เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ เครียดจนหาจิตแพทย์-หนี้หลายล้าน
รายการโหนกระแสวันที่ 16 ก.ค. 64 "หมวย อริสรา กำธรเจริญ" ดำเนินรายการแทน "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ "เชฟหมี อดิศักดิ์ เรือนราน" เจ้าของร้านริมคลอง คาเฟ่ "บุ๊ง ณัฐกร โอฬารกาญจนนิน" เจ้าของภัตตาคารแวร์ซาย และโรงแรม ร้านอาหารจีนเก่าแก่ "คุณแพน เสาวพร เสนภักดี" เจ้าของร้านหมูทอดร้อยล้าน ต่อเนื่องจากเมื่อวาน และเป็นความตั้งใจของ หนุ่ม กรรชัย ที่อยากช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากโควิด-19
บุ๊ง : ผมเป็นภัตตาคารจัดเลี้ยง ก่อนโควิดเรารับงานเลี้ยงเป็นหลัก หลังเจอโควิดเราก็ไม่สามารถจัดงานเลี้ยงได้อีกเลย เท่ากับตัดรายได้หลักเราเลย แต่เราก็ปรับตัวทำบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ ขายติ่มซำเป็นหลัก ก็พอไปได้ เพราะบุฟเฟ่ต์ต้นทุนค่อนข้างสูง ตัวติ่มซำต้องใช้กุงสด ราคาค่อนข้างสูง ก็พอไปได้ แต่พอระลอกสามที่เพิ่งล็อกดาวน์ ก็หยุดไปเลย (หัวเราะ) ทุกอย่างชะงักหมดเลย เพราะติ่มซำที่เตรียมเอาไว้ ของเราขายดีประมาณศุกร์-เสาร์เราต้องเตรียมของ เพราะลูกค้าจะจองเข้ามา เรามีขายคูปองด้วยให้ลูกค้ามานั่งทานล่วงหน้า แต่พอโควิดรอบสามมาทุกอย่างชะงักหมดเลย ต้องรับแต่ของห่ออย่างเดียว ซึ่งของห่อก็ประปราย อย่างเป็ดปักกิ่งถ้าทานไม่พร้อน เนื้อมันจะไม่กรอบ หรืออย่างติ่มซำถ้าไม่ร้อนลูกค้าคงไม่มีที่นึ่งเพื่อไปทำอุ่นร้อนได้ เราก็พยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ
ภัตตาคารจัดเลี้ยงก่อนหน้านี้ขายดี ทราบว่ามีหลายสาขา แต่บางสาขาปิดไปแล้ว?
บุ๊ง : ที่รามปิดไปแล้ว ก็มีที่จรัญฯ เป็นสาขาแรก มีที่นนทบุรีอยู่เชิงสะพานพระนั่งเกล้า ตอนจัดเลี้ยงมีรายได้เป็นหลักล้าน ตอนนี้รายได้แทบไม่ถึงแสน แสนนิดๆ ก่อนโควิดมีลูกน้องประมาณ 20 กว่าคน แต่พอหลังโควิดร้านปิด รับแต่เดลิเวอรี่อย่างเดียว ก็แล้วแต่สมัครใจ เรามีที่อยู่ที่กินให้ สลับเวลาทำงาน ลดเวลาทำงาน รายได้เขาก็จะลดลง เหลือ 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เราก็มีที่อยู่ที่กินให้ และต้องฟังมาตรการรัฐต่อไป เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
เชฟหมี : ช่วงหลังตลาดรังสิต ตอนนี้ล็อกดาวน์ห้ามนั่งทานที่ร้านก็เดือดร้อนมาก ปกติที่ร้านเป็นรูปแบบคาเฟ่ เราก็จัดร้านให้ลูกค้ามาเช็กอินถ่ายรูปสั่งอาหารเครื่องดื่ม แต่พอมีมาตรการห้ามนั่งทานในร้าน เขาก็มานั่งทานในร้านไม่ได้ เขาก็เลือกไม่มา รายได้เราก็หายแน่นอน
ปกติรายได้เท่าไหร่?
