คอนโดฟ้อง 100 ล้าน โกดังติดป้ายไปสู่ที่ชอบๆ อ่วมลงทุน 7 พันล้าน ไม่มีคนซื้อ

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุข้อความว่า "ทำไงได้บ้างครับ ฟ้องได้ไหม? วิวหน้าต่างตรงคอนโดฯ" พร้อมทั้งโพสต์รูปภาพป้ายไวนิลที่ติดอยู่บนหลังคาของปั๊มแก๊สแอลพีจีแห่งหนึ่ง บริเวณถนนพระราม 4 โดยเป็นป้ายไวนิล พร้อมกับข้อความ "ไปสู่ที่ชอบที่ชอบ"

นอกจากนี้ ยังมีป้ายไวนิลติดบนหลังคาโกดังเก็บของ โดยไวนิลแรกเป็นภาพ โถชักโครกและห้องน้ำ ส่วนไวนิลภาพสุดท้ายเป็นภาพโรงศพ พร้อมระบุข้อความว่า "บริจาคโลงศพ แก่เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ที่ทำรากฐานโกดังหลังปั๊มเสียหาย"

ด้านเจ้าของปั๊มแก๊ส ระบุว่า การที่ได้ผลิตป้ายไวนิลขึ้นมานั้น เป็นคนคิดเอง ไม่มีใครคิดให้ ตนถึงที่สุดแล้ว เหนื่อย ต้องการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ไม่ได้พาดพิงถึงใคร หากถามว่าทำไมไม่ทำป้ายไวนิลขนาดเล็กติดไว้ที่หน้าปั๊มแก๊ส เนื่องจากว่าตนต้องการทำให้ใหญ่ เพราะตนได้รับความเสียหายใหญ่โต จึงอยากอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรจริง ๆ ซึ่งการนำป้ายไวนิลคลุมบริเวณหลังคา ตนไม่ทราบว่าไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ใคร และไม่ทราบว่าจะสร้างความเดือนร้อนให้แก่ผู้อาศัยในคอนโดฯ ดังกล่าวหรือไม่

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าปั๊มแก๊สของตนมีปัญหากับทางคอนโดฯ ตั้งแต่ปี 2561 กระทั่งจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากคอนโดฯ สร้างแล้ว โกดังตนพังเสียหาย พื้นทรุด ทางสำนักงานเขตคลองเตยได้บอกให้รื้อถอนโกดังในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็รื้อถอนออก ทำให้ผู้เช่าและตนนั้นได้รับผลกระทบ และสูญเสียรายได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าการที่ตนนำป้ายไวนิลไปติดตั้งบนหลังคา เป็นเจตนารมณ์ที่ตนจะอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ได้พาดพิงถึงใคร

คอนโดฟ้อง 100 ล้าน โกดังติดป้ายไปสู่ที่ชอบๆ อ่วมลงทุน 7 พันล้าน ไม่มีคนซื้อ

ล่าสุดวันที่ 17 มี.ค.64 ทนายสุกิจ พูนศรีเกษม และทีมทนาย และ ดร.สุรพล สินธุนาวา เป็นตัวแทนคอนโดฯ ได้เดินทางไปยัง สน.ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการปลดป้ายภาพไวนิลออกจากหลังคาโกดังปั๊มแก๊ส ที่เป็นวัตถุพยานตามหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เพราะป้ายไวนิลดังกล่าวสร้างความน่ากลัวต่อประชาชนและผู้พักที่คอนโดฯ

เนื่องจากรวบรวมพยานหลักฐานได้ว่า การติดป้ายไวนิลบนหลังคาโกดังปั๊มแก๊สนั้น เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะเจ้าของปั๊มแก๊ส เคยฟ้องโครงการคอนโดฯ อ้างว่าการตอกเสาเข็มคอนโดฯ ส่งผลกระทบต่อรากฐานของปั๊มแก๊ส โดยปั๊มเรียกค่าเสียหายจากคอนโดฯ 60 ล้านบาท เริ่มฟ้องตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 ซึ่งระหว่างสู้คดีตอกเสาเข็ม แต่ปั๊มแก๊สก็ได้นำป้ายไวนิลขึ้นมาติดบนหลังคา ตั้งใจสร้างทัศนียภาพแย่ ๆ และภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในสื่อช่องทางต่าง ๆ ส่งผลไม่มีใครกล้าเข้ามาซื้อห้องพักในคอนโดฯ

