จุดจบเสี่ยพันล้าน! เปิดทรัพย์สินเปย์ฝ่ายหญิง ช้ำใจให้จนเป็นยาจก

รณี "ลุงแก่" อายุ 74 ปี ได้ร้องเรียนผ่านรายการโหนกระแส ปมคบหากับหญิงคนหนึ่ง ที่รู้จักเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งที่ตนเองก็มีภรรยา ลุงแก่เปย์ให้จนหมดตัว ทั้งรถยี่ห้อดัง ให้เงินปีนึง 20 ล้าน เปิดบริษัทให้ฝ่ายหญิงจนกลายเป็นคนร่ำรวย รวมเงินและทรัพย์สินที่เปย์กว่า 100 ล้าน แม้ฝ่ายหญิงมีคนอื่นก็ให้อภัย วันที่เดือดร้อนขอเงินคืนฝ่ายหญิงกลับช่วยเหลือแบบไม่เต็มใจ ทำให้ออกมาร้องสื่ออยากได้ทรัพย์สินบางอย่างคืน เพราะตอนนี้จากราชารวยพันล้านกลายเป็นยาจกแล้ว

ตกใจมั้ย?
รณณรงค์ : ตกใจตรงที่ถามลุงมีทองคำกี่บาท ลุงบอกว่ามีพันบาท 19 ล้านกว่า (หัวเราะ)

ตอนนั้นรักเขาหรือยัง?
ลุงแก่ : ยังไม่รัก เห็นใจเขา ถ้าไม่ช่วยคืนนั้นพ่อเขาเสียแน่นอน ผมก็ช่วยเขาไป 5 แสน แล้วจากนั้นก็คบกันมาเรื่อยๆ อีก 3 เดือนผมก็ออกรถให้เขาคันนึง BM ซีรีส์ 5 ตอนนั้นคันนึงตกๆ เกือบ 2 ล้าน เป็นมือหนึ่ง ป้ายแดง เห็นเขาขับรถเก่า และรถเขาเสียบ่อยๆ นิสัยผมถ้าจะให้ใคร ผมจะให้เขาดีหมด เขาอยากได้รถยุโรป เขาบอกมีคนดูถูกเขาว่าจน ขับรถญี่ปุ่น ก็บอกเอา BM ไปแล้วกัน ให้ขายรถทิ้งไป ซื้อสดให้เลย

ตอนนี้ลุงอายุ 74 แล้ว สองเดือนลุงซื้อ BM ให้ แล้วยังไงต่อ?
ลุงแก่ : ก็คบกันมาเรื่อยๆ ผมพาเขาไปห้าง เขาเป็นคนชอบแต่งตัว ซื้อเสื้อผ้ามาเรื่อย คบกันได้ประมาณเกือบปีนึง ผมก็ออกออดี้ให้อีกคัน

ช่วงหนึ่งปีนั้นให้เป็นเงินเดือนมั้ย?
ลุงแก่ : ให้ทีแสนสองแสน ให้ทุกเดือนตลอดมา ไม่เคยขาด

ความสัมพันธ์เป็นอะไรกัน?
ลุงแก่ : ตอนนั้นเป็นแฟนกันแล้ว

ตอนนั้นมีเมียมั้ย?
ลุงแก่ : เมียมี เหมือนผู้ชายเลี้ยงผู้หญิงไว้อีกคนนึง ตอนนั้นเมียพอรู้ เขาไม่เคยยุ่ง

หนึ่งปีมีคนอื่นอีกมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่มีครับ

เมียจดทะเบียนมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่ได้จดครับ

มีใครจดทะเบียนมั้ย?
ลุงแก่ : คนแรกจดทะเบียน แต่เลิกกันไปแล้ว 20 กว่าปี มีลูกสองคนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดแล้ว แล้วมีเมียอีกคน แต่ไม่ได้จดทะเบียน แล้วก็มาคนนี้ที่เป็นประเด็น

คบหนึ่งปีซื้อออดี้ให้อีกคัน ซื้อให้อีกทำไม?
ลุงแก่ : เขาอยากได้รถซูเปอร์คาร์สองประตู ผมก็ไม่เป็นไร ให้ออดี้ไปแล้วกัน ทีที สองล้านกว่าบาท BM ก็ยังใช้อยู่ ใช้สองคันเลย ระหว่างเขาใช้ ผมก็ถามว่าอยู่กับใคร เขาบอกอยู่กับพ่อแม่ คบกันได้สองปี ผมก็เอะใจว่าทำไมอยู่ดีๆ เขาไม่เคยให้ผมไปเจอพ่อแม่เขา วันนึงไปห้างซื้อของเสร็จเรียบร้อย ก็ให้เด็กตาม ปรากฎเขาไปเช่าแฟลตอยู่ เขาโกหกว่าอยู่กับพ่อแม่ ผมก็ไปว่าเขา แล้วบอกว่าถ้าโกหกผมแบบนี้ผมไม่เอา ขอเลิกดีกว่า เขาก็เลิก

ลุงทำไง?
ลุงแก่ : เลิกเสร็จเขาก็คืนรถผมทั้งสองคัน ตอนเลิกกัน ผมซื้อเบนซ์ให้พ่อเขาอีกคันนึง เขาบอกพ่อไม่มีรถ ก็ซื้อเบนซ์ให้พ่อเขารุ่น c180 แต่จริงๆ เขาไม่ได้ให้พ่อเขาหรอก เขาเอารถไปเก็บไว้เอง พอเขาเอารถคืนผมเสร็จก็เอาเบนซ์ไป เลิกกันได้เกือบปี อยู่ดีๆ ก็โทรมาหาผม กลับมาอีก ระหว่างครั้งแรกที่ผมจับได้ว่าเขาโกหกผม เขาบอกเขามีแฟนอยู่คนนึงเป็นหมอ ผมก็อ้าว ถ้าอย่างนั้นไม่ถูก คุณคบอีกคนแล้วมาโกหกผม ผมก็ขอเลิก พอหายไปปีนึงโทรมาหาบอกว่าขอคุยด้วยได้มั้ย ก็ไปนั่งคุยกัน เขาบอกว่าเขาเลิกแฟนแล้ว ต่อไปนี้มีอะไรจะพูดตรงๆ ไม่โกหกเลย ให้โอกาสเขา ผมก็ไม่มีใครเหมือนกัน ก็โอเค ให้โอกาส

