เดือด! ครูเต้ย ปะทะเจ้าของเต็นท์รถ หลังซื้อรถหรูแต่ถูกยึดถึงบ้าน
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 1 ส.ค. 66 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ครูเต้ย เสียหายไป 8 ล้านกับเต็นท์นี้ , กุ๊กไก่ เสียหาย 3 ล้าน, ดรีม เจ้าของรถลัมโบร์กินีที่ครูเต้ยซื้อไป , แซม ผู้เสียหาย 4 ล้าน รวมทั้งคนเข้ามาดูแลคดีนี้ ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต และ กัน จอมพลัง
เต้ยไปโดนอะไรมา?
ครูเต้ย : เริ่มแรกผมซื้อลัมโบร์กินีจากเต็นท์รถเต็นท์นึง รุ่นกัลลาร์โดเดิมเป็นสีเทา แต่ไปแร๊พสีมิ้นต์มา ซื้อมาเบ็ดเสร็จทั้งหมดคือ 8 ล้าน เต็มจำนวน ซื้อเป็นเงินสดครับ ตอนลงขายเป็น 8.2 ล้าน แต่เราเอารถเราไปเทิร์นด้วยครับ รถออดี้อาร์ 8 ไปเทิร์น ก็จะจ่ายเงินไป 1.5 ล้านบาท ตีของออดี้อีก 6.5 ล้านครับ
ซื้อนานหรือยัง?
ครูเต้ย : ม.ค. มีปัญหาพวกเครื่องบ้าง เอาไปซ่อม
ตอนซื้อเงินสด เขาให้อะไรเรามาบ้าง?
ครูเต้ย : ไม่เลยครับ เป็นความสะเพร่าของเราด้วย เมื่อก่อนตอนผมซื้อรถ ซื้อง่าย ไปดูสภาพรถ แล้วโอเค คุยกันตกลง เต็นท์ก็จะบอกว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ทำเรื่องโอนให้ ส่งเล่มไปให้ เราก็ไม่มีปัญหา เพิ่งมีปัญหาเคสนี้ แต่มีทำสัญญาครับ
ทนายเจมส์ : เขาใช้วิธีการส่งไลน์ให้ เอกสารกับน้องไม่มีนะครับ สังเกตได้ว่าไม่มีน้องลงลายมือชื่อเลย
ในนี้เขียนว่าไฟแนนซ์คงเหลือ 23 งวด คืออะไร?
ครูเต้ย : วันที่ผมไปซื้อ เขาเสนอให้ผมผ่อนกับเขา เหมือนน้องไม่ต้องเอาเงินมาจ่ายพี่ แต่พี่จะให้น้องเอารถมาแล้วพี่จะทำส่วนต่างเอารถไปใช้เลย แล้วได้เงินด้วย แต่น้องมาผ่อนกับพี่ เขาให้ผมกลับไปคิดว่าจะเอาแบบผ่อนหรือซื้อสด ผมกลับบ้านมายังไม่ได้เอกสาร แต่สำเนาบัตรเขาถ่ายไว้ พอกลับมาคิดคำนวณแล้วถ้าทำไฟแนนซ์ผ่อนกับเขายอดเยอะกว่าที่จ่ายสด ผมก็เลยเลือกตัดสินใจจ่ายสด
แล้วทำไมในนี้เขียนมาให้?
ครูเต้ย : ในนี้คือที่เขาจะให้ผมทำ จะให้จ่ายเท่านี้ถ้าทำไฟแนนซ์
แล้วสัญญาที่ซื้อขาดจ่ายเงินสด อยู่ไหน?
ครูเต้ย : คุยในไลน์หมดเลยครับ
เอกสารสัญญาซื้อขายที่ถูกต้องว่าเราจ่ายไป 8 ล้าน เทิร์นรถออดี้?
ครูเต้ย : ก็อยู่ในนี้
แต่มีติ่งอยู่ข้างล่างคืออะไร?
ทนายเจมส์ : อย่างที่บอกว่าที่ครูเต้ยเล่าให้ฟัง เขาบอกต้องไปจัดไฟแนนซ์กับเขา ถ้าคำนวณตัวเลข 2 ล้านกว่า ถ้าจ่ายเงินสด 1.5 ล้าน ก็จ่ายเองดีกว่า
ประเด็นคือการซื้อรถคันนึง มีสัญญาซื้อขายว่าเราซื้อรถเป็นเงินสด เราจ่ายออดี้ไปหนึ่งคัน ไม่ควรมีระบุในนี้ว่าไฟแนนซ์คงเหลือ?
ทนายเจมส์ : ตอนคุยกันเขาไม่เคยเห็นเอกสารฉบับนี้นะ
หักคอส่งให้ มีการท้วงติงมั้ยว่าเราไม่ได้จ่ายแบบผ่อนนะ?
ครูเต้ย : วันนั้นไม่ได้โฟกัสตรงนี้เลยครับ เราคิดว่าเราจ่ายสด ไม่เห็นด้วยครับว่าเขาเขียนตรงนี้
ทนายเจมส์ : ตรงนี้เป็นเหตุที่ ตร.จะไม่รับแจ้งความ เพราะเขามองว่ามันคือสัญญาผ่อน เขามองว่าครูเต้ยรู้อยู่แล้ว่ารถติดไฟแนนซ์ แต่จริงๆ คำว่าไฟแนนซ์ที่ครูเต้ยเข้าใจกับที่เขาพูดมามันคนละเรื่อง สมมติถ้าเกิดแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าอันนี้ติดไฟแนนซ์อยู่นะ บริษัทอะไร เขียนระบุให้ชัด
ที่เขาเขียนไฟแนนซ์คงเหลือ 23 งวด อันนี้ไม่ใช่สัญญาซื้อขายระหว่างเขาเป็นจำนวนเงิน 8 ล้านบาทนะ เป็นสัญญาอีกตัวที่แยกมาว่าเขายอมรับว่ามีการติดหนี้ไฟแนนซ์อยู่?
ทนายเจมส์ : ใช่ ซึ่งไม่รู้ว่าไฟแนนซ์อะไร เพราะเขาไม่ได้บอก ผมถามว่าถ้าครูเต้ยรู้ว่ารถคันนี้ติดไฟแนนซ์ หรือค้างค่างวดอยู่ ครูเต้ยจะซื้อมั้ย
พอซื้อมาแล้วโป๊ะตรงไหน เกิดอะไรขึ้น?