โดยคอนโดฯ แห่งนี้ มีทั้งหมดจำนวน 1,178 ห้อง ขายไปได้เพียง 524 ห้อง ยังเหลืออีก 654 ห้อง ฝ่ายกฎหมายคอนโดฯ จึงฟ้องกลับในข้อหา "หมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" กับเจ้าของและกรรมการผู้ดูแลปั๊มแก๊ส โดยเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.64 หลังจากเป็นข่าว

ดร.สุรพล สินธุนาวา เปิดเผยว่า หลังจากที่ข่าวที่ปั๊มแก๊สติดป้ายผีถูกนำเสนอออกไป ทางคอนโดฯ ก็ได้รับความเสียหายจากการติดป้าย เพราะทำให้ลูกค้า ผู้อยู่อาศัยเกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ และประชาชนที่มาดูคอนโดฯ ก็ไม่กล้าซื้อ จึงนำมาสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ในข้อหา "หมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา"

ขณะที่ ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางปั๊มแก๊สได้มีข้อพิพาทกับคอนโดฯ โดยอ้างว่าการตอกเสาเข็มคอนโดฯ สร้างแรงกระแทกทำให้รากฐานโกดังเสียหาย และเรียกค่าเสียหาย 60 ล้านบาท และอยู่ระหว่างสู้คดี แต่ทางปั๊มแก๊สกลับติดป้ายผีขึ้นบนหลังคา มองว่าเจาะจงให้คนในคอนโดฯ เห็นและสร้างความหวาดกลัว

อย่างไรก็ตาม การสร้างคอนโดฯ มีการลงทุน 7-8 พันล้านบาท แต่กลับขายไม่ได้เพราะป้ายผี และแม้ว่าทางเจ้าของปั๊มบอกว่าติดป้ายผีนั้น ทำไปบริสุทธิ์ใจ ก็ให้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล

ด้าน นางธนมน วงค์เทียน เจ้าของปั๊มแก๊ส เปิดเผยว่า คอนโดฯ เริ่มก่อนสร้างตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งการตอกเสาเข็มได้สร้างความเสียหายต่อรากฐานของโกดังของตน ทำให้ผู้เช่าต้องย้ายออก และตนต้องรื้อโกดังเพราะเกรงว่าจะถล่ม ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตนสูญเงินค่าเช่าโกดังไปกว่า 10 ล้านบาท และต้องสูญเสียโกดังมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท โดยที่ตอนนี้ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย

สำหรับป้ายต่าง ๆ ที่ติดบนหลังคาปั๊มนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้ง หรือสร้างความหวาดกลัวให้ใคร เพียงแต่อยากตัดพ้อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เจ้ากรรมนายเวรรับบุญและอย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะอยู่ดี ๆ ต้องสูญรายได้หลายล้านบาท และต้องมาสู้คดีความโดยที่ไม่มีใครมารับผิดชอบอะไรเลย ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายฟ้องกลับ 100 ล้านบาท เรื่องนี้ก็แล้วแต่พระเจ้า เบื้องบนรับรู้

อย่างไรก็ตาม ผลจากการตอกเสาเข็ม ทำให้ดินใต้ฐานรากทรุด ไม่สามารถซ่อมได้อีก ขาดรายได้เพราะโกดังพังเนื้อที่ 1,404 ตารางเมตร ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561 ซึ่งสูญเสียค่าเช่าเดือนละ 300,000 บาท มา 34 เดือน เป็นเงิน 10.2 ล้านบาท และโกดังมูลค่า 21 ล้านบาท