ศิษย์หลวงปู่ศุขโต้ พระเสกต่อจากปาก พร้อมเปิดตำราพระเวทย์สมุดข่อย 100ปี
พิสิษฐ์ : ครับมีความศรัทธาตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า พ่อแม่ คนชัยนาททุกหลังคาเรือนนับถือหลงปู่ศุข ต้องมีรูปภาพหลวงปู่ศุขทุกหลังคาเรือน
ตัวพี่เห็นคลิปที่พระท่านนึงเคี้ยวใบมะขามแล้วพ่นออกมาเป็นตัวต่อ บอกว่าเป็นคาถาของหลวงปู่ศุขหรือยัง?
พิสิษฐ์ : เห็นแล้วครับ รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่กรรมวิธีอธิษฐานจิตให้กลายเป็นต่อแตน ผิดแผกจากสมัยหลวงปู่ศุข
หลวงปู่รูปนี้บอกว่าท่านเองมีคาถาของหลวงปู่ศุขและได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ท่านเอาคัมภีร์มาโชว์ การที่เราเอาคัมภีร์พระเวทย์หลวงปู่ศุขออกมา เห็นว่าต้องมีวิธีการมากมาย?
พิสิษฐ์ : ครับ เป็นคตินิยมความเชื่อในการเคารพครูบาอาจารย์ เพราะที่วัดจะทำพิธีกรรมใดๆ จะยึดหลักของครูบาอาจารย์ ต้องมีใบสี่เทศ ใบสี่พรหม ที่วัดจะเคารพศรัทธาพระเดชพระคุณหลวงปู่ศุขมาก คัมภีร์ต่างๆ หรือวัตถุโบราณต่างๆ ที่ทันยุคทันสมัย ก็จะให้ความเคารพเป็นที่สุด วันนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านเจ้าอาวาสอนุญาตให้นำไม้เท้า กับใบลานมาเผยแพร่บารมีหลวงปู่ ก็ต้องทำการขอขมา ขออนุญาตต่อดวงจิตดวงวิญญาณของหลวงปู่ศุข
เก็บไว้ที่ไหน?
พิสิษฐ์ : พิพิธภัณฑ์ของทางวัดครับ ธรรมดาจะอยู่ในตู้ ไม่เปิดให้ใครดู
เห็นว่าเคยมีคนเอาออกมาแล้วไม่ได้ขอ ลูกตาเสียเลย จริงมั้ย ?
สมัคร : ประสาทไม่ดีไปเลย เป็นคนใบ้คนบ้าไปได้ไงไม่รู้ เป็นเหตุไรก็ไม่รู้ตอนนั้น
เหตุการณ์เป็นยังไง?
พิสิษฐ์ : เขาเล่ากันว่าขโมยอ่านใบลาน ขโมยอ่านตำรับตำราวิชาปู่ ก็ตาเสีย สติฟั่นเฟือน เพราะไม่ได้ขออนุญาต
วิเชียร : ทำโดยพลการไปเปิดเอาเอง มันเลยมีอันเป็นไป ต่อมาทุกคนถึงได้กลัว จะเอาไปไหนทีต้องทำพิธีขอไป
พิสิษฐ์ : ไม่มั่นใจเลยครับ
วิเชียร : มันคนละแบบอย่างกัน กระดาษก็ไม่เหมือนกัน สมุดข่อยกระดาษดำๆ
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเกิดประมาณสมัย ร. 3 และมรณภาพ ร.5 ประมาณปี 2466 ตอนนั้นถ้าจะเขียน เขียนในสมุดข่อย อยากให้เห็นว่าจะเหมือนกันหรือเปล่าระหว่างของหลวงพ่อฤทธิเดช กับวัดปากคลองมะขามเฒ่า นี่คือตำราพระเวทย์ เขียนเป็นภาษาอะไร?
พิสิษฐ์ : ภาษาไทย สันนิษฐานว่าเป็นลายมือหลวงปู่ สืบทอดกันมาตั้งแต่ท่านอยู่แล้วครับ
เป็นร้อยปีแล้ว ตั้งแต่ร. 4 ร. 5 เอามาเปิดให้ผู้ชมได้เห็น ได้คลายข้อข้องใจ ทางนี้ยืนยันว่ามีตำราพระเวทย์ของวัดปากคลองมะขามเฒ่า เอามาเองเลย พี่ในฐานะนักเล่นพระ ดูแล้วเป็นยังไง?