ครูเต้ย : ผมก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ รถมีปัญหาแล้ว จะเอารถไปคืน เขาบอกว่ารอก่อน ทำได้อยู่ ก็ทำสัญญาฉบับนี้ให้ว่าถ้าโอนไม่ได้จริงๆ เขาจะคืนรถผมและเงินผม
ทนายเจมส์ : เขาเรียกว่าสัญญาต่อเนื่องจากฉบับแรก มีผลบังคับภายในพ.ค. ต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้จัดการ
ตกลงสมุดเล่มน้ำเงินได้มามั้ย?
ครูเต้ย : ยังไม่ได้ครับ ถามเขา เขาก็บ่ายเบี่ยง บอกกำลังตามให้ เจ้าของรถไปต่างประเทศบ้าง สุดท้ายเดือนก.ค. มี ตร.ไปที่บ้าน ไปทำการอายัดรถ ผมไม่อยู่ อยู่แค่แฟน แม่ แล้วก็ลูก ลูกออกมาดู เขาก็ตกใจ ร้องไห้
ตร.บุกไปเหมือนเราเป็นคนร้าย?
ครูเต้ย : ใช่ครับ แล้วคนหมู่บ้านข้างๆ เขามาดูว่าเราทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า เขาก็ล้อมรถด้วย เหมือนเราทำผิดกฎหมายครับ
บุกไปยึดรถ แล้วเราทำยังไง?
ครูเต้ย : ผมไปคอนเสิร์ตแล้วโทรคุยกับแฟนและคุณตร. เราก็บริสุทธิ์ใจ ก็ให้ตร.เอารถไปที่โรงพัก ตร.ก็นัดเจ้าของเต็นท์มาคุย เหมือนเขาไปซื้อรถมาแล้วไม่ไปผ่อนต่อ แต่เอามาขายให้ผม โดยบอกผมว่ารถโอนได้ปกติทุกอย่าง ไม่ได้บอกว่ารถมีไฟแนนซ์
คุณติดต่อไปหาเจ้าของเต็นท์มั้ย?
ครูเต้ย : ก็ติดต่อตั้งแต่วันนั้นเลยครับ ถามว่าสัญญาเราที่บอกว่าถ้ารถมีปัญหา จะคืนรถและคืนเงิน เขาก็บอกว่ายังไม่ให้เงินไม่ให้รถคืน พร้อมเมื่อไหร่จะให้เอง วันที่มีปัญหา รถผมยังอยู่ในเต็นท์เขาอยู่เลยครับ แต่เขาบอกว่ารถขายไปแล้ว
คุณใช้ได้นานแค่ไหน?
ครูเต้ย : 7 เดือนครับ
ทนายเจมส์ : เจ้าของเก่าเขาตามมา 7 เดือนแล้ว สาเหตุเขาตามรถไม่เจอ วันแรกที่มีการเทิร์นกันระหว่างลัมโบร์กินี กับออดี้ เขาเอาแผ่นป้ายทะเบียนคืน มันเลยสลับทะเบียนกัน ทะเบียนรถลัมโบร์กินีที่ขี่ตอนนี้คือเลขทะเบียน ป้ายทะเบียนของรถออดี้ ทางโน้นก็เลยหาไม่เจอ 7 เดือน แล้วเปลี่ยนสีด้วย
รถคันนี้พอถูกยึดไป แล้วไปอยู่ที่ไหน?
ทนายเจมส์ : ไฟแนนซ์เขายึดไป เจ้าของเดิมเลยเอาเงินไปเคลียร์
ครูเต้ยบอกว่ารถถูกยึดไปแล้ว ขอเงิน 1.5 ล้านคืน ขอรถออดี้คืน ปรากฎว่าเขาบอกว่า?
ครูเต้ย : คืนเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ พี่เขาอยู่โรงพักด้วยวันนั้น
ครูเต้ย : วันที่เราไปดู รถยังอยู่ครับ
ดรีม : วันที่มีปัญหารถยังอยู่ แต่พอรู้ว่าพี่กันมา รถหายเลย
คุณเป็นเจ้าของรถคันนี้ คุณเอามาขายกับเต็นท์นี้?
ดรีม : กับอีกเต็นท์ครับ ตอนขาย ขายเป็นเงินดาวน์ให้เขาไปผ่อนต่อ แล้วอยู่ดีๆ รถก็มาโผล่ที่เต็นท์นี้ ผมก็โดนตามสองรอบครับ ชุดแรก 6 เดือนแรกไม่จ่าย เราจ่ายแทนไปก่อนล้านกว่า แล้วเราก็ตามเงินเขาว่าเมื่อไหร่จะเอาเงินล้านกว่ามาคืนเรา ก็ยังไม่คืน มีล็อตสองติดอีก 6 งวดที่ไฟแนนซ์มายึดครับ จ่ายแทนไปแล้ว 1 รอบ จริงๆ ตอนที่ขายตกลงกันว่าภายใน 3 เดือนเขาจะมาปิดไฟแนนซ์ให้เรา จบกับรถคันนี้ แต่ก็ยื้อกันมาใช้ระยะเวลาเกือบ 3 ปี เขาก็มีจ่ายมาบ้าง แต่มีรอบนึงเขาไม่จ่าย 6 งวด เราติดตามไปเขาก็เงียบ จนเราต้องสำรองจ่ายเองไปก่อนเพื่อไม่ให้เราเสียเครดิต พอหลังจากนั้นทิ้งเวลาไปประมาณ 7-8 เดือน ไฟแนนซ์มาตามอีก บอกว่าติดอีกแล้ว 6 งวด ผมก็บอกว่างั้นให้ตามหารถไปเลย ไฟแนนซ์ตามหารถก็ใช้เวลาไป 6-7 เดือน
จากนั้นเต็นท์เอารถมาขายให้ครูเต้ย แล้วรถออดี้ยังไง?
