ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ


ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ

รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 14.50 - 15.40 น. ทางเนชั่น ทีวี ช่อง 22 วันนี้ (9 มี.ค.) "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" สัมภาษณ์ "ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม" สมาชิกวุฒิสภา กรณีอดีตนักการเมืองเข้ามาพูดประเด็นเกี่ยวกับสถาบันถึง 5 ประเด็น

เขาบอกตอนนี้มีเยาวชนของชาติกลุ่มนึงมีทัศนคติแตกต่างจากคนรุ่นก่อน
"ข้อมูลข่าวสารที่มาจากโทรศัพท์ ถ้าเราสนใจอะไร เอไอจะปฏิบัติการว่าคุณสนใจเรื่องอะไร จะส่งข้อมูลเข้าไป โลกการเรียนรู้เหมือนกว้างขึ้น แต่บางเรื่องทัศนคติแคบลง เพราะจำกัดอยู่ในวงจำกัด เรื่องสถาบันถ้าเด็กบางกลุ่มได้รับบางเรื่องจากคนบางคนที่น่าเชื่อถือ มีภาพ ข้อมูลอ้างอิง เป็นเรื่องลึกลับ เป็นเรื่องที่คนรุ่นก่อนไม่พูด เป็นเรื่องน่าสนใจอยากใฝ่รู้มากขึ้น ถ้าเป็นข้อมูลไม่ถูกต้องก็จะทำให้เขาเข้าใจผิดไปได้ เดี๋ยวนี้เด็กติดสังคมติดเพื่อน ติดมหาวิทยาลัยมากกว่าในบ้าน ผมคิดว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยมีผลมากต่อพัฒนาการของเยาวชน"

ข้อสอง ปิยบุตรบอกว่าเอาเยาวชนที่ออกมา และเอามาตรา 112 ไป จับขังเยอะๆ จะมากน้อยแค่ไหน ไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติได้

"การที่เยาวชนทำผิดตามมาตรา 112 เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการไม่ได้ ไม่งั้นคนส่วนใหญ่จะตำหนิเขาว่าปล่อยให้คนกลุ่มน้อยทำผิดต่อบ้านเมืองได้อย่างไร ไม่โดนด่าอย่างเดียว ถูกแจ้งความได้ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องทำ"



เขาขังเพราะทำผิดกฎหมาย คงไม่ได้ขังเพราะเปลี่ยนทัศนคติ สามเขาบอกว่าอยากให้มีการสร้างพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนสนทนาพูดคุยเรื่องสถาบันได้ ทำไมต้องการพื้นที่

"ผมคิดว่าเรามีพื้นที่ปลอดภัยเสมอ เราเรียนประวัติศาสตร์ เราถกเถียง อันนั้นไม่มีปัญหา ปัญหาที่ว่าคืออย่าดูหมิ่นเหยียดหยาม อย่าประทุษร้าย อย่าแสดงออกในเรื่องความเชื่อความศรัทธาที่คนส่วนใหญ่เขาศรัทธาอยู่ เราห้ามความรักใครไม่ได้อยู่แล้ว มีพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนได้"

สะท้อนความในใจว่าอยากทำอะไร
"ไม่อยากคาดเดา(หัวเราะ)"

ยุติการใช้มาตรา 112 ซึ่งเป็๋นเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และ 116 เรื่องการยุยงปลุกปั่น เขาบอก 2 มาตรา ปิดปากคนคิดต่าง

"ในเมื่อเป็นกฎหมายจะเอาตามอำเภอใจเรา ให้เลิกไปซะ ถามว่ามันเป็นความเห็นของใคร ข้อเรียกร้องของเราอาจน้อยกว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้ถ้าข้อเรียกร้องเราเป็นคนส่วนน้อย เราควรฟังคนส่วนใหญ่หรือคนส่วนน้อย ท่านต้องให้ข้อมูลว่าไม่ดีอย่างไร เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต หรือกระทบสิทธิ์อย่างไร ผมว่าการเมืองสมัยนี้ ปัจจุบันประเทศไทยเราเสียความมีเหตุผลมันหายไป ตรงนี้เป็นปัญหา เราอยากได้อะไรเราควรเคารพคนอื่นด้วยดีมั้ย และควรรับฟังกันอย่างไร ปัญหาของบ้านเราคือเอาคนออกมา 3 พัน 5 พัน แล้วบอกนี่เป็นคนทั้งประเทศ แล้วคนที่นอนดูทีวีอยู่บ้านไม่เห็นด้วยเขาทำยังไง"

