ทนายเดชาเปิดใจกราบลาลูกความ หลุดชื่อแม่จ่อฟ้องทนายดัง
เดชา : เราไปเห็นภาพศพ ไปฟังคำชี้แจงจาก ตร. เยอะแยะไปหมดถ้าจำไม่ผิด 16 คน ตั้งแต่ผู้บัญชาการ ผู้การสืบ พนักงานสอบสวน หมอนิติเวช หลักฐานมันเป็นอย่างนั้น ฟันไม่หัก เราเห็นอย่างนั้นเราก็พูดว่าฟันไม่หัก หัวต่างๆ ไม่มีรอยทุบ ก้านสมองไม่มีปัญหา คอไม่ถูกรัด หน้าไม่มีอะไรต่างๆ มันเห็นอย่างนั้นก็พูดอย่างนั้น ไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ว่ามันไม่ตรงใจคนบางคน ไม่ตรงใจหมอผ่าศพบางคน ไม่ตรงใจคนนั้นคนนี้ ซึ่งเขาเป็นคนมีต้นทุนทางสังคม
การพูดแบบนี้ทำให้หลายคนมองว่าทำไมต้องไปแตะคนอื่น ทำไมต้องไปแตะคุณหมอ คนนั้น คนนี้?
เดชา : ผมแถลงไปเสร็จแล้ว ก็มีหมอผ่าศพผู้หญิงสวนเลย มีกู้ภัย มีอะไรต่างๆ สวนมา ผมไม่ได้พูดถึงใครเลย ไปกรอเทปดู ผมบอกว่าผมขึ้นไปประชุมกับผู้การภาค 1 ตร.ทั้งหมด และหมอนิติเวชทั้งหมด ซึ่งเขาเป็นหมอที่ทำการผ่าศพ เห็นอะไรผมก็ลงมาเล่าให้ฟัง ตอนแรก ตร.เขาจะแถลง แต่เขาแถลงไม่ได้ มันเป็นความลับทั้งหมด ก็เหลือแต่ทางผู้เสียหายคือคุณแม่แตงโม คุณแม่ก็ไม่ถนัดในการแถลง ก็มอบหมายผม ทนายกฤษณะก็นั่งคู่ ผมก็แถลงในสิ่งที่ผมเห็นมาแค่นั้น
ตอนนั้นพี่กับคุณแม่มองไปทิศทางเดียวกันคือประมาท?
เดชา : เราไปดูพยานหลักฐาน คุยกับผู้บัญชาการ พนักงานสอบสวน สืบสวน เราคุยหมดใช้เวลาคุย 3 ชม.นะ ไม่ได้คุย 5 นาที ไปถามท่านผู้บัญชาการ ไปถามท่านผู้การนนท์สิว่าผมได้ตั้งคำถามไปทั้งหมดเท่าไหร่ เขาบันทึกเสียง บันทึกภาพไว้ หลายคนบอกทนายเดชาไม่ทำงาน ถามท่านผู้บัญชาการภาค 1 ว่าทนายเดชาได้ตั้งคำถามทางคดี เพื่ออุดช่องว่างคดีกี่คำถาม เยอะมาก ถามจนมีปัญหากับพนักงานสอบสวน
พี่ไล่ซัดเขาเหรอ?
เดชา : ทุกประเด็นที่สงสัยทั้งหมด เขามีบันทึกภาพบันทึกเสียงไว้
พี่ไล่บี้ ตร.?
เดชา : แน่นอน ตั้งข้อหาประมาท ผมก็ตั้งคำถามซักค้านหมด ตั้งประเด็นเยอะแยะ ไปถามท่านผู้บัญชาการดู
ตอนนั้นแม่เข้าใจ?
เดชา : ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ผมก็ยังบอกคุณแม่มีอะไรสงสัยก็ให้ถาม ทนายกฤษณะมีอะไรก็ถาม นั่งกันอยู่ทั้งหมด
อะไรทำให้แม่ส่งมือถือให้บังแจ็ค?
เดชา : ตอบตรงๆ เอาเรื่องจริงนะ หนึ่ง สิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่ โทรศัพท์มือถือเป็นพยานวัตถุ เสร็จสิ้นกระบวนการดูดข้อมูลอะไรต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ไปขอคืนจากพนักงานสอบสวน น่าจะวันที่ 13 พ.ค.เดือนนี้ คุณแม่ไปดำเนินการด้วยตนเอง ไม่ได้มาปรึกษาทนายความ
ไม่รู้มาก่อนว่าแม่ส่ง?