ทนายเจมส์ : ออดี้มีการทำสัญญากันล่าสุด ทำบันทึกข้อตกลงวันที่ 30 แต่วันที่ 29 ตกลงกันว่าจะเอาออดี้คันเก่าครูเต้ยมาคืนและเงินอีก 1.5 ล้าน มาคุยเงื่อนไขกัน เพราะเขาจะขอลดหย่อน เนื่องจากเอารถลัมโบร์กินี่ไปตั้ง 6-7 เดือนแล้ว มีค่าเสื่อม ค่าใช้ถือเป็นค่าเช่าจะขอลดส่วนนี้ ก็ไม่ได้ว่ากัน แต่ก็คุยกันว่าเอารถคันเก่ามาคืนนะ ก็รับปาก เอกสารพร้อม พอมาถึงหน้างานบอกว่ารถขายไปแล้ว ต้องใช้เวลานานในการตาม เจ้าของไปต่างประเทศ
เจมส์ไปคุยเองเหรอ?
ทนายเจมส์ : คุยเองครับ ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงผมจะไม่ยอมทำบันทึกข้อตกลง ณ เวลาหน้างานเขาให้ไปดูรถอีกคันนึงก่อน แต่วันที่บอกบอกว่ารถปีใหม่กว่าครูเต้ย แต่พอเอกสารมาเอารถปีเก่ากว่ามาให้ ก็ลากกันมาตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น ทางนี้ก็เลยตัดสินใจเอารถไว้ก่อนเพื่อบรรเทาความเสียหาย เพราะบอกว่าขายไปแล้ว ไม่รู้ทำไง อนาคตไม่รู้จะมีผู้เสียหายเพิ่มหรือเปล่า พอเมื่อวานนี้ผู้ใหญ่โทรตามไปให้ข้อเท็จจริง ไปรู้เรื่องราวต่างๆ อีกว่าที่บอกว่าขายไปแล้ว ยังไม่ได้ขาย
เจอตัวนิคเจ้าของเต็นท์แล้ว ตอนนี้ไปหาทนายเดชาซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับนิค คุณโดนอะไรกุ๊กไก่?
กุ๊กไก่ : ผมโดนรถคันสีขาว ลัมโบร์กินี ซื้อรถคันนี้มาจากเต็นท์นี้ รถมีปัญหา พอมีปัญหาเสร็จเราก็เจรจาขอคืนรถคันนี้ แต่ตอนเราได้รถคันนี้มาเราจัดไฟแนนซ์ไป 7.5 ล้าน ไฟแนนซ์ก็จ่ายเงินให้คุณนิคไป 7.5 ล้านแล้ว พอรถมีปัญหาเราก็บอกว่าเราไม่เอารถคันนี้แล้ว เพราะเกี่ยวกับดีเอสไอด้วย มีจดหมายส่งมาที่บ้านผม
บอกว่ารถคันสีขาวที่ซื้อมา นำเข้าเลี่ยงภาษี ติดดีเอสไออยู่ แล้วเอามาขายคุณ คุณก็เลยต้องคืน?
กุ๊กไก่ : ครับ เขาบอกว่าโอเค เดี๋ยวรับผิดชอบ เอาคันใหม่ให้ แต่วิธีการรับผิดชอบของเขา ผมคิดว่าเอารถไปคืนแล้วได้คันนี้มาเลย แต่วิธีการเปลี่ยนของเขา เขาให้ผมไปยื่นจัดไฟแนนซ์ใหม่อีก 7.5 ล้าน รวมสองคันก็ 15 ล้านแล้วครับ
คันแรกคุณก็เป็นหนี้ด้วย แล้วรถคันนี้ก็เท่ากับคุณซื้อรถอีกคัน แล้วคุณไปจดทำไม?
กุ๊กไก่ : ตอนนั้นเราไม่มีทางเลือก เขาบอกจะคืนให้วิธีนี้ เราก็ต้องรับไว้ก่อน
คันสีขาวคุณผ่อนไปหรือยัง?
กุ๊กไก่ : ผ่อนไป 2 งวดแล้วประกันอีก 3 แสน
พอมาคันที่สอง ก็คิดว่าน่าจะแลกเปลี่ยนกันไป แต่เขาบอกว่าให้ทำสัญญาใหม่โดยกู้ไฟแนนซ์ใหม่ คุณก็กู้ไปอีก 7.5 ล้าน แต่คันเก่าก็ค้างอยู่ด้วย?
กุ๊กไก่ : เขารับปากว่าจะเปลี่ยนสัญญาให้ แต่ว่าผมเช็กกับน้องๆ บอกว่ายังติดเป็นชื่อผมอยู่ พอได้รถคันสีเหลืองมา พอโอนผู้เช่าซื้อปุ๊บ ก็มีจดหมายดีเอสไอมาอีกแล้ว เขาเรียกผมเข้าไปพบว่าผมไปเกี่ยวพันกับฟอเร็กซ์หรือเปล่า เพราะอันนี้เป็นทรัพย์ของฟอร์เร็กซ์ คราวนี้ก็วุ่นวายมากเลยพี่ ต้องเตรียมหลักฐาน เตรียมสเตทเมนต์ทุกอย่าง เพื่อยืนยันตัวตนว่าเราไม่เกี่ยวกับฟอร์เร็กซ์ ผมก็ถามว่าถ้ารถคันนี้ผมผ่อนหมด สามารถโอนซื้อขายได้มั้ย เขาบอกว่าไม่ได้ พอไม่ได้เสร็จก็ไม่รู้ทำยังไง ทนผ่อนมาคร่าวๆ ประมาณ 20 กว่างวด งวดละประมาณ 1.6 แสน แล้วไม่รู้จะหาทางออกยังไง ผมก็โทรหาเจ้าของเต็นท์นี้ที่ขายผมมา เพราะผมอยากจบ ไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว เขาบอกโอเค ได้ เดี๋ยวรับซื้อคืน แต่ซื้อคืนในราคาซื้อได้นะ คือเราขาดทุน เราก็โอเค ขาดทุนก็ช่างมัน
กุ๊กไก่ : ผมได้เงินกลับมาล้านเดียวเองครับ แต่ผมทำสัญญานะครับ ผมอยากให้หลุดจากผมไปสักที ทำสัญญาว่าผมซื้อวันนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นเขาจะปิดไฟแนนซ์ให้ ผมก็โอเค ทำสัญญาสบายใจ แต่ก็ไม่ปิดให้ครับ ผมรู้ตัวอีกทีหลังจากนั้น 4-5 เดือน มีสำนักงานกฎหมายของไฟแนนซ์มาตามหารถที่บ้าน ผมก็ตกใจ ว่ายังไม่ปิดอีกเหรอ เริ่มเอะใจเพราะเริ่มมีหนังสือมาที่บ้าน ตอนนั้นเริ่มโทรหาเขาว่าเอารถผมไปขายใคร เขาก็บอกว่าไม่รู้ๆ พอโทรหาบ่อยๆ เขาก็บอกว่าอยากได้มึงไปตามเอง พูดอย่างนี้เลยครับ
คุณเป็นหนี้ไฟแนนซ์เท่าไหร่?
