อัจฉริยะกร้าวไม่อยู่ใต้อุ้งเท้าบังแจ็ค เปิดแชทแฉแตกหักส.ส.เต้
อัจฉริยะ : ผมได้รับมอบอำนาจ วันที่ 27 พ.ค. 2565 อยากให้เปิดภาพตอนแม่เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ผมหน่อย วันนั้นผมเปิดหลักฐานให้แม่ดูครั้งแรกเลยที่เป็นภาพที่มีคราบเลือดต่างๆ แม่เห็นแล้ว แกก็เข้าใจแหละว่าเป็นฆาตกรรม แกถึงได้เซ็นหนังสือมอบอำนาจ ให้ผมกับน้องอีกคนนึง แล้วก็ตั้งทนายให้ไปฟ้องคดีฆาตกรรม ไม่มีการบังคับขู่เข็น เซ็นด้วยความเต็มใจ จากนั้นเราก็มีการไปเจอแกที่คอนโดครั้งนึง ก็เอาหลักฐานให้แกดู แกก็เชื่อว่าเป็นฆาตกรรม แล้วก็ไปที่กองกำกับการตร.ไซเบอร์พูดคุยเรื่องคดี แกก็โอเค ไม่มีปัญหากัน ต่อมาผมก็มีการร่างคำฟ้องเสร็จสิ้น แต่ไม่ได้เปิดให้ใครดู เพราะไม่ไว้ใจใคร ทุกอย่างเป็นเงิน ถ้าข้อมูลรั่วคือเป็นเงินเป็นทอง คดีนี้เราเดิมพันสูงแล้วก็สู้กับคนรวยและอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ผมก็พาทุกคนไปที่เซฟเฮ้าส์ วันนั้นเว้นคุณแม่คนเดียว
มีใครไปบ้าง?
อัจฉริยะ : มีพี่เต้ กับพรรคทั้งหมด หมอธวัชชัย ทีมทนายผม อาจารย์ชนบทไปด้วย เราก็จำลองให้ดูว่าถ้าน้องแตงโมตกท้ายเรือจะโดนใบพัดเรือได้หรือไม่ ก็จำลองจนเสร็จสิ้น ก็ไม่สามารถเป็นอย่างที่แซนพูด แล้วเราก็เปิดวิดีโอให้ดู เปิดหลักฐานสำคัญให้ดูชิ้นนึงแต่เราไม่ได้เปิดหมด เราเซฟอยู่แล้ว บ้านหลังนั้นมีการบันทึกกล้องและเก็บเสียงไว้อยู่แล้ว เก็บหลักฐานไว้หมด เราได้ยินประโยคนึงก็รู้ว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วน อ.ชนบทไปก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ไปดื่มเบียร์สองขวด ไม่ดูอะไรแล้วกลับบ้าน ไม่ถึง 20 นาทีก็กลับบ้าน หลังจากนั้นผมก็ทำต่อของผม ผมก็ร่างฟ้อง มีการตกลงกันคือทำสองคดี คดีแพ่งกับคดีอาญา คดีแพ่งฟ้อง 100 ล้าน พี่เต้วางเงินศาล 255, 000 แต่ค่าทนายความทั้งหมด 2 แสนกว่าบาทผมเป็นคนจ่าย หลังตกลงกันได้ เราก็ได้ทำข้อตกลงกันว่าผมมีหน้าที่ดูแลกฎหมายกับทนายความของผม เต้กับภรรยาดูแลคุณแม่ ทนายอู๋เป็นโฆษก ตอนหลังเขามาบอกผมว่าคุณแม่อยากฟ้อง 290 ผมก็มีอยู่แล้ว 290
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 20 ปี อันนี้คือแตกประเด็นไปถึง 289 อีก?
อัจฉริยะ : ไม่ๆ ผมฟ้อง 288
288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี?
อัจฉริยะ : เปิดได้เลย คนจะได้เห็นทั้งประเทศ ผมฟ้องเขามาตรา 59, 83, 90, 91, 184, 290, 295, 288 ที่ฟ้องเขาทั้งหมด 8 มาตรา เราฟ้องคลุมทั้งหมดเลย
ในนี้ไม่มี 289?
อัจฉริยะ : ไม่มีครับ มี 290 ตามที่คุณแม่ขอเลย ตามใจคุณแม่ทุกอย่าง คุณแม่อยากได้ 290 ก็จัดให้ คุณแม่บอกไม่ต้องการขึ้นศาล ผมก็เป็นคนขึ้นศาลแทน ต่อมาทุกคนบอกว่าอัจฉริยะไม่มีหลักฐานอะไรเลยตามที่บังแจ็คพูด บัญชีพยานเปิดได้เลย มีไทด์ เอกพัน พยานผมตอนนี้มี 8 ปาก คลิปวิดีโอภาพและเสียงผมยื่นหมดแล้ว เปิดให้ศาลดู แต่ไม่ได้เปิดให้ทุกคนดู เปิดสาธารณะไม่ได้ เพราะเป็นภาพเกี่ยวกับการทำร้ายทำให้เกิดบาดแผล อันนี้เป็นวิดีโอ ที่ทุกคนบอกทำไมไม่เปิด ผมเปิดที่ศาลครับ
อัจฉริยะ : ฝั่งผมหมดครับ ไม่เกี่ยวกับใครเลย ผมให้ดูว่าทำไม แล้วพยานของผมไม่ได้มีแค่นี้ มีทั้งหมด 10 ปากที่จะขึ้นสืบ ปัญหาที่เกิดขึ้นในคดีนี้ ผมได้คุยกับเต้มาโดยตลอด แล้วผมก็รู้ว่าสักวันหนึ่งผมต้องเป็นเหมือนเดชา กฤษณะ แน่
ทำไมถึงคิดแบบนั้น?
