สาวสุดช้ำ! ผัวซาดิสม์ ค้อนตี ปาดคอ ทุบหน้าเละ (คลิป)
โหนกระแสวันที่ 11 ก.พ. โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดใจสัมภาษณ์คุณจอย ที่มาพร้อม "คุณเจน" น้องสาว เผยว่า รู้จักกับสามีผ่านทางโซเชียลเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มคบหากัน มีลูกด้วยกัน คนโต 2 ขวบกว่า คนเล็ก 3 เดือน แรกๆเขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่น พอช่วงหลังเขาติดยา และมักมีอารมณ์หงุดหหงิด โมโหร้ายตลอดเวลา ใช้คำพูดไม่ดี ด่าทอ จากนั้นเขาเกิดความระแวง หึงหวงมากขึ้น
จนกระทั่งล่าสุดวันที่ 3 ก.พ. เขาเกิดความระแวง ว่าตนมีคนอื่นอีกครั้ง และได้ตามมาที่ห้อง เอามีดจะกรีดหน้า แต่ตนปัดออกทัน แล้วเขาก็เตะเข้าที่หน้าอัดกับฝาผนัง
หลังจากนั้นแม่ก็ได้แจ้งจับ เข้าคุกเรียบร้อย และทางครอบครัวของเขาไม่ประกันตัว ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
จอย : "รู้จักในโลกโซเชียล เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นคบกันก่อน 3 เดือนแรกเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ก็ศึกษาเขาก่อน เขาโทรมาหาตลอด เขาบอกว่าไปทำงานแล้วนะ เลิกงานก็ไปรับ แล้วพาไปรับจ๊อบทำงานของเขาต่อ เขาเป็นช่างแอร์"
หลังจากนั้น เริ่มรักกัน คิดว่าตกลงเป็นผัวเมียกัน เมื่อไหร่?
จอย : "หลัง 3 เดือนที่คบกัน ก็ตกลงกันเป็นแฟนกัน อยู่ด้วยกันเลย ไม่ได้จดทะเบียน ไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน"
มีลูกด้วยกัน คนโต 2 ขวบกว่า คนเล็ก 3 เดือน เหตุการณ์แรกผู้ชายที่ดูอบอุ่น เป็นพ่อที่ดี เป็นผู้ชายที่ดี หลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?
จอย : "แรกๆ เรื่องติดยาหนูไม่ทราบมาก่อน เพราะหนูทำงานไปเช้ากลับมืด ประมาณ 3 ทุ่มได้ พอกลับมาต่างคนต่างนอน เขาก็ไปทำงานปกติ มาพักหลังๆ เขามีอารมณ์หงุดหงิด พูดอะไรก็ไม่ได้ เหมือนเหวี่ยงโมโหตลอด หนูก็สงสัยเลยจับผิดเขา ว่าทำไมเขาถึงหงุดหงิดบ่อย เขาจะพูดไม่ดี"
อย่างเช่นอะไร?
จอย : "เขาพูดไม่ดี หงุดหงิด ใช้คำด่าที่ไม่ดี เหมือนทำลายข้าวของ ตอนนั้นเริ่มตั้งท้องแล้ว"
ทำร้ายร่างกายมั้ย?
จอย : "ไม่ค่ะ ทีแรกไม่ทำร้ายร่างกาย พอซักประมาณลูกได้ 6 เดือน กลับมาก็ทำงานปกติ มาถึงเขาก็พูดไม่ดี มึงไปไหนมา มึงมีใคร เหมือนหลอนไปเอง ไม่ได้ถึงกับไม่กลับบ้าน แต่ทำไมกลับช้า เขคิดระแวงไปเอง ดมตัวเรา ดมกลิ่นเราเหมือนพูดว่ามีกลิ่นผู้ชายมั้ย เราก็ถามว่าทำไมเขาเป็นแบบนี้"
เริ่มทำร้ายร่างกายเมื่อไหร่?