เดชา : ไม่ทราบเรื่องส่งและไม่ทราบเรื่องลับ ตอนส่งโทรศัพท์ให้พนักงานสอบสวน ผมยังไม่ได้เป็นทนายเลย ตอนคุณแม่รับโทรศัพท์จากพนักงานสอบสวน แล้วไปส่งให้บังแจ็คหรือไม่ ผมไม่ทราบ ผมทราบเมื่อวานนี้ ผมเลยแถลงข่าวไง
ก่อนหน้านี้กระติกส่งให้คุณแม่ และคุณแม่ส่งให้ ตร. ช่วงแรกกระติกถือโทรศัพท์อยู่ และกลับไปบ้านแตงโม ถ้ากระติกลบไป ดึงข้อมูลกลับมาได้มั้ย?
เดชา : คือการดูดข้อมูลหลายคนก็พูดไปเรื่อย บางคนอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมถามผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว การดูดข้อมูลสามารถดูดได้ถึงสองชั้น บางครั้งดูดชั้นเดียวไม่ขึ้น สองชั้น โดยเฉพาะคดียาเสพติดมีการดูดถึงสองชั้น
พี่แต้ม ถ้าเกิดโทรศัพท์เครื่องนี้ถูกลบข้อมูลวันแตงโมตกน้ำ วันที่ 24 ก.พ. หลังจากนั้นกระติกเอาโทรศัพท์ส่งคืนให้แม่ แม่ส่งให้ ตร. ข้อมูลที่ถูกลบไปก่อน สามารถกู้ได้มั้ย?
รองแต้ม : ดึงออกมาได้ ผมเชื่อว่าหลักฐานในโทรศัพท์น้องแตงโม ตร.เขาทำไว้หมดแล้ว แต่ที่ทำเอามา คุณแม่ไปขอมามั้ย หรือใครรู้บ้างมั้ย ทีนี้คนไม่รู้ก็วิพากษ์วิจารณ์ ผมคิดในทางที่ดีว่าแม่อาจคิดว่าเขาอยากรู้ข้อมูล ในเมื่อเขาอยากรู้ข้อมูลเขาจะไปปรึกษาใคร ปรึกษาแอปเปิ้ล จะเป็นข่าวรั่วมั้ย เขาเลยไปให้บังแจ็ค ทีนี้การเอาโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ด้วยความอยากรู้จริงหรือให้เพื่ออะไร อย่างที่บางคนบอกมีผลประโยชน์ นั่นก็อีกมุมนึง แต่ถามว่ามีความจำเป็นมั้ยที่ต้องเอาภาพตรงนี้มา ถ้าคุณอยากรู้ คุณถาม ตร.ได้ เพราะเชื่อว่า ตร.บอกคุณหมด เขาจะมาเพิ่มแต่ง เพิ่มภาพ เพิ่มอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าทำอย่างนี้ได้ก็จบแล้ว
หลังแม่ส่งไปให้บังแจ็คแล้ว ได้บอกพี่เดชามั้ย?
เดชา : ผมไม่เคยทราบเลย
แล้วทำไมพี่ถึงทราบ?
เดชา : มันมีข่าวแม่ไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าโทรศัพท์อยู่กับทนายเดชา ซึ่งมันไม่เป็นความจริง ก็รู้สึกตกใจนิดหน่อยว่าทำไมลูกความเราเล่นเราซะแล้ว ทำไมโยนเรื่องโทรศัพท์มาอยู่กับเรา ทั้งที่มันไม่ได้อยู่กับเรา
โยนขี้มาให้?