อัจฉริยะ : มันมีอะไรบางอย่างที่เราได้ยินมาและไม่สบายใจ ผมกลับบ้านไปบอกเมียผมว่าผมอยากฟังเพลงของสมายด์ พอฟังเพลงนี้ผมก็ได้พูดกับเต้ในไลน์ ผมบอกว่าเต้เราเป็นลูกผู้ชาย เราพูดคำไหนกับประชาชนเราต้องทำตามแบบนั้นนะ ไม่งั้นคนจะไม่เชื่อถือเรา เปิดแชตไลน์ที่ผมคุยกับเต้ได้เลย เต้บอกว่าแม่จะให้ฟ้อง 290 ก่อน
ในไลน์บอกว่าพี่ไม่เชื่อฟังผู้เสียหาย พี่ทำโดยพลการ พี่ไปดูว่าพี่ละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ไปดูดีๆ พี่ก็ตอบว่าเชิญเลยครับ ถ้าผมผิดกฎหมาย ไม่รู้กฎหมาย ให้ทนายคุณไปฟ้องได้เลย?
อัจฉริยะ : ใช่ แล้วโอนเงินให้แล้วนะ 255,000 เพราะมีคนไปบอกว่าเดี๋ยวจะมีคนไปฟ้องผมยักยอกทรัพย์
เพราะฝั่งส.ส.เขาเอาเงินไปวางศาลให้?
อัจฉริยะ : ค่าวางศาลเขาเป็นคนรับผิดชอบ ผมบอกเขาว่าถ้าลำพังหักหลังคนแบบนี้ต่อไปจะอยู่ยาก มาขอดูข้อมูลผมและหักหลังพวกผม วันที่พูดต่อสื่อที่สภาพูดอย่างไรจำได้มั้ย ผมให้เกียรติตลอด ไม่เคยหักหลังใคร ตรงไปตรงมา หักหลังผมเอาคดีไปทำเองคิดว่าทำได้หรือ หลักฐานก็ให้แม่ดูสองครั้งแล้ว แม่เห็นแล้วบอกว่าเชื่อว่าเป็นฆาตกรรม พี่กับบังแจ็คร่วมมือกันตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมเสียเงินให้บังแจ็คหรอก 5 หมื่นเพื่อจะเอาข้อมูลโทรศัพท์มือถือแม่เพื่อจะเอามาเป็นหลักฐาน แล้วมาห้ามผมแตะบังแจ็ค แม่จะบริจาคให้ชมรมด้วย เห็นเหนื่อยมาหลายเดือน ก็บอกว่าไม่เอาสักบาทเดียว ผมทำงานไม่เคยสนใจเรื่องเงิน ขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นแค่นั้นจบ เขาบอกว่าแม่ฝากบอกขอใบมอบอำนาจคืนด้วย กับผลตรวจสอบยา ผมเป็นคนที่ไม่ชอบการผิดคำพูด เราลูกผู้ชาย ทำไหนต้องคำนั้น ผมสัญญากับประชาชนว่าผมมีหลักฐานว่าคนพวกนี้กระทำผิดกฎหมาย ตามมาตรา 288 เจตนาฆ่า ผมก็ฟ้อง 288 ส่วนแม่อยากได้ 290 ผมก็ให้ตามร้องขอ ผมก็ทำให้ทั้งหมด แต่จะให้ผมไปอยู่ใต้อุ้งเท้าบังแจ็คผมทำไม่ได้ เขาห้ามแตะต้องบังแจ็ค ห้ามฟ้องบังแจ็ค ห้ามผมเรียกบังแจ็ค 18 มงกุฎ ทุกอย่างต้องฟังบังแจ็ค เขาว่าบังแจ็คเป็นคนพูดกับแม่ให้ผมเข้าไปทำคดีนี้ ผมบอกว่าถ้าผมต้องอยู่ภายใต้อุ้งเท้าบังแจ็ค ผมไม่ทำดีกว่า ผมจะไปฟัง 18 มงกุฎได้ไง คนๆ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ มีหลักฐานอะไรที่สามารถบอกได้ว่าหลักฐานเขาเขาไปใช้ในศาลได้
พี่อัจก็รู้ใช่มั้ยบังแจ็คบอกว่าพี่เองก็ไม่มีหลักฐานเหมือนกัน?
