ซินแสดังเปิดความลับสวรรค์ อองซาน ซูจี-มิน อ่อง หล่าย ตอนจบใครวิน?
เมียนมาจะวุ่นวายแบบนี้อีกนานมั้ย ตอนจบจะเป็นชัยชนะของอองซาน หรือมิน อ่อง หล่าย
"ผมเคยเห็นอองซานซูจีมานาน เกิดปีระกา 19 มิ.ย. 2488 ถือว่าปีระกาธาตุไม้ ปีที่ผ่านมาปีชวดธาตุทอง ทองฟันไม้ไม่ดี สองจุดเดือนช่วงแก้มตอนนี้ไม่สวยแล้ว เขาเด่นตอนสาวๆ ตอนอายุ 40 กว่าสวยมาก แต่ช่วงหลังมาเดินช่วงคางแล้วเสร็จ เขาเรียกบ่อเอ๊ง บั้นปลายชีวิตไม่ดี แต่ช่วงปีที่ผ่านมา เขาอยู่ในเคราะห์ด้วย และไม่ดีด้วย มาช่วงนี้ถ้าหลังเข้าสู่ปีฉลูจะเป็นปีที่ดีกว่าเขา แต่ตอนนี้ยังอยู่ปีชวด ปีไม่เกื้อหนุนอองซานซูจี ต้องเลยมิ.ย.ไป"
"ส่วนผู้นำการปฏิวัติ มิน อ่อง หล่าย เกิด 3 ก.ค. 99 เป็นปีวอก ปีวอกที่ผ่านมากับปีชวดเป็นปีที่สมพงศ์กัน ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีของเขา แต่พอเข้าสู่ก.ค. นี้ อายุจะเริ่มเข้าเคราะห์ ต้นเม.ย. เขาจะมีเรื่องไม่ดี เสียดายไม่ได้ดูโหงวเฮ้งเขาว่าเป็นยังไง ช่วงเนินปากมาถึงคางมั่นคงมั้ย คางใหญ่สวย ยิ่งแก่ยิ่งดี ผมนั่งมองโจ ไบเดน ผมว่าคางแหลมเล็ก คอยดูสิ ต้องมีเรื่องหนักๆ ไม่ดี ต้องมีเรื่องปั่นป่วนวุ่นวาย ซึ่งผู้นำปฏิวัติไม่รู้โหงวเฮ้งตรงนี้เป็นไง แต่เริ่มเข้าเคราะห์ตั้งแต่ต้นเม.ย."
"คนเราขึ้นมาอยู่ในอำนาจ ช่วงที่อยู่ในเคราะห์ จะมีปัญหา ปั่นป่วน วุ่นวาย มีแต่เรื่องเข้ามา แล้วปีหน้าปีชงมิน อ่อง หล่ายด้วย ทั้งปีชง อายุเข้าเคราะห์ ยกตัวอย่างเปรียบเทียบเมืองไทยเรา ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ปีมะเมียชงปีชวด สารพัดศึกหนัก อายุเข้าเคราะห์ แต่จุดเดินอายุของท่านสวย ซึ่งมิน อ่อง หล่าย พื้นฐานดวงใช้ได้ ปีเดือนดี แต่จุดเดินอายุ ไม่แน่ใจ 66 เขาสวยมั้ย ถ้ามั่นคงยังดี สองปีที่แล้วชงสี จิ้นผิง มาปีที่ผ่านมา มะเมียชงปีชวด ปีนี้ฉลูชงปีมะแม ปีหน้าวอกเจอปีขาลชง ซึ่งมิน อ่อง หล่ายปีหน้าเจอปีชงจะหนักสุดๆ จะผ่านหรือเปล่าไม่รู้ ด้วยปีชง อายุเข้าเคราะห์ด้วย การดูดวง ฮวงจุ้ย ต้องประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยที่ทำงาน เหมือนรัฐบาลประยุทธ์ มีที่ทำงานดี ที่นั่งดีก็ช่วยเสริม รดต้นไม้อาศัยดิน