เดชา : จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เราก็รู้สึกแปลกๆ แต่เข้าใจนะได้คุยกับคุณแม่ ท่านก็ต้องการเอาตัวรอด เพราะเป็นข่าวขึ้นมาท่านก็ต้องการเอาตัวรอด ผมไม่ได้โกรธคุณแม่ประเด็นนี้ แต่คนจะมาด่าผม ปัจจุบันทัวร์ก็เยอะอยู่แล้ว พอเอาโทรศัพท์มามีปล่อยภาพแตงโมที่ไม่เหมาะสม ทัวร์ก็ยิ่งมากขึ้น ผมก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ มันก็หนักขึ้นๆ ตั้งแต่เช้าถึงเย็นรับแต่โทรศัพท์ผู้สื่อข่าว คอมเมนต์ก็มีแต่ด่า สาปแช่ง ชาติชั่ว เลวทราม ซึ่งเราไม่ได้ทำไง ลูกความไปให้สัมภาษณ์สื่อบอกอยู่กับเรา เมื่อวานตอนบ่ายก็เลยตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามคุณแม่ คุณแม่ก็เลยยอมรับว่าได้ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คไปแล้ว ผมก็เลยขออนุญาตแถลงข่าว แกก็เล่ารายละเอียดเลย ส่งทางไปรษณีย์เสียค่าส่ง 2 พันกว่าบาท วัตถุประสงค์ต้องการกู้ภาพกู้คลิป ซึ่งมีพยานหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม ผมก็แถลงข่าวไป เพราะคนด่าผมเยอะ การแถลงข่าวก็หมายถึงว่าผมสุดจะทนแล้ว ทุกวันนี้ก็โดนด่าอยู่แล้ว เป็นเรื่องไม่จริงอยู่กับเรา ใครจะทนได้ เราก็ต้องแถลงความจริง คุณแม่ก็อนุญาต ก็เลยแถลงและพูดเต็มที่เลย
อยู่ดีๆ เมื่อเช้าเหมือนฟ้าผ่า?
เดชา : เมื่อคืนนี้ไปออกรายการไทยรัฐนิวโชว์ ออกเสร็จนั่งคุยกับทางผู้สื่อข่าวตั้งนาน ดึกเลย โทรไลน์คุยกับคุณแม่ตั้งนาน ไม่มีอะไร เมื่อคืนก็คุยกันเพราะคุณแม่เริ่มมีที่ปรึกษาเยอะ บังแจ็คเอย ส.ส.เต้เอย คนของคุณหมอผู้หญิง ผมจะถอนตัวดีมั้ย บอกตั้งแต่เมื่อคืนนี้
เดชา : ผมเห็นอันแรกก่อน ไม่รู้ใครส่ง ผมก็ไม่รู้เรื่อง ผมโทรถามคุณแม่ก่อนมารายการ ตกลงปลดผมหรือเปล่า ไม่ได้ปลด ให้ผมรับผิดชอบคดีที่กำลังทำอยู่ถึงชั้นอัยการ ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าชั้นอัยการจบ ยังไม่ได้ถอนเลย แต่ผมได้คุยกับคุณแม่แล้ว ผมขอถอนตัว
พี่ขอถอนเอง?
เดชา : ถอน ผมบอกงี้ มีนักการเมืองคนนึงไปโพสต์แบบนี้ หมายความว่ายังไง เขาบอกนายมงคลกิตติ์กับพวกไปแนะนำคล้ายๆ ว่าจะไปดำเนินคดีเป็นคดีฆาตกรรม อาจารย์เดชาไม่ได้เห็นด้วย เห็นตามพนักงานสอบสวน อัยการจะฟ้องคดีประมาทให้ถึงแก่ความตาย จะฟ้องมั้ยฆาตกรรม ผมบอกว่าผมไม่เอา ผมไม่เห็นด้วย เอาอย่างนี้ดีมั้ย ผมขออนุญาตถอนตัว แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไปกินข้าวไปดื่มไวน์กันได้เหมือนเดิมทุกอย่าง
พี่โกรธ ไม่พอใจอะไรหรือเปล่าถึงขอถอน?
เดชา : ไม่มีหรอก ผมก็ยังเป็นห่วง ความเห็นมันไม่ตรงกัน อันดับแรก
พี่บอกมี 3 ข้อขอถอนจากคุณแม่ หนึ่งคือพี่มองว่าเป็นประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่คุณแม่ตอนแรกเห็นทางนี้เหมือนกัน แต่ตอนหลังไม่ใช่แล้ว มองเป็นฆาตกรรม?
เดชา : ก็ไปเชื่อทาง ส.ส.เต้ คุณหมอพรทิพย์ คุณอัจฉริยะ เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ เชื่อบังแจ็ค เขาพูดอย่างนี้หมดเลย
ข้อหนึ่งคิดเห็นต่างกัน?
เดชา : ต่างกันร้ายแรง แล้วต่อไปทำคดีคุณแม่เสียหาย ผมก็ขออนุญาตกราบลาพระมารดา ขอกราบลาพระมารดา นี่คือเหตุผลแรก
เขาอนุญาตเลยมั้ย?