อัจฉริยะ : ผมรู้ ผมฟังมาตลอด มึงกล้ามาเมืองไทยเปล่า ถ้ากล้ามาจะให้โรเล็กซ์ฝังเพชร ให้ลูกน้องไปหาที่ประตูเลย ผมบอกพี่หนุ่มว่าหลักฐานที่ผมมีอยู่ในศาล ผมไม่สามารถเปิดตามสาธารณะ เพราะเราเข้าสู่กระบวนการศาลไปแล้ว
บังแจ็คบอกว่าของเขาคือของจริง อยู่ในโทรศัพท์แตงโม แต่ของพี่อัจมีคลิปที่ส่งให้ศาล หลักฐานต่างๆ นานา ทั้งหมด ต้นฉบับรายงานการชันสูตรพลิกศพ หนังสือรับรองการตาย หนังสือมอบอำนาจต่างๆ นานา?
อัจฉริยะ : เรามีของ เรามีอีกชุด แต่ยังไม่ให้ดู มีอะไรอีกเยอะ ผมเล่าให้ฟังเรื่องบังแจ็ค ผมพาแม่ไปที่ไซเบอร์ เรามีหลักฐานสำคัญทางเฟซบุ๊ก เอาให้ตร.ไซเบอร์ดู คุณแม่ส่งตัวรหัสให้บังแจ็คไปเปิดเฟซบุ๊กของแตงโมหรือเปล่า คุณแม่ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งตอนตี 2 แต่เฟซบุ๊กยืนยันว่าแม่เป็นคนส่งให้บังแจ็คเปิดเฟซบุ๊กได้ของแตงโม โดยที่ยังไม่ได้ส่งเครื่อง
แม่ส่งพาสเวิร์ดให้ก่อนเหรอ?
อัจฉริยะ : ใช่ จนกระทั่งเราขอดูโทรศัพท์แม่ วันที่ 6 ขอดูโทรศัพท์หน่อยได้คุยกับบังแจ็คหน่อย สรุปว่าคุย และส่งไปให้บังแจ็คจริง แต่แม่บอกว่าบังแจ็คหลอกให้แม่ทำอย่างนี้ๆ จนได้รหัสไป บังแจ็คก็ไปเปิดเฟซบุ๊กได้ โดยแม่ไม่ได้ส่งมือถือให้นะ จากนั้นมีการเปิดเฟซบุ๊ก แม่ส่งมือถือไปให้ บังแจ็คก็ไปโพสต์ สิ่งที่บังแจ็คทำคือต้องการยอดไลก์ ยอดแชร์ เพราะถ้าล้านนึงจะได้ประมาณ 2 หมื่น คนเข้าไปดูล้านคน วันนึงบังแจ็คก็ได้หลายบาท นี่คือเทคนิคของเขา เขาโพสต์วันนึง 2 อันศซึ่งไม่มีสาระสำคัญอะไรเลย เขาก็ได้คนดูเยอะ ใหม่ๆ คนก็คิดว่าของจริง มีหลักฐานเด็ดอะไร จริงๆ ไม่มี จะบอกว่าทุกอย่างแม่ถูกบังแจ็คหลอกมาตลอด แต่ถามว่าแม่รู้มั้ย แม่รู้ทุกเรื่อง แต่เวลาที่เราจับไม่ได้คาหนังคาเขา แม่มักจะพูดว่าแม่ไม่รู้ๆ แต่พอดูมือถือ แม่รู้ทั้งหมด
อัจฉริยะ : ไปเอาหลักฐานมาเลย ผมไม่เคยคุยกับแซนหรือคนบนเรือแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งทนายก็ไม่คุย ผมรู้อยู่แล้วว่าผมต้องโดนหักหลังจากคนพวกนี้ เพราะผมเหมือนตัวหมากเดินให้เขาเอาไปต่อรองอะไรได้บางอย่าง ผมก็วางหมากไว้ 3 ชั้น คือผมไปฟ้องมาตรา 288 290 ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องแต่งทนายมาเหมือนเดชา คือเขาปลดผมออก แต่รู้มั้ยว่าเขาเป็นคนเซ็นแต่งทนาย แม่เซ็นแต่งเองนะ เป็นทนายของผม การถอนทนายผมออกจากคดีนี้ต้องไต่สวนครับ วันนี้ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดไต่สวนการเพิกถอนทนายผมวันที่ 20 ก.ค. 65 เวลา 09.00 น. ซึ่งเลยเวลาที่อัยการสั่งฟ้องวันที่ 23 ที่จะถึงนี้ ถ้าเขามาเพิกถอนคดีผมด้วยอะไรก็แล้วแต่ เขาก็ถอนไม่ได้ ชนบทจะเข้ามาเป็นทนายความคดีนี้ หรือฟ้องคดีนี้ ฟ้องไม่ได้ เพราะมันติดทนายของผมอยู่ 20 ก.ค. มีการไต่สวน ถ้าอัยการฟ้อง 23 นี้ แล้วแม่ไปถอนฟ้อง 288 290 ผมเนี่ย พอแม่ถอนปั๊บ แม่ไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว จะเอาใครมาฟ้อง 290 อัยการถือว่าฟ้องซ้ำ
ทนายเดชาขึ้นมาแล้วว่าอัจฉริยะรับมอบอำนาจจากแม่แตงโมไปฟ้องศาล ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การยกเลิกหนังสือมอบอำนาจทำได้ แต่คดียังคงอยู่ แม่แตงโมไม่สามารถฟ้องซ้อนอีกคดีหนึ่งได้ จึงจำเป็นต้องจำยอม อาศัยคำฟ้องของอัจฉริยะเรื่องมันมีอยู่แค่นี้ ก็เป็นไปตามนี้เลย?