คนเราอาศัยบ้านอยู่ ถ้าทำเลบ้านดี ดินดี ต้นไม้ก็งาม เวลาดูพวกนี้ถ้าจะให้มั่นใจต้องดูพวกนี้ประกอบด้วย แต่หลักฮวงจุ้ยไม่ใช่มาแขวนระฆัง สัตว์ประหลาดเต็มห้อง มันไม่ช่วย หลอกลวง สมัยนี้ขายสิงโตคู่เป็นล้าน หลายๆ ล้าน มันบ้าไปแล้ว คนสร้างกติกามาขายหลอกลวง ย้อนประวัติไปดูผมดูฮวงจุ้ยไม่เคยขายของ มันช่วยไม่ได้ งั้นคนขายของสะเดาะเคราะห์ไม่รวยกว่าคนอื่นเหรอ ขายอยู่อย่างนั้นไม่รวยซะที ไม่อยากให้ไปงมงายกับบางเรื่อง แขวนรูปพ่อแม่ พระเจ้า เสด็จพ่อร.9 ดีกว่า เหมือนที่เขาบอกว่าคนพม่ามาของานบ้านเรา แต่เราไปขอเทพเจ้าทันใจที่พม่า"
ถ้าเทพเจ้าทันใจเขาช่วยได้จริง คนบ้านเขาคงไม่วิ่งมาหางานบ้านเรา
"ผมไม่ได้ดูถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่คนนับถือนะ ไม่งั้นคนขายไอ้ไข่รอบนครศรีธรรมราชป่านนี้รวยถูกล็อตเตอรี่กันไปหมดแล้ว ไม่เห็นถูกกันสักคน ไปขอเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่ถูกไม่กี่คน ก็ดีเป็นการดึงคนไปนครศรีธรรมราชช่วงขณะหนึ่ง ไอ้ไข่จะรุ่งเรืองอยู่ช่วงเดียวกัน ไม่ยืนยง"
"ใช่ จะยิ่งหนักไปเรื่อยๆ หนักถึงขั้นประคองไม่อยู่มั้งในปีหน้า เขาบอกขอเวลาปีเดียว แต่พอถึงเวลาจะถึงปีหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"อยากเห็นรูปภาพเขาอีกสักนิดจะได้รู้ว่าช่วงตรงนี้เขามั่นคงมั้ย ถ้าคางแหลมเล็กอยู่ได้ไม่นาน เกินปีมั้ยก็ยาก เพราะปีหน้าเป็นปีที่เขาหนัก นอกจากไปดูฮวงจุ้ย ดูทำเล มันจะเป็นองค์ประกอบช่วยเสริม"
ให้ดูรูปมิน อ่อง หล่าย ตกลงคางเขาวีเชฟหรือยูเชฟ
"ยูเชฟ เห็นภาพตอนแรกคิดว่าหนุ่มๆ อาจเป็นวีเชฟ แต่ ณ เวลานี้ยูเชฟ คางออกมาสวย เหมือนนายกฯ บ้านเราหรือสี จิ้นผิง ตรงนี้จะสวยมาก"
จะบรรเทาได้หลังก.ค.มั้ย
"สามารถประคองให้ผ่านได้ แต่ก็ศึกหนักเหมือนกัน ช่วงที่ผ่านมา เป็นวงจรชีวิตเจอปีชง ช่วงเข้าเคราะห์ปี 65"
ดวงเมืองพม่า เขาจะเจริญหรือทรุดลงหลังทำรัฐประหาร
"มันอยู่ที่ผู้นำว่าเขาจะเดินไปทางไหน แต่ขณะเดียวกันต้องดูดวงคณะรัฐมนตรีหรือผู้ที่มาร่วมงาน ร่วมบริหารประเทศ บางอย่างในการวิเคราะห์ลึกๆ ต้องมีข้อมูลว่ามีใครบ้าง ดวงโหงวเฮ้งเป็นยังไง ถ้าลักษณะไม่ดีก็ไปได้ยาก ต้องมีดวงบริวารประกอบ"