กุ๊กไก่ : หลังจากนั้นผมไปตามหารถเอง ไปเจอรถอยู่ที่แซม ผมเป็นหนี้ไฟแนนซ์ประมาณ 15 ล้าน แต่คันขาวตอนนี้ผมไม่รู้เขาเอาไปขายให้ใคร เพราะยังไม่มีจดหมายมาหาผม ส่วนคันเหลืองกลับไปอยู่กับแซม
แซมซื้อต่อจากเขา เพราะหลังจากเต็นท์เอารถคืนจากกุ๊กไก่ก็เอาไปขายแซม แล้วเป็นยังไง?
แซม : ใช่ครับ เหตุการณ์คล้ายๆ คุณเต้ย พอดีผมไม่ได้รับเอกสารอะไรเลย เราวางดาวน์ไปประมาณ 2 ล้านบาท รถขับไม่ได้ตั้งแต่ม.ค. จนพ.ค. รถเพิ่งซ่อมเสร็จ เพราะกล่องอีซียูถูกสลับเป็นออดี้อาร์8วี8 ขับไม่ได้เลยพี่ เราก็ติดต่อกลับไปว่ามีปัญหาแบบนี้ เราก็ผ่อนมาเรื่อยๆ มีช้าบ้างอะไรบ้าง แต่ปัญหาคือตอนหลังเราเริ่มเอะใจว่าเอกสารรถเราก็ไม่ได้ ทวงถามขอเบอร์พี่กุ๊กก็ยังไม่ได้ เรารู้แค่เลขบัญชีอย่างเดียว เราก็โอนเงินอย่างเดียว พอเราซ่อมเรามองว่ามูลค่ามันเริ่มเยอะ เราก็เลยตัดสินใจว่าเราจะไม่เอาแล้ว เราก็เลยกลับไปติดต่อเขา
คือคันที่เป็นลัมโบร์ในตำนาน ขับลุยน้ำท่วม ที่หางดง เชียงใหม่ ย้ายไปเป็นของคนนี้อีกแล้ว?
กุ๊กไก่ : รถมันติดดีเอสไอ ผมก็ไม่รู้มันไปได้ไง
อยู่ในสายกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และคุณนิค เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น เคลียร์ประเด็นครูเต้ยก่อน?
นิค : ขออนุญาตชี้แจง ของครูเต้ย วันที่ 30 ก.ค. ได้ทำบันทึกข้อตกลงและรับผิดชอบครูเต้ยไปแล้ว เอารถอีกคันที่เป็นรุ่นที่ดีกว่ารุ่นเก่า มีการทำบันทึกสัญญาเป็นข้อตกลง ก็แฮปปี้ มีทนายเจมส์เซ็นเป็นพยานอยู่ในเอกสาร ข้อที่สามมีบันทึกข้อตกลงว่าจะให้สัมภาษณ์นักข่าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในกิจการซื้อขายรถยนต์ หากผมเคลียร์จบ ไปสัมภาษณ์อีจัน ช่อง 8 แล้วก็ข้อที่ 4 คู่สัญญาไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและอาญาต่อไป
สรุปว่าวันนี้คุณนิคยืนยันตามข้อเท็จจริงมั้ย เอารถติดไฟแนนซ์ไปขายเป็นเงินสดให้ครูเต้ย?
นิค : ผมก็ต้องขอชี้แจงนิดนึง ต้องบอกว่ารถคันนี้กรรมสิทธิ์จริงๆ แล้วเป็นของผม ผมไม่ทราบว่าบริษัทคุณดรีม เอารถกลับไปได้อย่างไร เพราะจริงๆ แล้วตอนเขาเอารถกลับไป ไฟแนนซ์เหลือแค่ 2.7 ล้าน ผมยินดีเอาเงิน 2.7 ล้านไปปิดเพื่อเอาเล่มออกมา แต่ระหว่างนี้ที่ไม่ได้ไปปิด ผมตามเอกสารคุณเบิ้มอยู่นานมาก ผมไม่ใช่คู่สัญญาทางคุณดรีม
ดรีมเอารถคันนี้ไปขายให้เบิ้ม เบิ้มเอาไปขายให้คุณ คุณยืนยันมีสัญญาซื้อขายถูกต้อง แล้วคุณนิคเอง ผ่อนรถคันนี้ตลอดมั้ย?
นิค : ผมผ่อนตลอด คือมันมีปัญหาตั้งแต่ตอนที่เอารถมาแล้ว เข้าใจผิดค่างวดกัน 1 งวด หมายถึงคุณเบิ้มเขาแจ้งผมอีกอย่าง พอมาถึงผม ผมเช็กอาจเหลืออีกยอดนึง
ในฐานะที่เปิดเต็นท์รถ คุณนิคเอารถคันนี้ไปขายเป็นเงินสดให้ผู้ซื้อไปแล้ว ทำไมไม่ปิดบัญชีแล้วให้เล่มเขาไป?
