลิก 112 คิดว่าหลายคนที่ร่วมกับเขาตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ เชื่อในความเป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าจะมีอะไรใหม่ๆ เบื่อนักการเมืองเก่าๆ จึงไปร่วม แต่พอเหตุการณ์ผ่านมาเขาเริ่มเห็น มันไม่ใช่แล้ว ที่เขาคิดว่าจะไล่นักการเมืองเก่าๆ ออก ไล่พลเอกประยุทธ์ซึ่งสืบอำนาจเผด็จการ แต่พอถึงปั๊บมันไม่ใช่แล้ว พูดจาก้าวล่วงสถาบัน มี 10 ข้อปฏิรูป พูดฉวัดเฉวียนไปมา ให้เด็กๆ ไปพูดบนเวทีอย่างหยาบช้า สิ่งเหล่านี้ทำให้คนบางคนบอกว่าไม่ใช่ ไม่เอาด้วย ไม่ใช่จุดยืนของเขา การที่เด็กๆ ออกมาหลายเวทีก็ไม่มีอะไรใหม่ๆ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจำนวนจึงหดหายไป"

หรือคนข้างในมีงูเห่า
"เขาไม่ได้เป็นงูเห่าหรอก เขาไม่ใช่คนคิดล้มสถาบันมาตั้งแต่ต้น แต่นึกไม่ถึงที่จะมีคนในพรรคคิดไปไกลขนาดนั้น"

เดี๋ยวเร็วๆ นี้จะมีใครออกมาอีกหรือเปล่า
"เชื่อว่าถ้าเขาแรงกว่านี้ หลายคนจะออกมา อย่าลืมว่าแต่ละคนไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ ถ้าเป็นแบบนั้นจะเดินในซอยยากแล้วนะ หลายคนเขาก็คิดได้แล้ว ถ้าสนับสนุนเรื่องนี้ต่อไป ญาติพี่น้องจะว่ายังไง จะหาที่ยืนในแผ่นดินไทยตรงไหน เขายังอยากเป็นคนไทยยืนอยู่บนแผ่นดินไทย คอตั้งบ่าสง่างาม นี่ถ้าไม่มีกฎหมายว่าลาออกแล้วพ้นสภาพ พี่ว่าลาออกเยอะ เพราะเขาก็ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนไม่เอาสถาบัน เวลานี้ถ้าดูสถานการณ์วันที่พระองค์เสด็จไปไหน จำนวน 99 ต่อ 1 คนจงรักภักดี 99 เปอร์เซ็นต์ของประเทศไทย คนคิดปฏิปักษ์มีแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าพรรคเขาเดินหน้าไปอยู่ฝ่ายหนึ่ง ถ้าไม่มีกฎหมายว่าลาออกแล้วโดนไล่ออก พี่เดาว่าน่าจะมีอีกเยอะ อย่างตอนนี้คนแสดงความคิดเห็นตรงข้ามจุดยืนของพรรค เขาบอกว่าถ้าโดนลงโทษและโดนขับออก เขาก็พร้อม เพราะแน่นอนทำให้เขาหาพรรคได้"

เขาไม่มีอะไรจะขายแล้วหรือเปล่า ถึงเชื่อมโยงสถาบันตลอดเวลา
"ยิ่งทำยิ่งทรุด บอกเลย ไม่ว่าหาประเด็นอะไรมาก็ตาม เท่ากับหาหินมาถ่วงตัวคุณให้ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ กรณีการไลฟ์เรื่องวัคซีนคือหินถ่วงเลยนะ การพยายามยกเลิกมาตรา 112 ก็คือหินถ่วงนะ คุณไม่ได้หาเครนมายกการเคลื่อนไหวของคุณให้สูงขึ้น"

