สาวมือที่3เปิดสัญญาทาส ทำผิดจ่าย10ล้าน โต้ทนายฝั่งซีอีโอบ.โลจิสติกส์ดัง
หนู : เรื่องเกิดเมื่อ 6-7 ปีก่อน เราเข้าไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ระหว่างทำงาน มีการรู้จักและสนิทสนมกับฝ่ายหญิง เขาเป็นเจ้าของบริษัทนี้
คุณรู้มั้ยเขาแต่งงานเป็นผัวเมียกันกับฝ่ายชายที่เป็นเจ้าของบริษัทอีกคน?
หนู : ทราบค่ะว่าเขาแต่งงานกันและเป็นเจ้าของบริษัท
คุณไปรู้จักสนิทสนมกับภรรยาเขา?
หนู : ใช่ค่ะ แล้วก็สนิทกันมากขึ้น เราทำงาน 2-3 ปีแล้วก็ออกจากที่นั่น
ระหว่างทำงาน คุณก็คบหาดูใจภรรยาเขาด้วย เป็นคนสนิท?
หนู : ใช่ค่ะ สนิทสนมกัน
ตัวคุณถูกจับได้มั้ยจากสามีเขา?
หนู : รู้ค่ะ ครั้งแรกก็เราก็ห่างกันไป เลิกกับฝ่ายหญิงค่ะ หลังจากนั้นก็มีการได้กลับมาพูดคุยกันต่อ ช่วงหลังจากจบกันไปแล้ว แต่หลังจากนั้นก็เป็นแค่การพูดคุยกัน ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วผ่านมาจนเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ฝ่ายชายจับได้ และมีการนัดพูดคุย เรียกเราไปพูดคุย แล้วก็เอาข้อความมาข่มขู่ว่าถ้าเราไม่ยินยอมหรือว่าตกลงร่วมใช้ชีวิตกับเขา เขายื่นข้อเสนอมาว่าถ้าเราไม่ทำแบบนี้ เขาก็จะฟ้องเรา
ถ้าไม่ยอมตกลงอยู่กับเขา เขาจะฟ้องเราในเรื่องของชู้ คบหากับภรรยาเขา ช่วงคบหามีการให้เงินกันมั้ย?
หนู : ใช่ค่ะ ในระหว่างที่รู้จักสนิทสนมกัน มีการให้เงินช่วยเหลือกัน เป็นปกติค่ะ ไม่ได้มีการร้องขอ ทีละ 2-3 หมื่น เราไม่เคยร้องขอค่ะ ไม่เคยขอยืม
พอเขายื่นข้อเสนอมาเป็นเมีย จะไม่มีการฟ้องร้อง คุณทำยังไง?
หนู : เราปฏิเสธข้อเสนอ แล้วก็หนี บอกว่าจะคืนเงินให้แล้วขอให้จบเรื่องนี้ อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกค่ะ เขาก็ไม่ปล่อยค่ะ จากนั้นเราเอาเงินไปคืน โอนคืนไป 2 หมื่นค่ะ
เป็นการตกลงจะชดใช้ให้เดือนละ 2 หมื่นหรือยังไง?
หนู : ใช่ค่ะ เป็นการชดใช้ให้เดือนละ 2 หมื่น จนกว่าจะครบ 5 แสน คืนเงินก็คือจบทุกอย่าง ไม่มีการข้องเกี่ยวกันอีก
คุณไปคบฝ่ายหญิง เขาต้องการคบกับคุณหรือเปล่า คุณไปขู่บังคับเขาหรือเปล่า?
หนู : ไม่ได้ขู่บังคับค่ะ เป็นที่เขายินยอมที่จะคบกับเราเองค่ะ
หนู : ใช่ค่ะ
พอคุณเองไม่ได้ไปตกลงในครั้งแรกที่เขาเสนอ คุณโอนเงินคืนไป 2 หมื่นแล้วยังไงต่อ?