อัจฉริยะ : ใช่ ก็ผมวางหมากเอาไว้แบบนี้อยู่แล้ว พวกนี้คิดยังไง ผมคิดยังไง สมองคนละสมอง ไอคิว 180 ผมกินไวตามิน นี่ไม่ใช่หมากเดียว พอผมฟ้อง 288 290 ผมมีหลักฐานด้วยว่าพวกนี้ทำอะไรกับน้องแตงโม แต่กว่าศาลจะตรวจคำฟ้องผม 3 ชั่วโมง
ฝั่งส.ส.เต้ขึ้นแล้ว ว่าทีมกฎหมายแม่แตงโม มีมติเพื่อไม่ให้เสียเวลา เสียสิทธิ์การไต่สวน ให้ใช้สำนวนของพี่อัจ ที่ฟ้องไปวานนี้ และจะแก้ไขเพิ่มเติมในสำนวนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอบคุณครับ?
อัจฉริยะ : ไม่ได้ครับ ผมยังเป็นเจ้าของสำนวนครับ ทนายผมเป็นเจ้าของครับ แก้ไม่ได้ครับ ผมไม่ให้ครับ ไม่ให้ดูหลักฐานครับ
ทางแม่เขาบอกว่าอัจเป็นคนดีอีกแล้ว ไม่ได้โกรธอัจ อยากทำงานกับอัจอีกแล้ว?
อัจฉริยะ : ผมก็อยากทำงานกับคุณแม่คนเดียว
ส.ส.เต้จะทำยังไง?
อัจฉริยะ : พูดตรงๆ นะ คนหักหลังเพื่อนเขาไม่ทำกันหรอก เมื่อวานผมอยู่กับกฤษณะ ก็ตกใจว่ากฤษณะมาทำอะไร สี่โมงศาลปั้มตราแล้ว เสร็จแล้วคุณส่งแฟกซ์มาให้ศาล 5 โมงทำหนังสือยกเลิก เขาบอกว่าเขามาถอนผม 2-3 วันที่ผ่านมาแล้ว พี่หนุ่มดูวันที่สิครับ เมื่อวาน 5 โมงเย็น เขาโกหก ตอนแรกไม่มีลายเซ็น และผิดด้วยเขาคิดว่าพี่วินัยเป็นทนายความ เป็นผู้รับมอบอำนาจ แต่ดูครับ ใครรับมอบอำนาจ
อัจฉริยะกับนายสุทธิพงศ์ ชีวิตเจริญ?
อัจฉริยะ : ใช่ครับ แล้วใบแต่งทนายคือใครครับ คือนายสุทธิพงศ์ ชีวิตเจริญครับ ไม่ใช่วินัย การที่คุณส่งไปที่ศาลให้เพิกถอนนายวินัย ถามว่าพรรคไทยศรีวิไลย์เขาไม่ดูเลยเหรอว่าใบมอบอำนาจเขามอบให้ใคร ผมถึงบอกว่าส่งไปที่ศาลไม่ชอบด้วยกฎหมาย แจ้งความแล้วแต่ไม่อยากเอาเรื่อง เห็นแก่ความเป็นเพื่อน แต่อยากสอนให้รู้ว่าอย่าคิดว่าตัวเองเก่ง
พูดถึงใคร?
อัจฉริยะ : พูดถึงเต้ เพราะเขาเป็นคนส่งไง
วันนี้แม่บอกว่าไม่โกรธพี่อัจเลย ตอบสดๆ ร้อนๆ แต่เมื่อวานที่นั่งอยู่กับส.ส.เต้ บอกว่าใช้ไม่ได้ นิสัยแบบนี้ สามวันที่ทวงไป แต่เมื่อเช้าบอกควงมือกันอยู่ ไม่โกรธ?
อัจฉริยะ : แล้วดูหนังสือยกเลิกวันไหน เมื่อวาน พูดตรงๆ ผมไม่เคยโกรธใครเลย ไม่ว่าจะเต้ หรือแม่ หรือใครก็แล้วแต่ กับเดชาก็ไม่ได้โกรธ ผมถือว่าขอกันกินมากกว่านี้ นักเลง แต่ทำแบบนี้ไม่ถูก ถ้าเต้จะถอนผม โทรมาสิครับว่าจะถอนพี่อัจ ผมไม่ว่าเลย ไม่ใช่ส่งแฟกซ์ไปเมื่อวาน 5 โมงเย็น มันหยามไป
วันนี้จะเดินกับเต้อีกมั้ย?
อัจฉริยะ : ผมอยากเดินกับแม่ กับเต้ไม่เอาแล้ว
ถ้าเขาบอกว่าวันนี้เขาไม่เอาบังแจ็คแล้ว?
อัจฉริยะ : เชื่อถือไม่ได้นะนักการเมือง ปลาไหล ไม่เอา ผมบอกแล้วผมไม่เคยใช้เอกสารของบังแจ็ค เขาจะเอาคำฟ้องผมไม่ได้
ถ้าวันนี้จะเดินหน้าต่อไป มีแต่พี่กับบังแจ็คเท่านั้น?