วิน มยินต์ นักโทษทางการเมืองของพม่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีพม่า เกิด 8 พ.ย. 2494
"เกิดปีเถาะ ถือว่าอยู่ใน 69 อายุเข้าเคราะห์อยู่ 18 ก.พ. ปีนี้พ้นเคราะห์ ช่วงนี้เขาจะเริ่มพ้นเคราะห์ ดีขึ้นในหลายๆ อย่าง"
มิน อ่อง หล่าย เป็นปีวอก เกื้อกันมั้ย
"ปีกลางๆ กัน มิน อ่อง หล่าย ปีวอก วิน มยินต์ ปีเถาะชงกับอองซาน ซูจี"
ตกลงไก่จะจิกกระต่าย หรือกระต่ายจะงับไก่
"มันต้องดูว่าจุดเดินของแต่ละคนเป็นยังไง แต่ผมดูว่าแล้วมิน อ่อง หล่ายจะมีโอกาสมากกว่าอองซาน ซูจี"
"ผมว่าพม่าไม่เหมือนเมืองไทย เมืองไทยเรามีกษัตริย์ มีราชวงศ์ เป็นจุดยึดเหนี่ยว มีพระสยามเทวาธิราชที่คนนับถือ เราผ่านหลายอย่างที่ไม่ทำให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้่อ คนที่ทำให้เสียเลือดเนื้อส่วนใหญ่ก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ ต้องเผ่นจรลีหนีบ้านเกิดกัน"
"เมืองไทยเราตั้งขึ้นเมื่อ 21 เม.ย. 2325 ปีนั้นเป็นปีเสือ แล้วเป็นเดือนมังกร ยามกระต่ายหกโมงกว่าตอนเช้า เมืองไทยเราปีเสือคือทหาร ต้องมีทหารดูแลปกครองบ้านเมือง สองเดือนมังกร คือสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องมีกษัตริย์ดูแล ยามกระต่าย กระต่ายใจดี เมืองไทยเราใจอ่อนใจดี เกิดธาตุน้ำ คือการเงินการพาณิชย์ ฉะนั้นเมืองไทยเราไม่ต้องห่วง มีวิกฤตปั๊บก็ผ่านได้"
พวกชังชาติเขารู้มั้ย
"ไม่รู้ แต่เขาจะเปลี่ยนจากสถาบัน ตั้งเป็นประธานาธิบดี มันไม่ได้"
เขารู้หรือเปล่า ถ้าเขากำจัดมังกรต้องทำลายเสือ เขารู้เหมือนที่ซินแสรู้หรือเปล่า
"คนเราทำอะไร ต้องยามเราดวงแข็งแรง ถ้าอ่อนแรงเมื่อไหร่ แม้แต่จะเลื่อนโต๊ะยังไม่มีกำลัง คุณธนาธรก็เห็นโหงวเฮ้งตั้งแต่แรกเริ่ม จมูกเรียวเล็ก จุดเดินอายุเขาไม่ดี ไม่แข็งแรง ช่วงที่ผ่านมาปีชง อายุเข้าเคราะห์ จุดเดินตอนนี้ยิ่งแย่ หนักไปเรื่อย ท่านอดีตนายกฯ ที่อยู่เมืองนอก ท่านปีฉลู ปีที่แล้วพยายามอัดกระหน่ำเข้ามา ช่วงนี้ก็เหมือนกัน ดวงยังดีอยู่ก็อัดกระหน่ำ เพราะรู้ว่านายกฯ ประยุทธ์อยู่ในปีชง พอรู้อีกฝ่ายอ่อนแรงก็พยายามโหมเข้ามา เขาปีดี แต่ประยุทธ์ปีชง