เปิดปากภรรยาจ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวงฯ ผ่านรายการ พร้อมเรื่องราวที่ไม่เคยรู้? (คลิป)

"ก็ดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง ถามว่าทำใจได้ไหม ยังไม่ได้แต่แค่ประคองตัวเอง"

"ก็ไปเจอกันที่นครพนม ช่วงนั้นพี่แแซมเค้าเป็นนักกีฬาไตรกีฬา แล้วก็ก็คุณพ่อเราเล่นไตรกีฬาเหมือนกันแต่เป็นคนละรุ่น เราก็ไปเชียร์คุณพ่อก็เลยได้เจอกัน แต่ก่อนก่อนหน้านั้นก็มีโอกาสเจอบ้างแต่ไม่ได้สนใจเค้าเท่าไหร่ ที่เจอกันจริงๆ จังๆ ก็เจอกันที่งานแข่ง"

"ก็วันนั้นเลยค่ะ เค้าก็ถามว่ามาทำอะไร เราก็บอกว่ามาเชียร์คุณพ่อ เค้าก็ถามว่าพ่ออยู่ไหน ขอสวัสดีคุณพ่อหน่อย และหลังจากนั้นก็คุยกัน ตอนนั้นเราให้เบอร์บ้านไป ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นยังไงก็ไม่กล้าให้เบอร์มือถือไปถ้าจะโทรก็โทรเข้าเบอร์บ้านเลยละกัน"

"ก็คิดว่าพี่เค้าคงคุยธรรมดา ถ้าไม่อยากคุยเดี๋ยวพี่เค้าคงหยุดไปเอง เราไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เค้าก็โทรมาหาทุกวัน"

"เค้าเป็นคนกล้า กล้าตั้งแต่เข้ามาสวัสดีพ่อ แม่ แล้วก็พอเราให้เบอร์ไป บางทีก็พ่อรับ แม่รับ แต่เค้าก็จะบอกว่าถ้าน้องไม่อยู่ เดี๋ยวผมโทรมาใหม่ ฝากบอกไว้เดี๋ยวผมโทรมาอีก"

"ประมาณครึ่งปี ส่วนใหญ่ก็จะให้พี่เค้าโทรเข้าบ้าน ถ้าเจอก็จะคุย แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่คุย"

"เป็นปีค่ะ คุยโทรศัพท์นี่ไม่รู้ว่าค่าโทรเท่าไหร่"

"ก็เคยคิดเหมือนกัน แต่พี่แซมเค้าทำทุกอย่างโปร่งใส ถ้าเราถามว่าอยู่ไหน อยู่กับใคร เค้าก็จะบอกว่าอยู่กับน้องที่เก็บตัวด้วยกัน ถ้าเราถามว่าจริงเหรอ เค้าก็จะให้คนนั้นคุยเพื่อยืนยันว่าอยู่ด้วยกันจริงๆ"

"ไม่เป็นเลย หลายๆ เรื่อง เวลาเรามอง เราก็จะมอง แล้วถามเค้าว่าแน่ใจเหรอ ขออีกรอบสิ แล้วเค้าก็จะหลบตาเรา เราก็จะรู้เลย"

"คือเค้าไปแวะเล่นกับเพื่อน แต่เค้าไม่กล้าบอกเรา เราก็ถามเค้าตรงๆ ถ้าเวลาจับได้แล้วถามเค้าเค้าจะบอกความจริง ไม่โกหก"

"เกือบ 7 ปี ถามว่าพี่แซมโรแมนติกไหม ถ้าเอาดอกกุหลาบ หรือลูกโป่งเค้าจะไม่มีเพราะเค้าเป็นทหาร เค้าจะออกแนวแมนๆ เป็นทางการ เป็นผู้ใหญ่ไปเลย"

"เค้าก็บอกว่า เนี่ยคบกันมานานแล้ว รู้นิสัยใจคอกันแล้ว ก็มาสร้างอนาคตและสร้างครอบครัวกัน แล้วเค้าก็บอกว่าเราอายุเยอะแล้วด้วย"

"ก็เรียกกันปกติเลย ป๊าป๋า มาม๊า"

"ใช่ๆ ก็เรียกกันแบบนี้มาตลอด"

"ก็ลำบากนะคะ เพราะมันคือการเริ่มต้น ทุกคู่ก็คงเหมือนกัน"

