อัยการยัน! ผบ.ตร. แถลงเอง ไม่มีจับแพะ ปรามทนายตั้ม ขั้นลั่นให้ฟันคอ!

ปรเมศวร์ : ไม่ ถ้าผบ.ตร.มานั่งแถลงเอง ไม่มีการจับแพะหรอก กอล์ฟผบ.ตร.แถลงเอง 8 ศพที่กระบี่-พังงา ผบ.ตร.ก็แถลงเอง

จะบอกว่าถ้าเรื่องนี้พลิกโผขึ้นมา ผบ.ตร.เสียหน้า?

ปรเมศวร์ : เสียสิครับ ท่านแถลงในมุมท่านนะ ว่าทำเท่าที่พยานหลักฐานปรากฏ ส่วนจะลงโทษได้หรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่ท่านทำเต็มที่ การตายของน้องชมพู่ไม่มีใครทราบสาเหตุ ไม่มีใครบอกได้ ร่องรอยการถูกทำร้ายไม่มี

หมอบอกว่าขาดน้ำขาดอาหารเสียชีวิต?

ปรเมศวร์ : นี่แหละคือประเด็นการทอดทิ้งเด็ก ทิ้งไว้จนเด็กไม่มีกิน รูปคดีที่วาง ทนายตั้มฟังเลย น้องรักเหมือนกัน ฟังให้ดีอย่าเที่ยวไปแถลงมั่วซั่ว เป็นทนายต้องสุขุมกว่านี้ เขาเข้าใจโจทย์ครึ่งเดียว แน่นอนต้องมีพยานที่เห็นว่ามีการพาไป แต่ถ้าจำได้ ตร.สอบพยานครึ่งร้อย ทั้งหมู่บ้าน ถามว่าเรารู้มั้ยเขาพูดอะไร เราไม่รู้ ตร.ไม่บอก มันต้องมีใครเห็นสักคน

ตอนแรกเขาบอกไม่มีคนเห็น อาจารย์บอกว่าต้องมีคนเห็น?

ปรเมศวร์ : ต้องมี ไม่งั้นตั้งข้อหาพรากไม่ได้

อาจารย์ยืนยันอย่างนั้นเลยเหรอ?

ปรเมศวร์ : ไม่ๆ การสอบสวนเป็นความลับ แต่การสืบพยานในศาลกระทำโดยเปิดเผย สองอย่างนะ ต้องต่อหน้าจำเลยด้วย ผมเชื่อว่ามี ถ้าไม่มีเขาคงไม่กล้าตั้งข้อหานี้ ไปตั้งข้อหาโดยไม่มีพยานเลย ตร.จะโดนเอา ตอนที่สอง มีข้อเท็จจริงที่ว่าในวันที่น้องหายไป ลุงพลกลับมาบ้านตอนไหน ต้องมีคนเห็นตอนไปและเห็นตอนกลับ และตอนไปพบศพวันที่ 14 หมอบอกว่าขาดอาหาร ขาดน้ำ เด็กขึ้นไปเองไม่ได้ข้างบน ถูกมั้ย ต้องมีคนพาขึ้นไป ฉะนั้นเมื่อคำนวณระยะเวลาการเสียชีวิต โดยหลักการ การเสียชีวิตของคนอุณหภูมิในร่างกายจะลงลงทุก1 ชม. ใน 1 องศา พบน้องชมพู่กี่โมง สภาพศพกี่โมง อุณหภูมิเท่าไหร่ ก็สามารถคำนวณเวลาที่ตายได้ นั่นหมายความว่าเมื่อมีคนพาไป และคนพาไปกลับมา อีกกี่ชม.น้องเสียชีวิต พาไป แล้วไม่พาลง แล้วอดอาหาร อดน้ำ ทอดทิ้งไง แสดงว่าต้องมีพยานเห็นพาไป และกลับมา นี่คือข้อหาทอดทิ้งให้ถึงแก่ความตาย

แต่ละครั้งที่ลุงพลไปพูดต่างๆ นานา แม้แต่ในรายการนี้เอง สามารถเอาไปเป็นหลักฐานในชั้นศาลได้มั้ย?