ถ่านไฟเก่า?
ลุงแก่ : เหมือนถ่านไฟเก่า ง่ายๆ เขาพูดน่าสงสาร ต่อไปนี้จะไม่โกหก มีอะไรพูดตรงๆ

จากนั้นเป็นยังไงต่อ?
ลุงแก่ : เขากลับมาหา ก็ไปเช่าแฟลตอยู่เหมือนกัน แล้วคบกันไปเรื่อยๆ ยังไปมา ตอนเช้าเจอกัน ตอนเย็นผมก็กลับทุกวัน 10 กว่าปีก็เป็นแบบนี้ตลอด ผมก็ไม่เคยค้าง ผมกลับบ้านไปหาเมียตลอด เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ คบกันได้ประมาณ 2 เดือนเขาบอกรถคันนี้คืนพ่อเขาไป ไม่มีรถ ผมก็ออก BM สปอร์ตให้เขาคันนึง Z4 เงินผมก็ให้อีก เดือนนึงก็ 2-3 แสน

คบกันนานแค่ไหน?
ลุงแก่ : ทั้งหมดก็ 17-18 ปี

ลุงให้เงินเขาไปเท่าไหร่?
ลุงแก่ : รวมๆ หลาย 100 ล้าน ปีนึงเขาใช้เฉพาะเงินสดที่ให้เขา ประมาณ 20 ล้าน ของยังไม่ซื้อนะ

ลุงทำงานอะไร?
ลุงแก่ : ผมขายหุ้นทิ้ง ตอนนั้นผมมีบริษัท ทำเกี่ยวกับเหล็กเส้น ก็ขายหุ้น ไม่ได้เข้าตลาดตอนนั้น ขายหุ้นให้พี่ชายไป

ที่บ้านมีบริษัททำเกี่ยวกับเหล็กเส้น เราก็มีส่วนของเรา ก็เลยขายหุ้นที่ถือไว้ให้พี่ชาย ได้เงินมาประมาณเท่าไหร่?
ลุงแก่ : 1,600 ล้านบาท

ตอนนี้ไม่เหลือเลยเหรอ?
ลุงแก่ : ไม่เหลือ เงินส่วนนึงก็ให้ลูกชายไว้ซื้อบ้าน หลัง 30 กว่าล้านซื้อรถซื้อที่ดินให้

เงิน 1,600 ล้านบาท แบ่งให้ใคร?
ลุงแก่ : แบ่งให้ลูกชาย 2 คน คนโตให้ไปประมาณ 200-300 ล้าน คนเล็กประมาณ 100 กว่าล้าน

เล่นการพนันมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่เคยเล่น ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่

หญิงล้วนๆ?
ลุงแก่ : ยอมรับ (หัวเราะ)

มีหลายคนมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่มี มีแค่นี้เลย วันๆ ก็ไม่ได้ไปไหน เจอเขาเสร็จก็ซื้อรถให้เสร็จเรียบร้อย คบไปๆ ก็ซื้อรถเบนซ์ให้อีกคัน แล้วก็ R8 อีกคัน เป็นชื่อเขา

ทำไมไม่ใส่ชื่อตัวเอง?
ลุงแก่ : ผมมีแล้ว รถซูเปอร์คาร์ผมก็มีหลายคัน ผมขับแลมโบร์กินี 2 คัน

ลุงยืนยันว่าลุงมีเงินเยอะจริงๆ นะ?
ลุงแก่ : ใช่

รถเบนท์ลีย์ของใคร?
ลุงแก่ : ของผม แต่ทุกวันนี้ขายทิ้งไปแล้ว

ตอนนี้ลุงมีผู้หญิงคนอื่นมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่มี จะมีได้ไง ไม่เหลือแล้ว (หัวเราะ) อายุก็ 70 กว่าแล้ว

ลุงรักจริง มีมั้ย แล้วเมียล่ะ?
ลุงแก่ : ก็เลิกไปแล้ว

นาฬิกาลุงเป็นยี่ห้อหมดไปไหนหมด?
ลุงแก่ : อยู่กับผมไม่กี่เรือน เขาเอาไปหลายเรือนเหมือนกัน

คนที่เขาคบเหมือนดาราหนังจีน หล่อมาก เหมือนพระเอกหนัง?
ลุงแก่ : ก็ใช่ไง

แล้วยังไง?
ลุงแก่ : ผมก็จับได้ว่าเขายังคบกับหมออีก และคบกับคนนี้อีก

ตกลงเงินที่เสียให้เขาไป เป็นร้อยล้าน ให้ค่าอะไรไปบ้าง?
ลุงแก่ : ที่เขาใช้จ่ายทุกวันนี้ เสื้อผ้าแพงๆ หรูๆ ผมให้เงินก้อน แต่เวลาซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า ผมก็ออกให้เองอีกต่างหาก กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาเพชร ผมก็ซื้อให้หมด กระเป๋าแพงสุดที่เคยซื้อให้ ใบนึง 8 แสน

สิ่งที่ลุงเสียให้เขาไป รถ BMW 520 ป้ายแดง 1 คัน, เงินรายเดือน เดือนละ 5 หมื่นถึง 1 แสน, รถออดี้ ทีทีสปอร์ต 1 คัน , เบนซ์ C Class ให้พ่อฝ่ายหญิง , เงินผ่าตัดให้พ่อฝ่ายหญิง 5 แสน, ของใช้แบรนด์เนม บัตรเครดิต วิสดอม ฝ่ายหญิงใช้ซื้อของขวัญวันเป็นล้าน?
ลุงแก่ : ซื้อกระเป๋าหลุยส์ 3 ใบ ชาแนล 2 ใบ ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์แพงๆ

พอคบกันมาเรื่อยๆ ให้เงินใช้ครั้งละล้านถึง 2 ล้านบาท บางครั้ง 10 ล้าน จริงมั้ย?
ลุงแก่ : จริง ให้เขามากกว่านั้นอีก ปีนึงมี 30-40 ล้าน

เปิดบริษัทจำหน่ายเครื่องมือการแพทย์ให้เขาอีก ให้เขาดูแลเหรอ โอนหุ้นทั้งหมดให้เขา ฝ่ายหญิงให้ขายรถ เบนท์ลีย์?
ลุงแก่ : ผมก็ขายทิ้งหมด

ให้เอาเงินไปหมุนธุรกิจ ให้คุณนำเครื่องประดับหรูๆ ไปหมุนธุรกิจ ?
ลุงแก่ : ผมขายรถทิ้งไป พอเขาไม่มีเงินก็มาขอ บริษัทจะซื้อของเพิ่มทุน ผมก็เป็นคนออกเงินให้