นิค : ที่คุณเต้ยไปออกในสื่อ ที่ผมบอกว่ารถไม่ได้ติดไฟนแนนซ์ไม่ใช่นะครับ ผมมีเอกสารชัดเจนทั้งหมดว่าผมชี้แจงน้องไปแล้วว่ามีไฟแนนซ์เหลือเท่านี้
นิค : เดี๋ยวเปิดแชตไลน์ที่คุยกับครูเต้ยให้ดูดีกว่า ตรงนั้นผมว่าไม่เรียล แชตไลน์ที่ผมคุยกับครูเต้ย ก่อนครูเต้ยจะมัดจำ ผมไม่มีเจตนาหลอกลวงใดๆ
ครูเต้ย : ถ้าบอกว่ารถติดไฟแนนซ์ผมก็ไม่ซื้อหรอกครับ
นิค : ข้อความที่ผมคุยกับครูเต้ย ผมแจงหมดนะครับ ว่าลัมโบร์กินี่ฟ้า เหลือค่างวด 1.6 แสนบาท ยอดปิด 3.5 ล้าน แล้วก็เป็นเรื่องการทำสัญญาออนไลน์ ขอบัตรประชาชนครูเต้ย เขียนสัญญาข้างนอก มีการรับรู้และโอนมัดจำให้ 1 ล้านบาท ผมส่งให้ครูเต้ยดูทั้งหมด พอครูเต้ยอ่านสัญญาเสร็จปุ๊บก็โอนเงินให้ผม 1 ล้านบาท แล้วที่ผมไม่ได้ไปปิด เพราะเอกสารที่ผมได้จากคุณเบิ้ม ยังไม่ครบถ้วน ผมมีแชตไลน์บอกครูเต้ยตลอด
ครูเต้ย : ตอนพี่บอกคือไม่มีไฟแนนซ์ครับ ถ้าพี่บอกว่ามีไฟแนนซ์ผมก็ไม่ซื้อ ที่เขียนไฟแนนซ์ตรงนี้คือพี่เสนอให้ผมทำไฟแนนซ์กับพี่ ให้แฟนและพ่อแฟนเป็นพยานได้ เพราะนั่งด้วยกัน 3 คน พี่บอกให้จัดไฟแนนซ์กับพี่ ให้คิดดูก่อน เราก็คุยกัน แต่ผมตัดสินใจว่าถ้าผมจัดมันยอดเยอะ ผมโอเคขอจ่ายสด พี่ก็โอเค โอนตังค์เรียบร้อย บอกว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ แล้วจะโอนเล่มมาให้
ตอนนี้เต้ยเขาอยากได้รถออดี้ที่เขามีการเอารไปเทิร์น มูลค่า 6.5 ล้าน กับเงิน 1.5 ล้านคืน?
นิค : เมื่อวาน วันที่ 30 ที่เราทำข้อตกลงกัน มีข้อ 3 กับข้อ 4 ผมไม่ได้ผิดสัญญากับเขาสักข้อ แต่ข้อที่ 3 ผมบันทึกข้อตกลงกันว่าผู้ซื้อจะให้สัมภาษณ์นักข่าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อดำเนินกิจการรถยนต์ให้ผมต่อไป ในเพจอีจันและช่อง 8 แต่เขายังไม่ได้ทำ ข้อ 4 คู่สัญญาไม่ติดใจดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา เกี่ยวกับรถคันที่ซื้อ จริงๆ ผมก็โอเคนะ
สรุปเขาบอกจะคืนรถให้ และเอารถรุ่นที่ดีกว่าให้ เพราะรถครูเต้ยขายไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเขาเอารถปีเก่ากว่า มูลค่าเป็นไง?
ทนายเจมส์ : น่าจะต่ำกว่าด้วย ต้องย้อนหลังไปวันที่ 29 ก่อนทำบันทึกข้อตกลงนี้ คุณนิคโทรมาคุยกับคุณเต้ย บอกว่าจะเอารถคันเก่าครูเต้ยมาคืนพร้อมเงิน และคุยรายละเอียดเรื่องเงินกัน แล้วโทรหาผมด้วยข้อเสนอเดียวกัน ผมก็ใจชื้นเลย ได้รถคืนได้ตังค์คืนด้วย แต่ตังค์ค่อยคุยกันในเงื่อนไขรถที่ครอบครองไป 6 เดือนว่าจะยังไง พอมาถึงมองรถไม่เจอ ท้ายที่สุดเขาบอกว่ารถขายไปแล้ว เจ้าของไปต่างประเทศ จะติดต่อได้อีกทีก็ 15 วัน มีข้อเสนอนึงอยากให้ลองพิจารณา เอารถออดี้อีกคันมาให้ดู ครูเต้ยมองดูว่าถ้าเรารับรถไว้เพื่อบรรเทาความเสียหายก็โอเค รถตีราคา 7 ล้าน เขาบอกว่ารถราคา 8 ล้าน แต่เขาตั้งราคาที่ 7.48 ล้าน ผมก็บอกว่าตีราคา 8 ล้านไม่ได้ งั้นต้องคุยเรื่องเงินส่วนต่าง สุดท้ายทางครูเต้ยก็บอกว่าลองเช็กราคาร้านอื่นดู เขาขายที่ราคา 7.1 ล้าน ก็เหลือส่วนต่าง 9 แสน เขาก็ขอความเห็นใจอย่างนั้นอย่างนี้ ขอจบที่ 5 แสนได้มั้ย ขอผ่อนเดือนละ 5 หมื่น 6 เดือน ครูเต้ยก็โอเค ผมก็โอเค เพราะบรรเทาความเสียหาย ทีนี้เหตุการณ์มันพลิกมาเมื่อวาน ผู้ใหญ่ตามทั้งผมและครูเต้ยไปให้ข้อเท็จจริง ในข้อตกลงก็บอกแล้วว่าสามารถให้สัมภาษณ์ได้ในมุมบวกและความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ผมก็เล่าไปตามความจริงที่เกิดขึ้น แต่มีข้อเท็จจริงพลิกอยู่นิดนึง ตรงที่รถที่เขาอ้างว่าขาย เราเช็กดูแล้ว ยังอยู่ อันนี้จากข้อมูลแหล่งข่าว บอกว่ามีการเก็บภาพได้ว่ารถจอดอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง สองมีการเอารถไปโพสต์ขายวันที่ 13 ก.ค. หลังวันที่เกิดเหตุ โดยเอาแผ่นท้ายทะเบียนลัมโบร์กินีไปติด พอเจอเหตุการณ์อย่างนี้ เต้ยก็ไม่โอเคแล้ว ไหนบอกว่ารถขายไปแล้ว สองเอาไปลงโพสต์ขายเป็นชื่อใครก็ไม่รู้ แต่เป็นหน้าคุณนิค ขายรถคันนี้ในราคา 6.8 ล้านกว่าบาท โดยใส่ป้ายทะเบียนรถลัมโบร์กินี พอเรารู้ข้อมูลอีกด้านว่าวันที่ 18 ก.ค. มีการโอนเล่มทะเบียนรถจากคุณเต้ยไปเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นคนๆ นึง เราก็เช็กอีกว่าคนๆ นั้นคือใคร ก็คาดว่าเป็นลูกน้องคุณนิคที่อยู่ในเต็นท์ MC นั่นแหละ
คุณกันมาดูแลเรื่องนี้ยังไง?