จอย : "เมื่อตอนปี 59 หนูทำงานอยู่เขาโทรมา หนูก็ติดสายแม่ โทรคุยกับแม่ตลอด ตอนนั้นคลอดลูกคนแรกแล้ว เพิ่งคลอดได้เดือนกับ 10 กว่าวัน ยังพักฟื้นอยู่เลย พอเขาโทรมา เราติดสายแม่ หนูไม่รับสาย เพราะคิดว่าไม่มีอะไร เราทำงาน หนูไม่ได้รับสายเขา
พอถึงเขาก็บอกว่ามึงทำไมไม่รับสายกู เอาโทรศัพท์มาดูสิ มึงคุยกับใคร จะรันหาเบอร์แปลกๆ แล้วลองโทรไป พอไม่มีอะไร คือสมองจิตเขาคิดว่าเราต้องมี และต้องมีให้ได้ เขาคิดแค่อย่างนั้น แต่พอเช็กทางโทรศัพท์ไม่เจอเขาก็อาละวาด หาว่าเราลบเบอร์ หนูไม่เข้าใจว่าเขาโดนอะไรมาจากเมื่อก่อน ก่อนเจอกับหนู แต่เขาระแวงหนูตลอด"
ตอนนั้นรู้มั้ยเขาเริ่มมีเรื่องยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง?
จอย : "ยังค่ะ แต่รู้สึกว่าเขาหึงหวงเรามากขึ้น หนูต้องทำงาน ด้วยหน้าที่การงาน ต้องแต่งตัวมากขึ้นหรือเปล่าเขาถึงได้หงุดหงิด"
คุณคลอดลูกมาเดือนกว่าๆ เขาทำอะไรคุณ?
จอย : "เขามาพูดจาแล้วก็ตบ ชกที่หน้า เราก็หลบเขาก็เหมือนเอาหัวเราโขกกับโต๊ะม้าหิน พอดีป้าที่ทำงานอยู่เขาเห็น เขาก็โวยวายว่าเฮ้ย มึงทำอะไร พอรู้ว่าป้าจะเดินเข้ามาเขาก็ลากหนูออกไป หนูพยายามไม่ไป เขาก็รีบลาก ด้วยความเป็นผู้ชายลากเราไวมาก เราไม่ไป เราขัดขืน เขาก็ถีบเราเข้ารถเก๋งของเขา หนูก็ร้อง บอกว่าจะพาไปไหน จอยไม่เอาแล้ว จอยกลัวแล้ว เขาก็บอกว่ามึงจะยอมรับมั้ย มึงคุยกับใคร"
เขายังไงต่อ?
จอย : "เขาพาเราไปกลางป่า ตอนนั้นเราเจ็บแล้ว โดนโขก โดนต่อย พอไปถึงเราก็นอนเจ็บในรถ เขาก็ลากหนูลงมา เขาก็พูดซ้ำไปซ้ำมา ว่ามึงจะยอมรับมั้ยว่ามึงคุยกับคนอื่น หนูก็เถียงจะให้ยอมรับได้ยังไง คนไม่มีก็คือไม่มี ทำไมต้องบังคับบีบคอให้จอยมี จอยไม่มีก็คือไม่มี ก็บอกเขาตลอดเถียงเขาตลอด ยิ่งเถียงเขาก็ยิ่งตบ ยิ่งต่อย เขาลากไปกลางป่าแล้ว"
มีภาพที่หลุดมาเป็นหน้าผู้หญิงเละเลย คุณหรือเปล่า?
จอย : "ใช่ค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา"
ปี 59 เขาทำคุณหนักถึงขั้นไหน?
จอย : "ไม่ถึงขนาดนี้ค่ะ"
วันที่ 3 กพ. คุณโดน โดนค้อนทุบ?
จอย : "โดนค้อนทุบปี 59 ค่ะปีนี้โดนมีดจะกรีดหน้ากับเตะเฉยๆ"
แสดงว่าปี 59 โดนหนักกว่านั้น?
จอย : "หนูไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะเอาค้อนมาด้วย เขาทำท่าเหมือนจะทุบ หนูก้มกราบเท้า บอกว่ายอมแล้วทุกอย่าง (เสียงสั่นเครือ) นึกถึงแม่ นึกถึงลูกที่บ้าน ต้องมีชีวิต ทำยังไงก็ได้ให้ได้กลับไปอยู่กับลูก ได้กลับไปหาแม่ เลยยอมก้มกราบขอร้องชีวิตเขา ทำยังไงก็ได้ให้ได้กลับ เขาจะทุบหัว เหมือนเขาหลอนมาก เขาคลั่งมาก หนูก้มกราบขอชีวิตเขา เขาก็ยอม ยอมให้กลับบ้าน หลังจากนั้นเขาบอกว่าจะปรับปรุงตัว"
คุณรอดมาได้เพราะกราบเท้า แล้วเขาทำยังไงต่อ?