ปรเมศวร์ : อาจใช้ได้ในการนำไปซักค้าน เพราะแม่น้องชมพู่ต้องตั้งทนายไปเป็นโจทก์ร่วมอยู่แล้ว วันนี้สื่อมวลชนเป็นห่วงที่หกของกระบวนการยุติธรรม หลายคดี คุณหนุ่มเคยสัมภาษณ์ใคร ทนายขอเทปไปอัดคลิปไว้เลย ตร.ไม่ค่อยมาตอบแล้วเพราะไปตอบในศาลจะเอาที่เคยให้สัมภาษณ์ไปยัน คุณเคยพูดแบบนี้ แล้วมาพูดวันนี้อย่างนี้จะเชื่อยังไง คำพยานก็เสียไป เอาไปอ้างเป็นพยานหลักฐานโดยตรงไม่ได้ แต่ทำให้คนที่ไปตอบคำถามในศาลแล้วไม่ตรงกันบ่อยๆ ความน่าเชื่อถือหาย

ลุงพลเคยออกรายการ 7 ก.ค. 63 เขายืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้ทำ เขารักหลานมาก สิ่งหนึ่งที่ลุงพลพูด ผมถามว่าลุงพลไม่ได้ฆ่าใช่มั้ย ในหลักความเป็นมนุษย์เขาไม่ได้ฆ่า แต่เอาไปปล่อย เขาก็ยืนยันได้เต็มปากว่าไม่ได้ฆ่า?

ปรเมศวร์ : แรงจูงใจคือคำตอบส่วนหนึ่ง ส่วนทำไมทำตำรวจทำช้า ส่วนหนึ่งเพราะคดีแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย สองการจะวิเคราะห์คนสักคนเพื่อเอาเข้าสู่กระบวนการเชื่อมโยงทั้งระบบ พักหลังเราเห็นพฤติกรรมลุงพลอาจเป็นคนเลือดร้อน หรือตร.อาจสอบฝ่ายแม่น้องชมพู่ ข้อขัดแย้งที่น่าจะเป็นไปได้ อย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด

มุมทนายตั้มจะสู้มุมไหน?

ปรเมศวร์ : เขาจะสู้เรื่องประจักษ์พยาน เขาเคยพูดว่าเห็นเหรอตอนทอดทิ้ง เห็นเหรอตอนพาไป เห็นเหรอตอนเคลื่อนย้ายศพ เอาดีเอ็นเอจากเส้นผมเหรอ เส้นผมตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ รู้ มันจะตรวจได้ต่อเมื่อมีรากผม ถึงมีรากผมก็ต้องดูว่าเก็บไว้นานเท่าไหร่ แต่การเทียบเคียงผมว่าเหมือนหรือไม่เหมือน มันเทียบเคียงได้ แล้วถ้าผมเล่าให้ฟังจะทันมั้ย คดีเกิดปี 2523 คดีคุณพ่อไอซ์ หีบเหล็ก มีการพบศพเด็กผู้หญิงคนนึง พบเส้นผมในอ่างล้างหน้า เทียบเส้นผมของเด็กหญิงคนนั้นแล้วแมตซ์กัน เขาก็เปรียบเทียบได้ว่ามีการตัดศพฆ่าในห้องพักแห่งนี้ เขายืนยันได้ อย่าไปนึกว่าจะยืนยันไม่ได้ ยอมรับว่าตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ แต่มันตรวจเปรียบเทียบได้