ให้จนหมดตัว?
ทนาย : ผมเห็นเรื่อยๆ นะ คนดูทางบ้านอาจเป็นเหมือนลุงก็ได้ แต่สัดส่วนอาจต่างกัน

อันนี้ลุงมีพันล้าน ให้เขาไปหลายร้อยล้าน กรณีไปเปิดบริษัทให้เขาคืออะไร?
ลุงแก่ : ตอนแรกที่คบกัน เขาใช้เงินเยอะ ใช้เรื่อยๆ ผมบอกว่าถ้าใช้เงินแบบนี้อนาคตจะไม่มี แก่ตัวจะลำบาก เอางี้ดีกว่าผมเปิดบริษัทให้ดีกว่า แก่ตัวจะได้เงินใช้จ่าย เราก็คิดถึงอนาคตเขา พอเปิดบริษัทเพื่อนเขาเคยทำอยู่บริษัทนึงก็มาเปิดขายเครื่องมือแพทย์ ตอนแรกเปิดมาก็ยังขายไม่ดี แต่ตอนหลังขายดีก็เริ่มลงทุนให้ ตอนแรกให้ 10 ล้าน ทำๆ ไปมาขอ 5 ล้านบ้าน ทำๆ ไปต้องเพิ่มทุนไปกู้แบงก์ ผมก็ให้อีก ไปลงโน่นนี่โน่น ยิ่งอายุมากขึ้น ใช้จ่ายยิ่งมากขึ้น ฟุ่มเฟือยมากขึ้น

อยากปูพื้นฐานเปิดบริษัท แล้วยังไง?
ลุงแก่ : ผมก็เป็นประธานเฉยๆ เขาเป็นเจ้าของ กรรมการก็เขาอีก เขามีอำนาจลงนาม เซ็นเช็คหมดเลย

แล้วเมียลุงล่ะ?
ลุงแก่ : ตอนนั้นเลิกไปแล้ว

ก็มีเขาคนเดียว แล้วจริงหรือเปล่าเมียลุงคนที่สองเคยตามไปตบเขา?
ลุงแก่ : เขาเคยตามไปเช็กดูที่บริษัท

เขาบอกตบเขาที่สยามพารากอน?
ลุงแก่ : พอดีผมกับเขาไปซื้อของ เมียที่เลิกไปเห็น เขาไม่ได้ไปตบ เขาดึงผมเฉยๆ

ด่ามั้ย?
ลุงแก่ : ไม่ได้ว่าอะไร แค่ดึงผมเฉยๆ แล้วต่างคนต่างเดิน ที่พารากอน ครั้งนั้นครั้งเดียว จากนั้นมาก็ไม่ได้เจอกันเลย มีครั้งเดียวเท่านั้นเอง

ลุงโดนมั้ย?
ลุงแก่ : เขาไม่กล้าทำผม เขาจะทำผู้หญิง

ตอนนั้นเลิกหรือยัง?
ลุงแก่ : ตอนนั้นยังไม่เลิก ตอนนั้น 8-9 ปีแล้ว แต่หลังจากนั้นทำนิสัยแบบนี้ผมก็เลิกเลย

มาอยู่กับผู้หญิงคนนี้?
ลุงแก่ : ไปๆ มาๆ ไม่เคยค้างคืน ไปเช้าเย็นกลับ เป็นแบบนี้สิบกว่าปี เขาก็ไม่เคยอยากให้ผมไปค้าง

ที่ให้เขาเยอะขนาดนี้ เพราะบั้นปลายชีวิตอยากอยู่กับเขาเหรอ?
ลุงแก่ : ใช่ เขาพูดตลอดว่าถ้าแก่ตัวไปจะดูแลเรา

เงินลุงไปไหนหมด?
ลุงแก่ : ส่วนมากผมให้เขาใช้เยอะ ก่อนเลิกกัน เขายังมาขอเงินผม 5 ล้าน เขาบอกเขาไม่มีเงิน ขอเข้าบัญชีไว้ 5 ล้าน

ทำพินัยกรรมให้เขามั้ย?
ลุงแก่ : ทำ หมดเลยทุกอย่าง

ทนาย : ไม่ยกให้ลูกเหรอ

ลุงแก่ : ลูกผมก็แบ่งให้เรียบร้อยหมดแล้วทุกอย่าง

เงินลุงเองก็ฝากให้เขาหมด เห็นว่าลุงได้เงินเดือน?
ลุงแก่ : เดือน 7 หมื่น บริษัทที่เปิดกับเขาให้มา จ่ายทุกเดือน เดือนละ 7 หมื่นไม่เคยขาด แต่ตอนนี้ไม่จ่ายแล้ว เพราะเลิกกันแล้ว ยังมีชื่อเป็นประธานแต่ไม่ได้มีอะไร เลิกกันแล้ว ก็ไม่ได้เข้าบริษัทแล้ว

ในพินัยกรรมเขียนว่าอะไร?
ลุงแก่ : ทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ผมยกให้เขาหมดเลย

แต่ตอนนี้ลุงยังไม่ตาย แต่ลุงไม่อะไรให้เขาแล้ว อย่างนี้เป็นการให้โดยเสน่หา?
ทนาย : ให้โดยเสน่หาอย่างชัดเจนเลย ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย ลุงมีเงื่อนไขมั้ย

ลุงแก่ : ไม่มี

ลุงมีทองเท่าไหร่?
ลุงแก่ : พันบาท

ทอง 1 พันบาท ราคา 19 ล้านกว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน?
ลุงแก่ : ขายหมดแล้ว

เงินอยู่กับใคร?
ลุงแก่ : 6 ล้านผมเอามา เหลือจากนั้นไป เขาเอาไปขาย แล้วก็อยู่กับเขา หายไป 10 กว่าล้าน

ลุงก็สุดจริงๆ สายเปย์ตัวจริง แล้วลูกของลุงล่ะ ทำไมไม่ไปหาลูก?
ลุงแก่ : ตั้งแต่ให้ลูกเปิดบริษัท ผมก็ลงทุนให้ลูกหลายอย่างแล้ว แต่ลูกทำแล้วขาดทุน ทำแล้วไม่เหลืออะไร ตอนหลังผมไม่ให้ ลูกก็เลยตัดพ่อตัดลูกกันแล้ว เพราะผมไม่ให้เงินแกแล้ว เขาหาว่าผมเอาเงินไปให้ผู้หญิงคนนี้