ล่าสุดแต่งตัวล้อเลียนสถาบัน
"สมัยเด็กๆ จำได้มั้ย ล้อชื่อพ่อยังไล่เตะกันเลย คนที่เราเคารพนับถือเขาไม่ล้อเลียน หลังจากเมื่อวานที่พี่พูดในรายการว่าเราจะฟ้องร้องเขาผิดมาตรา 112 ไม่น่าจะได้ เพราะเขาพูดว่าแต่งตัวเหมือนผิดตรงไหน แต่ปรากฎว่าหลังรายการออกไปแล้ว มีทนายที่คุ้นเคย เขาโทรมาหา ว่าอาจารย์ที่พูดว่าฟ้องไม่ได้ ไม่จริงนะ พี่ก็ถามว่ายังไงเหรอ เขาก็อธิบายว่าสิ่งที่เขาทำ กฎหมายจะมองในแง่เจตนาด้วย ถ้าใครจะไปฟ้อง เพราะกฎหมายนี้เป็นความผิดแผ่นดิน ใครก็ฟ้องได้ ใครจะฟ้องก็ให้ไปรวบรวมหลักฐาน"

"สิ่งที่เขาเคยทำในอดีต แล้วมาบวกดูว่าสิ่งที่เขาล้อเลียนก็ดี แต่งสูทสะพายกล้องก็ดี ถ้าดูตรงๆ อาจไม่ได้ แต่ถ้าไล่เรียงมาก่อนหน้านี้ คุณเคยปราศรัยบนเวทีอย่างนี้ คุณเคยยกป้ายว่าอย่างนี้ ก่อนหน้านี้คุณเคยไปทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ คุณเคยไปขวางขบวนเสด็จ ก่อนหน้านี้เคยเอาสีไปพ่นถนน กำแพง สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าคุณเองเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นสิ่งที่คุณทำอยู่นี้ มันแสดงว่าคุณกำลังล้อเลียนอยู่ เช่นคำพูดที่เขาบอกว่า 70 ปีที่ผ่านมาเป็นไอโอ แก่ๆ อย่างพี่ถูกทำให้เชื่อง มีโครงการตั้ง 4 พันโครงการ ทำไมประเทศไทยไม่เจริญ หรือเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเพียงวาทกรรม ถ้าเรารวบรวมสิ่งต่างๆ นานาเหล่านี้รวมเป็นเรื่องราวสะท้อนว่าเขาเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งที่เขาทำหลายอย่างดูหมิ่น หลายอย่างเป็นความเท็จ กล่าวหา"

ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย


"ถ้าเป็นอย่างนี้ สิ่งที่เขาทำฟ้องได้ พี่ก็ขอบคุณเขาไป พี่มองว่าในเมื่อเขาพูดว่าแต่งชุดไทยผิดตรงไหน ก็คล้อยตามเขาว่าจริง ถ้าไปฟ้อง 112 ก็ใช่ที่ เมื่อวานก็พูดว่าเห็นแล้วมันเจ็บปวดหัวใจ ขณะที่เราเป็นคนไทย เรารู้เจตนาเขาคืออะไร เราเจ็บปวดเพราะคิดว่ากฎหมายทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งประชาชนทุกคนฟ้องได้ มาตรา 112 ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล เราประชาชนฟ้องได้ เพราะ 112 อยู่ในหมวดความมั่นคงของประเทศ การกระทำของเขา เป็นสิ่งอันตรายสำหรับประเทศ ใครก็ตามที่ทำลายความมั่นคงของชาติผิด ใครทำลายความมั่นคงสถาบันผิด มันมีอยู่ตรงนี้ เราที่เป็นประชาชนฟ้องได้ แต่ทนายแนะนำว่าถ้าคนเถียงว่าใส่สูทสะพายกล้องผิดตรงไหนเราต้องรวบรวมการกระทำในอดีตมาให้หมด ให้เห็นว่าแนวทาง การพูดจา ป้ายที่เขายกต่างๆ นานา มันแสดงความเป็นปฏิปักษ์อย่างไร ถ้าจำได้ ที่เขาไปอ่านจดหมายหน้าสถานทูตเยอรมัน ใช้คำว่าเขาลือกันว่า ถ้าจะกล่าวหาใคร ต้องใช้คำว่า เขารู้มาว่า"

อดีตอธิการบดีธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มาตรา 112 ยิ่งใช้ยิ่งดี ยิ่งเสื่อม มองยังไง
"ไม่ได้มองว่ายิ่งดีหรือยิ่งเสื่อม แต่เป็นความจำเป็นที่ต้องมี ถามจริงๆ ต้องการให้เจ้าพ่อเจ้าแผ่นดินขึ้นศาลเป็นคดีกับประชาชนเหรอ เป็นไปไม่ได้ สามจะใช้หรือไม่ใช้ มีไว้เสียหายตรงไหน เคยเห็นถังดับเพลิงในบริษัทมั้ย บางบริษัท 30 ปีไม่เคยได้ใช้ แต่เขาจำเป็นต้องมี ถ้าพวกคุณไม่ดูหมิ่นองค์พระมหากษัตริย์ ไม่กล่าวคำอาฆาตมาดร้ายองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์ กฎหมายมาตรา 112 ก็คือถังดับเพลิง ที่มีไว้แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ มาตรา 112 ถ้ามีโทษสูงตัดหัว 7 ชั่วโคตรยังไม่กลัวเลย เพราะเราไม่เคยคิดจะทำ จะกลัวอะไรกับบทลงโทษ แล้วมาตรา 112 มันหนักหัวบิดามารดาใคร ไม่ใช่เรื่องหนักหัวใครเลย มันก็คือท่อดับเพลิงสีแดงที่อยู่ที่้บริษัทนั่นแหละ"

ลัทธิโรแมนติกนิยม คืออะไร
"สมมติคำหยาบคือการหลุดพ้น แสดงความทัดเทียม วันหน้าวันหลังเจอหน้าก็บอกไอ้เหี้... ไปไหนมาวะ ไอ้สัต...ไปนอนขลุกอยู่ที่ไหน แล้วพี่ก็บอกว่าเออ ต๊อบเราทัดเทียมกัน อย่างนี้เหรอ เขาคิดว่าคำหยาบคือการลดคำเหลื่อมล้ำ แต่เราเป็นคนมีมารยาทสังคม เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ พี่ก็ไม่เข้าใจนะ เขาก็แก่มากแล้ว แต่เขาบอกว่าคำหยาบคือสัญลักษณ์แห่งความทัดเทียม ถ้าเชื่อเขาต่อไปก็จะบอกว่าต๊อบไม่ต้องไหว้นะ เรียกไอ้เหี้.. เสรีเลย เราทัดเทียมกัน ดีมาก ต่อไปนี้ไม่เหลื่อมล้่ำแล้วนะ นี่ยกตัวอย่างนะ ทีนี้ยุค Romanticism ในยุโรป หมายถึงยุคที่อารมณ์เป็นใหญ่ บทกวีจะสะท้อนอารมณ์คนเขียน ภาพวาดสะท้อนอารมณ์คนวาด บทความทางการเมืองสะท้อนอารมณ์คนเขียนบทความ เป็นเรื่องความมโนของคนๆ นั้น ว่าเขาคิดยังไง แสดงออกมาอยางอิสระเสรี เป็นลัทธิเชื่อมความเป็นปัจเจก ถ้าเราดูความเคลื่อนไหวในเวลานี้มันเข้าแบบนั้น อารมณ์ฉันเป็นใหญ่ ฉันต้องการแบบนี้ อยากได้แบบนี้ ฉันจึงแสดงออก อย่ามากดดันอารมณ์ อย่ามาบีบบังคับฉัน ถ้าต้องทำแบบที่เธอบอก ความเป็นปัจเฉกฉันจะไปอยู่ที่ไหน ฉันต้องการปัจเฉกนิยม Romanticismจึงออกมา อยากไว้ผมตามที่ต้องการ เราคิดว่าความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกวินัย ถ้าเรามีอารมณ์แบบไหนรู้สึกแบบไหน ก็แสดงออกอย่างนั้นโดยไม่สนใจ ว่าระเบียบคืออะไร ถ้าเจอคนแบบนั้น ก็ไม่รับนะ ถ้าเขาจะทำงานตามใจฉัน"

ต้องการใช้ดูถูกคนอื่น นี่คือคำหยาบ
"ใช่ เขาต้องการดูถูกคน ต้องการทำตามใจตัวเอง แสดงอารมณ์อย่างเต็มที่"

ต๊อบ - ดร.เสรี ถกแซ่บ ใครหนอ ถือขวานเดียวดาย

ชมคลิป
VV
VV
V
VV
V
VV
VV
VVVV


++++
เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ เปิดเนตร



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์