กัน : ครูเต้ยและผู้เสียหายหลายท่านให้ผมช่วย บางคนสองปีเรื่องไม่เดินหน้าสักที ผมก็ประสานผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมรู้จัก ที่ผมคิดว่าน่าจะช่วยเหลือได้ ก็ประสานท่านสุรเชษฐ์ หักพาล ท่านรองผบ.ตร. ให้ช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อวานท่านก็ให้ไปที่ สน.วังทองหลางและรับเป็นคดี และประสานอดีตเลขารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ท่านธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ประสานท่านอธิบดีดีเอสไอ เรื่องนี้ผมคิดว่ามีดีเอสไอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทุกท่านก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ ถ้าตรงนี้เขาเป็นผู้เสียหายหายๆ ท่าน อย่างคุณเต้ยบอกให้เยียวยาเขาก็โอเคแต่มีบางท่านที่ยังไม่โอเค ก็ต้องไปตกลงกัน แต่เรื่องกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่สองปีก็หยุดเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย ออกจากบ้านไม่ได้ตั้งหลายปี ทุกคนก็ผู้เสียหายทั้งนั้น ถูกว่าไปตามถูก ผิดว่ากันไปตามผิด แต่เรื่องนี้กระบวนการต้องเดินหน้าครับ
มุมนิควันนี้เขาอยากได้รถคันเก่าคืน เขารู้ว่ามีการโอนรถเป็นชื่อลูกน้องคุณนิคแล้ว สามารถเอากลับมาให้เขาได้มั้ย?
นิค : ตอนนี้ผมตามรถลัมโบร์กินีที่อยู่กับคุณดรีมมาอยู่กับผมครับ ถ้าเขาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือเขามาลิดรอนสิทธิ์ผมไป ขออนุญาตให้เอามาคืน ทุกอย่างเรื่องจบเลยครับ ไม่ว่าเต้ยอยากได้อะไร ก็ได้หมดเลยครับ
ครูเต้ย : แล้วเกี่ยวอะไรกับผม
นิค : ใช่ครับ ก็อยู่ที่คุณดรีมครับ
รถอยู่ที่คุณเหรอ?
ดรีม : ผมไปตัดไฟแนนซ์ครับ รถอยู่กับผมครับ
นิค : เงินที่ผมซื้อมาคันนี้ ผมซื้อมา แล้วไฟแนนซ์เหลือ 2.7 ล้าน ตัวรถมูลค่า 8 ล้าน เงินผมอีก 5 ล้านกว่าบาท อยู่กับรถลัมโบร์กินีคันนี้ครับ
ตอนคุณซื้อรถมา ทำไมไม่ไปปิดบัญชีเลย?
นิค : เพราะเอกสารที่ผมมีครับ
โอนลอยใช่มั้ย?
นิค : คุณดรีมโอนลอยมาครับ
ทำไมไม่โอนเป็นชื่อคุณเลย?
นิค : เพราะเอกสารไม่ครบครับ ผมให้คุณดรีมส่งมาเพิ่ม แต่คุณดรีมก็ไม่ได้ส่งมาเพิ่มครับ
เช่นอะไรบ้างที่ขาดไป?
นิค : ผมติดต่อไปนานมาก คุณดรีมไม่ได้เอาเอกสารมาให้เพิ่มจนเกิดปัญหา
คุณว่าไง?
ดรีม : ผมก็ตามมาสองปีเหมือนกันครับ แล้วมีค่างวดครั้งแรกที่ผมสำรองไปก่อน ผมก็ไม่ได้คืน
ล้านกว่าบาทที่จ่ายไปก่อน?
นิค : ล้านกว่าบาทไม่เป็นไรครับ ถ้าเขาติดเรื่องเงินตรงไหน ให้เขาเอาลัมโบร์กินีมาเคลียร์กับผมที่โชว์รูมแล้วทุกอย่างจบเลยครับ ตอนนี้ผมโดนสองฝั่ง ฝั่งที่ผมคืนรถให้ครูเต้ย ผมขาดทุนไปแล้วน่าจะ 10 ล้าน กับลัมโบร์คันนี้ผมซื้อมาถูกต้อง เท่ากับผมขาดทุนอีก 8 ล้าน
คุณกันจะพูดอะไร?
กัน : แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณเต้ย คุณบอกว่าถ้าดรีมเอารถไปคืน เต้ยอยากได้อะไร ก็ได้หมด แล้วเกี่ยวอะไรกับครูเต้ย
นิค : จริงๆ คู่สัญญาไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและอาญากันต่อไป เกี่ยวกับรถคันนี้
กัน : สัญญาที่ทนายเจมส์บอกว่าทำตัวนี้ เพราะเข้าใจว่ารถขายไปแล้วถึงได้ทำสัญญานี้ขึ้นมา แต่พอเขาไปตรวจเช็กเขาสงสัยว่ารถไม่ได้ขายหรือเปล่า เพราะชื่อเป็นลูกน้องคุณนิคหรือเปล่าที่เป็นเจ้าของรถ เขาเลยส่งไลน์ไปยกเลิกสัญญา แล้วของคุณดรีมกับคุณเต้ยเกี่ยวอะไรกัน
นิค : ความหมายผมแค่วอนพี่หนุ่มให้ช่วยให้คุณดรีมมาเคลียร์ผมหน่อยแค่นั้นเอง
ขอทีละคนก่อน ณ วันนี้ครูเต้ยอยากได้รถออดี้คืน ที่เขาทำสัญญาเพราะเขาคิดว่าคุณขายรถออดี้ไปแล้ว แต่วันนี้เขารู้ว่ารถยังไม่ได้ขายไป แต่คุณโอนชื่อเป็นลูกน้องคุณ วันนี้สามารถตามรถคันนั้นมาคืนได้มั้ย แล้วจ่ายอีก 1.5 ล้าน แล้วจบเลย?