เขาตัดเรา เพราะเราไม่ให้เงินเขา?
ลุงแก่ : ผมให้เขาเยอะเหมือนกัน เปิดบริษัทน้ำลงทุนเกือบ 100 ล้าน เปิดบริษัทโน่นนี่ให้ หมดไปหลายร้อยล้านเหมือนกัน กับลูกชาย

ทุกวันนี้เงินเหลือบ้างมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่เหลือ

หลักสิบล้านมีมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่ถึง

ลุงไปขอเงินฝ่ายหญิงบ้างมั้ย?
ลุงแก่ : หลังสุดผมไปขอเงินเขา 2 ล้าน เขาให้มา แต่ให้มาแบบไม่เต็มใจ ให้มา 2 ล้าน ผมขอยืมนะ แต่ทำสีหน้าเหมือนไม่อยากให้ ทำไมผมเลี้ยงคุณขนาดนี้แล้ว ให้ทุกอย่างแล้ว

จากน้องคนนี้ครั้งนึงเคยเป็นเอ็มซี ตอนนี้เป็นอะไร?
ลุงแก่ : เป็นนางฟ้าแล้ว ส่วนลุงเป็นยาจก ตอนนี้อาศัยอยู่ที่คอนโดราชดำริ สัญญาเช่า 30 ปี กำลังจะหมดสัญญา ก่อหน้านั้นค่าใช้จ่ายเดือนนึงตกแล้ว 2-3 หมื่นบาท

จากเป็นราชา วันนี้เป็นยาจกเลยเหรอ?
ลุงแก่ : ครับ

ถ้ามีเงินจะให้เขาอยู่มั้ย?
ลุงแก่ : ถ้ามีเงินคงไม่ให้แล้ว เพราะเราอายุมากแล้ว เก็บไว้กินตอนแก่ดีกว่า

ตอนนี้สิ่งที่อยากได้คืออะไร?
ลุงแก่ : ทรัพย์สินที่เราให้เขาไปบางส่วน ผมก็อยากเอาคืน ไม่ได้เอาหมด แค่บางส่วนเท่านั้นเองอ อย่างนาฬิกา แหวนเพชร ผมอยากได้คืน เงินไม่เอา

ลุงฟ้องเขาด้วย?
ลุงแก่ : ฟ้องเรื่องทอง 19 ล้าน

อยู่ในสายกับ มายด์ (นามสมมติ) ลุงบอกว่าเขาให้คุณไปร้อยล้าน ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?
มายด์ : เรื่องอยู่ในการพิจารณาของศาลนะคะ พวกหลักฐานหรือพยานอะไรทั้งหมดขอชี้แจงในศาลนะคะ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกกับพี่หนุ่ม เวลาคนเราพูด พูดอะไรก็ทำให้ตัวเองดูดีหมดทุกอย่างนะคะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อไปเจอกันในชั้นศาล หลักฐานความจริงเอกสารพยานบุคคล ทุกอย่าง ทั้งคลิปเสียงอะไรทุกอย่าง จะเป็นการพิสูจน์คำพูดของคนนะคะ สิ่งที่เขาพูดมา บอกเลยว่ามันต้องมีการปรุงแต่งมาบ้างอยู่แล้วเพื่อให้ตัวเองดูดี อันนี้ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมารูปแบบนี้

เรื่องทั้งหมดอยู่ชั้นศาลหมดแล้ว แล้วบริษัทเขาบอกว่าเขาเปิดให้คุณ ข้อเท็จจริงคืออะไร?
มายด์ : ใช่ค่ะ ตอนเปิดบริษัทเขาเป็นคนลงเงินก็จริง ประมาณ 10 ล้าน แต่เราเป็นคนทำ เขาไม่ได้เป็นคนทำ เราเป็นคนทำกับเพื่อนเรามา บริษัทเปิดมา ณ วันนี้ 13 ปี ห้าปีที่ผ่านมาเราให้เงินเดือนเขาในฐานะเขาเป็นแฟนเราและมีเปอร์เซ็นต์กับเรา เราก็ให้เขาเดือนละ 7 หมื่น เขาก็รับมาตลอด จนเขาเลิกเองเดือนก.ค. อยากพูดตรงนี้ว่า สาเหตุที่เขาเลิก ไม่ใช่เพราะเขาเดือดร้อนเงิน เขามาเอาเงินทางนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 2 ล้าน เราบอกว่าเราไม่มี เราให้เขาไป 7 แสน เรามีสลิปทุกอย่าง เขาบอกเขาเดือดร้อนเงิน อีกอาทิตย์เขาก็จะเอา 3.5 ล้าน เราก็บอกว่าเราไม่มี เราถามว่าพี่เดือดร้อนอะไร เขาบอกว่าเอานาฬิกาเรือนละ 18 ล้านไปวางมัดจำเอาไว้ แล้วจะหลุด จะไปเอาออกมา เราก็ถามว่าพี่เดือดร้อนเงินอะไร เขาบอกเขาเอาเงินไปซื้อที่ดิน พอถามก็บอกว่าเราอย่ามารู้เลย อย่ามายุ่ง เราก็เลยไม่คุยกับเขา ไม่โทรหาเขา แต่เราปรึกษาเพื่อนเขาว่าเราจะให้เงินเขาไปยังไง เราก็ให้เขาไป 1.3 ล้าน เงินสดส่วนตัวเรากับเพื่อนเรา แล้วเอาเครื่องเพชรทั้งหมดที่เขาให้เรามา 20 ปี ที่เราคบกันมา ตั้งแต่ปี 46 เราคืนเขาให้หมดเลย ประมาณ 10 ล้าน แล้วบอกว่าถ้าพี่เดือดร้อน หนูเอาอันนี้ให้พี่ขายเลย เขายังบอกว่าไม่เอา เสียหน้า เรามีหลักฐานที่เขาเอาไป และมีหลักฐานที่เราโอนเงินช่วยเหลือเขา ซึ่งเราบอกเลยว่าเขาต้องการเงินจำนวนเยอะมาก แต่เราไม่ให้เราบอกเรามีแค่นี้ แล้วจากนั้นเขาหายไป 1 อาทิตย์แล้วเขาก็โทรกลับมาว่าเขาเลิกกับเรา ด้วยสาเหตุอะไรของเขา แต่ขอพูดสั้นๆ ว่าก่อนหน้านี้ถ้าเขามีทองที่อยู่ที่พี่อีก แล้วหาว่าพี่ยักยอก บอกเลยนะคะ ถ้าเขามีเงินจริง ไม่มายืมเงินบริษัท 5 ปีที่ผ่านมา มาเอาเงินบริษัท 6 ครั้ง แล้วมีการกู้ยืมเงินเพื่อให้เขาหลุดคดีความเขามีคดีอาญาฟ้องร้องจะติดคุก ต้องใช้เงินเกือบ 30 ล้าน เขามาให้พี่ช่วย พี่ต้องเอารถเข้าไฟแนนซ์เป็นหนี้ให้เขาสองคันและพร้อมเงินสด เขาทำสัญญากู้ยืมเรียบร้อย ถ้าเงินอยู่ที่เขาจริงๆ จะมาให้พี่ช่วยเรื่องคดีความเกือบ 30 ล้านเหรอคะ สัญญาทุกอย่างที่หมด พินัยกรรมที่เขาทำให้พี่ ต้องเข้าใจว่าเราดีกับเขามาก เขาไม่สามารถไปพึ่งพาใครได้เลย ในบรรดาเมียเขาทั้งหมดที่มี 4 คน