เบิ้ม : เป็นสมุดที่เป็นทางการ ขอบข้างลงดำด้วย รักษาขอบไว้ เป็นไทยผสมขอม มีขอมมีไทย
ปกติไม่เอาออกจากวัด ต้องทำพิธีถึงเอาออกมา อยากให้เปรียบเทียบกับฝั่งหลวงปู่ฤทธิเดช หลวงปู่ศุข สามารถเสกใบมะขามให้กลายเป็นตัวต่อ มีประวัติความเป็นมายังไงจากคำบอกเล่า ออกมาจากปากเหมือนกันมั้ย?
พิสิษฐ์ : ไม่เหมือน ของคนเฒ่าคนแก่ คนพื้นเพที่ได้เห็นกับตาตัวเอง เล่าสู่กันมาเป็นร้อยๆ ปี ลักษณะการอธิษฐานจิตของหลวงปู่จะเป็นลักษณะรูดใบมะขาม ท่านเป่าออกมาจากมือก็จะกลายเป็นตัวต่อตัวแตน ไม่ใช่ลักษณะเคี้ยว อมแล้วพ่นออกมา ไม่ได้ออกมาจากปาก โปรยปุ๊บก็เป็นต่อ สักพักก็ร่วงเป็นใบมะขามเหมือนเดิม เป็นเหมือนการเล่นแร่แปรธาตุ เหมือนที่ท่านเสกหัวปลีเป็นกระต่ายให้เด็กเล่น ตามประวัติของท่าน เด็กพอจับกระต่ายได้ก็กลายเป็นหัวปลีเหมือนเดิม
หลวงปู่ศุข มีลูกศิษย์ชื่อดัง คือ?
พิสิษฐ์ : องค์เสด็จพ่อเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ครับ เป็นศิษย์เอก ศิษย์รักเลยครับ เสด็จเตี่ยได้เสด็จทางน้ำ ไปปากคลองมะขามเฒ่า ตามประวัติเครื่องยนต์ดับ ท่านก็ให้ทหารซ่อมเท่าไหร่ก็ไม่ติด ท่านก็เอ๊ะหรือชะรอยจะมีอาจารย์ลองวิชา ขึ้นไปก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปุ่ศุขกำลังให้เด็กๆ ตัดหัวปลี ท่านก็นั่งภาวนา หัวปลีก็กลายเป็นกระต่าย แล้วท่านก็เกิดความเลื่อมใสได้สนทนา ก็ฝากพระองค์เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุขครับ
รักษายังไง อย่างตำราเป็นร้อยปี ดูแลกันยังไง ทำไมดูสมบูรณ์?
พิสิษฐ์ : ก็เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ ส่วนใหญ่แทบไม่มีใครแตะจับ นอกจากพิธีไหว้ครูครับ
เบิ้ม : จริงๆ วัฒนธรรมการเอาของออกจากปาก ไม่ใช่ของไทยอย่างเดียว เคยดูเดอะมัมมี่มั้ยที่เอาแมลงออกมา ขอสาธิตให้ดู สถานที่ที่ไปเขาจะเด็ดใบแล้วเคี้ยว หลับตาหน่อยเพราะเปรี้ยว (คายผึ้งออกมา) ภาษามายากลเขาเรียกว่าเด็กเพิ่งเกิด ไว้ใต้ต้นไม้ก็บินได้
สรุปพี่อมไว้?
เบิ้ล : เป็นเทคนิค มายากล
อมต่อได้มั้ย?