ก็อัดมาเต็มที่ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนเราพอตั้งรับ อดทน ใจเย็น แก้ปัญหา อย่าไปตอบโต้รายวัน เรื่องม็อบก็เหมือนกัน ก็บอกว่าอย่าไปอะไรกับเด็กเลย เขาไม่รู้เรื่อง ถูกผู้ใหญ่เสี้ยมสอน สักพักจะเริ่มหายไป และแพ้ภัยตัวเองในที่สุด ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น จนตัวจริงเสียงจริงเริ่มออกมาแล้ว เด็กๆ ก็ถอยออกไป"
"ตาเขาลอยๆ คนตาลอยๆ มักไม่ค่อยเห็นคนแก่ตาลอย มักไปก่อนแก่ และถ้าทำอะไรให้เขาผิดใจปั๊บ เขาจะไม่มีนำใจเลย"
อำมหิตเหรอ
"ก็ทำนองนั้น เห็นในสิ่งที่มนุษย์ไม่กล้าทำกัน จะทำอะไรให้ได้ดั่งใจตัวเองโดยไม่สนใจเรื่องความถูกต้องชอบธรรม บางครั้งก็ตกนรกทั้งเป็น คิดทุกวันจะทำยังไงให้เมืองไทยแย่ เขาตกนรกทั้งเป็น คิดแต่เรื่องไม่ดี ผมว่าน่าจะมีอันเป็นไปก่อนวัยอันควร คนที่คิดไม่ดีกับบ้านเมือง ตอนนี้ตกนรกทั้งเป็นก่อน"
"ไม่อ่อนแรง เมืองไทยเลือกตั้งขึ้นมา 21 เม.ย. 2325 เป็นเสือธาตุน้ำ ปีที่ผ่านมาชวดธาตุทอง ปีนี้ฉลูธาตุทอง เสริมดวงเมือง พอปีหน้าเป็นปีขาล ธาตุน้ำ อีกปีเป็นกระต่ายธาตุน้ำ มองย้อนหลังไป วิเคราะห์บ้านเมืองล่วงหน้า 2-3 ปีหมด ในช่วงเศรษฐกิจดี ก็เจอธาตุทอง ธาตุน้ำ ช่วงคุณยิ่งลักษณ์อยู่ เศรษฐกิจก็จะก้าวเดิน ช่วงนั้นก็ดี รถคันแรก บ้านหลังแรก ทุกอย่างไปได้ดี แต่ช่วงหลังม้าขาเดี้ยง พอธาตุน้ำเสร็จก็เจอธาตุไม้ ไม้ดูดน้ำ ดูดเงิน การเงินเมืองไทยก็แย่ลงหมด ถูกดูดไปหมด ไปเจอไม้ก็ทำให้เกิดไฟ ไฟก็เผาน้ำ ทำให้เศรษฐกิจแย่ ทองอยู่กับไฟไม่ได้ ไม้ก็อยู่กับน้ำไม่ได้ แล้วเจอดิน ดังนั้นช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเราแย่มาก"
เสือไม่อ่อนแรง ทหารเข้มแข็งต่อไป ปีเถาะ หมายถึงความเมตตาใจดี ปรองดองจะเกิดได้มั้ย
"อยู่ที่คนๆ เดียว ที่ตาลอยๆ อยู่เมืองนอก (หัวเราะ) เพราะทุกอย่างที่มีกำลังส่งเสริม ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะเงินของใคร ปรองดองได้ก็อยู่ที่ตรงนี้ แต่เขาเป็นวัวดื้อ"
หลังโควิดเราจะฟื้่นเศรษฐกิจให้เป็นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ได้มั้ย