ลุงมีเมีย 4 คนเหรอ?
ลุงแก่ : ไม่ใช่แล้ว

มายด์ : รายละเอียดเมีย 4 คนขอไปแจ้งในชั้นศาลแล้วกันนะคะ เวลาเขาเดือดร้อน ได้เงินมาแต่ละก้อน แต่ละปี เขาก็แจกจ่ายให้ทุกคน แต่โอเคอาจให้พี่มาก เพราะเขาพึ่งพาอาศัยพี่ได้ตลอดเวลา แต่เวลาเขาเดือดร้อน ไปเอาจากใคร ไม่มีเมียคนไหนให้เขาเลยค่ะ ต้องมาเอาตรงนี้นะคะ

ลุงแก่ให้ทรัพย์สินคุณมายด์เป็นเรื่องจริง?
มายด์ : เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่เวลาเขาเดือดร้อน เขาก็มาเอาที่นี่ทุกครั้ง เดือดร้อนจำนวนที่เยอะมาก ทำงานบริษัทเราเป็นคนหาเงินทำงาน และให้เงินเดือนเขาเดือนละ 7 หมื่น เขาเซ็นรับตลอด แม้กระทั่งเขาจะเลิก เขายังรับเงินไป 30 มิ.ย. เลยค่ะ ที่ผ่านมามาเอาเงินพี่ตลอด มีหลักฐานทุกอย่าง ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ค่ะ แล้วพี่หนุ่มต้องถามเขา เขาเดือดร้อนเงินอะไรขนาดนั้นเขาไปติดหนี้ใครอะไรหรือเปล่าถึงต้องมาร้องต่อสื่อ มาฟ้องร้องต่อสื่อขนาดนี้ ต้องการทำให้เราเสียชื่อเสียงขนาดนี้เพื่ออะไรเขาฟ้องเรื่องอะไร พี่หนุ่มต้องถามเขาส่วนตัวนะคะ อันนี้ขอเอาเอกสารไปชั้นศาลแล้วกันค่ะ เพราะพี่พอรู้ว่าเขาเดือดร้อนเงินเรื่องอะไร

ลุงแก่เขาอยากขอทรัพย์สินบางอย่างเขาคืน?
มายด์ : สิ่งของพวกนี้ที่เขากล่าวอ้างมา เราคิดแง่มุมความเป็นจริง เขาให้เราเป็นของขวัญวันเกิด ให้เราเป็นของขวัญวาเลนไทน์ ให้ปีใหม่ ให้โดยเสน่หา การให้ของเราเป็นเรื่องปกติ แต่พอไม่พอใจแล้วทวงของคืนแล้วอ้างว่าเป็นของเขา พี่หนุ่มคิดว่ายังไงคะ

ให้เขาจริงมั้ย?
ลุงแก่ : ผมไม่ได้ให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด

มายด์ : มีหลักฐาน มีรูปถ่ายหมดเลยค่ะ

ลุงแก่ : รูปถ่ายผมก็มี ที่เขาเอาไป

คบกันมา 18 ปี รักเขามั้ย?
มายด์ : 20 ปีค่ะ คบกันตั้งแต่ปี 46 ในพินัยกรรมเขียนระบุไว้ชัดเจนปี 46 คนเราอยู่ด้วยกัน มีความผูกพัน มีความรักอยู่แล้วค่ะ แต่เรื่องเขาเดือดร้อนเงินแล้วมาจ้องที่เราคนเดียว กับคนอื่นเขาไม่ไปตามราวี แต่กับเรา เรามีหลักแหล่ง เรามีบริษัท เขาก็มาเอาที่นี่ตลอด

ลุงแก่ : ผมไม่เคยตามราวีเขาเลย

ส่วนที่แกอยากได้คืน ให้แกคืนได้มั้ย พวกนาฬิกาอะไรแบบนี้?
มายด์ : อันนี้ขอไปคุยในชั้นศาลแล้วกันนะคะ เพราะจริงๆ แล้วคนเราคบกันมา 20 ปี ถามว่าผู้หญิงจะยักยอกทรัพย์ มันคงเป็นไปไม่ได้นะคะ แล้วถ้าเกิดผู้หญิงไม่ได้ดีถึงขนาดกล้าทำพินัยกรรมให้ เขาก็คงเลิกไปตั้งนานแล้วค่ะ อันนี้พูดจากความรู้สึกค่ะ

แล้วพินัยกรรมจะยกเลิกมั้ย?
มายด์ : พินัยกรรมไม่อยู่แล้วค่ะ เรารู้อยู่แล้วว่าเขากลับไปกลับมาได้ เพราะเขาไม่ได้มีเราคนเดียว แต่ทางทนายมีพินัยกรรมตัวนี้อยู่แล้ว แล้วสัญญาทุกอย่างมีครบหมดค่ะ ขอไปสู้ในชั้นศาลดีกว่าค่ะ