เบิ้ล : ทุกอย่างได้หมด ตอนนี้โดยหลักนักเล่นกลเอง จะมีวิธีทำไม่ให้โดนต่อเย แล้วเด็กเลียนแบบกันเยอะมาก ถ้ามันต่อยอันตรายนะ หรือแมงที่มีพิษ จริงๆ เราเล่นพระ เราก๋รู้เรื่องหลวงปู่สุขท่านรูดแล้วหว่านลงพื้น ผมเคยเห็นอาจารย์คนนึงแกบอกตั้งแต่ผมเรียนมัธยม เขาบอกแกทำได้แต่ไม่สำเร็จ แกรูดแล้วหว่านลงพื้น ใบไม้มันดิ้นแล้วหยุด ผมก็จับผิดแก ดิ้นๆ แล้วนิ่ง แต่คนทำได้คือดิ้นๆ แล้วม้วนบินขึ้น บวกกับเล่นกล อะไรที่ออกมาจากปาก มันคือทางยุโรป แม่มด วัฒนธรรมบ้านเราไม่มีอะไรออกจากปาก มีแต่การสัก หรือเสกขึ้นมาลักษณะแบบนี้มากกว่า
ในมุมพระฤทธิเดชเชื่อมั้ยว่าท่านสามารถเอาคาถาหลวงปู่ศุขไปทำเป็นอย่างนั้น?
เบิ้ม : ตอนแรกผมไม่ก้าวล่วงความคิดใคร แต่พอตอนหลังบอกว่าต่อตัวละ 3 พันก็รู้สึกแปลกๆ
พระมหาพนาดร : ตั้งแล้ว ตอนนี้กำลังประชุมอยู่
ถ้ามีความผิดจริง จะมีบทลงโทษยังไง?
พระมหาพนาดร : ถ้ามีความผิดจริงต้องประชุมก่อน เพราะคำว่าอุตริ การละเมิดมีอยู่ 2 อย่าง มีทั้งที่เป็นวินัยเบาๆ และวินัยหนัก ถ้าท่านอวดอุตริ ท่านไม่มีแสดงแล้วคุณโยมถึงขั้นเชื่อก็ถึงขั้นหนัก แต่กรณีที่เราเห็นขณะนี้ ที่คุยกันอยู่เป็นแค่อาบัติเล็กน้อย อยู่ในหมวดพระวินัยนอกปาฏิโมกข์ คือการประพฤตินอกรีตนอกรอยของพระ ที่เรียกว่าไปเรียนเดรัจฉานวิชา ซึ่งเป็นอาบัติเล็กน้อย ไม่ได้อาบัติใหญ่โตมโหฬารอะไร ก็จะมีพวกเสกเป่า ทำน้ำอมฤทธิ์ ทำโยมให้รักให้ชอบกันนี่แหละ
เอาไปทำบุญ แล้วได้เงินตัวละ 3 พัน ถือว่าผิดมั้ย?
พระมหาพนาดร : อันนั้นเป็นเรื่องความศรัทธาที่คนจะไปเอา ท่านไม่ได้บังคับ เพราะสอบถามท่าน ท่านไม่ได้บังคับอะไร ถ้าเราพอใจจะบูชาก็ได้ เหมือนที่ให้ท่านทำให้ ท่านก็ไม่ได้เปิด คณะสงฆ์ดูแลมาตลอด ไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าท่านทำ
ในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ต้องเรียกท่านมานั่งและเสกคาถาให้เห็นต่อในปากเลยมั้ย?
พระมหาพนาดร : อันนั้นไม่ใช่กิจที่ต้องทำ ตอนนี้กำลังพิจารณาคุยกันอยู่ เพราะมีคำสั่งให้ยุติแล้ว
ท่านไม่อยากทราบเหรอ ว่าท่านทำได้จริงหรือเปล่า?
พระมหาพนาดร : ต้องปรึกษากันก่อน ต้องถามความเป็นมาเป็นไป
น่าจะให้ท่านแสดงหน่อยนะ จะได้มีออกมาให้เห็น?
พระมหาพนาดร : มันเป็นความเชื่อโบราณ เหมือนครูบาอาจารย์ เหมือนขุนพันธ์ มันเป็นคาถาอาคม ที่อยู่ในหมวดเดรัจฉานวิชา ตอนนี้ก็ให้คำตอบอะไรไม่ได้ เพราะกำลังประชุม หารือกันอยู่
ผมแนะนำอยากให้มีการตรวจสอบ เพื่อความเป็นธรรมกับหลวงพ่อฤทธิเดชว่าทำได้จริงมั้ย ให้ท่านลองเคี้ยวใบมะขามก่อนพ่นออกมาว่ามีตัวต่อออกมาจริงมั้ย แต่ก่อนพ่นขอให้อ้าปาก และเอาตะเกียบไปคว้านปากดูก่อน?