"เมืองไทยเราโชคดีบางเรื่อง โชคร้ายบางเรื่อง ช่วงโควิดคนเราถ้ารู้จักซิ่ว รู้จักเบรก ยับยั้งตัวเอง อย่าไปทำอะไรเกินตัว พวกล้มๆ คือพวกทำธุรกิจเกินตัวส่วนหนึ่ง ถ้าทำพอดีดี พออยู่พอกิน พอเพียงเหมือนร.9 พูด บริษัทใหญ่เขาอยู่ได้ บางบริษัทโอเวอร์เกินก็อยู่ไมได้ และอยู่ที่ฮฺวงจุ้ยมีการเปลี่ยนยุคด้วย ฮวงจุ้ยมีการเปลี่ยนยุคทุกๆ 20 ปี เมื่อปี 27 47 67 จะมีการเปลี่ยนยุคฮวงจุ้ย เมืองไทยเราเรื่องเจอโควิดทำให้เราเป็นที่โดดเด่น จับตามองของอารยประเทศทั่วโลก พอหลังโควิด ผมคิดว่าความอุดมสมบูรณ์ต้องเข้ามาสู่เมืองไทย อย่ารีบขายที่ดินนะ เก็บไว้ก่อน จะมีโอกาสรุ่งเรือง อดทนกันสักนิดนึง"
อยากให้เล่าให้ฟัง ตั้งแต่ตั้งต้นตั้งคณะรัฐมนตรี ต้องดูดวงบริวาร ตอนนั้นได้ดูดวงมั้ย ว่านอกจากดวงนายกฯ แล้ว รัฐมนตรี ดวงดีดวงร้ายกันกี่คน
"ตอนที่เข้ามาทำงานที่รัฐบาล ได้รับการแต่งตั้งจากท่านนายกฯ ให้มาเป็นอยู่ที่สำนักเลขานายกฯ อาจเป็นหมอดูคนเดียวที่ได้ทำงานตรงนี้ (หัวเราะ) หมอดูทางราชการ ตอนนั้นท่านนายกฯ ตั้งรัฐมนตรีเข้ามา 36 คนรวมทั้งท่านนายกฯ ดวงดี 19 คนดวงตก 17 คน ครึ่งๆ เลย ช่วงต้นถึงได้วุ่นวายไม่ดี พอสักพักดวงก็เริ่มเปลี่ยนแปลง พอปลายปี 62 ดวงดีมากขึ้น ดวงดี 23 ดวงตกเหลือ 10 กว่าคน หลังบริหารมาสักพักดวงดีขึ้น มั่นคงขึ้น ในปี 63 ก็เหมือนกัน ดวงดี 20 กว่าคน ดวงตกเหลือ 10 กว่าคน จะเห็นทุกอย่างเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนพรรค โยกย้ายออก มีคนเข้ามาแทน"
"ช่วงต้นปี คนดวงดี 25 คน ดวงไม่ดี 11 คน แต่พอกลางปีไปแล้ว ดวงดีเหลือ 19 คน ดวงตก 17 คน ฉะนั้นน่าจะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรี เอาคนไม่ดีออก (หัวเราะ) เอาคนที่ดีมาทำงาน ใครถูกปลด เดี๋ยวเขาจะโกรธเอา (หัวเราะ) ท่านนายกฯ ไม่ได้เชื่อใครง่ายๆ ท่านต้องมองดู ในสมัยคสช. มีรัฐมนตรีหลายคนไม่ค่อยทำงาน มีคนมาถามผมว่าท่านน่าจะเปลี่ยนรัฐมนตรีมั้ย ท่านก็บอกว่าอาจารย์ตอนผมปฏิวัติใหม่ๆ ขอให้คนมาทำงาน ไม่มีใครกล้ามาทำงานกับผม คนที่พอดีขึ้นผมจะไปปลดเขาเหรอ มันไม่ได้ ไม่ถูกต้อง"