หนู : ประมาณ 2-3 วัน เขาเอาเงินมาคืนเรา บอกว่าไม่ได้อยากได้เงิน อยากให้เราไปร่วมชีวิตกับเขา เป็นเมียเขาค่ะ เราไม่ได้เรียกร้องข้อนี้เองค่ะ
ทนายเพชร ทนายของอีกฝ่ายบอกว่าเขาได้ยื่นข้อเสนอให้คุณ 2 ข้อ คือแจ้งความดำเนินคดีฟ้องคุณเรื่องชู้ กับสองให้คุณอยู่กันไปเลย ไหนๆ คบกันแล้วเลิก แล้วมาคบกันอีก เขาขี้เกียจตาม งั้นก็คบกันไปเลย คุณเลือกข้อที่สองหรือเปล่า?
หนู : ไม่ได้เป็นการเสนอ แต่เป็นการข่มขู่ค่ะ ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะแจ้งความเรื่องชู้
จากนั้นเกิดอะไรขึ้น หลังคุณไม่ตกลง?
หนู : เขาเอาเงินคืนมา เขาก็ไประราน คุกคาม ไปที่บ้าน ไปที่พัก เพื่อตามตัวเรา เพราะเราหนี พยายามหนีตลอด เราไม่โอเคกับทางเลือกนี้
ตอนไม่ได้ตกลงอะไร เขาพยายามตามคุณด้วยเหรอ คุณต้องมาคบเขาให้ได้เหรอ?
หนู : ใช่ค่ะ แล้วเรารู้สึกว่าเราอยู่อย่างนี้ไม่ได้ มันไม่จบสักที เราก็ตัดสินใจคุย นัดคุยที่โรงแรมแห่งหนึ่งค่ะ ทีนี้เขาก็ได้มีการเอาสัญญามาให้เราเซ็น ในนั้นก็ระบุว่าเราต้องยินยอมเป็นภรรยาอีกคนนึงของเขา
ข้อที่ 5 ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือทำร้ายร่างกาย ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ฝ่ายเสื่อมเสียมีสิทธิ์ฟ้องดำเนินคดี เรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน มีการเซ็นชื่อกำกับด้วย ตรงนี้ฝั่งฝ่ายชายเขาบอกคุณเซ็นเองนะ?
หนู : หนูมีหนี้อยู่ 5 แสน หนูจะเอาตัวเองไปผูกมัดแล้วเพิ่มหนี้ตัวเองอีก 10 ล้านทำไม หนูจะผูกมัดเขาเพื่ออะไร
อันนี้ใครเป็นคนเขียน?
หนู : เป็นลายมือฝ่ายหญิงค่ะ สัญญามีคู่ฉบับค่ะ
ตกลงกันว่าอยู่ร่วมกัน 3 คนผัวเมีย ทั้งสามฝ่ายอ่านแล้วเข้าใจข้อตกลงเป็นอย่างดี ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดข้อตกลงร่วมกัน จะถือว่าข้อตกลงฉบับนี้เป็นโมฆะ แสดงว่าตอนนี้คุณผิดสัญญาเขาแล้ว สัญญานี้เป็นโมฆะทันทีตามที่เขาเขียนเอาไว้น่ะสิ แล้วทำไมไปเซ็นสัญญาฉบับนี้ คุณก็มีสมอง มีสติสัมปชัญญะทำไมไปเขียนสัญญานี้แล้วมาบอกว่าถูกบังคับให้เซ็น?
หนู : มีการข่มขู่ค่ะ ถ้าไม่ทำตามข้อตกลงก็จะฟ้อง เขามีทนายเก่ง มีนั่นนี่ ในมุมเราก็ไม่น่าสู้เขาได้ เพราะเขาค่อนข้างมีฐานะค่ะ
เขารวย มีเงินเป็น 100 ล้าน ถ้าคุณไม่เซ็นเขาจะเอาคุณเข้าคุกเพราะไปคบกับเมียเขา?
หนู : ใช่ค่ะ เลยจำเป็นต้องเซ็นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
พอ10 ก.ย. 65 เซ็นเสร็จ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?
หนู : เขาข่มขืนเราค่ะ
คุณไปคุยกับเมียชาวบ้านคิดว่าผิดมั้ย?
หนู : ผิดค่ะ
ฝั่งภรรยาเองก็มีส่วนผิด เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่คุณก็ผิด อีกมุมคุณก็เป็นเหยื่อที่ถูกขืนใจ หลังจากที่เซ็นสัญญาเขาก็ขืนใจ เขาใช้กำลังมั้ย?