เชฟหมี : ก่อนล็อกดาวน์ผมโชคดีเคยไปออกรายการนึง ขายดีอยู่ประมาณ 4-5 วัน รายได้ตอนนั้นประมาณวันนึง 2 หมื่น พอตอนนี้ เมื่อวานขายได้ 700 กว่าบาท เราก็ต้องอยู่ เพราะที่เปิดตอนนี้เรามีลูกน้อง 4-5 คนต้องดูแล ให้มาช่วยงานที่ร้านอยู่ ตอนล็อกดาวน์วันแรก ผมซื้อของมาที่ร้านแล้ว เตรียมจะขายแล้วเพราะตอนนั้นขายดี พอประกาศว่าเปิดไม่ได้ ผมก็คุยกับที่บ้านว่าของที่ซื้อมา ไม่รู้จะขายหมดเมื่อไหร่ก็เลยเอาไปบริจาคกัน เลยเป็นจุดเริ่มต้นครับ มีเพื่อนๆ ลูกค้ามาช่วยกัน เลยไปได้บ่อยๆ ครับ
หมูทอดร้อยล้านเป็นยังไงบ้าง?
แพน : ร้านอยู่ลาดพร้าว 101 อยู่ตรงกลางระหว่างซอย 3 กับซอย 5 ขายหมูทอด มีเมนูหมูทอด หมูสามชั้น แดดเดียว เมนูต้มและส้มตำค่ะ
ได้รับผลกระทบยังไงบ้าง?
แพน : ได้รับผลกระทบมากถึงมากที่สุดค่ะ ปกติแล้วทางร้านเคยขายได้วันละหมื่นถึงหมื่นห้าก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กว่าจะได้พันก็ยากลำบาก ช่วงนี้ดีขึ้นเพราะเราทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ก็ไม่เกิน 2 พันต่อวัน แล้วก็มีลูกน้อง อย่างค่าไฟก็ค้างมา 3 เดือน ตกไปน่าจะ 2 หมื่นกว่าบาท ที่ร้านเราก็เช่า ตอนแรกนั่งคุยกับหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนว่าเราแก้ปัญหากันก่อน เราไปคุยกับเจ้าของที่ ปกติ 1.8 หมื่น เจ้าของที่ลดให้ 1.5 หมื่น พอประกาศล็อกดาวน์อีกรอบเราจะทำยังไงกันต่อ เพราะก่อนหน้านั้นเราทำแล้วได้กำไร มีเก็บเราก็มาลงทุนทำร้านกาแฟในร้าน แล้วเราก็ไปกู้เงินมาของธนาคารแห่งนึง พอเป็นแบบนี้เราจะเอาเงินที่ไหนส่งเขา เพราะมันไม่รันไปต่อ แต่วันที่ 10 เราทำข้าวกล่องแจกอยู่หน้าร้าน 200 กล่อง คนในซอยก็น่าจะลำบาก บางคนก็มาไม่ทัน ที่ระเบิดกิ่งแก้วก็ไป 2 วัน ไปช่วยกับแก๊งเพื่อน ทำข้าวกล่องไปให้ค่ะ
แพน : ก็คิดหลายทาง เป็นคนต่างจังหวัดต้องเช่าบ้านอยู่ด้วย มันก็มีปัญหาหลายทาง ก็พยายามทำตัวนี้ออกมา เป็นหมูแดดเดียวที่สามารถส่งได้ทั่วประเทศ แพนไปอุดหนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นที่บ้านเอามาทำด้วย ก็ขายได้บ้าง เราก็โปรโมตไปแต่คู่แข่งเราก็มี มีแจ่วบอง น้ำยำตำเหลาเอาไปคลุกกับขนมจีนหรือปลาหมึกหมูได้ เพราะมันครบรสแล้ว ไม่ต้องเพิ่มอะไร
ที่กู้มาเพื่อต่อสัญญาร้าน?
แพน : สัญญาร้านเพิ่งเซ็นไป พอประกาศล็อกดาวน์ปุ๊บ เจ้าของที่โทรมาเลยว่าแพนหมดสัญญาแล้วต้องต่อนะ แพนเลยตัดสินใจคุยกับเจ้าของร้าน ถ้าจะ 2.5 หมื่นแพนไม่มีปัญญา แต่อยากทำธุรกิจต่อก็ต้องต่อ ทั้งชีวิตเราลงอันนี้แล้ว เราไม่ได้ทำงานประจำแล้ว เราลาออกจากงานเพื่อสิ่งนี้ ก็เป็นความฝันอย่างหนึ่ง ยังไงก็ต้องสู้ แต่ก็ต้องรอทางรัฐบาลว่าจะช่วยผู้ประกอบการอย่างเรายังไงบ้าง แล้วเป็นกระบอกเสียงให้เพื่อนด้วย เพราะแก๊งเพื่อนแพนขายของที่เลียบด่วนฯ แล้วเขาไม่ได้ไปขายของเลย ณ ตอนนี้ทุกคนเป็นหนี้เหมือนกันหมด ไม่รู้จะไปยังไง
คุณบุ๊งมีปัญหาเรื่องหนี้สิน?