วันนี้แยกทางไปแล้ว จะยกเลิกพินัยกรรมไปเลยมั้ย คืนเขาไป?
มายด์ : เราไม่หวังอะไรตรงนั้นอยู่แล้วค่ะ ไม่เกี่ยวกับเขาจะไม่มีอะไรเหลือ หรือเขาบอกว่าเขาไม่มี แต่จริงๆ เขาอาจจะมีเหลืออีก 500 ล้าน พันล้านก็ได้ ตรงนี้เราไม่ทราบ แต่เรามองว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้ เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาอะไรกับเราอยู่แล้ว สิ่งที่เรากล้าทำ บอกเลยว่าเราไม่ได้โดนคนเดียว ไม่อยากพูดออกรายการ เอาไว้สู้กันในชั้นศาลดีกว่า เพราะว่าเขาไม่ได้ฟ้องร้องพี่คนเดียว ไม่ได้ทำกับพี่คนเดียว เขาทำกับคนรอบข้างเขาทุกๆ คน ที่เขาไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจเขา ขอไปให้การในชั้นศาล และเอกสารทุกอย่างไปเจอกันที่ศาลดีกว่าค่ะ เพราะคำพูดใครๆ ก็พูดได้

ลุงบอกเขาเป็นยาจก แต่คุณเป็นนางฟ้าแล้ว?
มายด์ : ถ้าเขาอยู่ของเขาไม่ได้มาแสดงอะไร เชื่อว่าพี่กตัญญูต่อคนมากพออยู่มา 20 กว่าปี คิดว่ากตัญญูมากพอ เราทำทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เหมือนอยู่กันแบบเพื่อนมากกว่า จะต้องอยู่ด้วยตลอด 24 ชม. ดูแลเอาใจเป็นไปไม่ได้ แต่เราไม่เคยทอดทิ้งเขา แม้เต่ปีที่แล้วที่เขาไปผ่าตัดส่องกล้องลำไส้ที่รพ.บำรุงราษฎร์ พี่ก็เป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายให้เขาทั้งหมดค่ะ พี่มีหลักฐานทั้งหมด ถามว่าพี่ไม่ดูแลยังไง พี่ดูแลทุกอย่างนะคะ

ลุงบอกว่าที่คุณจ่ายให้เขา ก็เงินเขานั่นแหละ?
ลุงแก่ : จ่ายไม่กี่หมื่น แค่หมื่นสองหมื่น

มายด์ : เอาง่ายๆ ที่เขาพูดมาทั้งหมดเขาทวงบุญคุณตั้งแต่วันแรกที่เขารู้จักเรา จนวันนี้ที่เรามีของเราเอง เขาทวงบุญคุณทุกครั้งที่เขาไม่พอใจ

มีคนถามว่า อย่างบริษัทหรือวันนี้ที่คุณมีอยู่ เป็นเพราะเขาหรือเปล่า ถึงทำให้คุณมีวันนี้?
มายด์ : เราก็ต้องพูดก่อนนะคะว่าเริ่มต้นอาจเกิดจากเขา เพราะตอนเปิดบริษัทเราไม่ได้มีเงินทุน แต่เมื่อเปิดแล้วเราเป็นคนทำมา 13 ปี เราหาเงินเข้าบริษัทด้วยตัวเราเอง เราทำเองหมดทุกอย่าง เงินที่หาเข้ามาบริษัท 13 ปี ก็ต้องเป็นน้ำพักน้ำแรงเราถูกต้องมั้ยคะ เพราะเขาไม่ได้มาบริหาร หรือไม่ได้มาช่วยทำงานตรงนี้เลย เขามีหน้าที่แค่เป็นแฟนเรา เราให้ลูกน้องนับถือเขาในฐานะเขาเป็นประธานบริษัท

ลุงแก่ : ไม่ช่วยยังไง ยังไปนั่งเป็นประธานอยู่ที่บริษัท ผมไปดูแลบริษัทให้ทุกวัน ตั้งแต่เปิด

เขาบอกเขาช่วยคุณพ่อด้วย 5 แสนตอนเข้ารพ.?
มายด์ : อันนั้นเป็นเรื่องตอนแรกๆ เราบอกเขาว่าพ่อเราประสบอุบัติเหตุ ล้มในห้องน้ำ ต้องผ่าตัดวันนี้ เขาก็เต็มใจที่จะช่วยเองค่ะ ที่เขาพูดมาว่าคบกี่เดือนแล้วซื้อให้ เราคบกันมาระยะเวลาเป็นปีแล้วค่ะ เขาถึงจะเริ่มซื้อของให้นะคะ สิ่งที่เขาพูด ถึงบอกว่าเวลาจะพูดอะไรก็พูดได้ค่ะ แต่ทุกอย่างไปสู้กันในศาลดีกว่าค่ะ เอกสารและหลักฐานทุกอย่างจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

เขาให้เดือนละแสนจริงมั้ย?
มายด์ : ใช่ค่ะ แต่ทุกวันนี้พี่ก็ให้เงินเดือนเขาเดือนละ 7 หมื่นนะ ค่าใช้จ่ายพี่ก็ออกให้เขานะ เวลาไปซื้อของ มาทานอาหาร ไปเดินห้างพี่เป็นคนจ่ายนะคะ ไปกินด้วยกันก็ออกให้ทุกครั้ง

ลุงแก่ : เดือนเท่าไหร่เอง เดือนละหมื่นเองมั้ง

มายด์ : แต่คุณก็ไม่ได้จากภรรยาคนอื่นๆ เลยค่ะ ภรรยาคนอื่นๆ มีแต่จะมาเอาเงินคุณนะคะ

ลุงแก่ : ได้ไม่ได้คุณก็ไม่รู้

มายด์ : อยู่มา 20 ปี ถ้าไม่รู้ลึกขนาดนั้น คงอยู่ไม่ได้นานขนาดนั้นหรอกค่ะ

สุดท้ายลุงแก่อยากบอกอะไร?
ลุงแก่ : ที่ผมให้คุณทั้งหมด คุณคิดมั้ยว่า คนๆ นึงให้ชีวิตคุณตั้งเท่าไหร่แล้ว คุณเคยคิดมั้ย แค่นี้เอง ทุกวันนี้คุณสุขสบายเพราะใคร จากดินขึ้นมาเป็นนางฟ้าเพราะใคร ผมล่ะอยากรู้ ถ้าไม่มีผม คุณจะมีอะไร ผมไม่ได้ทวงบุญคุณ