อัจฉริยะ : ถ้าแม่เชื่อใจผมนะ ผมบอกได้เลยว่าเชื่อใจได้เลย ไต่สวน 22 ส.ค. มีของแน่นอน
ถ้าวันนี้เต้บอกเขาดูแลแม่อยู่ เขาบอกต้องเดินกับเขาไม่เดินกับอัจ?
อัจฉริยะ : ก็ไม่เป็นไร เพิกถอนไม่ได้แล้วไง 22 ก.ค. อยู่ในชั้นศาลแล้ว ถอนไม่ได้ หนังสือถอนได้ แต่คดีที่ฟ้องไปค้างอยู่ในศาลแน่นอน แล้วผมถามว่าพวกคุณจะเดินยังไง หลักฐานอยู่ที่อัจฉริยะหมด คุณมีแต่กระดาษใบเดียว ซึ่งผมไม่ให้ มันจะเดินกันยังไงกับสิ่งที่คุณทำ
หนึ่งถอนหนังสือที่มอบหมายพี่อัจที่เป็นผู้รับมอบอำนาจ อันนี้ถอนได้ แต่ถอนคดีที่พี่อัจไปร้องศาล ยืนยันว่าไม่ได้ ทนายเดชาก็บอกว่าไม่ได้?
อัจฉริยะ : ตอนนี้ศาลนัดไต่สวน 20 ก.ค. 65 ในการเพิกถอนทนายผม ฉะนั้นต้องไต่ส่วนทนายก่อน แต่หลังจากไต่สวน ถ้าศาลบอกว่าให้ถอนทนายได้ คุณถึงเอาคำฟ้องผมไปใช้ แต่ว่าพยานคุณไม่มี เพราะพยานอยู่กับผมหมด หลักฐานคุณก็ไม่มี แล้วคุณจะเอาอะไรไปไต่สวน การที่คุณบอกว่ามาถอนคำฟ้อง อย่าลืมว่าคุณถอนปุ๊บ คุณจะฟ้อง290 ใหม่ ไม่ได้แล้ว เพราะเป็นการฟ้องซ้อน ผมก็รู้ว่าคุณจะวางหมากแบบนี้ ผมเลยดักคุณก่อนแล้วไง หนึ่งคุณจะถอนทนาย คุณก็ต้องมาไต่สวนเพราะเราคัดค้าน คนที่มาทนายใหม่ ผมก็ต้องไปร้องมรรยาททนายความว่าคุณมาแย่งคดีผม จะเป็นใครก็ช่าง ผมร้องแน่นอน ผมลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าเราเป็นทนายที่ถูกแต่งตั้งโดยแม่
อัจฉริยะ : ผมไม่เจอพี่เดชามาหลายเดือนแล้วนะ ผมก็ฟ้องพี่เดชา 2 คดี แล้วไม่เคยคุยกันเลย พี่เดชาก็ว่าผมตลอด ช่วงหลังผมก็ไม่เคยโต้ตอบ หนึ่งผมจะไปรับเงินคนบนเรือทำไม อย่างที่เล่า ผมมีแต่จะเอาให้ตาย คดีนี้เป็นคดีที่ผิดเพี้ยน เป็นคดีที่ใช้ไม่ได้เลยในกระบวนการยุติธรรม ผมถึงอยากทำเพื่อทวงความยุติธรรมให้น้องแตงโม และคนอื่นๆ ในประเทศไทย และมีการแก้กฎหมาย แก้ระบบประเทศไทยซะที คนรวยทำผิดต้องติดคุก ไม่ใช่หลบหนีคดีแล้วขาดอายุความ มันต้องมีสักที เราทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่วันนี้คุกมีไว้ขังคนจน ผมเขียนเอาไว้ว่าผมไม่เสียใจแม้สิ่งที่ทำจะไม่ได้ตามที่หวังไว้ แต่จะเสียใจ ถ้าไม่ได้ลงมือทำหรือผิดคำพูดต่อพี่น้องที่รักความยุติธรรม ผมเขียนเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เพราะผมรับปากพี่น้องประชาชนแล้วว่าผมต้องฟ้อง ผมก็ฟ้อง แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าการฟ้องของผมเดี๋ยวต้องถูกเพิกถอน
ถ้าถอนเขาฟ้องใหม่ไม่ได้?
อัจฉริยะ : ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว ตามที่ผมสัญญากับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ถ้ามีการถอนคำฟ้อง ถอนทนายทุกอย่าง ผมถือว่าผมทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว เพราะผมไม่มีอำนาจไปทำอะไรได้ เพราะเป็นอำนาจแม่น้องแตงโม ทุกคนก็ต้องเข้าใจผมด้วยว่าวันนี้เราอาศัยแม่น้องแตงโม มอบอำนาจให้เรา แต่งทนายเราเป็นทนายไปฟ้อง ถ้าเขาไปถอนเราทั้งหมดก็จบ เราทำอะไรไม่ได้แล้ว
จะบอกว่า ณ วันนี้สิ่งที่เกิด พี่อัจทำทุกอย่าง ลงทั้งเงิน ลงทั้งแรง ไปติดต่อที่โน่นที่นี่ รวมถึงถ้าคดีพลิกพี่อัจอาจถูกฟ้องหัวโตด้วยซ้ำไป แต่วันนี้ทำตามคำสัญญาแล้ว ไปยื่นฟ้องแล้ว แต่ถ้าผลสุดท้ายเกมส์จะพลิกแม่ถอนก็จนใจเพราะขึ้นอยู่กับแม่?