เดชา : คุณแม่ก็บอกว่าแล้วแต่เรา
เขาพูดมั้ยว่าแม่กำลังจะบอกพอดี?
เดชา : ไม่มี เขาไม่กล้าทำกับผมแบบนั้นหรอก อย่าลืมนะผมยังมีประโยชน์กับคุณแม่หลายเรื่องนะ รู้รายละเอียดเยอะแยะ ช่วยเหลือมานาน
กำความลับไว้เยอะเหรอ?
เดชา : ผมไม่ใช่พวกแบล๊กเมล์นะครับ ผมไม่ใช่พวกบัง คนละอย่าง บังไหนไม่รู้ ผมก็ถามแม่ไปเลยว่าแม่จะฟ้องผมหรือเปล่า เห็นมีนักการเมืองไปโพสต์ว่าจะฟ้องผม ผมทำอะไรให้แม่เสียหาย ไม่มี นี่คือเรื่องแรก
เรื่องที่สอง?
เดชา : คือเรื่องใหญ่เลย เรื่องโทรศัพท์มือถือแตงโมส่งให้บังแจ็ค และข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการปล่อยภาพลับต่างๆ ของแตงโม
แต่บังแจ็คเขาบอกว่าเขาไม่ได้ปล่อย แค่ให้กระติกเห็นเฉยๆ?
เดชา : เขายอมรับแล้วนี่ ไม่ว่าช่องไหนเขาก็ยอมรับแล้ว เขาเปิดให้ดู แต่ไม่ได้ออกสื่อมวลชน
รองแต้ม : การนำภาพผู้อื่นไปปล่อยทำให้เกิดความเสียหายมันก็ผิดแล้ว ให้คนใดคนหนึ่งดูก็ผิดอยู่แล้ว แค่เป็นบุคคลที่สามก็ผิด เพราะเขาไม่ได้ยินยอม
อันนี้พี่รับไม่ได้เพราะ?
เดชา : เป็นเรื่องร้ายแรง
เขาบอกว่าทำไปเพราะอยากช่วยคุณแม่?
เดชา : ผมว่าถ้ามีโทรศัพท์อีกเครื่อง แล้วมีหลักฐานแบบที่คุณแม่พูด กำลังฆ่า เอามีดกรีด เหมือนที่คุณอัจฉริยะพูด ถ้าเป็นเรื่องจริง โอ้โหเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็ส่งให้อัจฉริยะไปสิ ส่งให้ ส.ส.เต้ไป ส่งให้หมอพรทิพย์ ให้พนักงานอัยการดีกว่า เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคม อัจฉริยะ เพื่อนรักผมเนี่ย เขาก็งมดินงมอะไรอยู่ ก็ส่งให้เขาไป ส่งให้หมอพรทิพย์ อย่างน้อยๆ เขาเคยผ่าศพมาหลายศพอยู่ ก็ดีกว่าส่งให้บังแจ็ค ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ อัจฉริยะก็อยากได้หลักฐานอยู่แล้ว ก็ส่งให้เขาไป นี่ก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัดสินใจ
ข้อที่สาม?
เดชา : คุณแม่ไม่พอใจทนายตั้มไปวิพากษ์วิจารณ์ ไปโพสต์ต่างๆ วิจารณ์คุณแม่ วิจารณ์เป็นแม่แบบไหนที่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค คุณแม่ก็บอกผมมาหลายครั้งแล้ว อันแรกที่คุณแม่ไม่พอใจทนายษิทราเพราะโพสต์ว่าคุณแม่ให้คนสนิทโทรไปหาทนายตั้มที่ฝรั่งเศส จะเปลี่ยนทนายใหม่ คุณแม่บอกว่าไม่เป็นความจริง คุณแม่ไม่เคยทำ แล้วสองช่วงนี้มาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องโทรศัพท์ ทำนองว่าเป็นแม่แบบไหนที่ขายมือถือลูกสาวให้มิจฉาชีพ ชาตินี้ก็พอ อย่าถึงชาติหน้าเลย สงสารน้องแตงโม คุณแม่ไม่พอใจ บอกให้ผมติดต่อทนายตั้มให้โทรไปขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษจะดำเนินคดี แล้วให้ผมดำเนินคดีกับทนายตั้ม เมื่อเช้าผมก็โทรไป ตั้มขอโทษคุณแม่ เขาบอกว่าไม่โทร คุณแม่บอกว่าให้ดำเนินคดีกับทนายตั้ม
แล้วพี่ทำไง?