นิค : สัญญาฉบับนี้มันจบแล้วครับ ผมตกลงกันแล้ว และผมก็ไม่ได้ผิดสัญญาด้วยครับ
ทนายเจมส์ : วันที่ 29 คุณนิคคุยกับผมกับครูเต้ยว่าจะเอารถคันเก่ามาคืน ถูกต้องมั้ย พร้อมชุดโอนครบทุกอย่าง
นิค : ไม่ครับ ผมบอกว่าจะตามให้ครับ
ทนายเจมส์ : ผมอัดเสียงไว้ด้วยนะครับ คุณบอกเอกสารครบถ้วน ตอนบ่ายผมโทรไปย้ำคุณว่าเอกสารครบถ้วนนะ พร้อมแล้วนะ ยังโทรไปถามทนายคุณเลยว่าคุณเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้วนะ รถพร้อมนะ ผมถามอย่างนี้ครับ วันที่ 30 จึงมีการพาครูเต้ยไปหาคุณที่นั่น ครูเต้ยต้องตีรถจากหัวหินมาหาคุณนะครับ ถ้าคุณไม่สัญญาอย่างนี้เขาไม่มาอยู่แล้วครับ
นิค : ผมไม่ได้บอกแบบนั้น จริงๆ เงื่อนไขทนายผมพิมพ์มาให้หมดอยู่แล้ว
ทนายเจมส์ : เอาวันที่ 29 ก่อน เป็นเรื่องที่คุณคุยกับผม คุณสัญญาจะเอารถคันเก่ามาคืนครูเต้ย ในวันที่ 30 ถูกต้องมั้ยครับ
นิค : มันคนละวันกันนะครับ
ทนายเจมส์ : ผมถามถึงวันที่ 29 ก่อนไง วันที่ 30 ไม่เกี่ยว อ.เดชาก็ไม่เกี่ยว เพราะไม่รู้เรื่องหรอก เพราะคุณก็คงไม่ได้เล่าให้อ.เดชาฟัง
นิค : ผมเล่าหมดครับ
ทนายเจมส์ : พอมาวันที่ 30 คุณถึงได้บอกว่ารถขายไปแล้ว เจ้าของรถไปเมืองนอก ถูกมั้ยครับ
นิค : ผมไม่ได้พูดแบบนั้น ผมบอกว่ารถตามกลับมาได้ แต่ขอเวลาหน่อย แค่นั้นเอง ผมไม่เคยพูดเลยนะว่าเจ้าของรถไปเมืองนอก
ครูเต้ย : ได้ยินครับ
นิค : ไม่เป็นไร ผมมีคลิปการประชุมอยู่ ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น
ทนายเจมส์ : มันเป็นประเด็นครับ เพราะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผม ครูเต้ย ยอมเซ็นสัญญาฉบับนี้ เพราะคุณบอกว่าคุณขายไปแล้ว
นิค : ไม่ใช่ครับ คลิปวิดีโอบันทึกการประชุม ก็สมัครใจทุกอย่าง ผมให้เลือกสองอย่าง อย่างแรกคือเอารถคันเก่าคืน แต่ต้องรอ ใช้เวลานะ ไปต่างประเทศผมไม่ได้พูดเลย
ทนายเจมส์ : แต่คุณบอกว่าคุณขายไปแล้ว ถูกต้องมั้ย
นิค : คืออย่างนี้ครับ ผมบอกว่ามีรถอีกคันราคาสูงกว่า ซึ่งครูเต้ยเสนอว่าถ้าให้ซื้อ ผมให้พี่ 7.1 ล้าน แต่เจรจากันไปเจรจากันมา ทนายเจมส์บอกว่าไม่เป็นไร เพิ่มให้ 5 แสนก็จบนะ ผมก็จบแล้วนี่ครับ ผมไม่ได้ผิดสัญญานะ
ทนายเจมส์ : ผมไม่ได้บอกว่าคุณผิดสัญญา แต่กำลังเล่าที่มาที่ไปของการเซ็นสัญญาก่อนวันที่ 30 ก.ค. คุณตอบผมก่อนว่ารถขายแล้วถูกมั้ย
นิค : ผมบอกว่าเดี๋ยวผมไปตามรถมาให้
ทนายเจมส์ : คุณตอบให้ตรงคำถาม ว่าคุณบอกว่ารถขายแล้วใช่มั้ย
นิค : ผมตอบตามคลิปวิดีโอครับ
ทนายเจมส์ : ผมถามว่าคุณบอกว่ารถขายแล้วใช่มั้ย ตอบมาแค่นี้
นิค : ผมบอกว่าผมจะตามรถมาให้ครับ ผมตอบได้แค่นี้
ตอนนี้รถออดี้ยังอยู่หรือเปล่า หรือขายไปแล้ว?
นิค : ยังอยู่ครับ ตามกลับมาได้ครับ
คุณสามารถเอารถมาคืนให้เขาได้มั้ย?
นิค : ตามได้ครับ
ทนายเจมส์ : ในวันที่คุย คุณนิคบอกว่าเดี๋ยวเล่มทะเบียน 988 ของออดี้ คุณนิคจะเอาเล่มมาคืนให้เขา ถูกต้องมั้ย
นิค : คืนครับ
ทนายเจมส์ : แล้ววันที่ 18 ก.ค. ป้ายทะเบียนถูกโอนไปยังคนๆ นึง
นิค : ผมไม่รู้เรื่องครับ
ทนายเจมส์ : ไม่รู้เรื่องไม่ได้ เพราะเอกสารคุณรับไปครับ
นิค : แล้วมันมีผลอะไรกับการที่เราเคลียร์กันครับ
ทนายเจมส์ : มีครับเพราะเล่มเป็นของครูเต้ย ครูเต้ยเขาขอเล่มคืน ทะเบียนนี้ไม่ได้ติดกับตัวรถ
นิค : จริงๆ รถคันเก่าถ้าตามกลับมา ต้องมาพร้อมเล่มอยู่แล้วครับ
ทนายเจมส์ : แล้วคนรับโอนรถไปคือใคร เมื่อวานผมได้ข้อมูลมาว่าเป็นลูกน้องในเต็นท์ของคุณ ผมก็ไม่แน่ใจ ก็มาถามจากปากคุณนี่แหละ
นิค : ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันครับ
นิค : ครับ
ทนายเจมส์ : ถ้าได้รถได้เงินคืนครบก็ถอน
สักกี่วัน จะได้รู้ว่ากี่วันจะได้เคลียร์ไป?