"ค่ะ คือพี่แซมเค้าเป็นหลักคนเดียว แล้วเค้าเพิ่งเข้ามาเงินเดือนเค้าจะน้อย เราก็จะช่วยกัน ก็มีแคะกระปุกก็มีบ้างตามประสา แต่มันก็เหมือนบททดสอบมากกว่า"

"ไม่บอกค่ะ เราจะรู้กันแค่สองคนคือจะไม่บอกคนอื่น"

"ไม่ มีแต่เพิ่มขึ้น เราช่วยกัน"

"ความเสียสละของเค้า คือเวลาเค้าไปทำงานเค้าก็จะเอาตังมาให้เราคนละครึ่งถึงแม้เราไม่ต้องใช้อะไรก็ตาม"

"เพราะเราทำงานเป็นกะ แล้วพักผ่อนไม่พอ ทำให้ฮอร์โมนไม่นิ่ง"

"อย่างพื้นฐานเลยพี่แซมเค้าจะไม่ดูดบุหรี่ การพนัน เค้าไม่ยุ่ง แต่เหล้าจะมีบ้างตอนไปงานสังสรรค์ แต่โดยธรรมชาติไม่มีเลย เค้าจะกินนม ดูแลสุขภาพ"

"เราก็ดูข่าวมาตลอดอยู่แล้ว พี่แซมเค้าบอกว่าจำนวนวันมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนข้างในไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ตอนแรกไม่มีอะไรก็ตามข่าวปกติ แต่สักพักเค้าน่าจะไปคุยในกลุ่มส่วนตัวของเค้าเราก็ไม่รู้ เค้าก็ขึ้นเฟซบุ๊กว่าอุปกรณ์ดำน้ำมันไม่พอ เค้าขอจะขอเสริม ขอบริจาค โดยที่เค้าจะเป็นคนเอาไปให้ที่นู้น"

"เค้ามาบอกแค่ว่าเอาอุปกรณ์เสริมพวกนี้ไปส่งให้หน่วยทางโน้น เค้าอยากไปส่งเอง"

"ใช่ค่ะ แต่เค้าเป็นซีลนอกราชการที่ออกมาแล้ว แต่ยังมีความสัมพันธ์พี่น้อง คุยกันตลอด"

"อ่อ วันที่พี่เค้าจะไป เค้าไปเอาของแล้วมีการถ่ายรถขนของ เค้าก็มายืนเก็บของ เช็กของ แล้วเราก็ถามเค้าว่า พี่จะไปจริงๆ เหรอ เค้าก็บอกว่า ไปจริงๆ รับปากแล้วก็ต้องไป ต้องทำสิ เราก็เลยบอกว่าไม่ไปได้ไหม ซึ่งมันไกลด้วย เพราะเราดูข่าวตลอดเค้ามีเจ้าหน้าที่เฉพาะทางอยู่แล้ว เค้าไปคงจะช่วยได้ไม่เยอะ"

"เค้าบอกว่าไปถึงแล้วกลับเลย คือเค้าบอกไม่หมด ถ้าบอกหมดเราไม่ให้เค้าไป"

"ค่ะ พี่เค้าส่งเฉพาะในไลน์ เค้าส่งเข้าไลน์หนู ไลน์ครอบครัว และไลน์เพื่อนๆ"

"มีแค่ว่าอยากให้พระเค้าไป ปกติพี่แซมเค้าจะแขวนเสด็จเตี่ย แต่วันนั้นเราให้ท้าวเวสสุวรรณเราก็ส่งให้เค้าและบอกเค้าว่าต้องเอาพระติดตัวตลอด"

"มีตอนเค้าไปถึงแล้ว เค้าพูดว่าวันนี้ขอนอนกับพี่กับน้องนะ เราก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่กลับนะ เค้าก็บอกว่าถ้ามีไฟล์คอนเฟิร์มเดี๋ยวจะบอกอีกที แล้วเค้าบอกว่าเค้าอยากช่วยพี่ๆ น้องๆ ที่นี่ เราก็บอกว่าถ้าช่วยก็ช่วยข้างนอกนะ เพราะเค้าปลดประจำการมานานแล้วการใช้เครื่องมือคงไม่ชำนาญเท่ากับคนที่ใช้ทุกวัน"