เดชา : ผมบอกเป็นเพื่อนกัน ดำเนินคดีไม่ได้ เขาก็บอกว่าทำไมไม่ดำเนินคดี เป็นเพื่อนกันแบบไหน ผมก็บอกว่าคุณแม่ต้องหาทนายคนอื่น เพราะผมเป็นเพื่อนกัน
มันเลยแตกตรงนี้ พี่เลยเซย์กู๊ดบายไม่เอาแล้ว?
เดชา : ครับ นี่แหละ 3 ข้อ ผมเลยคิดว่าพอกันทีพระมารดา
แม่โกรธที่พี่ไม่ฟ้อง?
เดชา : อาจไม่สบายใจ แต่เราก็ลำบากใจ มันเป็นเพื่อนเรา เราเพิ่งเจรจาสงบสึกกันมา ยังไม่ถึงปีเลย
แล้วอัจฉริยะไม่ใช่เพื่อนเหรอ?
เดชา : ผมไม่ได้ทะเลาะอะไรกับเขานะ รักเหมือนเดิม มีเวลาก็ไปแจ้งเพิ่ม
รองแต้ม : คดีนี้เป็นมหากาพย์ (หัวเราะ)
ทนายตั้ม : ตกใจและน้ำตาไหลครับ ซึ้งใจที่อาจารย์เดชาไม่ฟ้องผมครับ
ตกใจมั้ยที่แม่จะฟ้อง?
ทนายตั้ม : ตกใจครับก่อนอื่นขอบคุณอาจารย์เดชาก่อนที่เป็นเพื่อนและเป็นมิตรกับผม แต่อยากบอกคุณแม่ว่าข้อความที่ผมโพสต์ในเพจมั่นใจว่าไม่มีข้อความไหนเข้าข่ายหมิ่นประมาทคุณแม่ เป็นการวิจารณ์โดยสุจริตทั้งนั้นนะครับ ส่วนข้อความที่บอกว่าเป็นคุณแม่แบบไหนไปขายมือถือให้มิจฉาชีพ คนฟ้องผมได้คือบังแจ็คนะครับ ผมพร้อมสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าพฤติกรรมของคุณมันเป็นมิจฉาชีพหรือเปล่า ฝากบอกด้วยนะครับ กลับไทยสิครับ มาเจอกันในศาล บังแจ็คมาปั่นป่วนสังคมไทยมากี่ปีแล้ว ใส่ร้ายคนมากี่คน เคยจำได้มั้ยว่าถึงขั้นจะเอาระเบิดไปปาบ้านคุณบุ๋ม ปนัดดา แบบนี้ไม่ให้เรียกมิจฉาชีพจะให้เรียกว่าผู้ก่อการร้ายดีมั้ย
ไม่ได้โพสต์โจมตีคุณแม่?
ทนายตั้ม : ส่วนคุณแม่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดอะไรเลย แต่สิ่งที่คุณแม่ทำ ผมแอบผิดหวังหลายครั้ง ถ้าคุณแม่เลือกสู้เพื่อน้องแตงโม และรับฟังเสียงประชาชนบ้าง ชาวบ้านชาวช่องคงไม่เอาทัวร์มาลงตลอดหลายเดือนหรอก เคยเห็นแม่ของเหยื่อคนไหนเคยถูกสังคมพูดถึงแบบนี้ ไม่เคยมี แม่อาจต้องมองย้อนไปดูตัวเองบ้างว่าเราทำอะไร มีอะไรที่ไม่น่ารักหรือเปล่า แก้ไขตรงนี้ ถ้าแม่แก้ไขได้ ผมยังเชื่อว่าสังคมยังให้อภัยและกลับมาอยู่ข้างแม่ได้อีกครั้ง
คุณแม่มองว่าคดีที่เดินหน้าต่อไปน่าเป็นเรื่องฆาตกรรม เพราะ ส.ส.เต้บอกว่าจะมีการฟ้องเรียก 200 ล้าน?