หนู : ข่มขู่ค่ะ เขาก็เอาสัญญามาข่มขู่เราอีกค่ะ ไม่ได้ใช้กำลังค่ะ ใช้คำพูดและเอกสารมาข่มขู่ค่ะ
ทำไมไม่หนี ในเมื่อมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น?
หนู : ก็จะเป็นเหมือนเดิมค่ะ เคยพูดแล้ว หนีแล้ว เขาก็ไประราน ไปตาม มันไม่จบ เขาเอาสัญญามาขู่ เอาเรื่องชู้มาขู่อีก ก็ขู่อยู่อย่างนั้นค่ะ
เขาขู่ยังไง?
หนู : เขาบอกว่า 10 ล้านมีจ่ายเหรอ จะขู่แบบนี้ประจำค่ะ
หนู : จากเพศสภาพหนู ชัดเจนนะคะว่าหนูไม่ได้ชอบผู้ชาย ชอบผู้หญิงค่ะ ถ้าจะยินยอมเป็นไปไม่ได้ค่ะ ถ้าจะยินยอมหนูคงไม่หนีออกมา
ฟังคลิปเสียงสนทนา วันนี้ธงของเราต้องการอะไร?
หนู : เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่เจรจา หนูก็หนีมาตลอด ตอนนี้ไม่หนีแล้วค่ะ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พี่ไพศาลว่าไง?
ไพศาล : ต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ส่วนหนึ่งน้องก็ไปยุ่งเกี่ยวกับภรรยาแต่เอาเหตุผลก่อน เป็นความผิดทางแพ่ง สามีสามารถไปฟ้องชู้ได้ ส่วนการกล่าวอ้างเรื่องเงินทองใดๆ ถ้าพิสูจน์ว่าเป็นการฉ้อโกงก็ดำเนินคดีอาญาได้ แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น มีการนำกฎหมายมาใช้ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย มีการให้ทำสัญญาโดยอ้างว่าจะดำเนินคดี ส่วนตัวทอมก็คิดว่าอาจมีโทษ ถูกจำคุกให้เสียเงิน ก็เลยจำยอม กฎหมายเขียนไว้ชัด การข่มขืน ไม่ได้หมายถึงขืนใจอย่างเดียว หมายถึงจำยอมด้วย เขาไปทำสัญญาแบบนี้ เขาไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีถึงมาทำสัญญาแบบนี้ คำว่าบันทึกข้อตกลง ประชาชนอาจไม่รู้ว่าจริงๆ มันก็คือสัญญา เพียงแต่ว่ากำหนดประเด็น และฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องทำ สัญญาเป็นโมฆะอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งเลย ในสัญญาก็มีข้อความที่เป็นโมฆะในโมฆะอีก ฉะนั้นก็ตัดสิทธิ์เขาไปหมดแล้ว เรื่องฟ้องชู้หรือทางอาญา แต่สิ่งที่เขาทำ จริงๆ เขาเป็นต่อทางกฎหมาย กฎหมายบัญญัติว่าผู้ใดล่วงเกินภรรยาตน มาตรานี้ถ้าร่วมกันหรือสมัครใจจะไปฟ้องค่าทดแทนอะไรไม่ได้ แต่เขากลับไปโดนอาญา 276 (3) โทษหนักนะ 15-20 ปี ทั้งที่เขาเป็นต่ออยู่แล้ว
ขืนใจคือขืนใจให้ทำโน่นนี่ ขืนใจบังคับในสิ่งที่ไม่ได้อยากจะทำ ล่วงละเมิดข่มขืนโดยการกระทำชำเราก็เป็นอีกอันนึง ต้องแยกให้ถูกก่อน ที่สำคัญมีคนเข้ามาคอมเมนต์หลายคน ขออนุญาตบล็อกหรือปิดคอมเมนต์ เพราะไม่ถูกต้อง พิมพ์อะไร ก็พิมพ์ได้ แต่ต้องให้เกียรติเขาด้วย ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง อย่าสนุกมือ แล้ววันนึงอาจเข้าตัวคุณก็ได้ คดีความอาจเข้าคุณก็ได้ อย่าเพิ่งคิดไปเอง?