ตร.ใช้ระบบเป็นแสงซินโครตรอนในการตรวจหา เส้นผมน้องชมพู่ 36 เส้นที่ถูกสับ หั่น เถือ เฉือน ให้หลุดจากเส้นผมน้องไประหว่างนอนราบกับพื้น เพราะมีรอยบั้งกับพื้นดิน มีสองหรือสามเส้นเขาเชื่อว่าไปเจอที่รถลุงพล เขาใช้ซินโครตรอนในการตรวจสอบ เท่าที่ทราบมา ผลตรวจล้านเปอร์เซ็นต์ สามารถดูได้ว่าพื้นผิวเป็นพื้นผิวนั้นหรือเปล่าแล้วมันเชื่อมโยงเป็นส่วนเดียวกันมั้ย เหมือนกระจกแตกออกไป เขาสามารถเอาซินโครตรอนไปตรวจส่องดู ขยายดูเป็นพื้นผิวเดียวกันได้มั้ย เช่นเดียวกับของน้องชมพู่ เขาเอาหลักฐานมาเชื่อมโยงกัน ไม่ได้มีแค่นี้ ตรวจธาตุผมมาประกอบกัน เอาเป็นหลักฐานได้มั้ย องศาต่างๆ นานาของการตัด?

ปรเมศวร์ : ได้ เส้นผมที่คุณหนุ่มพูดถึง เข้าใจว่าเป็นเส้นผมที่ถูกตัดมันอยู่ในรถ ไม่ใช่เส้นผมที่หลุด เขาถึงบอกว่าพื้นผิวเหมือนกัน ไม่ใช่ตรวจความยาว ตรวจองศาที่ตัด ซึ่งเข้าใจว่าอาจไปอยู่ในรถสักเส้นสองเส้นหรือเปล่า อันนั้นเราก็ไม่รู้ ให้รอดูสำนวน ถ้ามีอย่างที่คุณหนุ่มว่า ก็โอเค ฟังได้

"ชญตร์ มุกดาหาร" ผู้สื่อข่าว รายงานสดจาก ที่ศาลมุกดาหาร?

ชญตร์ : ตอนเช้าที่เจอ เราถามย้ำกับทนายว่ามั่นใจมั้ยเรื่องการยื่นขอประกัน ก่อนหน้านี้ค่อนข้างมั่นใจ แต่วันนี้ทนายตั้มบอกว่าขอให้รอดูผลการตัดสินของศาลก่อน ทนายแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ก็ต้องรอการพิจารณาของศาลอีกทีนึงว่าเป็นอย่างไร ทนายตั้มขอรอดูท่าทีและการพิจารณาทางศาล

คิดว่าน่าจะได้รับการประกันตัวมั้ย?

ชญตร์ : ในความรู้สึกส่วนตัวน่าจะมีความเป็นไปได้ทั้งสองรูปแบบ ตลอดปีกว่าค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะมีพยานหลักฐานที่ตร.ไม่ได้เผยออกมา ที่สังคมไม่รู้ ทั้งหมดต้องไปสู้กันในศาล อีกนัยยะ ทนายตั้มย้ำให้เห็นว่าลุงพลไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่ได้มีพฤติการณ์ก้าวร้าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มียูทูปเบอร์ถ่ายทำตลอด ออกมาทักทายตลอด นั่นคือสิ่งที่ทนายตั้มพยายามชี้ให้เห็น เลยบอกไม่ได้จริงๆ ความรู้สึก 50-50

อาจารย์มองว่ายังไงทนายตั้มบอกไม่มีพฤติกรรมหลบหนี?

ปรเมศวร์ : อย่าไปมองเรื่องหลบหนีเรื่องเดียว เขาพยายามแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามามอบตัว เข้าใจว่าเมื่อวานสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงไม่ตรงกันซะทีเดียว การจับผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับ คือจับแล้วต้องแสดงหมายจับ แต่มีนายตร.ท่านนึงไปขัดขวางไว้อย่างนั้น อาจเป็นการรักษาความปลอดภัยมากกว่า เพราะไปสถานที่ราชการ การมอบตัวต้องไปโรงพัก ที่จริงก็ยังคิดว่าไม่ใช่การจับหรอก เป็นการดูแลความปลอดภัยในสถานที่ราชการ นายตร.คนนี้อาจสับสนแล้วไปบอกว่าจับคงไม่ใช่ ถ้าบอกว่าจับต้องอ่านหมายจับให้ฟัง ในกฎหมายมาตรา 83-84 เขาเขียนอย่างนี้

ล่าสุดทนายตั้มบอกว่าผบ.ตร. ไม่รับมอบตัวลุงพล เข้าข่ายการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวมั้ย?