บุ๊ง : มีหนี้ก้อนใหญ่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไปกู้แบงก์มาสร้างโรงแรมอยู่ในเนื้อที่เดียวกันที่นนทบุรี เพื่อเกื้อหนุนภัตตาคารจัดเลี้ยง จัดสัมนาได้ หนี้ก้อนนี้ใช้มาได้ครึ่งทางแล้วแต่พอเกิดโควิดปุ๊บมันไม่สามารถใช้ต่อได้ แบงก์บอกให้หยุดพักชำระได้แต่ดอกเบี้ยเขาก็คิดอยู่ทุกวัน ทุกเดือน จนปีนึงดอกเบี้ยทบไปประมาณล้านกว่าบาท ทุกวันนี้ก็พยายามทำทุกอย่าง ปลูกกระเพราเอง ปลูกแตงกวา ปลูกถั่วฝักยาวเพื่อใช้ในร้านให้ลูกน้องได้ทานกันอยู่ ที่โรงแรมจากมีลูกน้อง 10 คนก็เหลือ 4 คน ต้องมีแม่บ้านทำความสะอาด จากเปิด 24 ชม.ก็ลดลงเหลือ 6 โมงเย็นก็ปิดแล้ว เพราะเปิดไปก็ไม่มีคนมาพัก หนี้สินเงินต้นพัก แต่ดอกเบี้ยมันเดินถึงแม้ไม่ได้จ่ายมันก็ทบอยู่ หลายล้าน
บุ๊ง : ก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน คงต้องแก้ปัญหาไปทีละเปราะ คงต้องคุยกับแบงก์ ดูสถานการณ์ต่อไปด้วย มาตรการที่เขาออกมาพักหนี้เคยไปคุยแต่เนื่องจากสินทรัพย์ของผมมูลค่ามากกว่าหนี้สินพอสมควร ถ้าผมโอนที่ไปให้เขาผมก็แย่สิ ผมก็ไม่คุ้มเลย ตรงนั้นคงช่วยอะไรไม่ได้
นอกจากทำภัตตาคารทำเป็นโรงแรมด้วย กี่ห้อง?
บุ๊ง : 90 ห้อง ตอนนี้เหลือห้องพักประมาณ 4 ห้อง เป็นรายเดือน 4 ห้อง รายวันแทบไม่มีเลย เป็นแบบนี้มาหลังจากล็อกดาวน์ ก่อนหน้านั้นยังมีบางวันมี 10-15 ห้อง บางวันก็ 3 ห้อง ก็มีก๊อกแก๊กไปเรื่อยๆ แต่พอรอบสามเงียบสนิท แทบจะไม่มีแอ็กติวิตี้อะไรเลย
อีก 86 ห้องเอาไว้ทำอะไร?
บุ๊ง : ปิดอย่างเดียวเลย เลยคิดว่าไหนๆ ปิดอยู่แล้ว เห็นวันก่อนคุณสรยุทธแจ้งว่าจะมีโฮม ไอโซเลชั่น ก็อาจยกให้ทำไปซะเลย เพราะปิดไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่ไม่ทราบต้องมีหลักเกณฑ์อะไร เคยติดต่อไปรพ.จะทำฮอสพิเทล แต่ติดต่อไปก็ยังเงียบอยู่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตั้งใจให้เป็นที่พักคอย ติดต่อผู้ว่าฯ นนทบุรี ท่านยินดีรับโรงแรมคุณบุ๊งเป็นจุดพักคอย ช่วยเหลือผู้ป่วยนนทบุรี เพื่อส่งต่อไปรพ. ถ้าอาการไม่เยอะก็รักษาที่นี่ ตอนนี้ผู้ว่าฯ ตกลงแล้ว?