เคยถามผู้ใหญ่คนนึงซึ่งเป็นนายกฯ แต่ตอนนั้นท่านไม่ได้เป็นนายกฯ ช่วงที่บิ๊กบังทำการปฏิวัติ มีหลายคนตั้งมาแล้วงานไม่ดี ก็ถามท่านว่าทำไมไม่ปลด ท่านอธิบายว่าเวลาเราไปขอใครมาเป็นรัฐมนตรีไม่ง่ายนะ เขาต้องเสียสละต่างๆ อยู่ๆ จะไปปลดเขาให้เสียหน้ากลางอากาศไม่ได้ ต้องให้เกียรติเขา นี่ก็ตรงกับผู้ใหญ่คนนั้น คนดวงไม่ดีปลายปี 17 คน จะพ้นทั้ง 17 คนมั้ย
"ก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ต่างพรรค ตอนนี้ไปยุ่งกับพรรคอื่นไม่ได้ เมื่อก่อนนายกฯ คนเดียวตอนปฏิวัติ บางคนไม่มีผลงาน แต่ก็คุมทุกอย่างให้อยู่ในกรอบ เป็นคนซื่อสัตย์ ทุกวันนี้บางคนนิ่งๆ ทำงานไปเรื่อยๆ แต่บางคนมาหวือหวาทำให้เรื่องวุ่นวายก็มี ผมว่าเอาคนซื่อสัตย์มาคุมดีกว่า แต่บางองค์กรต้องเอาคนฉลาด เก่ง เพื่อพัฒนา ไม่ใช่ซื่อๆ แล้วไปไหนไม่ได้ ไม่ทันเกม ไม่ทันคน"
"เหมือนเวลาเราปลูกต้นไม้ แล้วสามขามาปักไว้ ลมพัดพายุไปฝั่งไหนก็มีค้ำอยู่ สามท่านต้องอยู่ดูแลบ้านเมืองอีกสักพัก มีช่วงนึงที่ท่านคุยกับผม ท่านบอกจะเบรกเพราะเหนื่อย สุขภาพไม่ดี ผมก็บอกว่าต้องต่อสู้เพื่อบ้านเมือง เพราะไม่มีใครมาแทนท่านได้ จะเห็นว่าสมัยก่อน สมัยโน้น จะมีเสธ.หนั่นเลย ทุกเวลาจะมีคนประสานงานสัมพันธ์ทุกพรรค สมัยนี้ก็มีบิ๊กป้อม ที่สามารถสานสัมพันธ์กับส.ส.ทุกคนทุกฝ่าย"
"อย่าไปหวัง เขารู้ ตีมาเขาก็อยู่นิ่งๆ เขารู้กัน ทุกคนสามัคคีกันเพื่อบ้านเมือง""
ประยุทธ์ พี่ป๊อบ พี่ป้อม ก็เป็นสามขาที่อยู่ด้วยกัน
"ก็ช่วยเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เหมือนปีนี้ ท่านประวิตรเจอปีระกา เจอปีฉลู ก็สมพงศ์กันแล้ว ปีสมพงษ์กับท่านอนุพงษ์ เพราะปีฉลูเหมือนกัน ท่านนายกฯ ปีนี้พ้นเคราะห์ ดีแล้ว แต่ท่านอนุพงษ์อาจเข้าเคราะห์ เหมือนคนแดนไกล ปีฉลูเหมือนกัน ก็เข้าเคราะห์แล้ว"
แล้วจะทำยังไงให้อยู่ได้
"ต้องทำใจก่อน (หัวเราะ) นิ่งๆ เบรก อย่าลุย ลุยแล้วยิ่งเจ็บ ต้องรู้จังหวะชีวิตว่าเป็นยังไง ต้องเพลาๆ เมืองไทยเราไม่ต้องห่วง หลายๆ อย่างผ่านไปได้ ใครหวังร้ายก็แพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด"
พม่าที่ไม่มีกษัตริย์ 130 ปีแล้ว วิธีการกอบกู้ ทำให้บ้านเมืองเขาสงบ เดินต่อไปได้ จะยากกว่าเรามั้ย