อัจฉริยะ : ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมทำจนสุดทาง จนสุดซอย เงินเสียมากกว่า 5 แสน เหน็ดเหนื่อยมา 3 เดือนกว่าหาหลักฐานมา คดีนี้ผมไปขอความเมตตาผู้ใหญ่มากกว่า 10 ท่า
สมมติว่าอัยการท่านสั่งฟ้องวันที่ 23 สั่งฟ้อง 5 คนบนเรือ ที่พี่ฟ้องไปจะทำยังไง?
อัจฉริยะ : หลักกฎหมาย เวลาอัยการฟ้องไปประมาท เราฟ้องเขาไปคือฆ่า เราต้องทำหนังสือถึงศาล ขอให้ชะลอคดีของอัยการก่อน เพื่อให้เรามีการไต่สวน ตามที่ศาลนัดไว้ 22 ส.ค. หากมีมูลหรืออะไรก็แล้แต่ อัยการจะเอาสำนวนนั้นมารวมกับสำนวนเรา
ถ้าสิ่งที่ร้องเข้าไป ศาลท่านยก เท่ากับว่าฝั่งอัยการจบเลย ห้าคนบนเรือประมาทก็ไม่มีแล้ว?
อัจฉริยะ : ไม่ใช่ เรายังมีสิทธิอุทธรณ์ได้อีก อัยการก็ต้องชะลออย่างเดียว แต่ผมมั่นใจว่าถ้าได้ไต่นะ มั่นใจว่ามีมูล
หลายคนบอกว่าพี่อัจกำลังหาทางลง?
อัจฉริยะ : ไม่ใช่ เราอยากไต่ ขอให้เราได้ไต่ มั่นใจว่ามีมูล และมั่นใจว่าอัยการต้องมาปรับจูนเข้าหาเรา เหมือนคดีของหมอทศพร ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง
ตัวแปรคือแม่?
อัจฉริยะ : ขึ้นอยู่กับแม่ ถ้าแม่จบผมก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าแม่จะเดินกับส.ส.เต้ก็แล้วแต่ ไม่ซีเรียส คำฟ้องผมเอาไปใช้ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเอกสารที่อยู่ในศาล เขาสามารถคัดไปใช้ แต่จะเอาบัญชีพยานผมไปใช้ไม่ได้ เราไม่ให้ สมมติคุณเอาผมไปขึ้นศาล ผมก็ไม่ให้คลิปวิดีโอต่างๆ ผมไม่ให้พยานหลักฐาน ให้มันหายไปกับผมเลย ผมเก็บไว้สำหรับคนที่ฟ้องผม แต่ผมมั่นใจว่าถ้าคดีนี้ได้ไต่ ถ้าแม่เชื่อผม แม่อดทนนิดนึง ผมเชื่อว่าผมไม่เป็นรองแน่นอน
ระหว่างสัมภาษณ์พี่อัจ อดีตทนายบุญถาวร ฝั่งส.ส.เต้อยากเข้าสาย เขาบอกว่าเขาถอนพี่อัจได้ กับสองบังแจ็คที่ติดต่อมาขอเข้าสาย โอเคมั้ย?
อัจฉริยะ : ไม่ต้องหรอก ไม่เอา บังแจ็ค 18 มงกุฎ ไร้สาระ มันเป็นขยะ เอามาทำไม ถ้าแน่จริงมาเมืองไทย ถ้าให้คนแบบนี้มาออกสื่อ และสื่อให้ความสำคัญกับคนแบบนี้ ผมว่าก็วิบัติหมดแหละ เพราะคนๆ นี้คำพูดมีอะไรน่าเชื่อถือได้ คุณเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สองคุณปกปิดหลักฐานอะไร ทำไมไม่เปิดล่ะ เปิดสิ
การที่บังแจ็คเอาคลิปเสียงเบิร์ด หรือภาพในโทรศัพท์แตงโมมาเปิดเผย คิดว่ามีหลักฐานเชื่อมถึงคดีนี้มั้ย เขาบอกว่าถ้าเห็นจะอึ้ง?
อัจฉริยะ : ผมไม่ให้ราคาเลย
อัจฉริยะ : โคตรxxบังแจ็คเลย ไม่ให้ราคา กวนxxxแบบนี้ ไปให้ราคาทำไม ไม่มีราคา เอาไปทำแมวอะไรหลักฐานที่มันเปิด เป็นภาพอะไรก็ไม่รู้ คนเราแน่จริงก็เปิดสิ
อย่างเสียงของเบิร์ดคิดว่ามีนัยยะมั้ย?