บุ๊ง : ยินดีเลยครับ
เชฟหมี : ปกติผมเป็นเจ้าของกิจการและพนักงานบริษัทด้วย ผมมีงานประจำทำร้านเหล้า โดนปิดไปก่อนใคร ทีนี้รายได้หลักของเราหมดแล้ว เราเหลือร้านอาหารของครอบครัวที่ทำกันอยู่ ตรงนี้กลายเป็นรายได้หลักของครอบครัว พอเจอวิกฤตตรงนี้ ช่วงเครียดมากๆ ผมถึงกับต้องปรึกษาจิตแพทย์ มันเครียดมาก เป็นคนคิดมากอยู่แล้วด้วย บางวันจอดรถหน้าบ้านไม่เข้าบ้าน เครียดมาก ไม่ได้ระบายบอกใคร ถามว่าแย่สุดถึงขนาดไหน ผมเป็นคนคิดมาก ซีเรียสกับชีวิต พอเจอปัญหาหนักๆ เข้า พอร้านที่ทำงานให้เจ้านาย ร้านเรามีลูกน้องประมาณ 50 คน เราคิดว่าจะดูแลลูกน้องยังไง เจ้านายดูแลเราได้ดี ระดับนึง ถือว่าดี แต่เราก็คิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะอยู่ยังไง เจ้านายเราจะไหวมั้ย ร้านเราเองเราก็ต้องดู เราจะดูแลร้านที่เป็นรายได้หลักของเราได้อีกนานแค่ไหน ผมว่าหลายๆ คนเป็น เหมือนนั่งอยู่ในห้องมืด เราไม่รู้จะไปทางไหน เราไม่สามารถวางแผนงานได้เลย เรารู้แค่ว่าตื่นเช้ามาเจอข่าวนี้ต้องทำยังไง จะโดนปิดมั้ย มันเครียด ตอนนี้การได้ออกไปเจอผู้คนข้างนอก ไปบริจาคของ ทำให้เราเห็นว่ามีคนลำบากมากกว่าเรา เราได้ไปเห็นครับ มันก็เป็นพลังให้สู้ต่อ
คุณแพน ตอนหนักที่สุดเป็นอย่างไร?
แพน : คุยกับหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนสนิทว่าหนี้สินที่เราต้องจ่าย ต้องทำยังไง เวลาแม่กับทางบ้านโทรมาเป็นไงบ้างลูก เราบอกว่าเราขายดีมากเลย เราไม่บอกความจริงหนึ่งเขาส่งเราเรียนมาจนจบ (ร้องไห้) เราอยากเลี้ยงเขา เราส่งเงินไปให้ตลอด พอมาถึงจุดนี้จะทำยังไง แถมมีหนี้ด้วย ถ้าหนูตายไปใครจะมาใช้หนี้ตรงนี้ คิดถึงขนาดนั้นเลยค่ะกับเพื่อน เราอายุแค่นี้เรามีความฝัน อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราสร้างมันขึ้นมาได้แล้ว แต่จะมาหยุดแค่นี้เหรอ (เสียงสั่นเครือ) ก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี จะบอกว่าแม่ช่วยหนูหน่อยก็ไม่ใช่ เราโตขนาดนี้เราควรเลี้ยงเขาได้แล้ว เราอยากสู้ต่อนะคะแต่ไม่รู้จะสู้ไปถึงขนาดไหน ถ้ายังไม่มีนโยบายช่วยจริงๆ จังๆ อย่างวัคซีนตอนนี้แพนและเพื่อนในกลุ่มไม่ได้ฉีดสักคนเลย ก็ไม่รู้จะพูดคำไหนเหมือนกัน อยากให้มีมาตรการ ถ้าวัคซีนจะมาภายใน 2-3 เดือนเรายังมีวิถีทางสู้ต่อไป ว่าเราจะวางแผนกันไปยังไง
แพน : ในใจเคยคิดจะเลิก แต่ถ้าเลิกเราจะเอาเงินไหนใช้หนี้
พี่หนุ่มต้องการช่วยเหลือร้านอาการผู้ประกอบการที่เดือดร้อน สามร้านที่มาออกรายการเมื่อวานนี้ดีใจมาก เพราะหลังออกรายการ โทรศัพท์เข้ามาเยอะ อย่างร้านเซฟโอ๊ต มิสคอลไป 47 สาย ตอนนี้กำลังทำน้ำพริกส่งให้ลูกค้า คุณลงสมศักดิ์ ร้านต้นหูกวางบอกว่าไม่เคยได้ออเดอร์เยอะขนาดนี้มาก่อน 300 กล่องในวันนี้ ต้องขอบคุณแฟนๆ รายการโหนกระแสที่สนับสนุนทั้งสามร้าน คุณปูมีคลิปมาฝากคุณผู้ชมด้วย บอกว่าได้ต่อชีวิตอีกครั้ง ลูกค้าช่วยสั่งน้ำพริก ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือ และขอบคุณทางพี่หนุ่มและทีมงาน คนโทรเข้ามาเยอะมาก ต้องขอบคุณจากใจ ส่วนร้านผัดไทหอยทอดก็ขายดี ยังอุดหนุนกันได้ กลับมาที่สามร้าน ความเดือดร้อนแสนสาหัสจริงๆ ถึงขนาดเชฟหมีกอดคอภรรยาร้องไห้ ถ้าจากนี้ไปมันไม่ดีขึ้นจะทำยังไง?