ข้อสุดท้าย เขาพูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อการปรับพระราชอำนาจ เพราะมองว่ามีพระราชอำนาจมากเกินไป ตอนนี้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจล้นจนต้องแก้เหรอ

"เรื่องนี้เรื่องเดียวเลยใช่มั้ย เรื่องอื่นไม่อยากแก้เลย เดิมทีการแก้รัฐธรรมนูญเราอยากให้มีความสมานฉันท์เห็นพ้องกันทุกฝ่าย เราเคยเจอเผด็จการรัฐสภา พวกมากลากไป ใครเป็นฝ่ายข้างมาก นอกจากได้เป็นรัฐบาลแล้ว สามารถแก้กฎหมายอะไรก็ได้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเลยวางกลไกเอาไว้ให้เกิดความรอบคอบมากขึ้น นอกจากมีส.ส. ให้มีสมาชิกวุฒิสภามาถ่วงดุลย์ อีกเรื่องอยากรื้อไปหมด ให้มีส.ส.ร.มารื้อใหม่ทั้งฉบับ ฝ่ายกลุ่มมวลชนเขาก็คาดหวังว่าจุดนี้แหละที่จะรื้อใหม่ได้ทั้งระบบ รวมทั้งกลุ่มที่อยากปฏิรูปสถาบัน เขาก็อาศัยตรงนี้แหละ อย่างไรก็ดี ในรัฐสภาที่มีการผ่านหลักการให้ร่างใหม่ทั้งฉบับและรื้อได้ทุกเรื่อง ตรงนี้ก็เป็นการเสนอโดยส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกัน งั้นก็ให้มีส.ส.ร. มาร่าง การแก้ไขให้ยกเว้นหมวดหนึ่งหมวดสอง หมวดทั่วไป เราจะไม่แตะ อันนี้สภาไม่แตะ ด้วยเหตุนี้แหละสภาได้รับหลักการและแก้ไขกันในวาระที่สองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้่รอวาระที่สาม"

ตกลงยืนยันแล้วว่าหมวดหนึ่งหมวดสองจะไม่แตะ
"โดยหลักการและเหตุผล ที่รัฐสภาเห็นชอบเป็นอย่างนั้น"

ได้ข่าวว่าสว.อาจคว่ำในวาระสาม
"บางท่านอยากคว่ำ บางท่านอยากช่วย ตรงนี้ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่เห็นแตกต่างกัน เป็นข้อกังวลของส.ส. และสว.อยู่ดี เมื่อเข้าสู่วาระที่สอง สว.จำนวนนึงได้ขอแปลญัตติ การบอกว่าห้ามแตะหมวดหนึ่งหมวดสองมันไม่พอ เพราะมีพระราชอำนาจอยู่ใน 38 มาตรา ถ้าเราแก้ความเป็นประมุขจะหายไปมั้ย ก็มีคนกังวลว่าเอาอย่างนี้มั้ยเพื่อความสบายใจ อย่าไปแตะหมวดหนึ่งหมวดสอง และพระราชอำนาจ 38 มาตรา ซึ่งขยายความในหมวดสองให้มีความสมบูรณ์"

ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ


ประชาชนก็ถามว่ามาตราไหนเป็นปัญหา เป็นปัญหาตรงไหน แก้แล้วได้อะไร ไม่มีอะไรออกมา
"ลองเชิญทุกฝ่ายมาเลย อะไรที่เป็นปัญหา การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่แก้ไม่ได้ เขาก็ให้แก้อยู่แล้ว มีข้อเสนอที่ชัดเจนมั้ยที่ให้แก้ ก็ไม่มี"

โอกาสตั้งส.ส.ร. มีมากน้อยแค่ไหน
"หนึ่งข้อถกเถียงดังกล่าว การแก้รัฐธรรมนูญชอบด้วยกฎหมายมั้ย ถ้าชอบ มันจำเป็นมั้ย ถ้าจำเป็นก็ทำไปเลย แต่ถ้าไม่จำเป็น มีทางอื่นอีกหลายทาง แก้แบบไหนประเทศชาติ ประชาชนไม่เสียประโยชน์ เพราะการแก้โดยมีส.ส.ร. เสียเงิน 3600 ล้านสามครั้ง หมื่นกว่าล้าน เราก็ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าคุ้มหรือไม่คุ้มอย่างไร"