มายด์ : ใครๆ ก็พูดได้นะคะ จะบอกว่าทุกอย่างเราไปเจอกันที่ศาลดีกว่า เวลาจะพูด พูดอะไรก็ได้ ในความเป็นจริง 20 กว่าปีที่ผ่านมาเรารู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วบอกเลยว่าถ้าพี่ไม่ดีพอ ไม่อยู่มาได้ถึง 20 ปีและคงไม่ทำพินัยกรรมให้พี่เมื่อปีที่แล้วหรอกนะคะ ถ้าพี่ไม่ดูแลเขา หรือไม่กตัญญูกับเขา แต่ความกตัญญูทุกอย่างต้องอยู่ด้วยเหตุและผลด้วยค่ะ ถ้ากตัญญูแล้วตัวเราเดือดร้อน กตัญญูแล้วเราจะไม่มีกิน แล้วเราเดือดร้อนเรื่องอะไร เรารู้อยู่แล้ว เราไม่อยากเข้าไปยุ่งตรงนั้นอยู่แล้วค่ะ เรื่องตรงนี้ควรไปคุยที่ศาลหรือสู้กันที่ศาลดีกว่าค่ะ

ณ วันนี้รักอยู่มั้ย?
มายด์ : ถ้าเขาทำได้ขนาดนี้ ก็ไม่สมควรพูดคำนี้กับเขาค่ะ

ลุงแก่ : ผมก็ไม่เอาแล้ว ไม่รักแล้ว เมื่อก่อนเคยรัก ยอมหมดทุกอย่าง ยอมอดทนทุกอย่าง ก็เสียใจ เราทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง แต่ทำกับเราอย่างนี้ ก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา

คุณมายด์ทราบมั้ยเขาเอาเงินให้คุณมายด์ ลูกเขาก็เลยโกรธตัดพ่อตัดลูกไปเลย?
มายด์ : เรื่องนี้เขาตัดพ่อตัดลูกกันมาตั้งนานแล้วค่ะ เขามีการฟ้องร้องลูกเขา เมียเขาเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ

ลุงแก่ : ที่ฟ้องร้อง เพราะลูกชายจะฟ้องเขา ถึงยอม

เขาบอกเขาปกป้องคุณ?
ลุงแก่ : ผมยอมเสียเงินให้ลูกชายเพื่อไม่ให้ลูกชายฟ้องเขา

มายด์ : หลักฐานหรืออะไรทุกอย่าง ไปเปิดในศาลเลยนะคะ มันขัดแย้งกับเอกสารไม่ได้ค่ะ เอกสารทุกอย่าง สิ่งที่ทำทั้งหมด ขัดแย้งกับสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดไม่ได้ค่ะ หรือคลิปเสียง วิดีโอ มันหักล้างกันไม่ได้ค่ะ

ลุงแก่ : ทุกวันนี้อยู่สุขสบายเพราะใคร

มายด์ : 5 ปีที่ผ่านมาเราก็ให้คืนคุณไปเยอะแล้ว เราช่วยเหลือคุณ ถึงคุณจะคืนเรา แต่ก็เป็นหลายสิบล้านเหมือนกันค่ะ

คุณอัดอั้นมาก เพราะตอนแรกที่คุยกัน คุณบอกจะเข้าสายให้ แต่จะขอพูดแค่เดี๋ยวไปพูดกันที่ชั้นศาล?
มายด์ : ตอนแรกเราไม่อยากออกสื่อ เราเป็นคนทำมาหากิน เรารู้ในความจริงอยู่แล้วว่ามันเป็นอะไร แต่การที่เขาออกแฉขนาดนี้ เราก็ไม่โอเคกับสิ่งที่เราได้รับ ความยุติธรรมเราต้องมี ต้องได้ ขอพูดออกรายการตรงนี้เลย ความเป็นจริงไปสู้กันในศาลเลยค่ะ

ไม่กลัวสิ่งที่พูดออกมาเหรอ?
มายด์ : ความจริงก็คือความเป็นจริง สิ่งที่จะทำให้คนสงสารได้คือต้องพูดในสิ่งที่ตัวเองดูดีมาก แต่ข้อเสียตัวเองเขาไม่พูดอยู่แล้ว ข้อบกพร่องที่เขาเจอ อะไรทำให้เขารู้สึกไม่ดี เขาจะไม่พูด เขาต้องพูดในสิ่งที่ดีๆ

ข้อเสียอะไร?
มายด์ : ขอไปพูดในชั้นศาลแล้วกันค่ะ

ไม่มีทางกลับมาดี?
มายด์ : จริงๆ เขาไปของเขาเองนะคะ มายืมเงินแล้วเราไม่ให้ตามที่เขาขอ เขาไม่พอใจ เขาไปเองนะคะ

ลุงแก่ : ไม่ได้ไปเอง ก็ทำกิริยาไม่พอใจ เขาให้มาเหมือนไม่เต็มใจให้

มายด์ : ก็เราถามว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร ก็พูดกับเราว่าอย่ามายุ่ง อย่ามารู้เลย

ลุงแก่ : ไม่เคยพูดคำนี้

มายด์ : ทุกสิ่งทุกอย่างคุณปฏิเสธได้หมดแหละ ก็ไม่เป็นไร ไปคุยกันที่ศาลแล้วกัน

ลุงแก่ : แล้วของผมให้จริงหรือเปล่า

มายด์ : ไปเจอกันที่ศาลแล้วกันนะคะ ขอตัวเพราะต้องทำงานค่ะ

ทนาย : ลุงทำอะไรเขาไว้หรือเปล่า ดูเขาโกรธลุงมาก

ลุงแก่ : ผมไม่ได้ทำอะไรเขานี่

มีเมีย 4 คนหรือเปล่า?
ลุงแก่ : ไม่มี มีแค่นี้

เขาบอกลุงเอาเงินไปทำอะไร ติดหนี้อะไรมั้ย?
ลุงแก่ : ก็เอาไปจ่ายหนี้ให้หมด เงินก็ควรให้เราบ้างเพราะเป็นเงินของเรา ส่วนทองได้คืนมาแค่ 6 ล้าน ที่เหลือไม่ได้คืน ตอนแรกไปซื้อร้านทองที่ฮั่วเซ่งเฮง ผมได้เงินมา 150 ล้าน ก็ให้เขาไป 5 ล้าน บอกว่าถ้าให้เงินไปซื้อทองเก็บไว้ดีกว่า เผื่อทองขึ้นจะได้กำไร พอไปถึงเขาเอาไปซื้อทอง ซื้อแค่ 2 ล้าน ผมซื้อเกือบพันบาท เกือบๆ 20 ล้าน ตอนซื้อผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนไป ผมก็บอกว่างั้นผมมาซื้อใหม่แล้วกัน เขาบอกใช้บัตรเขาแล้วกัน ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร เป็นแฟนกัน ก็ซื้อเป็นชื่อเขา หลักฐานผมก็มี ผมตีเช็คให้เขา