อัจฉริยะ : มันไม่ใช่สาระสำคัญ
มีคลิปเสียงที่เขาเอามาออก บอกว่าเบิร์ดด่ากระติก ด่าตร. ผมมีโอกาสคุยกับเบิร์ด เบิร์ดบอกว่าผมแม่-โคตรพลาด โคตรปวดหัว พลาดมาก ผมก็ถามว่าพลาดอะไร เขาบอกว่าเขาไม่เคยตามข่าวว่าโทรศัพท์แตงโมไปอยู่กับใคร ไม่เคยตามข่าวเรื่องแม่ที่บอกว่าแม่เอาโทรศัพท์ไปให้บังแจ็ค เขาไม่เคยเสพข่าว เพราะไม่อยากดู เขารู้สึกว่าบางเรื่องมันไม่ใช่ ก็ถามว่าทำไมไปคุยกับบังแจ็คได้ เบิร์ดบอกว่าเขาเอาไลน์แตงโมโทรหาผมพี่ ผมงงว่าทำไมมีไลน์แฟนโทรเข้ามา ผมก็เลยรับ พอรับก็ถามว่าคุณเอาไลน์แฟนผมมาได้ยังไง เขาบอกว่าไม่ต้องรู้ว่าเขาเป็นใคร หลังจากนั้นเบิร์ดพยายามถาม และพูดเพื่อขอโทรศัพท์คืน พยายามพูดไปเรื่อยให้เขารู้สึกเหมือนคุยกันอยู่ เป็นเพื่อนกัน ขอร้องได้มั้ย ตอนแรกเขาบอกจะส่งคืนให้ แต่จากนั้นเขาส่งไลน์ไปบอกว่าจะขอคืนได้มั้ยโทรศัพท์ บังแจ็คบอกว่าไม่ได้ ไม่ให้ เขาก็บอกว่าเขาไม่เข้าใจว่าจะตัดเรื่องพวกนี้ออกทำไม ผมถามว่ามีอะไรมากกว่านั้นอีกมั้ย เบิร์ดบอกว่ามันมีคลิปนึงที่ไม่รู้จะถูกเปิดออกมาหรือเปล่า เป็นภาพแตงโมอยู่ในโรงแรม บังแจ็คถามเบิร์ดว่าเคยเห็นคลิปนี้มั้ย บังแจ็คคงคิดว่าเบิร์ดไม่เคยเห็น แต่เบิร์ดบอกว่าเคยเห็นเพราะเบิร์ดถ่ายเอง ถ่ายเล่นๆ ไม่รู้เอาให้ใครดูบ้าง?
อัจฉริยะ : น่าจะเปิดให้พี่อั๋น มันไม่ใช่วันที่เกิดเหตุ ผมมีหลักฐานพิสูจน์ได้เลยว่าไม่ใช่วันที่เกิดเหตุ ที่เขาเปิดให้พี่อั๋นดู แล้วไอ้บังขายถั่วมันไม่มีของจริง
ถ้าคลิปนั้นเปิดออกมา ผมว่าเบิร์ดสวนทันที เพราะเบิร์ดบอกเองว่าถ่ายเอง?
อัจฉริยะ : ที่แม่บอกมีโน่นนี่มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะใช้ในคดี ไอ้บังขายถั่วกำลังหลอกคนทั่งประเทศ เปิดคลิปนึงเพื่ออะไร เพื่อเอายอดไลก์ยอดแชร์ นี่คือวัตถุประสงค์ไอ้บังขายถั่ว มันไม่มีทางกลับมาเมืองไทย พูดตรงๆ คนเกลียดพี่หนุ่มมันชอบ คนรักพี่หนุ่มเขาก็ไม่ชอบ คนรักผมเขาก็ไม่ชอบ เราอย่าไปให้ราคาคนแบบนี้ มัน 18 มงกุฏ มันขยะ ประเทศไทยจะเสียหาย ไปพึ่งกับคนแบบนี้ ผมพูดตรงๆ ผมไม่ให้ราคา แม่จะโกรธก็โกรธไป เต้จะโกรธก็โกรธใคร ผมอัจฉริยะไม่ใช่ต้องตามใจทุกคน
พี่กับส.ส.เต้ จะเดินกันไปไม่ได้ เพราะบังแจ็คคั่นกลางหรือเปล่า?
อัจฉริยะ : ส่วนนึงตรงนี้แหละที่เต้บอกว่าอย่าพูดถึงบังแจ็ค ผมไม่รู้ว่าเต้มีอะไรกับบังแจ็คมั้ย แต่ผมบอกเต้แล้วว่าถ้าเอาบังแจ็คอยู่ข้างกาย จากดาวรุ่งพุ่งสูงจะเป็นดาวร่วงที่ไม่มีสง่าราศี วันนี้สังคมไม่ได้มองบังแจ็คเป็นฮีโร่ ใครๆ ก็รู้ว่าไอ้นี่เป็น 18 มงกุฎ การที่เขาติดต่อคนโน้นคนนี้ได้เพราะขามีไลน์ทุกคน อย่างของผม ผมรู้ว่าใครเอาให้ กฤษณะเอาไลน์ผมให้บังแจ็ค จนไอ้ขายถั่วมันเข้ามาได้ ครั้งเดียวเอง เดือนเม.ย. มันโทรมาอู้อี้ ผมบอกว่าผมไม่เชื่อ
เดินหน้าต่อไปไม่หยุดจนกว่าแม่จะไม่เอา?