เชฟหมี : ถ้าพูดตอนนี้ ผมไม่ได้มองถึงสิ้นปีนะครับ ถ้าไม่ดีขึ้นอีก 2 เดือนข้างหน้า ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ดีขึ้น ไม่มีนโยบายให้ร้านอาหารที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ไหวครับ เราคงไปไม่ไหว แต่ในความที่ไม่ไหวตอนนี้ผมปรับร้านจากคาเฟ่เป็นร้านอาหารตามสั่งไปแล้ว ขายในราคาที่ลดลงมา ขายอาหารกล่องในราคาที่ลดลงมา ลูกค้าก็ยังพอไปได้บ้าง แต่ลุ้นกันเป็นวันๆ ลูกค้าที่จะวอล์กอินมาหน้าร้านน้อยมาก แทบไม่มี เพราะเขาตั้งใจมาถ่ายรูป พอไม่มีให้นั่งก็ไม่ได้ ตอนนี้มีลูกค้าประจำในละแวกรังสิตโทรสั่ง และไปส่งเดลิเวอรี่บ้าง หรือถ้าละแวกใกล้ๆ ร้านยังขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งได้บ้าง ยอดวันนึงก็ 500-700
รายได้มันหายไปเยอะมาก จนบางวันรับไม่ได้ เพราะเราต้องให้ลูกน้อง เราต้องดูแล ก็คุยกันว่าวันที่ได้น้อยก็ให้ลดไปครึ่งนึง เพราะผมจ่ายลูกน้องให้เป็นรายสัปดาห์ ตอนนี้มาว่ากันเป็นวัน ก็บอกน้องไว้ว่า มาที่ร้านมีข้าวกินแน่นอน และให้เอากลับบ้านไปให้ครอบครัวด้วย
เชฟหมี : เหมือนกะทันหัน เราซื้อของไปแล้ว ได้รับคำสั่งตอนกลางคืน เช้ามาทำยังไง ของมากองอยู่แล้ว เราไปตลาดเป็นวันๆ มันเหมือนอัดอั้นกันมาเรื่อยๆ แฟนปกติไม่ค่อยคุยกันเรื่องร้านเพราะผมปล่อยให้เขาดูแลร้านริมคลองไป ผมก็ทำงานไป พอถึงเวลาทำงานร่วมกันมันกดดันเยอะ คุยกันว่าถ้าไม่ไหว ตอนนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าถ้าไม่ไหวต้องทำยังไง มันไม่มีทางไป
คุณบุ๊ง หลายคนมองว่าภัตตาคารเปิดมานาน 40 กว่าปี น่าจะมีรายได้ มีเงินเก็บพอสมควร?
บุ๊ง : มันลากยาวมา 2 ปีแล้ว ทุกเดือนผมก็ต้องมีค่าใช้จ่าย อย่างค่าไฟที่ภาครัฐช่วยเหลือผมก็ไม่ได้เลย เพราะผมมีหม้อแปลงของตัวเอง เป็นผู้ประกอบการ ค่าไฟชาร์ตขั้นต่ำต้องมี 2 หมื่นกว่าบาทสตาร์ท เดือนนี้ค่าไฟต้องมี 5 หมื่นแน่นอน ทั้งของโรงแรมและภัตตาคาร 5 หมื่นคือขั้นต่ำ ยังไม่รู้เหมือนกันจะทำยังไง ต้องคิดเป็นวันต่อวันไป บางวันมีออเดอร์ บางวันไม่มี ต้องดูเป็นวันต่อวันไป เราคุยเหมือนกันว่าถ้าไม่ดีขึ้น เราจะขายกิจการทิ้งไปเลย แต่เข้าใจว่าช่วงนี้คงไม่มีใครมาซื้อ แต่เรียนตามตรงว่าไม่มีทางออกเหมือนกัน ไม่รู้จะทำยังไง อย่างเรื่องประกันสังคม ลูกน้องผมก็มีพม่า ตอนแรกที่ฟังพม่าจะได้ด้วย 50 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ที่ส่ง แต่ตอนนี้พม่าไม่ได้แล้ว ก็สงสารเขาเหมือนกัน ตอนแรกว่าจะไปประกันสังคมขอถามให้เคลียร์ว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงจะได้หรือไม่ได้ มาตรการมันคลุมเครือ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้เรางงเหมือนกัน เราทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ติดต่อประกันสังคมไม่ง่าย?