นิค : ผมแจ้งอีกทีได้มั้ย
เดี๋ยวคุณจะกลายเป็นว่าไม่ได้บอกเวลาไว้ ผมว่าจะนานไป ขอแบบภายใน 2 อาทิตย์ได้มั้ย?
นิค : ได้ครับ ผมจะรีบเร่งให้เต็มที่เลยครับ
รับได้มั้ย?
ทนายเจมส์ : โอเคอยู่แล้วครับ จ่ายครบถอนแจ้งความให้
กัน : เคลียร์เรื่องครูเต้ย มีอีก 3 คน ไล่ไป
นิค : ขอเรื่องดรีมก่อน
ดรีม เขาจะขอรถคืน เอายังไง?
ดรีม : ถ้าเป็นตอนแรกกรณีผม ถ้าผมไม่เจอรถ เขาจะยังไงครับ กลายเป็นผมมานั่งจ่ายล้านกว่าบาท กลายเป็นผมผ่อนกุญแจไปเลย ซึ่งมันก็ไม่แฟร์สำหรับผม การตามรถ ผมก็ต้องให้คนไปตาม ใช้ระยะเวลานานมาก ผมทวงถามค่างวดเขา ใช้เวลาเกือบ 2 ปี เขาก็บ่ายเบี่ยงไม่รู้รถผมอยู่ตรงไหน ซึ่งวันที่เจอรถกับทะเบียนก็ไม่ตรงกัน ผมถามว่าเพราะอะไร ทำไมมันเป็นคนละทะเบียน ไฟแนนซ์ก็บอกว่าเจตนาเขายังไง ไม่อยากให้ไฟแนนซ์เจอ ไม่อยากให้ไฟแนนซ์ยึดเหรอ คนละสีด้วย เขาก็ถามผมมาอย่างนี้ ผมไม่มีอะไรจะคุยกับเขาเลยพี่ ผมไม่คืนรถแล้ว หนึ่งเครดิตผมเสีย สองไฟแนนซ์ที่เอาไปยึด ถ้าผมไม่หาเงินไปจ่าย ผมก็ไม่ได้รถคืนมา
นิค : ผมจะจ่าย แต่คุณเอาเงินไปปิดก่อน เจตนาคืออะไร
ดรีม : ไม่ได้เอาเงินไปปิดก่อนครับ ไฟแนนซ์ยึดไปก่อน
นิค : วันแรกที่ไฟแนนซ์เข้าไปบ้านคุณเต้ย ผมไปแสดงตัวที่สน.นะ พนักงานสอบสวนบอกว่าปล่อยรถให้เจ้าของไปแล้ว เอาง่ายๆ รถเหลือไฟแนนซ์แค่ 2 ล้าน ผมซื้อมา 8 ล้าน ส่วนต่างตรงนี้ไปไหน คุณเอารถไปได้อย่างไร ผมซื้อรถมาอย่างถูกต้อง คุณเอากลับไปได้ยังไง คุณก็เอามาคืนผมสิ คุณเอามาคืนผมสิ ไม่งั้นเอา 5 ล้านมาคืนผม
ดรีม : แล้วทำไมพี่ไม่จ่ายไฟแนนซ์ครับ
นิค : วันจันทร์ผมเตรียมเงินไปเพื่อปิดไฟแนนซ์ให้ เพราะผมตามคุณดรีม คุณดรีมเคยมาหาผมรอบนึงแล้สอ้างว่าตัวเองเป็นอัยการ แล้วมาบอกว่าตามรถคันนั้น คือชุดเอกสารชุดนี้มีก็จริง แต่ไม่ครบครับ ผมขอเอกสารคุณดรีมไป คุณดรีมไม่เคยให้ผมเลย จนเกิดเรื่อง อ้างไปต่างประเทศบ้าง อ้างมั่วไปหมด ผมมีแชตไลน์นะครับ
ดรีม : ผมไม่เคยอ้างไปต่างประเทศ
นิค : แล้วส่วนต่างรถ 8 ล้าน ใครจะเป็นคนจ่ายให้ผมครับ หรือคุณเอารถมาคืนผม แล้วค่าใช้จ่ายคุณมีเท่าไหร่ ผมจ่ายให้คุณหมดเลย
นิค : เยอะมากครับ เอาง่ายๆ วันที่คุณดรีมมายึดรถกับไฟแนนซ์ วันนั้นเหลือ 2.7 ล้าน แต่ผมขายให้ครูเต้ย 8 ล้าน มันได้กำไรไปเกินควร มูลค่ามีส่วนต่างอยู่ คุณจะมาตบทรัพย์ส่วนต่างแล้วเอากลับไปเลยแบบถือสิทธิ์ของคุณ ผมว่าไม่ถูกต้องนิดนึง
คุณซื้อดาวน์มาเท่าไหร่?
นิค : มันผ่านเบิ้มมา ก็ต้องมี 5 ล้าน
ก็เหลือ 2.5 ล้าน ต้องผ่อนกับไฟแนนซ์ รวมดอกรวมอะไรค่าล่าช้า เบ็ดเสร็จคุณต้องจ่าย 2.7 ล้าน แล้วรถจะโอนมาเป็นของคุณ เพราะคุณซื้อจากเบิ้ม ทีนี้คุณเอารถคันนี้ขายให้ครูเต้ย ครูเต้ยเจอปัญหาเหมือนกัน เพราะคุณขาดส่งไฟแนนซ์ ครูเต้ยก็ถูกยึดรถไป ปรากฏว่าดรีมซึ่งเป็นเจ้าของเก่าก็ไปไถ่รถออกมาเพราะเป็นชื่อเขาอยู่ มันทำให้ความผิดไปตกที่ดรีมด้วยถ้ารถคันนี้ไม่ได้มีการผ่อน จากนั้นดรีมกลัวตัวเองจะผิด เลยจ่ายครั้งแรกไปก่อนล้านกว่าบาท?
ดรีม : ตอนดรีมถามเขา เขาบ่ายเบี่ยง ไม่เคยบอกว่ารถอยู่ไหนเลย
นิค : ผมไม่เคยคุยกับคุณดรีมเลย ได้มาคุยตอนหลัง ผมคุยกับเบิ้ลตลอด ที่ยังไม่ปิด เพราะเอกสารยังมาไม่ครบ
VV
V