เปิดขั้นตอน! สู้คดี สมรักษ์ คำสิงห์ มีสิทธิชนะหรือต้องจำคุก

อาจารย์วัชรินทร์ ภารุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เล่าขั้นตอนหาก สมรักษ์ คำสิงห์ จะสู้คดี สามารถสู้ด้วยอะไรได้บ้าง

ติดตามกันต่อกับประเด็นของ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่มีหญิงสาววัย 17 ปี นั้นร้องเรียน โร่เข้าแจ้งความว่า ถูกนักมวยชื่อดัง ได้กระทำอนาจารและลวนลามในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งทาง สมรักษ์ ก็ได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ แต่ยอมรับว่ามีการกอดจูบลูบคล้ำ อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเด็กสาวคนดังกล่าวอายุ 17 ปี ทั้งนี้ทางด้าน สมรักษ์ ได้ทำการแต่งตั้งทนาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนทางด้านครอบครัวของ เด็กสาววัย 17 ปี ก็ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน

โดยในตอนนี้ประเด็นที่เกิดขึ้นทางสังคม นั้นมีหลายแง่มุมไม่ว่าจะเป็น การที่เด็ก 17 ปลอมบัตรประชาชนเพื่อเข้าสถานบันเทิง หรือ การที่ สมรักษ์ กระทำการละเมิดอนาจารต่อเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี รวมไปถึงการที่โลกโซเชียลนั้นแสดงความคิดเห็นไปในหลายแง่มุม ว่านี้อาจจะเป็นการฟ้องร้องเพื่อแจ้งความและเรียกเงินหรือไม่ ทั้งนี้เรื่องนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย ที่ไม่มีใครสามารถตัดสินได้เอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งทางสถานบันเทิงเอง หรือทางของเพื่อนเด็ก 17 เอง

ล่าสุดวันนี้ใน รายการโหนกระแส เทปประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ทางพิธีกรอย่าง หนุ่ม กรรชัย ก็ได้เชิญครอบครัวของเด็ก 17 ปี เข้ามาพูดคุยในรายการรวมถึง กัน จอมพลัง และ อาจารย์วัชรินทร์ ภารุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ด้วยโดย อาจารย์วัชรินทร์ นั้นได้เล่าขั้นตอนทางกฎหมายหากว่า สมรักษ์ ต้องการสู้คดี จะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง และมีสิทธิจะชนะคดีหรือไม่ โดยทาง กัน จอมพลัง ได้ถามว่า "หลายๆคนถามว่านี้คือการแบล็กเมล์หรือไม่ ในทางกฎหมายนั้นมีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง"

อัยการตอบชัด สู้ได้หรือไม่
ความหมายก็คือ เหมือนจะแจ้งความเพื่อเอาเงินเอาทอง เพื่อต่อรอง แต่ที่นี้ถ้าหากทางคุณพ่อและคุณตายืนยันว่าไม่ได้ต้องการเงิน ต้องการจะดำเนินคดี ก็ต้องดำเนินคดีไป แต่ในส่วนนี้ถ้าให้ผมเรียนในทางกฎหมาย ถึงจะยอมความก็ยอมไม่ได้ เรื่องนี้สุดท้ายขั้นตอนกระบวนการ สมุมติรับเงินก็ตามแต่ไม่จบนะครับ มันต้องไปที่ศาล

ตำรวจทำสำนวนเสร็จ
สอบผู้เสียหาย สอบพยานหลักฐานต่างๆแล้วเรียกมาแจ้งข้อหา
พอเรียกคุณสมรักษ์มาแจ้ง คุณสมรักษ์ก็มีสิทธิที่จะขอประกันตัว คดีประกันตัว ก็จะมีระยะเวลาในการทำสำนวนไม่เกิน 6 เดือน นำสำนวนส่งอัยการจังหวัดขอนแก่น อัยการก็จะพิจารณาจากสำนวนหลักฐาน แล้วก็จะสั่งฟ้อง แต่ถ้าสมุมติไม่สั่งฟ้อง ก็ต้องส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ถ้าเห็นแย้งกับคำสั่งต้องส่งไปที่อัยการสูงสุดชี้ขาด

อันนี้เป็นขั้นตอนกฎหมาย แต่ ถ้าอัยการขอนแก่นสั่งฟ้อง ก็ไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพราะยอมความไม่ได้ ถึงจะจ่ายเงินก็ยอมไม่ได้ สุดท้ายจะต้องไปจบตรงศาล คุณสมรักษ์ ก็มีวิธี คือ 1.สู้ว่าไม่รู้ว่าเด็กอายุ 17 คิดว่าเกิน 18 เลยไปทำแบบนี้เข้า อันนี้ก็คือการสู้เรื่องไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบ องค์ประกอบก็คืออายุ สู้ว่าไม่รู้ว่าอายุน้อย ไปสู้กันแล้วแต่ศาลจะมอง ถ้าสู้ชนะ ก็ยกฟ้อง แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็มีโทษจำคุก

พี่หนุ่ม : ในมุมของชนะ มุมไหนที่จะชนะครับ ชนะก็ประเด็นที่ว่า อาจจะมองว่าคิดเอาเองว่าเด็กคนนี้เกิน 18 แน่ อาจจะบอกว่าเข้าผับมาได้มันต้องอายุ 20 ไปแล้ว แต่มันก็ติดปัญหาที่บอกว่า สมรักษ์พูดเองคำนี้ว่าเขาบอกตั้งแต่แรกว่า 17 แต่ไม่เชื่อ

กันจอมพลัง : แบบนี้ได้ไหมครับอาจารย์ ไม่เชื่อตอนแรกแต่ไปเชื่อตอนหลัง ก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะอายุมันเป็นตัวกำหนด คือสู้เรื่องอายุ สู้ได้ไหม ได้ เพราะมันเคยมีคนสู้ชนะ แต่มันก็จะสู้ยากสู้ลำบาก กฎหมายไทยคุมครองอายุเป็นเกณฑ์ เรื่องนี้ยังไงก็ต้องไปที่ศาล ให้ศาลตัดสินให้ ถ้าสู้ชนะก็ยกฟ้อง แต่ก็มีขั้นตอน อุทรณ์ ฎีกาอีก แต่ถ้าสู้ไม่สำเร็จก็มีโทษจำคุก ส่วนหากในอนาคตมีเรื่องให้เงินเยียวยา อันนั้นเป็นเรื่องเหตุดุลพินิจที่ศาลจะรอการลงโทษหรือไม่ก็ได้ แต่ให้สบายใจอยู่อย่างว่าวันนี้ไม่มีทางจบในชั้นตำรวจ และชั้นอัยการได้เลย