วันนี้กลับไปหาลูกได้มั้ย?
ลุงแก่ : (หายใจยาว) ลูกเขาก็ไม่เอาผมแล้ว ตั้งแต่ผมไม่ให้เขา เขาโกรธผมมากเลย ผมเคยโทรไปคุยแล้วเขาไม่รับสายอะไรทั้งนั้น ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

พร้อมขึ้นศาล?
ลุงแก่ : พร้อม เงินทองผมให้เขาหมด หลักฐานก็มีหมด

ทนาย : ไม่คิดเหรอว่าตอนอยู่ด้วยกันมันหมดแล้ว

ลุงแก่ : ไม่หมด อย่างบริษัท เขาบอกเขาทำเองทุกอย่าง ถ้าผมไม่ให้เงินสนับสนุน เดี๋ยวมาขอทีละ 5 ล้านไปซื้อโน่นนี่ ไม่ใช่แค่ 10 ล้าน มันมากกว่านี้ หลังสุดจะทำประกันชีวิต 5 แสน ทำ 10 ปี ผมก็จ่ายให้เขาปีละ 5 แสนๆ

ทนาย : ลุงสับรางยังไง สมัยก่อน

ลุงแก่ : ตอนเช้าผมออกมาจากบ้านก็ไปหาเขา เย็นก็กลับ แบบนี้ทุกวัน ไม่เคยค้าง เขาก็แอบมีคนอื่น คบทีละ 3-4 คน

ทุกวันนี้มีเมียมั้ย?
ลุงแก่ : เลิกหมดแล้ว

เด็กมีมั้ย?
ลุงแก่ : อายุ 70 กว่าไม่ไหวแล้ว

เตะปี๊บดังมั้ย อย่าไปฝืนนะ?
ลุงแก่ : ผมเฉยๆ ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้ว หมดตัว

มุมพี่ยังไง?
ทนาย : พอฟังแล้วลุงมี 4 เลยเหรอ ถ้าปรากฏว่าลุงมี 4 หรือมีมากกว่า 2 มันจะแปลกๆ ดูว่าอยู่กินกันฉันสามีภรรยาได้มั้ย เป็นข้อกฎหมายหลักเลยว่ามีกรรมสิทธิ์ร่วมหรือเปล่า ลุงก็มีประเด็นให้ไปสู้ในศาล ดูว่าศาลจะว่าอย่างไร ต่างคนต่างเอาหลักฐานเข้ามา เสียอย่างเดียว ถ้าลุงอยู่กันสองคนโอกาสจะเยอะกว่านี้

ลุงแก่ : เขาก็มีคนอื่น ไม่ได้มีผม

ทนาย : ก็ไม่ได้จดทะเบียนกันทั้งคู่ เขาจะมีใครก็เรื่องของเขา

หึงมั้ย?
ลุงแก่ : หึงแล้วทำไงได้ เขาแอบมี เคยคุยกับผู้ชายคนนี้แล้ว ถามว่าเจอกันได้ยังไง เขาบอกเจอกันทางเฟซ เจอเสร็จก็ชวนมากินข้าว ไปเที่ยวโน่นนี่ ทุกวันนี้ผมก็จับได้ เขาชอบพาผู้ชายไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปค้างคืนเรื่อย แต่ก่อนไปนอนโรงแรมหรูๆ ไปเที่ยว

เดี๋ยวเขาฟ้อง?
ลุงแก่ : ไม่เป็นไร

พินัยกรรมเป็นยังไง?
ลุงแก่ : เดี๋ยวทำยกเลิก

ทนาย : พินัยกรรมทำเป็นร้อยฉบับก็ทำได้ เขาเอาฉบับสุดท้ายก่อนตาย ตอนนี้ยังไม่ตายก็ยกเลิกได้ ต้องไปดูเท็จจริงถ้าฟ้องยักยอกทรัพย์ คืออะไร แล้วทรัพย์นั้นได้มายังไง ต้องไล่กันไป

ลุงเคยคุยกับคนนี้เหรอ ที่เขาหล่อมาก?
ลุงแก่ : ผมคุยกับเขา บอกว่าผมเป็นแฟนเป็นผัว เจอได้ยังไง เขาบอกเจอในเฟซ

ลุงก็ช้ำสิ?
ลุงแก่ : ผมถามฝ่ายหญิงแต่เขาไม่ยอมรับ ผู้ชายก็บอกผม

แฟนลุงก็หน้าตาสวยนะ?
ลุงแก่ : ตอนแรกไม่อย่างนี้ แต่ทำหน้ามาเยอะแยะเลย

ลุงให้เขาโดยเสน่หา มุมนี้อาจไม่ได้คืน แต่ขอแค่บางอย่างคืน วันนี้ลุงมาร้องสื่อเพราะอะไร?
ลุงแก่ : ผมแค่ต้องการบางอย่างคืนเท่านั้นไม่ได้จะเอาหมดทุกอย่าง แค่นั้นเอง สิ่งที่เขาเอาไปไม่ถูกผมก็จะเอาคืนแค่นั้นเอง

ทนาย : สมการลุงมีเมีย 4 เราก็ไปไม่ถูกนะ เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมเหมือนกัน

ลุงแก่ : มี 4 ที่ไหน เขามีหลายคนมากกว่าผมอีก ผมรู้หมด

ตอนนี้ไม่มีตังค์?
ลุงแก่ : เหลือนิดหน่อย

ทนาย : เรื่องนี้จะไม่เกิดถ้าจดทะเบียนให้เป็นเรื่องเป็นราว

ลุงแก่ : ยังไงเขาก็ไม่เคยจด เขาเคยจดทะเบียนสมรสครั้งนึงแล้ว กับใครไม่รู้คนนึงแล้วหย่า

จะกลับอีกมั้ย?
ลุงแก่ : ไม่กลับ กลับไปก็หมดตัว แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เขาใช้เงินเก่ง

ไม่ได้เล่นการพนันนะ?
ลุงแก่ : โอ้ยจะเล่นอะไร

ถ้ามีเงินแจกหญิงมั้ย?
ลุงแก่ : ผมเป็นแบบนี้ เหลือนิดหน่อย นาฬิกาเหลืออยู่สองสามเรือน

ถามเพราะนับถือเหมือนพ่อ ทุกวันนี้กินไวอากร้ามั้ย?
ลุงแก่ : ไม่ อายุเยอะแล้ว