ทนายตั้ม : ผมก็ได้ยินประเด็นนี้มาตั้งแต่อยู่ฝรั่งเศสแล้วว่าคุณแม่เขาไม่พอใจ ตร. น่าจะตั้งแต่เอาภาพจากกูเกิลมา ทำให้หมดความน่าเชื่อถือ ตอนนั้นมีการประสานผมมา พอกลับไทยผมก็ได้มีการเล่าให้อาจารย์เดชาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีการคุยกันว่าถ้าอาจารย์ยังทำคดีต่อไปแบบนี้เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่ เพราะมันคนละทิศคนละทาง อาจารย์เดชามองไปทางเดียวกับ ตร. แต่คุณแม่มองมาทางเดียวกับที่ผมมองว่าไม่น่าใช่เรื่องอุบัติเหตุ ก็ดีใจที่วันนี้แม่จะมาช่วยเรื่องคดีน้องแตงโมเต็มที่
วันนี้มองว่าอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
ทนายตั้ม : ผมมองว่ายิ่งกว่าอุบัติเหตุ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น แต่เราเป็นนักกฎหมายคงไม่กล่าวหาใครมั่วๆ ตอนนี้ถ้า ส.ส.เต้ หรือใครก็ตาม มีหลักฐานอะไร ให้ลุยเพื่อน้องได้เลยเต็มที่ สนับสนุนเลย ฟ้องตรงนี่ก็ดีครับ ใช้สิทธิความเป็นทนายคุณแม่ มีอะไรเอาไปใช้ในศาลเลย มันก็เป็นประโยชน์ครับ
มุมทนายตั้ม อยากบอกอะไรทนายเดชา?
ทนายตั้ม : ฝากอาจารย์ว่าอาจารย์พ้นทุกข์พ้นโศกแล้ว ผมก็เคยพลาด บอกตรงๆ ตัวผมก็เคยรับผลกระทบและคำวิจารณ์ เข้าใจอาจารย์เดชาดี เป็นเพื่อนเป็นมิตรกัน ถึงแม้อาจารย์เดชาอายุมากกว่า แต่ผมก็เป็นกำลังใจให้อาจารย์เสมอ
ณ เวลานี้ ทนายเดชามองต่างมุม แล้วขอถอนออกมา ก็ไม่ได้เป็นการผิดมรรยาททนายความ?
ทนายตั้ม : ก็เห็นอาจารย์โพสต์ว่าคุยกับคุณแม่แล้ว ไม่ได้อยู่ๆ ถอนตัวไปก่อน คุยกันแล้วออกมา ตกลงกันได้ ก็ไม่ผิดอะไร เดี๋ยวไว้นัดทานข้าวกันครับ คิดถึงครับ
เดชา : เช่นกันครับ จุ๊กกรู๊
แววตาพี่ดูเศร้ามาก?
เดชา : ไม่มีอะไรเลย เราหมดเวรหมดกรรม หนึ่งโล่ง ครอบครัวลูกน้องก็อยากให้เลิกยุ่งเกี่ยว เพราะทัวร์ลง คนด่า พูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ เสียชื่อเสียงเยอะแยะมากมาย
คุ้มมั้ยกับการที่โดดลงมาทำเรื่องนี้ จากที่ทุกอย่างดีแล้ว?
เดชา : ไม่อยากใช้คำว่าคุ้ม ไม่คุ้ม แต่เราถูกด่าเยอะแยะมากมาย เราก็เคารพความคิดเห็น เราเห็นต่างจากเขา
เดชา : ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ย้อนกลับไปก็ทำ ไม่มีอะไรได้มาแบบฟรีๆ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย วันนี้ก็จบไป ใครไม่เห็นด้วยกับผม ด่าผม ผมก็ขอโทษเลย ทัวร์ต่างๆ ไปที่อื่นบ้าง ด่าผมมาสองเดือนแล้ว ใครที่ไม่เห็นด้วยกับที่ผ่านมาก็ต้องกราบขอโทษ นับจากวันนี้เป็นต้นไปคงไม่พูดเรื่องคดีแตงโมแล้ว คงต้องขอจบที่รายการโหนกระแส ไม่พูดอะไรแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยว กราบขออภัยเอฟซีเกือบๆ สองล้านทั้งหลาย
ตั้งแต่เป็นทนายความมาเคยเจอลูกความแบบนี้มั้ย?
เดชา : 36 ปี ไม่เคยเจอ เราก็ไม่เข้าใจ ไม่เคยเจอลูกความแบบพระมารดา แต่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่ เราก็ไม่ได้วิจารณ์อะไร ไม่เคยเจอเหมือนกัน
อยู่ในสายกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท) วันนี้จริงๆ คุณแม่ต้องเดินทางไป ไปในฐานะอะไร?