อัจฉริยะ : พูดตรงๆ คดีนี้อยากทำ เป็นคดีที่ท้าทาย เป็นคดีที่อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง โดยอาศัยที่พึ่งสุดท้ายคือกระบวนการศาล แต่ถ้าผมไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไร ถือว่าผมทำดีที่สุดแล้ว แต่เชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ในมือเป็นหลักฐานสำคัญ พิสูจน์ได้ว่าคนบนเรือโกหกสังคม
ถ้าสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นกลับตาลปัตร หรือข้อเท็จจริงที่ยื่นไปในชั้นศาลแล้วสุดท้ายยก พี่คิดมั้ยว่าปัญหาจะหนักกว่านี้ 5 คนบนเรือเขาเอาพี่แน่?
อัจฉริยะ : ไม่กลัว เขาต้องโกหก ตร.เหมือนกันจะฟ้องผมกี่คดีผมก็ไม่กลัว
เขาบอก 5 คนบนเรือซื้อพี่แล้ว?
อัจฉริยะ : ผมไม่ใช่อีตัวนะ ไม่ใช่หมอนวด ผมไม่ขายหรอก ทำไมต้องมาซื้อผม ผมไม่ได้หล่อขนาดนั้น ไม่ต้องมาซื้อผมหรอก เรื่องหาทางลงไม่มี มีแต่อยากทำต่อ
ตัวแปรสำคัญคือแม่?
อัจฉริยะ : ถ้าได้ทำต่อ ก็อยากคืนความเป็นธรรมให้น้องแตงโม แต่ถ้าไม่ได้ทำก็จบไป แม่จะมีใครผมไม่ว่าแต่ต้องมีกติกา หนึ่งคือเอาคนที่แม่ไว้ใจก็ได้ผมไม่ว่า จะเอาพี่ดายศมาหรือใครก็ได้
ส.ส.เต้ล่ะ?
อัจฉริยะ : บอกตรงๆ ว่ากลัวใจ เต้ไม่ใช่คนไม่ดีนะ ชอบเมียเขามาก เมียเขาน่ารัก แต่เต้ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เป็นเด็กที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ไปลองทบทวนให้ดี คิดได้ค่อยมาคุยกัน
อัจฉริยะ : เดชาต้องมาขอโทษผมที่กล่าวหาว่าผมตบทรัพย์ เมื่อวานไปขึ้นคดีกับทนายเกิดผล ผมก็บอกทนายเกิดผลว่าขอโทษนะที่เข้าใจผิด พูดต่อหน้าศาล เดี๋ยวจะไลฟ์สดให้
เมื่อวานแม่บอกนิสัยใช้ไม่ได้ แต่วันนี้บอกว่าไม่โกรธ รักลูกอัจ?
อัจฉริยะ : นิสัยใช้ไม่ได้ แต่ใช้ไปซื้อโอเลี้ยงได้ (หัวเราะ) ไม่เคยโกรธใครเลย กับเดชาไม่เคยติดใจเรื่องคดีแตงโม แต่หาว่าผมตบทรัพย์ เรื่องเดียวที่ยอมไม่ได้ มันคือศักดิ์ศรี ชื่อเสียงผมทั้งชีวิต ผมยอมไม่ได้ มาขอโทษผมสิ ถ้าขอโทษจบเลย ลูกผู้ชายขอกันกินมากกว่านี้
ที่พี่ไปว่าเขาไอ้ห้อย?
อัจฉริยะ : ไม่ได้หมายถึงใคร น้องพี่โน้ต เชิญยิ้มก็ห้อย ไปคิดดีๆ ผมเป็นคนเลวมั้ย ถามก่อน เขารู้จักผมมากี่ปี ผมเรียกเขาอาจารย์ตลอด ถึงผมจะเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ถ้าผมทำผิดผมก็ขอโทษ ลูกผู้ชายทำผิดต้องขอโทษ ผมไม่อายหรอก
วันนี้พี่เอาหลักฐานมายืนยันให้เห็น ว่าสิ่งที่ยื่นศาลไปเยอะแยะ?
อัจฉริยะ : เห็นคำฟ้องผมแล้วนะ โอเคมั้ย วันนี้ทำไมถึงฟ้อง 288 มีการใช้วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทกับน้องแตงโมถ้าได้ทำต่อ แนะนำให้ไปดูเฟซบุ๊กหมอธวัชชัยแล้วจะรู้ว่าทำไมฟ้อง 288
ไม่กลัวพลิก ถ้าพลิกนี่อ่วมเหมือนกันนะ?
อัจฉริยะ : ไม่มีพลิก 5 คนบนเรือความผิดแรกคือประมาทอยู่แล้ว
ให้รอดูการกลับมาเอาคืนของห้าคนบนเรือ และสองการพลิกเกมของพี่อัจ?
อัจฉริยะ : เขาฟ้องผมได้แค่หมิ่นประมาท ถ้าฟ้องตอนนี้ก็ปีหน้า อย่าไปซีเรียส
พี่รอรับ?
อัจฉริยะ : เกือบ 200 คดี
บังแจ็คล่ะ?
อัจฉริยะ : ไม่ให้ราคา มาสิ มาฟ้องผมที่เมืองไทย
ถีงแม้บังจะเคยขู่ฆ่า แต่นี่ไม่ได้ปั่นนะ ถามเฉยๆ?
อัจฉริยะ : ปั่นไม่ได้หรอก เวลาโดน โดนด้วยกัน (หัวเราะ)