ธนกฤต : จากที่คุณหนุ่มพูดต้องแยกเรื่อง สัญญาทางแพ่งหรือการกระทำความผิดทางอาญา ข่มขืนนี่ก็ผิดทางอาญาเพราะเขาไม่ได้ยินยอม แล้วสัญญาที่มีน่าจะขัดต่อความสงบเรียบร้อย ก็เป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น น้องถือว่าตอนนี้เป็นผู้เสียหายไปแล้ว ต้องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และเข้าสู่กระบวนการ ถ้าจะให้ยุติธรรมดูแลก็เป็นเรื่องเยียวยาและคุ้มครองพยาน
อยู่ในสายกับ "ทนายเพชร" ทนายความฝั่งคู่กรณี มุมนั้นตกลงเขาจะยังไง?
เพชร : จากข้อมูลที่ได้รับมา เรื่องที่น้องเขาพูด ส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกัน มีหลายเรื่องที่น้องพูด ข้อเท็จจริงก็ตามนั้น แต่เรื่องการข่มขืน ผมเป็นทนายความผมก็รับฟังจากลูกความมา เรื่องราวข้อเท็จจริงจะเป็นยังไง เรื่องบนเตียง อยู่กัน 2-3 คน ผมไม่ได้เข้าไปนั่งดูด้วยผมก็บอกไม่ได้หรอกว่าเป็นเรื่องของความสมัครใจหรือว่าสมยอม แต่อย่างไรก็ตาม เราเป็นนักกฎหมาย ระหว่างสมัครใจหรือสมยอม ในเมื่อไม่มีใครเห็น ต่างคนต่างพูด เราก็ต้องดูจากพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ พฤติการณ์หลังเกิดเหตุ
จากได้ตรวจสอบข้อมูล พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ การไปที่โรงแรม ไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ก็ดี มีความสมัครใจไปด้วยกัน หลังเกิดเหตุแล้ว ยินยอมไปเที่ยว ได้ทรัพย์สินเงินทอง ได้สิ่งของต่างๆ ไปเป็นจำนวนมาก สมัครใจไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่มีใครบังคับ แล้วในฐานะผมเป็นทนายความผมก็ไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก แต่ในฐานะทนายความ ผมก็ค่อนข้างเชื่อลูกความของผมว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่น่าจะถึงเป็นการข่มขืนใจ หรือการข่มขืน
ส่วนเรื่องสัญญาต่างๆ ที่ทำกันไว้ ที่บอกว่าฝ่ายเราเป็นคนเขียน 10 ล้านหากจะเขียนไปมัดหรือรังแกเขาจริง ทำไมทางเราไม่เขียนว่าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาต้องชำระเงิน แต่เป็นการผิดสัญญาทั้งคู่ต้องชำระเงินหากกระทำผิด ส่วนเรื่องที่น้องบอกว่าเขากลัว ทำสัญญาไปแล้ว ไม่ปฏิบัติตามจะถูกฟ้องเรื่องชู้ เรื่องเงิน จริงๆ ข้อหนึ่ง ข้อสอง เขาก็เขียนไว้แล้วว่าจะไม่ติดใจฟ้องชู้ หรือติดใจเรียกร้องเอาเงินคืน ส่วนผมเองในฐานะทนายความ อยากให้ทุกฝ่ายลองหาทางออก ร่วมกันเจรจาน่าจะดีที่สุด ส่วนเรื่องคดีถ้าน้องเขาบอกไม่ประสงค์จะเจรจาก็ไม่เป็นไร ก็ยังหวังว่าวันนึงน้องจะเปลี่ยนใจ ไม่อยากให้คดีแบบนี้สู้กันไปแล้วมีการแพ้ชนะกัน