ปรเมศวร์ : ฟันคอผมเลย ไม่ผิด ผบ.ตร. ไม่มีหน้าที่รับมอบตัวผู้ต้องหา ถ้าไปวินิจฉัยอย่างนั้น ต่อไปมันมาเป็นกระตั๊กเลย เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทั้งประเทศ คุณไปมอบตัวที่ไหนก็ได้ ถ้ามอบตัวจริงๆ มอบตัวต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ถ้าผบ.ตร. ผิดฐานนี้ เลิกเลย ผบ.ตร. ไม่ต้องทำมาหากินแล้ว อย่าไปมองอย่างนั้น จะไปร้องกรรมาธิการอะไร เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการุยติธรรม ถึงชั้นศาล กรรมาธิการก็ไม่ยุ่ง ศาลปกครองก็ไม่ยุ่ง ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ยุ่ง ปล่อยให้เป็นภาระของกระบวนการศาลยุติธรรมดำเนินการไปจนจบ

เมื่อลุงพลถูกออกหมายจับ จำเป็นมั้ยต้องหนีจากกกกอก มาที่กรุงเทพฯ

ปรเมศวร์ : ไม่รู้สิ ทำไมเดินไปคนเดียว ทนายก็พาไป ไม่เคยเห็นนัดเจอ ทนายเขาไปรับมาเลยแล้วพาไปด้วยกัน

ในมุมมองอาจารย์คิดว่าลุงพลจะได้รับการประกันตัวมั้ย?

ปรเมศวร์ : เรื่องเงื่อนไขหลบหนีหรือไม่หลบหนีไม่น่าจะมี เรื่องการก่อเหตุร้าย ตอนนี้มีคนเถียงกันอยู่สองกลุ่ม ที่บอกว่าร้องเพลงเมื่อคืนเป็นการสร้างกระแส ออกไปจะสร้างความวุ่นวายหรือเปล่า นี่เขาพูดกัน แต่อันนึงที่ฝ่ายแม่น้องชมพู่ยื่นคำร้องเข้าไป มีการข่มขู่พยาน จ้างพยานหรือเปล่า นี่คือการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เงิน 5 แสน เงิน 2 ล้าน 3 ล้าน ถ้าศาลฟังว่าคุณไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แบบนี้ไม่มีทางได้ประกัน ต้องรอดูว่าศาลจะนัดไต่สวนหรือเปล่า

ถ้าแม่เอาหลักฐานที่ลุงพลอยู่ต่อหน้าตร. ยังดื้อดึง เอาไปให้ศาลดู?

ปรเมศวร์ : ศาลอาจมีการไต่สวนก่อน หรือเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย อาจนัดไต่สวนวันไหนก็ได้ วันนี้พร้อมมั้ยถ้าไม่พร้อมไปวันจันทร์ก็ได้ แต่สังเกตนิดนึงถ้ายื่นแต่เช้าทำไมมันถึงนาน อาจมีอะไรติดขัดบ้าง อันนี้ดุลยพินิจศาลนะ

ลุงพลเคยบอกว่าถ้าตร.ออกหมายจับต้องสู้ เพราะไม่ได้ทำ กลัวเป็นแพะ ค้นเอาอะไร ถ้าค้นต้องค้นทั้งหมู่บ้าน?

ปรเมศวร์ : ตร.ค้นเฉพาะที่สงสัย ไม่ใช่ความเสมอภาคต้องไปค้นทั้งหมู่บ้าน ขณะนั้นตร.ต้องมีอะไรบางอย่าง เขาสงสัยคุณนั่นแหละ ค้นเพราะมีเหตุอันควรสงสัยว่ารถคันนี้อาจมีพยานหลักฐานใช้เป็นประโยชน์ในทางคดีได้ สรุปให้ฟังอันนึง อะไรก็ได้เป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือผิด ใช้ได้ทั้งหมด

อาจารย์ยังไม่มั่นใจ?