กระแสการตั้งส.ส.ร. มีการกำหนดทิศทางยังไง
"ตอนผ่านเรื่องหลักการ ผมเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย อย่าไปตั้งเลย มีปัญหาอะไรก็เสนอไปเป็นรายมาตรา การตั้งเสียงบประมาณเยอะ และไม่แน่ใจว่าจะได้ผลอย่างที่ประชาชนต้องการหรือเปล่า ที่สำคัญสถานการณ์แบบนี้ เราให้มีส.ส.ร. ไปยกร่างอะไรก็ได้ แค่ว่าเขาศึกษาความเห็น ทำประชาพิจารณ์ว่าควรปฏิรูปอย่างไร แค่นี้ก็ลุกเป็นไฟทั้งประเทศ แล้ว 38 มาตรา บ้านเมืองจะมีความขัดแย้ง ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก แต่เมื่อเสียงข้างมากเห็นว่าต้องมีส.ส.ร.เราก็ต้องไปช่วยคิด แล้วส.ส.ร. 200 คนมาจากประชาชนเลือกตั้งมาเองเลย เหตุผลรัฐธรรมนูญฉบับนี้คนไม่ยอมรับตรงไหน มีปัญหาเดียวคือต้นไม่เป็นพิษ วิธีแก้ให้ยอมรับคือเปลี่ยนคนร่าง ให้เลือกตั้ง 200 เลย ขณะนี้เวลานี้อยู่ในร่างก็เป็นแบบนี้ ในเมื่อเลือกบุคคลให้ไปร่างรัฐธรรมนูญเราก็ต้องเคารพประชาชน ก็จะเป็นเขตละคน อาชีพอะไรไม่ได้เป็นแต้มต่อ มีฝ่ายไม่เห็นด้วยบอกว่าแนวโน้มจะเป็นคนของนักการเมืองหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ดี ในเมื่อเราให้ประชาชนเลือกมันก็ผูกพันกับนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ผมว่าไม่แตกต่าง ไหนๆ แก้ปัญหาไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ ก็ยอมรับได้"


ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ


เรื่องคุณสมบัติเขากำหนดยังไง
"ใช้ส.ส. เป็นเกณฑ์ ใช้กฎหมายเป็นตัวตั้ง มีการถกเถียงน่าจะให้โอกาส บางคนโดนตัดสิทธิ์ บางคนล้มละลาย สติไม่ดี จิตฟั่นเฟือน มีการถกเถียงกัน เขาจะมาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องพวกนี้ต้องเหมาะสมพอสมควร แล้วเรื่องนี้ประชาชนทั้งประเทศมีคุณสมบัติมากพอ การเปิดกว้างมากเกินไปจนควบคุมไม่ได้จะมีปัญหามากกว่า"

เรื่องใหญ่เกิดขึ้นเมื่อวาน หลังศาลไม่ให้คนเหล่านั้นประกันตัว มีแถลงการณ์เป็นกระดาษออกมา เป็นหัวกระดาษธรรมศาสตร์แต่ไม่มีลายเซ็น

"น่าเห็นใจมหาวิทยาลัย ประเด็นห่วงใยก็ไม่ได้ไปคัดค้านนะ ผมฟังดูแล้วเป็นกว้างๆ ทำผิดกฎหมายก็ห้ามจับก็ไม่ใช่ แต่มีข้อห่วงใยว่านักศึกษามีประเด็นเรื่องการเรียนการสอน ก็ให้พิจารณาเรื่องนี้ประกอบการใช้ดุลยพินิจของท่านด้วย เรื่องลายเซ็นผมยังไม่เห็น จริงๆ เราก็ฟังข่าวเฉยๆ แต่ต้องผู้มีอำนาจของมหาวิทยาลัย ต้องเป็นผู้ประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรออกมา"

ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ


ดิเรกฤทธิ์ มั่นใจ รัฐสภาเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ

ชมคลิป
VVVV
VV
VV
VV
V
VV
V
VVVV


++
เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ เรื่องลับมาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์