อีกอย่างสัญญาแบบนี้ผิดศีลธรรม ตัวเขาเองสมมติน้องไม่ได้เป็นทอม เป็นผู้ชายอีกคนนึง จะมีสัญญาแบบนี้มั้ย ชายสองหญิงหนึ่ง ใครออกไปจะโดน 10 ล้านมั้ย แต่เผอิญเพศสภาพเป็นผู้หญิง แต่ใจเป็นผู้ชาย ตัวคู่กรณีมาทำบันทึกข้อตกลงที่ไม่ถูกต่อหลักศีลธรรมกฎหมาย แต่เหนืออื่นใด เราเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตัวผมก็เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ก็ขอบคุณทนายเพชรที่ออกมาชี้แจง ขอบคุณมากๆ ครับ
เพชร : ผมก็ขอบคุณพี่ไพศาล เคสนี้ผมว่าสุดท้ายเราน่าจะพยายามหาทางออกร่วมกันดีทุกฝ่าย น่าจะแฮปปี้ ยินดีเจรจาเป็นตัวกลางให้
ธนกฤต : เรื่องนี้อย่างที่ทนายได้พูด ไม่รู้เหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องคนสามคน ถ้าคิดว่าพอจะพูดคุยกันได้ มันก็มีกระบวนการไกล่เกลี่ย ถ้าหากคิดว่าจะหาทางออกโดยการสมัครใจไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ก็มาตกลงกัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีได้ ส่วนเรื่องคดีถ้าประสงค์จะดำเนินคดี ก็เป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีใครห้ามเรื่องนี้ได้ เพราะบ้านเราเป็นระบบกล่าวหา
เรื่องนี้พอเป็นประเด็นขึ้นมามองได้สองมุม คนดูผมเข้าใจความรู้สึก บางมุมอาจมองว่าในเมื่อคุณหนูไปคบภรรยาเขาก่อน มีเรื่องอื่นตามมาทีหลังพัวพันถึงวันนี้ บางคนอาจรู้สึกว่าสมควรแล้วสะใจเหลือเกิน ก็อยากให้แยกให้ชัด ถ้าฝั่งพี่ไพศาลบอกว่าฟ้องชู้ได้ ฝ่ายชายก็ควรไปฟ้องชู้ทางคุณหนูว่าไปคบหาเมียเขา ให้มันขาดกันไปเลย แต่นี่เป็นอีกบริบท เหมือนไปตกลงอยู่กันสามคนผัวเมีย มันเลยเกิดเป็นประเด็นขึ้นมา ฝั่งฝ่ายหญิงกับคุณหนูก็เรื่องนึง ฝั่งฝ่ายชายกับคุณหนูก็อีกเรื่องนึง แต่นี่มาใช้คำว่ามาเป็นเมียกูสิ มันผิดทั้งหมด สิ่งที่ถูกต้องคือคุณต้องไปร้อง?
ไพศาล : ใช่ครับ กฎหมายมีเหตุผลว่าไม่ให้กลับมาทำผิดศีลธรรมซ้ำ ตัวทอมเป็นฝ่ายไม่ถูกต้อง ผิดศีลธรรม ก็ไปว่ากันตามกฎหมายไม่ว่าจะแพ่งหรืออาญา แต่กฎหมายไม่ได้ให้คุณไปทำผิดศีลธรรมต่อ อย่างอยู่กันสามคนผัวเมีย เขาไม่ให้ทำ ถ้าทำได้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ การที่ผมเข้ามาช่วยน้องเขา อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนกฎหมาย แล้วทุกท่านที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับสามีภรรยาคนอื่นขอให้มีสติ ขอให้รู้กฎหมาย ส่วนคนที่รู้กฎหมายแล้วใช้กฎหมาย ก็ขอให้ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ไม่เอากฎหมายไปเอารัดเอาเปรียบประชาชนจะดีกว่า วันนี้เรามาให้อุทาหรณ์สังคมกัน
หนู : ใช่ค่ะ
ธนกฤต : ถ้ากังวลเรื่องความปลอดภัย ก็มาที่กระทรวงยุติธรรม จะดูเรื่องกฎหมายให้ ฝากไว้นิดนึง สามีภรรยมแม้จดทะเบียนสมรส หากภรรยาไม่ยินยอมร่วมหลับนอนด้วย ก็ดำเนินคดีได้
ไพศาล : สามีก็ผิด ถ้าไม่สมัครใจอยู่ ก็ขอให้ศาลสั่งฟ้องหย่า เป็นเหตุหย่าได้ด้วย
ธนกฤต : วันนี้กระบวนการแก้กฎหมาย LGBTQ เขาไม่ใช้คำว่าสามีภรรยาแล้ว เขาใช้คำว่าคู่ชีวิต อาจเป็นชายชาย หญิงหญิง ไม่ใช้คำว่าสามีภรรยา ลองไปดูตรงนั้น