พระมหาพนาดร : คงไม่ถึงขั้นนั้น เป็นความพอใจของท่าน ถ้าโยมเคยไปดูที่หลวงพ่อบอกนักข่าว หรือลูกศิษย์ มันต้องมีเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่อยู่ๆ นึกจะทำก็ทำได้เลย เหมือนเราทั่วๆ ไป ไปถามเกจิครูบาอาจารย์ ก็มีเรื่องฤกษ์ยามของท่านอยู่ ท่านก็เคยตอบไปแล้วว่าไม่ใช่อยู่ๆ จะทำได้เลย
ท่านเชื่อมั้ย?
พระมหาพนาดร : โดยส่วนตัวอาตมาแบ่งเป็นสองความคิด โดยที่เป็นเด็กบ้านนอกอยู่กับวัดตลอด เรื่องคาถาอาคมแบบนี้อาตมาเชื่อว่ามีจริง แต่การเรียนคาถาอาคม ครูบาอาจารย์ก็สอนว่าตัวคาถาเหมือนกัน ใครก็ท่องได้ แต่จะทำได้มีความขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่จิตของคนทำ ฉะนั้นถ้าถามว่าเชื่อเรื่องคาถาอาคมมั้ย อาตมาเชื่อ แต่เชื่อเรื่องหลวงพ่อท่านทำมั้ย ก็ยังก้ำกึ่งเพราะเราไม่สามารถรู้ในวาระจิตท่านได้ เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็นอจินไตย เราไม่ควรไปดูจิตของคนอื่น เสียเวลามัน มันเปล่าประโยชน์ ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร
สมัคร : ตั้งแต่สมัยหลวงปู่นั่นแหละ พิพิธภัณฑ์ที่วัดมีอยู่ แล้วก็มีไม้ตะพดของหลวงปู่
เก็บไว้ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นสมบัติวัด มรดกตกทอด เอามาให้ชมกันดู?
สมัคร : มันหายไป ผู้ว่าฯ จ.ชัยนาทเป็นคนนำมาคืนให้
เบิ้ม : ผมว่ามีการบูรณะมาบ้าง
สมัคร : เขาพ่นสีใหม่ เดิมทีเป็นไม้
เบิ้ม : ไม้ไผ่เพ็ง ทนเป็นร้อยปีอยู่แล้ว
ลูกศิษย์หลวงปู่ศุขได้ดูที่สำนักสงฆ์เพชรบูรณ์ที่เขามีการโชว์แล้ว เขาทำต่อออกมาแล้ว เชื่อมั้ย?
วิเชียร : เป็นได้สองอย่าง ถ้าจิตของท่านเป็นสมาธิท่านอย่างหลวงปู่ศุขท่านก็อาจทำได้ มันเกี่ยวกับจิต เกี่ยวกับสมาธิ หากสมาธิแน่วแน่ทำอะไรก็ทำได้
ตอบไม่ได้ว่าท่านทำได้จริงหรือเปล่า?
วิเชียร : ตอบไม่ได้
พิสิษฐ์ : คิดเห็นเหมือนลุง คาถาอาคมทุกอย่างสำเร็จอยู่ที่จิต ถ้าฝึกสมถะ สามารถแสดงฤทธิ์อะไรก็ได้อย่างที่ใจต้องการ เสกหัวปลีเป็นกระต่ายก็ได้ เป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เป็นศาสตร์วิชาตามหลักของบรรพบุรุษอยู่แล้ว และฝึกเรื่องการหลุดพ้นด้วย
พี่เชื่อมั้ย?
พิสิษฐ์ : ผมไม่มั่นใจ แต่กรรมวิธีในการทำของเขาไม่เหมือนหลวงปู่ศุข
ไม่น่าจะเป็นคาถาของหลวงปู่ศุข?
วิเชียร : ใช่ มันคนละอย่าง
สมัคร : หลวงปู่เขาไม่ได้อม เขารูดแล้วปล่อย เสกแล้วปล่อย แต่นี่เขาอม มันคนละอย่างกัน
พิสิษฐ์ : วิธีการไม่เหมือนกัน
คาถาที่ดูเมื่อกี้?
วิเชียร : สมุดไม่เหมือนกัน ของเขาดูใหม่ เป็นพับบางๆ