พล.ต.ท.กรไชย : จริงๆ พี่เดชารู้ดี พี่เดชาโทรหาผมเมื่อวานนี้ผ่านนักข่าวไทยรัฐ ขอพบเวลา 15.00 น. ผมไม่ได้นัดนะครับ พี่เดชาเป็นฝ่ายนัดผม คุณแม่มาในฐานะพยาน เรื่องคุณกระติกแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ภาพที่เปิดเผยออกมาโดยบังแจ็ค มีภาพกระติก และมีข้อความบางอย่าง กระติกมองว่าเขาเป็นผู้เสียหาย เขาเลยไปแจ้งความเอาไว้ ตร.ก็ทำตามหน้าที่ต้องมีการสอบและสืบ หาต้นทางว่ารูปนี้มาจากไหน อยู่ที่ไหน ปรากฏว่ารูปนี้อยู่กับ ตร. กับอยู่ในโทรศัพท์แตงโม ปรากฏว่าคุณแม่ยอมรับแล้วว่าเอาโทรศัพท์ให้บังแจ็คไป ฉะนั้น บังแจ็คยอมรับแล้วว่าบังแจ็คปล่อยไปเอง คุณแม่มาในฐานะพยาน?
พล.ต.ท.กรไชย : ถูกต้องครับ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากต้นทางเฟซบุ๊กอยู่ในมือถือคุณแตงโม การที่จะพิสูจน์ทราบได้ต้องมาจากมือถือหลัก ซึ่งคุณแม่บอกเสมอว่าอยู่ที่คุณแม่ บางครั้งก็บอกว่าอยู่ที่พี่เดชาบ้าง บางครั้งก็บอกว่าอยู่ที่คุณแม่ใส่ห่อไว้อย่างดี ผมก็ตามข่าวอยู่เหมือนกัน ในทางกลับกัน คุณแม่ต้องมาให้การ คำให้การของคุณแม่ที่ได้บอกสื่อมวลชนไปว่าได้ส่งเครื่องนี้ไปให้บังแจ็ค นั่นคือประเด็นนึงที่เราต้องสอบถามว่าส่งไปด้วยเหตุผลใด การโพสต์ใครเป็นคนโพสต์ คนโพสต์เป็นบังแจ็ค ถามว่ามีความผิดทางคดีมั้ย ตอนนี้เรารับคดีไปแล้วกรณีคุณกระติก เนื่องจากเป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เราก็ต้องออกหมายเรียก ถ้าบังแจ็คไม่มา ก็เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย คุณแม่ต้องมาสอบในฐานะพยานของคดี พี่เดชารู้อยู่แล้ว เป็นขั้นตอนของกฎหมายไม่ได้แปลกอะไรเลย แล้วการตรวจพิสูจน์ผมยังงงอยู่ บังแจ็คเป็นใครครับ เป็นนักเทคโนโลยีหรือไงถึงให้เขาไปตรวจ อันนี้ยังงงอยู่ เพราะในเมืองไทยผมเชื่อว่า ตร.ไทยไม่น้อยหน้าใคร พิสูจน์ทราบได้อยู่แล้ว ในรายละเอียดที่อยู่ในมือถือทั้งหมดผมเชื่อว่าสามารถดูดออกมาได้หมด แล้วก็มีเหตุผล มีภาพถ่ายต่างๆ ที่เขาอ้าง ถ้ามีก็ส่งมาสิครับ ผมมีหน้าที่ทางด้านไซเบอร์ เรื่องการโพสต์หมิ่นประมาทที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ สงสัย พยายามชี้นำให้เป็นเรื่องโน้นเรื่องนี้ จะได้รู้ว่าบังแจ็คโพสต์ทำไม โพสต์แล้วมีความผิดนะครับ บังแจ็คนี่ถูกห้ามเข้าประเทศถึงปี 2569 เลยนะครับ
แสดงว่าบังแจ็คปี 2569 ถึงเข้าประเทศได้ อีก 4 ปีข้างหน้า มีโอกาสมีกฎหมายอะไรไปผลักดันอีกมั้ย?
พล.ต.ท.กรไชย : ก็มีครับ ถ้าเรารับเป็นคดี บังแจ็คถูกออกหมายจับ คือหมายแดง หมายสากล เราประสานงานไปสหรัฐอเมริกาก็สามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ เมื่อวานฟังแล้วก็รู้สึกเคืองๆ นิดนึง ไปบอกว่า ตร.ไทยบอกว่าเขาอยู่บอสตัน ตร.ไม่เคยพูด ผมเชื่อว่าถ้าบังแจ็คเห็นเอกสารที่ผมมีอยู่ในมือ บังแจ็คต้องอ้าปากค้าง ตร.ไทยไม่น้อยหน้าใครนะครับ
ตอนนี้บังแจ็คอยู่ที่ไหน?