"ทราบจากเพื่อน ตอนแรกเค้าโทรมาหาพี่ที่อยู่ด้วยกันให้มาคุยกับเราว่าติดต่อสามีได้ไหม ซึ่งเราไม่ได้รับก็เลยโทรกลับ แต่ก็แปลกใจเพราะปกติเค้าไม่โทรหา แล้วเค้าก็บอกว่าช่วยเช็กได้ไหมว่ายังติดต่อสามีได้ไหม เราก็ใจเสียแล้ว แต่พี่เค้าบอกว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะข่าวยังไม่ออก เราก็เลยบอกว่าขอร้องโทรกลับไปหาคนที่ให้ข่าวมาหน่อย ซึ่งเป็นเพื่อนเราเอง เราก็ถามเค้าตรงๆ ว่ามีชื่อไหม เค้าก็บอกว่าชื่อสมาน แต่อาจจะเป็นคนละ สหมานก็ได้"

"ก็ไลน์ไปหาน้องอีกคน ถามว่าพอจะมีใครที่จะติดต่อรู้เรื่องเกี่ยวกับพี่ที่ไปช่วยที่ถ้ำไหม หนูก็โทรกลับไปถาม พี่เค้าก็ถามว่าหนูอยู่ไหน หนูมาหาพี่เลย หนูก็พยายามพี่้เค้าก็บอกให้มาหาพี่ก่อน หนูก็ลงไปแล้วเค้าก็ค่อยๆ อธิบายให้ฟัง"

"เหมือนมันมือแปดด้าน คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว มันเร็วมาก เรายังไม่ได้เตรียมตัว ใจเราจดจอกับไลน์ของเค้าที่จะเด้งกลับมาบอกเราว่า วันนี้กลับแล้ว"

"ใช่"

"หนูโทรไปหาน้า น้องชายบอกว่าพี่ได้ยินมาว่าพี่อั๋นเสียแล้วนะ ฝั่งนู้นเค้าก็บอกว่าไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ เค้าก็บอกว่าลองเช็กก่อนนะ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งเชื่อ เค้าก็หายไปสักระยะ หนูก็เริ่มโทรหาน้องชายเค้าที่ราชบุรี เค้าก็ไม่เชื่อ"

"ใช่ แต่ตอนแรกก็ตั้งไม่ได้ พอโทรไปบอกพ่อหนู เค้าก็ไม่เชื่อ เวลาโทรไปหาใครก็เหมือนเราไปโกหกเค้าเพราะไม่มีใครเชื่อเลย พ่อเลยบอกว่าเราต้องเป็นหลักให้เขานะ เราก็เลยได้สติจากคำพูดของพ่อ"

"ใช่ เวลาขับไปต่างจังหวัด เราก็ถามเค้าว่าถ้าพี่ต้องดูแลตัวเอง พี่ต้องเซฟนะ เพราะถ้าวันหนึ่งพี่เป็นอะไรไปหนูจะอยู่ยังไง พ่อแม่จะอยู่ยังไง เค้าก็บอกว่ามันเป็นธรรมชาติ เกิดมาก็ต้องตายทุกคน หนูก็ต้องตาย แต่ว่าการตายของเรามันแตกต่างกัน เค้าก็บอกว่าตายยังไงถึงจะภูมิใจที่สุด คือทุกคนคนต้องตายแต่สิ่งที่เหลือไว้คือความดี"

"ก็อยากบอกว่าไม่อยากให้เค้าห่วง จะทำแทนทุกอย่าง แล้วพ่อกับแม่ยังไงก็จะไม่ทิ้ง ส่วนตัวเราเองก็จะพยายามที่จะเป็นหลักให้เพราะคุณพ่อ คุณแม่ก็ยังไม่เต็มร้อย"

"คือไม่มี ไม่เอา ไม่ต้องการด้วย เพราะเคยพูดไว้แล้วว่าไม่มีใครมาแทนพี่แซมได้ คือไม่ได้โกรธเค้า มันเป็นสิทธิของเค้าที่เค้าจะคิด เพราะเค้าไม่ได้มาอยู่กับเรา มันไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเรา"

"ก็จะมีญาติๆ ที่ใกล้ชิดบอกว่ามีได้กลิ่นบ้าง แต่สำหรับเรายังไม่มี"

"เงินที่ช่วงแรกมีปัญหาใช่ไหมค่ะ คือทางบริษัทพี่แซมเค้าอยากช่วยพี่แซม เค้าก็เลยไปเปิดบัญชี เป็นคนดูแล และมีกำหนดเวลา ระยะ พอทีนี้เค้าก็ปิดบัญชี แล้วเอาบัญชีมาให้เรา แล้วก็จะมีอีกบัญชีนึงที่คนข้างนอกอยากจะช่วยพี่แซม ซึ่งเราไม่ได้ไปเช็กหรือว่าอะไรเลย เพราะเงินมันอยู่ในบัญชี"