จอย : "เขาก็พาไปบ้านพ่อบ้านแม่เขาก่อน พ่อแม่เขาก็ถามว่าโดนอะไรมา ตาช้ำหมดเลย หน้าเขียว ช่วงจังหวะแม่เขากำลังออกไปซื้อยา เราพยายามจะเล่าแต่เราเล่าไม่ไหว จังหวะนั้นเขาก็ลากเรากลับบ้าน เอาลูกไปด้วย"
จอย : "กรณีเดิมค่ะ เขาคิดว่าเรามีคนอื่น ตอนเช้าหนูเปิดร้านทำผม พอเลิกบ่ายสองก็เข้างานที่โรงแรมต่อ ทำงานการโรงแรม เลิกงานเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืนเขาไปรับ ตอน 6 โมงหนูวิดีโอคอลคุยกับขาก็เริ่มรู้ว่าเขาผิดปกติ ให้หันซ้ายหันขวา ให้โชว์กล้องว่าคุยกับใคร มีใครนั่งอยู่หรือเปล่า หนูบอกว่าไม่มีใคร นั่งกินข้าวอยู่เดี๋ยวต้องกลับไปทำงาน เขาบอกว่าต้องมีแน่ๆ ใครสั่งให้มึงพูด ก็บอกว่าไม่มีใครสั่ง
เริ่มรู้ว่าเขาผิดปกติ ก็ตัดสายแล้วบอกไปทำงานแล้นะ บอกที่ทำงานว่าช่วยดูช่วยระวังให้ด้วยเผื่อทำงานอยู่ไม่ได้ระวังตัว เขาก็ยังไม่ตาม จนเที่ยงคืน ให้พี่ที่ทำงานไปส่งที่ห้อง เป็นผู้หญิง โชคดีที่หนูเข้าไปในห้องได้ก่อน ปิดไฟหมดเลย ไม่ให้รู้ว่าอยู่ที่ห้องที่เราเช่าอยู่ เขาก็ไปตะโกนเรียก โทรเท่าไหร่หนูก็ไม่รับสายเพราะหนูเริ่มกลัวแล้ว"
วันที่ 3 ในคืนเกิดเหตุ คุณกลับห้องพัก ปิดไฟ เขาตะโกนเรียก?
จอย : "ก็โทรแจ้งตำรวจ ไม่ทราบตำรวจมาหรือเปล่า หนูก็ปิดไฟนอนแล้วเผลอหลับไป ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กตอนเช้าก็โทรเรียกตำรวจอีกครั้ง โทรบอกแม่ โทรบอกพ่อ บอกพี่เขา บอกทุกคนที่จะช่วยหนูได้ ให้เขามาที่ห้อง เขาก็บุกเข้ามา ขึ้นมาก็บอกว่ากูบอกแล้วว่าอย่าให้กูเจอมึง เขาพยายามตามหาเรา เขาก็เหมือนบีบคอ แล้วก็เอามีดขึ้นมา บอกว่ากูบอกแล้วใช่มั้ยจะทำให้มึงเสียโฉม เอามีดมาจะกรีดแต่หนูปัดมีดออก ช่วงจังหวะเขาเก็บมีด พ่อเขาก็มาพอดี ก็ห้าม เขาก็เหวี่ยงพ่อออกไป ยื้อกัน หนูก็พยายามลุกขึ้นมา พอดีติดฝาผนัง เขาก็เตะที่หน้าอัดเข้าผนัง"
สภาพคุณล่าสุดเละทั้งหน้า ล่าสุดเขาอยู่ที่ไหน?
จอย : "เขาอยู่ในคุกแล้วค่ะ แม่แจ้งจับค่ะ"
ตัวคุณไม่สบายใจ มีหลายคนมองว่าสมน้ำหน้า รู้สึกยังไง?
จอย : "ก็รู้สึกแย่นิดนึงค่ะ"
เจน : "เขาแย่ค่ะ กินข้าวไม่ได้ หนูเข้างานบ่ายสองออกห้าทุ่ม กลับมาพี่สาวนอนไม่หลับ เขาเครียด เขากลัว เขาหวาด อะไรก๊อกแก๊กก็กลัวไปหมด กลัวว่าทางครอบครัวจะไปประกันตัวโดยไม่บอกกับเรา กลัวเป็นอันตรายกับเขา"
วันนี้จะทำยังไงต่อไป?
จอย : "เลิกเด็ดขาดค่ะ ลูกคนเล็กอยู่กับแม่ คนโตอยู่กับพ่อเขาค่ะ ปู่เขาเลี้ยงมา ทางครอบครัวเขาดีค่ะ"