พล.ต.ท.กรไชย : ล่าสุดอยู่แถวแคลิฟอร์เนีย อิลลินอยส์ ก็อยากบอกว่าอย่ามาดูถูก ตร.ไทย คำว่าบอสตันนักข่าวเป็นคนพูด ตร.ไม่เคยให้ข่าว
ตร.ไทยสามารถดูดข้อมูลทั้งหมดได้อยู่แล้ว แล้วสามารถเอามาให้ประชาชนคลายข้อสงสัยได้มั้ย?
พล.ต.ท.กรไชย : ไม่ได้หรอกครับ เป็นหลักฐานทางคดี ไม่ได้ครับ
พล.ต.ท.กรไชย : ถ้าอย่างนั้นคงต้องเล่นละคร มันทำไม่ได้ นี่เรื่องจริง ชีวิตจริง ไม่ใช่ในหนัง อย่าเอาไปเขียนเป็นชีวประวัติ ทุกอย่างต้องอยู่ในสำนวน พี่แต้มก็รู้ มีอะไรมาเปิดเผยได้ ต้องเอาให้ศาลดู ให้ศาลพิจารณา
แล้วจะทำยังไงกับบังแจ็ค เขาบอกว่าเขาไม่ได้เผยแพร่ เขาแค่ไลน์หาโม ไลน์หากระติก บอกว่าเขามีข้อมูลแล้ว ให้พูดความจริงออกมา ถ้าไม่มีความจริงมา แตงโมจะไม่มีที่ยืนในสังคม?
พล.ต.ท.กรไชย : บังแจ็คไม่เข้าใจกฎหมายไทย เพราะไม่เคยอ่าน การเผยแพร่ภาพลามกไม่จำเป็นต้องเผยแพร่เยอะ ส่งให้อีกคนก็ผิดแล้วครับ ให้บังแจ็คไปอ่านกฎหมายใหม่ดีกว่า อย่ามาอ้างกฎหมายไทยโดยไม่รู้ ไม่ได้
มีโอกาสประสาน ตร.สากลถึงขั้นล็อกตัวมั้ย?
พล.ต.ท.กรไชย : อย่าไปทำถึงขั้นนั้นเลยครับ เราประสานงานอย่างดี ข้อมูลที่ได้มาขอบคุณเลย เป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนกับเพื่อน แต่ในทางราชการเดี๋ยวเอาหลักฐานมาประกอบสำนวนเรื่องเฉพาะไซเบอร์นะครับ อย่าเอาผมไปพันกับคดีแตงโม คนละเรื่องกันเลย
ถ้าแม่ไม่แจ้งความ เอาผิดได้มั้ย?
พล.ต.ท.กรไชย : ได้ครับ เพราะกระติกแจ้งความอยู่แล้ว
กำลังจะบอกว่าช่างแม่?
พล.ต.ท.กรไชย : ไม่ใช่ครับ หาเรื่องให้ผมอยู่เรื่อยเลย แล้วแต่คุณแม่ครับ หนุ่มชอบพูดหาเรื่องให้พี่ แต่แม่ต้องมาให้การในฐานะพยาน
ดำเนินคดีตรงไปตรงมา?
พล.ต.ท.กรไชย : เรื่องไซเบอร์ไม่สามารถเอาความคิดของเราไปใส่ มันต้องเป็นไปตามเทคโนโลยี วิชาการ ข้อมูลทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ จับต้องได้ ไม่ใช่ลิ้นที่พลิกได้
เดชา : ท่านหมายถึงใคร
พล.ต.ท.กรไชย : ไม่ได้หมายถึงใคร
เดชา : ไม่ได้หมายถึงผมนะ
พล.ต.ท.กรไชย : ไม่ได้หมายถึงพี่ พี่นี่หวังดี ให้มาพบผม ผมบอกว่าเชื่อพี่เดชามีโอกาสรอดเยอะ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เราไม่มีอะไร ที่ผ่านมาถูกหลอก คอลเซ็นเตอร์ยังเชื่อเลย ใครคุยกับบังแจ็ค 2 ชม.ก็ต้องเชื่อ