เจ้าตัวยอมรับว่า เป็นความกลัวว่าจะไม่ได้ดุแลครอบครัว เครียด ก็คิดว่าสิ้นสุดชีวิตเราตรงนี้ดีกว่า เพราะถ้าไม่มีเราก็ไม่มีปัญหา ก็คงมีคนดูแลลูกๆ ต่อ ก็คิดเลยเถิดไป เพราะความกลัว เคยคิดกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะคิดสั้น คิดผิดไปตอนนั้น
ตอนนั้นขับรถไปถึงตึกๆ หนึ่งเพื่อจะกระโดดลงมาตาย แต่ลูกโทรมา ถามป๊าอยู่ไหนเป็นห่วง ทำให้เรานึกถึงอดีตตอนลูกเด็กๆ เล่นกัน ซนกัน เราอยากให้เค้าเรียนจบ แต่ถ้าเราพิการ เราคงทำไม่ได้ ก็คิดมาก เราคิดว่า ตัวเราเองพ่อแม่ก็หย่า ตอนรับปริญญาที่ออสเตรเลีย ไม่มีใคร เราเลยปฏิญาณตนว่า ลูกเราต้องสำเร็จ ต้องมีพ่อแม่ไปรับปริญญาลูก ถ้าเราอยากได้แบบนี้ เราก็ต้องอยู่เพื่อลูก วันที่เค้ารับปริญญาน้ำตาเราก็ไหล ทำให้เค้าสำเร็จแล้ว ดีใจที่เราไม่ได้คิดสั้น เราได้บอกคนอื่นด้วยว่า เราทำไงให้ชีวิตเรามีคุณค่ากับคนอื่นด้วย
ถ้าวันหนึ่งมีเทคโนโลยีทำให้เรากลับมามองเห็นได้ เราก็จะทำ หรือช่วยเรื่องเส้นประสาทตา อยากให้คนอื่นได้ทำด้วย ตอนนี้ตาซ้ายก็ต้องรักษาให้ดี สมเด็จพระราชินีฯ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์
ส่วนช่วงที่หายไปจากวงการ 7 ปี กลัวอิทธิพลมาเฟียวงการหนัง ช่วงเล่นหนัง 200 กว่าเรื่อง ผู้จัดการเราก็โดนยิงตายหน้าบ้าน เรื่องขอคิวยาก เราก็รู้สึกอยู่ไม่ได้
ขณะชีวิตครอบครัว ก่อนเข้าวงการแต่งงานแล้ว ไม่คิดจีบนางเอกคู่จิ้น เช่น จารุณี หรือใคร ตอนนี้ก็แยกทางกับภรรยา อยู่กันลำบาก ลูกก็พาไปหย่า ใครจะเข้ามาเป็นเพื่อนกันดีกว่า โสดกว่า 10 ปี ยังไม่คิดมีรักใหม่เพราะบ้างาน พร้อมเปิดความเจ้าชู้พระเอกรุ่นเก่า นิสัยฝรั่งชอบกอดนางเอกจนเป็นข่าว มีคนมาเสนอเรา แต่เราไม่สนอง ไม่อยากเปลืองตัว ลูกรู้ ครอบครัวรู้ไม่ดี สังคมรู้เป็นตัวอย่างไม่ดี