"ดวงบ้านเมืองที่ย้ายไปอยู่เนปิดอว์ ปี 67 ถึงจะดีเดินดวง พอเดินดวง น่าจะมีสิ่งดีๆ เข้ามา หรือผู้นำดีๆ โดดเด่นมากอบกู้บ้านเมือง เหมือนนายกฯ บ้านเราคางยาวสวย บิ๊กป้อมก็สวย อนุพงษ์ก็คางยาวสวย ก็สามารถค้ำบ้านเมืองไปอีกยาวนานพอประมาณ สมัยที่ท่านปฏิวัติใหม่ๆ ท่านจะรีบเลือกตั้ง ก็บอกว่าไม่ได้ ต้องรอไปถึงปี 61 ตอนแรก 58 จะเลือกตั้งเลย ผมบอกว่าไม่ได้ ต้องปี 61 ไม่ให้เกินก.พ. 62 ก็มาเลือกมี.ค. 62 เป็นองค์ประกอบผู้นำด้วย สถานที่ด้วย ที่ทำงาน ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ไปปรับฮวงจุ้ยให้ดี ให้เสริม ให้เก่งกับเฮง เสริมให้บ้านเมืองเรามั่นคง พม่าก็เหมือนกัน เนปิดอว์ต้องปี 67 ถึงจะรุ่งเรือง พอรุ่งเรืองก็ต้องมองผู้นำพม่าว่าใครขึ้นมา แต่ละประเทศที่ผู้นำดีๆ เหมือนรัสเซีย ตอนปูตินหน้าแหลมๆ เดี๋ยวนี้หน้ามั่นคงอยู่มายาวนาน หรือญี่ปุ่น หน้าแหลมๆ ก็จะวุ่นวาย ลาออกๆ วุ่นวาย ช่วงหลังเลยไม่ค่อยเท่าที่ควร แต่เมืองจีนออกมาแต่ละคน ผู้นำรัฐมนตรีแต่ละคน ออกมาเก่าตั๋งสวยๆ ทั้งนั้น เขาถึงได้รุงเรือง สังเกตดูว่าบ้านเมืองไหนรุ่งเรือง ผู้นำอยู่ยาวนาน เพราะเขาวางนโนบาย และสานต่อนโยบาย ส่วนเมืองไทย พอวางนโยบาย คนนี้ลาออก ปลด เอามาตั้งใหม่ ทำใหม่ ก็ย่ำอยู่กับเดิมๆ จะบอกว่าอยู่นานแล้วสืบทอดอำนาจก็ไม่ใช่ เขาสามารถสานนโยบายให้ถึงเป้าได้ แต่พอเมืองไทย พอมีคนใหม่ขึ้นมา ก็ทำใหม่ ไม่ทันได้ทำอะไร ก็ไล่ไปแล้ว (หัวเราะ) รัฐบาลประยุทธ์ท่านทำอะไรไว้เยอะแยะนะ"
แต่มีคนพูดว่าอยู่มา 7 ปีไม่เห็นพัฒนาอะไร
"สิ่งดีๆ เขาก็ไม่พูดถึงหรอก เอาเรื่องไม่ดีมาโจมตีกัน บิดเบือน ผมว่าอีกไม่นาน จะเห็นในปีหน้า เมืองไทยเราฟ้าสีทองผ่องอำไพ ในเดือนมี.ค. หลายอย่างจะดีขึ้น เรื่องโควิดการร่วมแรงร่วมใจประชาชนเราก็ดีด้วย เมืองไทยเรากลัวตาย ไม่เหมือนฝรั่งไม่กลัวตาย เมืองนอกกูขอตายดีกว่าถ้ากำจัดสิทธิเสรีภาพ เมืองไทยเราผมกล้าพูดว่าท่านนายกฯ และรัฐมนตรี สามารถประคองให้ผ่านวิกฤตไปได้ ไม่ต้องกังวล อย่าไปตื่นเต้นตามกระแส อยากขอม็อบนิดนึง เทศกาลตรุษจีน อย่ามาสร้างม็อบให้ปั่นป่วน มันไม่ถูกต้อง"
"ไม่สำเร็จ แพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด ติดคุกกันยาว บางคนต้องจรลีหนีไปอยู่แดนไกล"