บุ๊ง : ไม่ง่ายเลย สายก็ลำบาก โทรติดเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอคำสั่ง พูดง่ายๆ เขาก็ไม่ทราบเหมือนกัน เราก็ไม่รู้จะไปคาดคั้นอะไรจากเขา เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
บุ๊ง : ก็บอกขายแล้วแหละ แต่ช่วงนี้คงไม่มีคนซื้อหรอก คงหายาก
ร้านคุณแพนอยู่ที่ไหน อะไรอร่อย บอกได้เลย?
แพน : อยู่ลาดพร้าว 101 ระหว่างตรงกลางซอย 3 กับซอย 5 อร่อยทุกเมนู มีหมูสามชั้น สันคอ แดดเดียว ที่ส่งได้ทั่วประเทศมีหมูแดดเดียว มีแจ่วบอง น้ำยำขวดละ 120 ส่วนอันนี้กระปุกละ 99 บาท และรับทำข้าวกล่องด้วยค่ะ
ร้านเชฟหมี?
เชฟหมี : ร้านริมคลองคาเฟ่อยู่หลังตลาดรังสิต ตอนนี้รับทำอาหารกล่องเพื่อบริจาค เราขาย 79 บาทก็เหลือ 50 บาท ไม่มีขั้นต่ำสั่งเท่าไหร่ก็ได้ ลูกค้าสามารถบอกได้ว่าให้ไปส่งที่ไหน เมนูที่ขายที่ร้านเรียกว่าเป็นเมนูอาหารตามสั่งเลย ข้าวผัด กะเพรา สุกี้ สปาเก็ตตี้ พิซซ่า น้ำดื่ม กาแฟ น้ำชงก็ขายอยู่ปกติ วันนี้คือข้าวผัดริมคลองเหมือนข้าวผัดโบราณ สุกี้ น้ำสุกี้สูตรคุณแม่ สปาเก็ตตี้หมู ข้าวผัดรถไฟ เมนูเด็ดที่ยกมาประมาณนี้เลย ที่ขายดี ลูกค้าชอบสั่ง
ของคุณบุ๊ง ?
บุ๊ง : ติ่มซำ 10 เข่ง 399 จาก 600 บาท และสามารถแลกซื้อเป็ดได้อีกในราคา 599 ปกติตัวเป็ด 600 แต่ทำได้สองอย่างก็เป็น 800 แต่วันนี้แค่ 599
เชฟหมี : อยากให้เร็วที่สุด อยากให้คลี่คลายเร็วที่สุด อยากให้ช่วยเหลือ ตอนนี้ทุกคนรอความหวัง
บุ๊ง : เข้าใจว่าคนลำบากกว่าเราก็เยอะ แต่อยากให้มาตรการชัดเจน ตกลงจะเอายังไง เราจะได้มองทางออกว่าไปทางไหน ถ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง วันๆ ดูข่าวแล้วเศร้าใจไม่รู้จะทำยังไง
ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป จะยังมีน้ำใจแบ่งปันอีกมั้ย?
เชฟหมี : เราช่วยได้เท่าที่เราช่วย เราไหวแค่ไหนก็ไป ยังอยากช่วยอยู่
แพน : คุยกับกลุ่มแก๊งเพื่อน ถ้าเลิกล็อกดาวน์จะมีการทำข้าวแจกอีก เพราะมีหลายสินค้า บางคนมาฝากขายที่ร้าน เราให้สถานที่เพื่อนไลฟ์สดขาย มีขนม หนังไก่ ผู้ประกอบหลายร้านก็ให้มาฝากวางขายได้ ก็เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ
บุ๊ง : อยากให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน อยากให้อดทน ช่วงนื้ทุกคนลำบากหมด มากน้อยก็ลำบาก ไม่มีใครไม่ลำบาก เราก็ต้องดูแลตัวเราเองและคนรอบข้างให้โอเคก่อน ถ้าเราเหลือเราพร้อมดูแลคนข้างนอกด้วย เราต้องช่วยกัน ตอนนี้อยากให้ส่วนรวมมองถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ทุกคนจะได้รอดไปด้วยกัน
VV
V